เราเกิดมาเป็นลุกคนสุดท้าย ที่ใครๆก็พูดกันว่าดี แต่พอเรามานึกถึงชีวิตตัวเองมันไม่เห็นมีอะไรดีเลย
เรามีพี่สาว2คน ของที่เราใช้คือของที่ตกทอดมาเป็นลำดับขั้น ไม่เคยได้ของใหม่
แม่ผู้ที่บอกว่ารักลูกเท่ากันหมด ใส่ใจกับแค่ลูกสาวคนโต
พ่อผู้ที่ไปมีเมียน้อยบอกว่ารักเรามากที่สุด แต่ใส่ใจกับแค่ลูกสาวคนรอง
เราไม่สนิทกับพี่สาวทั้งสองคน เพราะเค้าสองคนมักจะคุยกันเอง เพราะอายุใกล้กัน และคนรองไม่ชอบเราสักเท่าไร
เราผู้ซึ่งไม่มีใครสนใจก็พยายามเรียกร้องความสนใจ โดยการช่วยเหลืองานทุกอย่าง
งานแรงงาน... พยายามให้อยู่ในสายตาแม่ แต่เพราะทำแบบนี้เลยโดนเห็นเหมือนเป็นทาส
เวลามีปัญหาอะไรกัน ก็เห็นเหมือนเราเป็นส้วม เป็นที่ระบาย เป็นที่ปลอบใจ
จริงๆเรามีความรู้สึกแย่กับครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก
และรู้สึกอยากตายตั้งแต่จำความได้แล้ว พยายามเขียนจดหมายลาตายตั้งแต่เด็ก
เราจำได้ว่าเรายังเล็กมากๆ และถือมีดเข้าไปขังตัวเองในตู้เสียผ้า และเขียนจดหมายวางไว้ข้างๆ
แต่เราก็กลัว กลัวว่าเราจะตายแล้วไปไหน กลัวว่าจะเจ็บ เลยเอาของไปเก็บและทิ้งจดหมายที่ไม่รู้เขียนอะไรไปจะอ่านออกรึป่าวก็ไม่รู้
เราจมอยู่กับสภาวะที่ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน กลับบ้านมาเจอพ่อแม่ทะเลาะกัน
เราเริ่มทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เริ่มขโมยของพี่สาว เริ่มขโมยของแม่
แต่สุดท้ายก็เลิกขโมยเอง เพราะไม่ได้รับความสนใจ
พอเข้าป.5เราจำได้เลย เราปวดไมเกรนจนอ้วก แม่พาเราไปหาหมอ
แม่โดนหมอด่า ว่าทำไมเด็กอายุเท่านี้เป็นไมเกรนแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิม
เข้ามัธยมก็เริ่มทำร้ายตัวเอง จิกตัวเอง ตีตัวเอง เกลียดตัวเองมาก ไม่รู้เกิดมาเพื่ออะไร
เรามีอะไรเราบอกเพื่อนหมด เพราะเรารู้ว่าสุดท้ายเราก็ต้องย้าย และเป็นเพียงเศษความทรงจำของคนอื่น
"เออใช่ๆพอจำได้มั้ยว่าตอนเด็กๆมีเพื่อนคนนึงในห้องเราที่มีปัญหาชอบทำร้ายตัวเอง"
เราย้ายโรงเรียนทุกชั้นปี..เพราะแม่ย้ายที่อยู่ตามแฟนนาง ย้ายทุกปีจริงๆ
จนทำให้ไม่รู้วิธีสร้างสัมพันธ์ระยะยาว ไม่มีเพื่อนสักคน และไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ชอบได้เลยสักอย่าง
เพราะเราเรียน เราทำแค่1ปี เราก็ต้องหยุด ต้องเปลี่ยน รู้สึกใช้ชีวิตไปวันๆมาก
เรามาเริ่มรู้ตัวว่า เราเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงเมื่อเข้ามหาลัย
เพราะเราเครียดทั้งเรื่องเรียน สังคม โดนแฟนทำร้ายร่างกาย และยายที่เรารักเสียไป
สุดท้ายเราก็เรียนไม่จบมหาลัย เพราะเราไม่สามารถประคองอารมณ์ได้
ตอนนั้นโรคนี้ยังไม่ฮิตมาก เราลองไปหาหมอด้วยตัวเอง ในแผนกมีแต่คนแก่กับเด็กที่ดูไม่ปกติ
เราเล่าให้หมอฟังไปร้องไห้ไป สุดท้ายได้ยามา ทานมากี่ปีแล้วจำไม่ได้แล้ว
มันทำให้ใช้ชีวิตไปวันๆได้ แต่มันไม่ได้มีความสุข และมันก็ไม่ได้เศร้า
มุมมองทุกวันน่าเบื่อไปหมด ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เรากลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง แต่พี่สาวสองคนได้ไปเรียนถึงเมืองนอก
เรารู้สึกเหมือนจมอยู่ในโคลนตมทุกวัน กลัวการคุย กลัวการเจอหน้า
รู้สึกเหนื่อยมาก อยู่มาจนทุกวันนี้..ไร้ความหมายมากๆ เมื่อไรจะตายสักที
เรารู้ว่ายังมีคนที่เหนื่อย เดือดร้อน และเจอมาหนักกว่าเรา แต่เราทนไม่ได้
