ตอนนี้เราอยู่ม.2ค่ะ เราขอเล่าก่อนนะคะ ว่าเรื่องเป็นไงมาไงถึงคิดจะเรียน
ก้คือว่าเราเป็นคนชอบวาดรูปตั้งเเต่เด็กๆเลยค่ะ พอโตขึ้นมาก้เริ่มไปเเข่งวาดรูปบ้าง แต่เวลาใครถามว่า"โตไปอยากเป็นจ้ะ"เราก้จะตอบเสมอว่า"เป็นครูค่ะๆ"พอเริ่มโตขึ้นมา
-ประมาณป.3ก้เริ่มมีโทรศัพท์ ก้มีเล่นเกมดูยูทูปบ้างฟังเพลงบ้าง เเละเริ่มติดกามิกาเซ่ รุ่นkamikaze next
มากก เราเริ่มหัดเต้นหัดร้องเเละคิดว่าจะไปเป็นนักร้อง เเต่ก้ดับฝันลงเพราะเเม่บอกว่ามันห่างไกลจากบ้าน พ่อกับเเม่ก้คงให้ไปไม่ได้หรอก
-ป.4มีเพื่อนที่โดนย้ายมาจากห้องอื่นเราทั้ง2ก้เลยเป็นเพื่อนสนิทกันไปไหนไปกันตลอดเเละได้มีโอกาสไปเต้นงานวันเด็กรร.เพราะเพื่อนขอ(เราเป็นมีอิทธิพลต่อเพื่อนในวัยประถมมาก เราทำอะไรเพื่อนจะว่าดีจะว่าเด่น ซึ่งน่าจะมาจากตอนป.1ที่เด็กเเถวบ้านเป็นเพื่อนได้เรียนห้องเดียวกัน แต่เพื่อนเกิดหลังเราก้เลยเรียกพี่ตลอด)หลังจากเต้นวันเด็ก มีครูหลายๆคนบอกเต้นสวย แต่ครูประจำชั้นกลับเอาการเต้นมาด่ารวมเราเพราะเราไม่ส่งงาน ครูคนนี้มีอายุที่มากเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ก้เลยอาจจะไมาเข้าใจความคิดท่าทางรึอะไรก้ตามที่เราเเสดงออก ครูบอกว่า"ส่งงานน่ะยังได้คะเเนนนะ ไปเต้นไปเติ้ลกันเเต่งตัวทาปากเเดง แล้วได้อะไรกลับมา... เเรดกันจริงๆ" พอเราขึ้นป.5ครูคนนี้ก้เกษียนอายุ
-ป.5ในช่วงเวลานี้เรามีครูประจำชั้น2คน คนนึงเป็นครูเริ่มอายุเยอะ ส่วนอีกคนนึงเป็นครูจบใหม่ไฟเเรงเดินสายสอนภาษาอังกฤษและชอบความสนุกและความฮา ในช่วงนี้เล่นกับเพื่อนคนเดิมเเต่เพิ่มเติมด้วยเพื่อนเก่า เรากับเพื่อนทั้งเก่าเเละใหม่รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ10คนเล่นด้วยกัน บางทีก้นั่งเเหกปากร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน เเละกลายเป็นเด็กที่สายตาคนอื่นอาจจะมองว่า"เเรด"หรือ"สิบเอ็ดรอดอ"เวลาต่อมารร.มีโครงการเข้าค่ายลูกเสื้อให้เด็กป.5 รุ่นเราเป็นรุ่นเเรก เเละเราได้ร่วมเเสดงในการเเสดงห้องแถมดล่นเป็นตัวเอกอีกตะหากก เเต่ทั้งหมดก้ผ่านไปด้วยดี ตัวครูประจำชั้นที่มากอายุเค้าไม่ค่อยชอบนักในความคิดเรา คิดว่าเค้าคงคิดเหมือนครูประจำชั้นเราตอนป.4 เเต่ครูจบใหม่ไฟเเรงคนนั้น เค้ากลับชอบการเเสดงของเรามากก
