ทริปสั้นๆ ทิ้งท้ายก่อนหน้าร้อนที่กำลังจะหมดไป ตอนนี้สถานการณ์โควิดในญี่ปุ่นก็ยังคงมียอดผู้ติดเชื้ออยู่ค่ะ และก็อยู่ในช่วงประกาศภาวะฉุกเฉินอยู่ แต่เนื่องจากเราอาศัยอยู่ในโอซาก้าอยู่แล้ว และมีโอกาสได้เดินทางไปทำงานที่วาคายาม่าพอดี ก็เลยนำทริปสั้นๆ ในคันไซมาฝากเพื่อนๆ กันค่ะ
ซึ่งสถานที่ที่เราไปในครั้งนี้เป็นที่ๆ นักท่องเที่ยวไม่ได้แน่นมาก อาจจะเป็นเพราะช่วงโควิดด้วยแต่ก็น่าสนใจมากๆ เลย หวังว่าทริปสั้นๆ ของเราจะเป็นประโยชน์และทำให้เพื่อนๆ หายคิดถึงญี่ปุ่นกันไปบ้าง
ไปเที่ยว กิน ช้อปพร้อมๆ กับเราเลย!!!
 
ไฮไลท์
- ตั๋วสุดคุ้ม การเดินทาง การใช้ตั๋วรถไฟ ระหว่างโอซาก้าและวาคายาม่า
- วาคายาม่า (WAKAYAMA) / มาริน่าซิตี้ (MARINA CITY)
ตลาดคุโรชิโอะ (Kuroshio Market)
หมู่บ้านผลไม้ คิโนะคุนิ (Kinokuni Fruits Villange)
สวนสนุก (Porto Europa)
*แถม ร้านราเม็ง ใกล้สถานี JR วาคายาม่า
-  โอซาก้า (OSAKA) / ย่านนิปปอนบาชิเด็นเด็นทาวน์ (NIPPONBASHI DENDEN TOWN)
ซุปเปอร์คิดส์แลนด์ เมนสโตร (SUPER KIDSLAND Main Store)
โจชิน สาขานิปปอนบาชิ (JOSHIN NIPPONBASHI)
*มีแนะนำตั๋วรถไฟ และการเดินทางอย่างง่าย
 
สำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดระหว่าง "จังหวัดวาคายาม่า" และ "ตัวเมืองโอซาก้า" ในครั้งนี้เราแนะนำเป็นเซตตั๋วสุดคุ้มของบริษัทรถไฟนันไค 

ภายในเซตจะมีทั้งหมด 6 ใบแบบนี้ ราคาเซตละ 2,520 เยน 
1. ตัวเดินทางรถไฟทั้งขาไป และขากลับระหว่าง สถานีนันไคนัมบะ (Nankai Namba Station) และสถานีนันไควาคายาม่า (Nankai Wakayama Station) สำหรับรถไฟแบบ Limited Express เลือกระบุที่นั่งและเวลาเดินทางได้เอง
2. ตั๋วรถบัสภายในวาคายาม่า 1 DAY FREE PASS สำหรับ 1 วัน
3. คูปองของกิน มูลค่า 500 เยน สำหรับคาเฟ่ ร้านอาหารภายในสถานีนันไควาคายาม่า
วางจำหน่ายเฉพาะช่วงตั้งแต่ 1 เมษายน 2021 ถึง 31 มีนาคม 2022

สำหรับใครที่อยู่ญี่ปุ่น และอ่านญี่ปุ่นได้เข้าไปดูรายละเอียดได้ในลิงค์ด้านล่างนี้เลย
http://www.nankai.co.jp/traffic/otoku/wakayama_kanko.html
 
ซึ่งถือว่าตั๋วนี้คุ้มมากๆ จริงๆ แค่รถบัสก็คุ้มมากๆ เลยค่ะเพราะว่าต้องนั่งบัสค่อนข้างไกล เมื่อเดินทางมาถึงสถานีนันไควาคายาม่าแล้วก็ขึ้นรถบัสเพื่อมุ่งหน้าไป “มาริน่าซิตี้ MARINA CITY” จุดมุ่งหมายของเราในวันนี้เลย