ทุกวันนี้เรามีลูกแล้ว เรากลัวมากว่าสักวันนึงเราจะฆ่าตัวตายและทิ้งลูกไว้..เรามันเห็นแก่ตัวจริงๆ
ไม่รู้จะต้องพูดกับใครดี ขอระบายตรงนี้ได้มั้ยคะ
เรามีพี่สาว2คน ของที่เราใช้คือของที่ตกทอดมาเป็นลำดับขั้น ไม่เคยได้ของใหม่
แม่ผู้ที่บอกว่ารักลูกเท่ากันหมด ใส่ใจกับแค่ลูกสาวคนโต
พ่อผู้ที่ไปมีเมียน้อยบอกว่ารักเรามากที่สุด แต่ใส่ใจกับแค่ลูกสาวคนรอง
เราไม่สนิทกับพี่สาวทั้งสองคน เพราะเค้าสองคนมักจะคุยกันเอง เพราะอายุใกล้กัน และคนรองไม่ชอบเราสักเท่าไร
เราผู้ซึ่งไม่มีใครสนใจก็พยายามเรียกร้องความสนใจ โดยการช่วยเหลืองานทุกอย่าง
งานแรงงาน... พยายามให้อยู่ในสายตาแม่ แต่เพราะทำแบบนี้เลยโดนเห็นเหมือนเป็นทาส
เวลามีปัญหาอะไรกัน ก็เห็นเหมือนเราเป็นส้วม เป็นที่ระบาย เป็นที่ปลอบใจ
จริงๆเรามีความรู้สึกแย่กับครอบครัวมาตั้งแต่เด็ก
และรู้สึกอยากตายตั้งแต่จำความได้แล้ว พยายามเขียนจดหมายลาตายตั้งแต่เด็ก
เราจำได้ว่าเรายังเล็กมากๆ และถือมีดเข้าไปขังตัวเองในตู้เสียผ้า และเขียนจดหมายวางไว้ข้างๆ
แต่เราก็กลัว กลัวว่าเราจะตายแล้วไปไหน กลัวว่าจะเจ็บ เลยเอาของไปเก็บและทิ้งจดหมายที่ไม่รู้เขียนอะไรไปจะอ่านออกรึป่าวก็ไม่รู้
เราจมอยู่กับสภาวะที่ไม่มีเพื่อนที่โรงเรียน กลับบ้านมาเจอพ่อแม่ทะเลาะกัน
เราเริ่มทำตัวเป็นเด็กมีปัญหา เริ่มขโมยของพี่สาว เริ่มขโมยของแม่
แต่สุดท้ายก็เลิกขโมยเอง เพราะไม่ได้รับความสนใจ
พอเข้าป.5เราจำได้เลย เราปวดไมเกรนจนอ้วก แม่พาเราไปหาหมอ
แม่โดนหมอด่า ว่าทำไมเด็กอายุเท่านี้เป็นไมเกรนแล้ว แต่สุดท้ายทุกอย่างก็เหมือนเดิม
เข้ามัธยมก็เริ่มทำร้ายตัวเอง จิกตัวเอง ตีตัวเอง เกลียดตัวเองมาก ไม่รู้เกิดมาเพื่ออะไร
เรามีอะไรเราบอกเพื่อนหมด เพราะเรารู้ว่าสุดท้ายเราก็ต้องย้าย และเป็นเพียงเศษความทรงจำของคนอื่น
"เออใช่ๆพอจำได้มั้ยว่าตอนเด็กๆมีเพื่อนคนนึงในห้องเราที่มีปัญหาชอบทำร้ายตัวเอง"
เราย้ายโรงเรียนทุกชั้นปี..เพราะแม่ย้ายที่อยู่ตามแฟนนาง ย้ายทุกปีจริงๆ
จนทำให้ไม่รู้วิธีสร้างสัมพันธ์ระยะยาว ไม่มีเพื่อนสักคน และไม่สามารถโฟกัสกับสิ่งที่ชอบได้เลยสักอย่าง
เพราะเราเรียน เราทำแค่1ปี เราก็ต้องหยุด ต้องเปลี่ยน รู้สึกใช้ชีวิตไปวันๆมาก
เรามาเริ่มรู้ตัวว่า เราเป็นโรคซึมเศร้าขั้นรุนแรงเมื่อเข้ามหาลัย
เพราะเราเครียดทั้งเรื่องเรียน สังคม โดนแฟนทำร้ายร่างกาย และยายที่เรารักเสียไป
สุดท้ายเราก็เรียนไม่จบมหาลัย เพราะเราไม่สามารถประคองอารมณ์ได้
ตอนนั้นโรคนี้ยังไม่ฮิตมาก เราลองไปหาหมอด้วยตัวเอง ในแผนกมีแต่คนแก่กับเด็กที่ดูไม่ปกติ
เราเล่าให้หมอฟังไปร้องไห้ไป สุดท้ายได้ยามา ทานมากี่ปีแล้วจำไม่ได้แล้ว
มันทำให้ใช้ชีวิตไปวันๆได้ แต่มันไม่ได้มีความสุข และมันก็ไม่ได้เศร้า
มุมมองทุกวันน่าเบื่อไปหมด ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้น
เรากลายเป็นคนที่ไม่ประสบความสำเร็จอะไรสักอย่าง แต่พี่สาวสองคนได้ไปเรียนถึงเมืองนอก
เรารู้สึกเหมือนจมอยู่ในโคลนตมทุกวัน กลัวการคุย กลัวการเจอหน้า
รู้สึกเหนื่อยมาก อยู่มาจนทุกวันนี้..ไร้ความหมายมากๆ เมื่อไรจะตายสักที
เรารู้ว่ายังมีคนที่เหนื่อย เดือดร้อน และเจอมาหนักกว่าเรา แต่เราทนไม่ได้
ทุกวันนี้เรามีลูกแล้ว เรากลัวมากว่าสักวันนึงเราจะฆ่าตัวตายและทิ้งลูกไว้..เรามันเห็นแก่ตัวจริงๆ