-ป.6รร.จัดงานวันวิทยาศาสตร์และมีการประกวดชุดรีไซเคิลครั้งเเรก ห้องเราลงประกวดทันที(ครูให้เวลาทำชุด2อาทิตย์) เรากับเพื่อนลงทุนมากก มีเวลาว่างเมื่อไหร่ใช้เวลานั้นทำชุดหมด กลับบ้าน5โมง-6โมงเกือบทั้งอาทิตย์โดยที่พ่อแม่เราก้ยินยอม สุดท้ายได้ที่3เราก้ถือสะว่าเป็นประสบการณ์ เราเกือบได้รำในวันตักบาตรเทโว เเพราะเราตัวสูงใหญ่เมื่อมองในขบวนมันเเลไม่สวยงาม ครูจึงคัดเราออก ปลายปี62เราไปเข้าค่ายลูกเสือ เเละเราก้ได้โอกาสเเสดงละครของรร.ซึ่งเเสดงได้ดี ครูหลายคนชอบ เเต่ที่เเย่ที่สุดคือ หลังจากเข้าค่ายเราไม่ได้ไปรร.อีก2เดือน เพราะติดเชื้อที่เท้าในช่วงเวลานี้เราก้ยังเล่นกับเพื่อนกลุ่มเดิม
-ป.5-จบป.6ติดเกมหนักมากๆ
-ในช่วงระหว่างต่อม.1เราได้ดูซีรี่ย์เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า สาวน้อยจอมพลังโดบงซุน จำได้ว่าตอนจบเรื่องนางเอกสร้างเกมขึ้นมาที่ชื่อว่า ซุปเปอร์บงซุนที่เล่นได้ทั้งเด็กเเละผู้ใหญ่ ตอนนั้นก้คิดอยากจะสร้างเกมบ้างเเต่ก้ไม่ได้สนใจ
-ขึ้นม.1เริ่มเบาเรื่องเล่นเกมลงหันกลับมาวาดรูปอีกครั้ง ในช่วงม.1จะมีวิชา"วิทยาการคำนวณ"วิชานี้ถ้าจำไม่ผิดมันคือ"วิทย์+คอม"ตัวเราเองสนิทกับครูผู้สอนมาก ในช่วงม.1ส่วนใหญ่จะเรียนเขียนโปรเเกรมพื้นฐาน
-ระหว่างช่วงปิดเทอมก้เริ่มสนใจทำขนม ขายตามร้านชานม(ร้านป้ากับเพื่อนป้า)ได้ประมาณ2เดือน เค้าขอไม่รับซักพักนึงเพราะโควิดเเรงขึ้น ร้านน้ำเค้าเองก้จะไปไม่รอดเเล้ว เเต่ตัวเราก้ยังทำอขนมอย่างอื่นอยู่ทำเองกินเองอยู่ตลอด โดยการทำให้คนที่บ้านญาติพี่น้องคนอื่นๆกินด้วยเช่นกัน
-ขึ้นม.2มีครูประจำชั้น2คน คนนึงเป็นครูเกษตรอีกคนนึงเป็นครูวิทยาการคำนวณ
เราเรียนมาจนจะจบเทอม1ของม.2ครูที่สอนวิทยาการ คำนวณ เค้าพึ่งจะให้ลองเขียนโปรแกรม
-โดยงานแรกเค้าให้สร้างบ้าน เราก้สร้างในเเบบของ เราใช้จินตนาการของเรา เมื่อสร้างเสร็จพอถึงคาบที่มีเรียน ครูก้ให้นำเสนองาน เราก้นำเสอนในแบบของเราออกไป ปรากฎว่าครูชม ครูบอกว่าเป็นความคิดที่ดีมาก ครูชอบๆพร้อมกับให้คะเเนนเต็ม20คะเเนน