เราจะเดินทางไปสุดสายเลยที่ “Marinaguchi” ค่ะ สำหรับใครที่ใช้ตั๋วบัส 1 DAY PASS วิธีใช้ก็แค่โชว์ตั๋วให้คนขับตอนลงรถเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางจากป้ายหน้าสถานีนันไควาคายาม่า มายัง “Marinaguchi” ที่ มาริน่าซิตี้ ประมาณ 32 นาที เดินทางไปสุดสายเลย แต่ถ้าต้องการลงระหว่างทางก็กดที่ปุ่มที่อยู่ในภาพล่างซ้ายมือได้เลย

เนื่องจากจังหวัดวาคายาม่า โดยเฉพาะที่ วาคายาม่ามาริน่าซิตี้จะเป็นพื้นที่ที่อยู่ติดทะเล เพราะฉะนั้นระหว่างทางก็จะเห็นวิวท่าเรือติดทะเลแบบนี้เลย

วิวทะเลริมท่าเรือ ได้บรรยากาศมากๆ วันนี้ท้องฟ้าแจ่มใสด้วย เป็นใจสุดๆ เลย

เมื่อลงจากรถบัสก็จะเห็นท่าเรืออยู่ตรงหน้า ให้หันหลังเพื่อไปเดินเที่ยวใน วาคายาม่าาริน่าซิตี้กันเลย

โดย “วาคายาม่ามาริน่าซิตี้ (WAKAYAMA MARINA CITY) เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดวาคายาม่า ประกอบไปด้วยพื้นที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรีสอร์ท หรือสถานที่ท่องที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น ตลาดปลา ตลาดผลไม้ หรือสวนสนุก จะเป็นยังไงไปดูกันเลย
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ https://www.marinacity.com/eng/
 
โซน “ตลาดคุโรชิโอะ (Kuroshio Market)” 

ตลาดคุโรชิโอะ เป็นตลอดปลาที่มีร้านค้าร้านอาหารต่างๆ มากมาย แค่โซนทางเข้าก็น่าสนใจแล้ว ที่เห็นปลาตัวใหญ่อยู่ด้านหน้านี้ก็คือ ปลามากุโระนั่นเอง 

ด้านหน้ามีแจกแผ่นพับให้กับนักท่องเที่ยว และจะเห็นป้าย Tax-free Shop ด้วย ใช่ค่ะที่นี่จะมีร้านขายของฝากด้วย เพราะฉะนั้นสามารถทำ Tax-free ได้ด้วย 

เมื่อเข้ามาด้านในแล้วก็จะเห็นร้านค้าต่างๆ เรียงรายมากมาย ปลาสีแดงที่เห็นอยู่ในภาพนี้ก็คือปลาไทยค่ะ

ร้านค้าต่างๆ ภายในตลาดนี้ก็มีทั้งของสุก และของดิบ หรือแบบสำเร็จที่สามารถรับประทานได้เลย
สำหรับของสดอย่างอาหารทะเลก็สามารถเลือกซื้อได้และรับประทานได้ที่โซนบาบีคิว ที่นี่มีโซนย่างบาบีคิวด้วยซื้อของสดไปย่างทานได้เลย (เราลืมถ่ายโซนบาบีคิมาให้ดูจะอยู่ติดทะเล เป็นพื้นที่เปิดโล่งแต่มีหลังคาค่ะ แงลืมถ่ายเสียดายยย)
และสำหรับอาหารที่พร้อมรับประทานก็มีทั้งซูชิและข้าวหน้าปลาดิบอีกด้วย
นอกจากนี้ก็ยังมีของฝากขึ้นชื่อต่างๆ ในวาคายาม่าทั้งของทะเล และวัตถุดิบขึ้นชื่อ

ช่วงนี้วัยรุ่นมาเที่ยวกีบค่อนข้างเยอะเลย เพราะบรรยากาศดี ย่างบาบีคิมริมทะเล

และนี่ก็คือโซนของฝาก ของขึ้นชื่อของวาคายาม่าก็คือ ส้ม บ๊วย หรือราเม็งวาคายาม่าที่มีแบบสำเร็จรูปเป็นไว้ได้นาน ซื้อกลับไปไทยได้แน่นอน

และไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ โชว์แล่ปลามากุโระ อยู่ตรงบริเวณทางเข้าเลย โดยจะจัดสแสดงแล่ปลามากุโระตัวใหญ่วันละ 3 รอบคือเวลา 11:00 / 12:30 / 15:00 แบบจุกๆ เลย 
ซึ่งหลังจากแล่เสร็จแล้วก็จะวางขายเป็นซูชิ หรือซาชิมิอยู่ตรงโซนข้างๆ รอซื้อแบบแล่สดๆ กันได้เลย เรามาไม่ทันค่ะ เสียใจ ดูหัวน้องไปก่อนนะคะ T_T
 
หมู่บ้านผลไม้คิโนะคุนิ (Kinokuni Fruits Villange)

ต่อไปก็ไปที่ “หมู่บ้านผลไม้คิโนะคุนิ” หรือตลาดผลไม้กันเลยอยู่ตรงข้ามทางเข้าตลาดคุโรชิโอะเลยค่ะ

ด้านในมีผลไม้จำหน่ายอยู่เยอะมากๆๆๆๆๆ ทั้งองุ่น ลูกพีช สาลี่ แตงโม แอปเปิ้ล วางขายตามฤดู 
ซึ่งผลไม้ขึ้นชื่อของที่วาคายาม่าก็คือ ลูกพลับ (ภาษาญี่ปุ่น : คาคิ) และส้ม (ภาษาญี่ปุ่น : มิคัง) มีทั้งเกรดพรีเมี่ยม ไปจนถึงแบบมีตำหนิแต่รสชาติอร่อยไม่แพ้กันเลย ถูกมากๆ ใครชอบผลไม้ไม่ควรพลาด โดยเฉพาะองุ่นนนนน

บริเวณโซนหนึ่งในมีโซนขายเครื่องดื่ม ขนม ซอฟต์ครีม หรือพาเฟ่ต์ด้วย เด่นๆ เลยก็คือพาเฟ่ต์ผลไม้ ช่วงนี้มีองุ่นพอดี เราก็ไม่พลาดดดดดดดดด ได้องุ่นเขียวมาแบบอัดแน่น ราคาประมาณ 600-700 เยนค่ะ หวานอร่อยมากกกกก มีที่นั่งทานอยู่ด้านนอกแบบนี้ด้วย
 
โซน ธีมปาร์ค Porto Europa (พอร์โต ยูโรป้า)

ธีมปาร์ค Porto Europa (พอร์โต ยูโรป้า) เป็นสวนสนุกที่ไม่เสียค่าเข้าค่ะ สามารถเข้าไปด้านในได้เลย

จุดเด่นของที่นี่ก็ตามชื่อเลยคือ Porto Europa (พอร์โต ยูโรป้า) ก็คือตกแต่งธีมยุโรป เหมือนกำลังเที่ยวอยู่ในยุโรป 

ที่เห็นเป็นที่จำหน่ายตั๋วคือ ที่จำหน่ายตั๋วเครื่องเล่นที่อยู่ภายในสวนสนุกนี้ค่ะ

บรรยากาศด้านในน่ารักมากๆ เหมือนกำลังเที่ยวอยู่ในยุโรปเลยจริงๆ ได้มุมถ่ายรูปเยอะมากๆ ค่ะบอกเลยยย

และที่นี่มีเครื่องเล่นด้วยค่ะ อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ก็มีทั้งชิงช้าหมุน รถไฟเหาะลงน้ำ โรงภาพยนตร์แบบ3D ฯลฯ อีกมากมาย มาลองเล่นกันดูได้เลย เพราะว่าไม่รุนแรงมากบางตัวเด็กเล็กก็เล่นได้ค่ะ

บรรยากาศโซนเครื่องเล่นภายในสวนสนุก ที่นี่ตั้งอยู่กลางธรรมชาติ แต่ก็ติดทะเล เพราะฉะนั้นวิวสวยมากๆ

ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ขึ้นรถบัสที่บริเวณตอนลงเลย 
มีทั้งรถบัสที่มุ่งหน้าไป “สถานี JR วาคายาม่า (JR WAKAYAMA STATION) ขึ้นได้ 2 สายคือ 42 และ 121
รอบสุดท้ายวันธรรมดาเวลา 20:17 วันเสาร์ รอบสุดท้ายเวลา 20:32
และ สถานีนันไควาคายาม่า (NANKAI WAKAYAMA STATION) ขึ้นได้ 2 สายคือ 42 และ 117
รอบสุดท้ายวันธรรมดาอยู่ที่ 19:58 วันเสาร์รอบสุดท้ายเวลา 20:39

เราจะแวะลงที่ สถานี JR วาคายาม่า (JR WAKAYAMA STATION) กับแปปนึงนะคะ จะอยู่ก่อนถึงสถานีนันไควาคายาม่าค่ะ

เข้าไปในห้างที่อยู่ภายในสถานี และลงไปที่โซนร้านอาหารใต้ดิน Dining Street กันเลย

มีร้านราเม็งวาคายาม่าขึ้นอยู่เลยอยากพาเพื่อนๆ มาดูบรรยากาศกันค่ะ ชื่อร้านว่า “Marumi Shoten(和歌山中華そば 丸美商店)” 

ภายในร้านมีทั้งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์และที่นั่งแบบโต๊ะรวมแล้วประมาณ 15 ที่นั่ง เมนูขึ้นชื่อของที่ร้านก็ “จูกะโซบะ” ก็คือหน้าตาคล้ายๆ ราเม็งเลยค่ะ เป็นราเม็งขึ้นชื่อของวาคายาม่า แบบธรรมดา ราคา 730 เยน

หน้าตาเป็นแบบนี้เลย เป็นรสชาติที่ไม่จืดและไม่เข้มจนเกินไป เราว่าน่าจะถูกปากคนไทยมากๆ ยังไงลองมาทานกันได้เลย

เดินทางจากสถานี JR วาคายาม่า กลับไปที่สถานีนันไควาคายาม่ากันเลย นั่งรถบัสอาจจะใช้เวลาหน่อย แต่ถ้านั่งรถไฟ JR จาก สถานี Wakayama Station ไปสถานี  Wakayamashi Station เดินทางไปเพียง 2 สถานี ใช้เวลาเดินทางประมาณ 6 นาทีเท่านั้น ค่าเดินทาง 190 เยนค่ะ  
เมื่อเดินทางมาที่สถานีนันไควาคายาม่าแล้ว ขากลับเดินทางจาก “วาคายาม่า” ไป “โอซาก้า” ถ้ายังไม่ได้เลือกเวลาเดินทาง และจองที่นั่งก็สามารถจองได้ที่เคาน์เตอร์สถานีนันไควาคายาม่าเลย แต่ก่อนกลับอย่าลืมใช้คูปองอาหารกันด้วยนะคะ ได้ทั้งร้านอาหาร คาเฟ่เลย เพราะฉะนั้นไปซื้อเครื่องดื่มก่อนกลับก็ได้

และเมื่อเดินทางมาถึงโอซาก้า ที่สถานีนันไคนัมบะ (NANAKAI NAMBA STATION) แล้ว หลังจากนี้เราจะเปลี่ยนบรรยากาศพาเพื่อนๆ ไปช้อปเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องเล่นเกม แผ่นเกม และของเล่น ของสะสม โมเดล กันดั้ม กันพลากันที่ ย่านดังในโอซาก้า ที่หลายๆ คนอาจจะรู้จักกับ “ย่านนิปปอนบาชิ เด็นเด็นทาวน์” ที่ประกอบไปด้วย โอตะโร้ด อีกทั้งที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดงานคอสเพลย์ขนาดใหญ่ในโอซาก้าอย่าง “NIPPONBASHI STREET FESTA” อีกด้วย
สถานีนันไคนัมบะ (NANAKAI NAMBA STATION) ก็สามารถเดินเท้ามาได้ ใช้เวลาประมาณ 8 นาที 

มีต่อนะคะ