-งานที่2ครูให้สร้างเกมและนำเสนอเช่นเดิม ครูได้เปิดตัวอย่างการเขียนโค้ดให้ดู เราก้เเคปหน้าจอไว้ พอถึงเวลาทำเราก้เอาของครูมาดัดเเปลงจนเเทบจะไม่มีเค้าโครงเก่าเลยเมื่อนำเสนอ เราบอกเค้าถึงโค้ดที่เราเขียนว่าเราเขียนโค้ดอะไรไปบ้าง เราพยายามอธิบายให้ละเอียด อธิบายถึงวิธีการเล่นและทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เราจะเสนอเเละอธิบาย เพราะว่านอกจากจะให้นำเสนอเเล้ว เค้าก้ถือว่าเป็นการสอบปลายภาคไปด้วยในตัว เมื่อเสนอเสร็จเค้าก้ถามถึงการเขียนโค้ด ประมาณว่าเขียนยังไง เอาโค้ดมาจากไหน เราก้ตอบตามตรงว่าเราเอาของเค้ามาเเปลงเปลี่ยนตัวเกมใหม่ใช้จินตนาการของเรา เค้าก้บอกว่าเค้าชอบมากเเถมเค้าอัดหน้าจอไว้ด้วยเเต่อัดได้เเค่ช่วงครึ่งหลัง และให้คะเเนนเต็ม20และคะเเนนสอบเต็ม10 และครูก้เเนะนำว่าถ้าเรียนจบม.3ลองไปเรียนสายวิทย์-คอมดู เธอน่าจะไปได้ไกลในด้านนี้ อาจจะได้ไปเป็นเกมเมอร์โปรเเกรมเมอร์ก้ได้.... ทำให้เมื่อเรียนจบเราก้คุยกับพ่อเเม่ว่าครูเค้าเเนะมาเเบบนี้พ่อกับเเม่ก้บอกว่า"เเล้วเเต่เลย เเกเดินทางตามเส้นทางที่เเกชอบเลย"
ปัจจัยรอบข้าง
-พ่อ อยากให้เรียนด้านคอมกับพวกเเต่งกลิ่นสีเอาไว้ พ่อบอกว่ามันจะเป็นงานในอนาคตน่าจะรุ่งเรือง เพราะด้านคอมกำลังมีบทบาทกับมนุษย์ ด้านเเต่งกลิ่นสีตอนนี้เริ่มมีบ้างเเต่ในอนาคตต้องมีคนต้องการเยอะกว่านี้
ไม่ก้งานอะไรก้ได้ที่เเกเป็นนายตัวเองที่เเกเป็นเจ้าของเอง เพราะเเกไม่ชอบการบังคับ
-เเม่ เป็นอะไรก้เป็นๆไปเถอะขอให้เลี้ยงตัวเองรอดเเละขอให้เป็นงานสุจริต
-ตัวเอง ไม่รู้ตัวว่าอย่างเป็นอะไร ไม่รู้ตัวว่าชอบจริงมั้ย เรียนดีเเต่เกรด3.50-3.80 ไม่ชอบเรียนวิทย์ คณิต อังกฤษ ไทย สังคม หรือวิชาหลักๆเลย ไม่ชอบการบังคับ รักอิสระ รักการเป็นตัวเอง
เราก้เลยลองมานั่งคิดดู และก้เกิดคำถามมากมาย
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งวิทย์ใช่มั้ย?
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งคณิตใช่มั้ย?
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งอังกฤษใช่มั้ย?
-ถ้าเราไม่ชอบวิชาหลักเรียนได้มั้ย?
-ถ้าเรียนเเล้วต่อที่ไหนได้ต่อ?
-ถ้าเรียนแล้วอนาคตจะโอเคมั้ย?
แล้วข้อสุดท้าย...
-ถ้าเรียนต่อด้านนี้จริงๆจะไหวมั้ย?
เราควรเรียนวิทย์-คอมมั้ยคะ
เรียนวิทย์-คอม ม.ปลาย?
ก้คือว่าเราเป็นคนชอบวาดรูปตั้งเเต่เด็กๆเลยค่ะ พอโตขึ้นมาก้เริ่มไปเเข่งวาดรูปบ้าง แต่เวลาใครถามว่า"โตไปอยากเป็นจ้ะ"เราก้จะตอบเสมอว่า"เป็นครูค่ะๆ"พอเริ่มโตขึ้นมา
-ประมาณป.3ก้เริ่มมีโทรศัพท์ ก้มีเล่นเกมดูยูทูปบ้างฟังเพลงบ้าง เเละเริ่มติดกามิกาเซ่ รุ่นkamikaze next
มากก เราเริ่มหัดเต้นหัดร้องเเละคิดว่าจะไปเป็นนักร้อง เเต่ก้ดับฝันลงเพราะเเม่บอกว่ามันห่างไกลจากบ้าน พ่อกับเเม่ก้คงให้ไปไม่ได้หรอก
-ป.4มีเพื่อนที่โดนย้ายมาจากห้องอื่นเราทั้ง2ก้เลยเป็นเพื่อนสนิทกันไปไหนไปกันตลอดเเละได้มีโอกาสไปเต้นงานวันเด็กรร.เพราะเพื่อนขอ(เราเป็นมีอิทธิพลต่อเพื่อนในวัยประถมมาก เราทำอะไรเพื่อนจะว่าดีจะว่าเด่น ซึ่งน่าจะมาจากตอนป.1ที่เด็กเเถวบ้านเป็นเพื่อนได้เรียนห้องเดียวกัน แต่เพื่อนเกิดหลังเราก้เลยเรียกพี่ตลอด)หลังจากเต้นวันเด็ก มีครูหลายๆคนบอกเต้นสวย แต่ครูประจำชั้นกลับเอาการเต้นมาด่ารวมเราเพราะเราไม่ส่งงาน ครูคนนี้มีอายุที่มากเป็นทุนเดิมอยู่เเล้ว ก้เลยอาจจะไมาเข้าใจความคิดท่าทางรึอะไรก้ตามที่เราเเสดงออก ครูบอกว่า"ส่งงานน่ะยังได้คะเเนนนะ ไปเต้นไปเติ้ลกันเเต่งตัวทาปากเเดง แล้วได้อะไรกลับมา... เเรดกันจริงๆ" พอเราขึ้นป.5ครูคนนี้ก้เกษียนอายุ
-ป.5ในช่วงเวลานี้เรามีครูประจำชั้น2คน คนนึงเป็นครูเริ่มอายุเยอะ ส่วนอีกคนนึงเป็นครูจบใหม่ไฟเเรงเดินสายสอนภาษาอังกฤษและชอบความสนุกและความฮา ในช่วงนี้เล่นกับเพื่อนคนเดิมเเต่เพิ่มเติมด้วยเพื่อนเก่า เรากับเพื่อนทั้งเก่าเเละใหม่รวมกันเป็นกลุ่มประมาณ10คนเล่นด้วยกัน บางทีก้นั่งเเหกปากร้องเพลงกันอย่างสนุกสนาน เเละกลายเป็นเด็กที่สายตาคนอื่นอาจจะมองว่า"เเรด"หรือ"สิบเอ็ดรอดอ"เวลาต่อมารร.มีโครงการเข้าค่ายลูกเสื้อให้เด็กป.5 รุ่นเราเป็นรุ่นเเรก เเละเราได้ร่วมเเสดงในการเเสดงห้องแถมดล่นเป็นตัวเอกอีกตะหากก เเต่ทั้งหมดก้ผ่านไปด้วยดี ตัวครูประจำชั้นที่มากอายุเค้าไม่ค่อยชอบนักในความคิดเรา คิดว่าเค้าคงคิดเหมือนครูประจำชั้นเราตอนป.4 เเต่ครูจบใหม่ไฟเเรงคนนั้น เค้ากลับชอบการเเสดงของเรามากก
-ป.6รร.จัดงานวันวิทยาศาสตร์และมีการประกวดชุดรีไซเคิลครั้งเเรก ห้องเราลงประกวดทันที(ครูให้เวลาทำชุด2อาทิตย์) เรากับเพื่อนลงทุนมากก มีเวลาว่างเมื่อไหร่ใช้เวลานั้นทำชุดหมด กลับบ้าน5โมง-6โมงเกือบทั้งอาทิตย์โดยที่พ่อแม่เราก้ยินยอม สุดท้ายได้ที่3เราก้ถือสะว่าเป็นประสบการณ์ เราเกือบได้รำในวันตักบาตรเทโว เเพราะเราตัวสูงใหญ่เมื่อมองในขบวนมันเเลไม่สวยงาม ครูจึงคัดเราออก ปลายปี62เราไปเข้าค่ายลูกเสือ เเละเราก้ได้โอกาสเเสดงละครของรร.ซึ่งเเสดงได้ดี ครูหลายคนชอบ เเต่ที่เเย่ที่สุดคือ หลังจากเข้าค่ายเราไม่ได้ไปรร.อีก2เดือน เพราะติดเชื้อที่เท้าในช่วงเวลานี้เราก้ยังเล่นกับเพื่อนกลุ่มเดิม
-ป.5-จบป.6ติดเกมหนักมากๆ
-ในช่วงระหว่างต่อม.1เราได้ดูซีรี่ย์เรื่องหนึ่ง ชื่อว่า สาวน้อยจอมพลังโดบงซุน จำได้ว่าตอนจบเรื่องนางเอกสร้างเกมขึ้นมาที่ชื่อว่า ซุปเปอร์บงซุนที่เล่นได้ทั้งเด็กเเละผู้ใหญ่ ตอนนั้นก้คิดอยากจะสร้างเกมบ้างเเต่ก้ไม่ได้สนใจ
-ขึ้นม.1เริ่มเบาเรื่องเล่นเกมลงหันกลับมาวาดรูปอีกครั้ง ในช่วงม.1จะมีวิชา"วิทยาการคำนวณ"วิชานี้ถ้าจำไม่ผิดมันคือ"วิทย์+คอม"ตัวเราเองสนิทกับครูผู้สอนมาก ในช่วงม.1ส่วนใหญ่จะเรียนเขียนโปรเเกรมพื้นฐาน
-ระหว่างช่วงปิดเทอมก้เริ่มสนใจทำขนม ขายตามร้านชานม(ร้านป้ากับเพื่อนป้า)ได้ประมาณ2เดือน เค้าขอไม่รับซักพักนึงเพราะโควิดเเรงขึ้น ร้านน้ำเค้าเองก้จะไปไม่รอดเเล้ว เเต่ตัวเราก้ยังทำอขนมอย่างอื่นอยู่ทำเองกินเองอยู่ตลอด โดยการทำให้คนที่บ้านญาติพี่น้องคนอื่นๆกินด้วยเช่นกัน
-ขึ้นม.2มีครูประจำชั้น2คน คนนึงเป็นครูเกษตรอีกคนนึงเป็นครูวิทยาการคำนวณ
เราเรียนมาจนจะจบเทอม1ของม.2ครูที่สอนวิทยาการ คำนวณ เค้าพึ่งจะให้ลองเขียนโปรแกรม
-โดยงานแรกเค้าให้สร้างบ้าน เราก้สร้างในเเบบของ เราใช้จินตนาการของเรา เมื่อสร้างเสร็จพอถึงคาบที่มีเรียน ครูก้ให้นำเสนองาน เราก้นำเสอนในแบบของเราออกไป ปรากฎว่าครูชม ครูบอกว่าเป็นความคิดที่ดีมาก ครูชอบๆพร้อมกับให้คะเเนนเต็ม20คะเเนน
-งานที่2ครูให้สร้างเกมและนำเสนอเช่นเดิม ครูได้เปิดตัวอย่างการเขียนโค้ดให้ดู เราก้เเคปหน้าจอไว้ พอถึงเวลาทำเราก้เอาของครูมาดัดเเปลงจนเเทบจะไม่มีเค้าโครงเก่าเลยเมื่อนำเสนอ เราบอกเค้าถึงโค้ดที่เราเขียนว่าเราเขียนโค้ดอะไรไปบ้าง เราพยายามอธิบายให้ละเอียด อธิบายถึงวิธีการเล่นและทุกสิ่งทุกอย่างเท่าที่เราจะเสนอเเละอธิบาย เพราะว่านอกจากจะให้นำเสนอเเล้ว เค้าก้ถือว่าเป็นการสอบปลายภาคไปด้วยในตัว เมื่อเสนอเสร็จเค้าก้ถามถึงการเขียนโค้ด ประมาณว่าเขียนยังไง เอาโค้ดมาจากไหน เราก้ตอบตามตรงว่าเราเอาของเค้ามาเเปลงเปลี่ยนตัวเกมใหม่ใช้จินตนาการของเรา เค้าก้บอกว่าเค้าชอบมากเเถมเค้าอัดหน้าจอไว้ด้วยเเต่อัดได้เเค่ช่วงครึ่งหลัง และให้คะเเนนเต็ม20และคะเเนนสอบเต็ม10 และครูก้เเนะนำว่าถ้าเรียนจบม.3ลองไปเรียนสายวิทย์-คอมดู เธอน่าจะไปได้ไกลในด้านนี้ อาจจะได้ไปเป็นเกมเมอร์โปรเเกรมเมอร์ก้ได้.... ทำให้เมื่อเรียนจบเราก้คุยกับพ่อเเม่ว่าครูเค้าเเนะมาเเบบนี้พ่อกับเเม่ก้บอกว่า"เเล้วเเต่เลย เเกเดินทางตามเส้นทางที่เเกชอบเลย"
ปัจจัยรอบข้าง
-พ่อ อยากให้เรียนด้านคอมกับพวกเเต่งกลิ่นสีเอาไว้ พ่อบอกว่ามันจะเป็นงานในอนาคตน่าจะรุ่งเรือง เพราะด้านคอมกำลังมีบทบาทกับมนุษย์ ด้านเเต่งกลิ่นสีตอนนี้เริ่มมีบ้างเเต่ในอนาคตต้องมีคนต้องการเยอะกว่านี้
ไม่ก้งานอะไรก้ได้ที่เเกเป็นนายตัวเองที่เเกเป็นเจ้าของเอง เพราะเเกไม่ชอบการบังคับ
-เเม่ เป็นอะไรก้เป็นๆไปเถอะขอให้เลี้ยงตัวเองรอดเเละขอให้เป็นงานสุจริต
-ตัวเอง ไม่รู้ตัวว่าอย่างเป็นอะไร ไม่รู้ตัวว่าชอบจริงมั้ย เรียนดีเเต่เกรด3.50-3.80 ไม่ชอบเรียนวิทย์ คณิต อังกฤษ ไทย สังคม หรือวิชาหลักๆเลย ไม่ชอบการบังคับ รักอิสระ รักการเป็นตัวเอง
เราก้เลยลองมานั่งคิดดู และก้เกิดคำถามมากมาย
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งวิทย์ใช่มั้ย?
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งคณิตใช่มั้ย?
-ถ้าจะเรียนต้องเก่งอังกฤษใช่มั้ย?
-ถ้าเราไม่ชอบวิชาหลักเรียนได้มั้ย?
-ถ้าเรียนเเล้วต่อที่ไหนได้ต่อ?
-ถ้าเรียนแล้วอนาคตจะโอเคมั้ย?
แล้วข้อสุดท้าย...
-ถ้าเรียนต่อด้านนี้จริงๆจะไหวมั้ย?
เราควรเรียนวิทย์-คอมมั้ยคะ