เห็นเป็นที่ถกเถียงกันมานานครับ สรุปให้นิดๆหน่อยๆครับ ผิดตรงไหนคอมเม้นได้เลยครับ
เเพทย์รัฐ
ข้อดี
-ค่าเทอมถูก
-ครูหลายๆคนจะเข้มมากๆทั้งระเบียบวินัยและตรงเวลา
-คนเก่งๆเยอะมากๆเพราะแข่งขันกันสอบเข้ามาเรียนกันหมด
-มีดีกรีมอรัฐ
-ตอนชั้นClinic เข้มมากๆ
ข้อเสีย
-ตัองใช้ทุนหลังจบ (ไม่ทราบว่าเท่าไหร่นะครับเเสนขึ้นไปอยู่เเล้ว)
-กฎระเบียบจะเข้มกว่ามากๆอยู่เเล้ว และอาจารย์ก็ตึง
-การเเข่งขันสูง
-อาจจะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เพราะมีนศพเรียนเยอะมากๆ
-คะเเนนไม่ถึงก็อาจได้ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลไกลบ้าน หรือตจว
แพทย์เอกชน
ข้อดี
-การเเข่งขันน้อย เเต่ดูจากข้อสอบเก่าของมอเอกชนแห่งนึงก็ต้องติวเข้มเเละมีความรู้ในระดับนึงถึงจะสอบติด เพราะก็มีการแข่งขันนเหมือนกันเพราะในไทยก็มีลูกคนรวยเยอะที่อยากเรียนหมอแต่ก็มีการเเข่งขันน้อยกว่ามอรัฐมากๆ
-ข้อสอบเข้าไม่ยากเท่ามอรัฐเเน่นอน
-สำหรับคนมีเวลาน้อยตอนมปลายแล้วบ้านมีเงินส่ง
-ติวสอบไม่หนักเท่ามอรัฐ
-อุปกรณ์ในคณะครบทุกอย่างไม่ต้องเเย่งกัน
-ไม่ต้องรอคิวในการทำเเล็ป หรือกายวิภาคศาสตร์
-สังคมก็ดีเหมือนกับมอรัฐเลย แต่บางคนอาจจะบ้านรวยขี้อวดนิดๆ55
ข้อเสีย
-ค่าเทอมสูงปรี๊ด ต้องมีเงิน
-อาจจะไม่ได้มีดีกรีเท่ารัฐบาลอยู่แล้ววเเต่ก็ยังมีดีกรีหมอนะครับ
-อาจจะถูกมองว่าสู้มอรัฐไม่ได้แต่ก็นะเเล้วเเต่บุคคลครับ ไม่เหมารวม บางคนลูกคนรวยก็ถูกพ่อแม่บังคับมาเรียน แล้วก็ขี้เกียจ แต่คนที่เก่งจริงๆในมอเอกชนก็มี ไม่เหมารวมทั้งหมด สุดท้ายก็ต้องสอบ NL เหมือนกัน
-ประสบการณ์ในการรักษาอาจจะน้อยกว่ามอรัฐครับ แต่ก็เเล้วเเต่วันเหมือนกันบางวันคนไข้ในโรงพยาบาลของสังกัดมอเอกชนอาจจะคนไข้เข้าจนล้นก็ได้ครับ แต่มอรัฐไม่ต้องถามเลยครับเยอะทุกวัน
-ถ้ากู้มาเรียน ภาระทางการเงินอาจเยอะขึ้นครับ
-อาจจะโดนเปรียบเทียบหรือดูถูกว่าเรียนหมอเอกชน แต่ก็ไม่ต้องคิดมากครับ เรียนให้จบ สอบNLให้ผ่าน มีวินัย ตั้งใจมุ่งมั่นก็พอครับ
สรุปรวมสุดท้ายทั้งเอกชน,รัฐ สำหรับตัวเลือกในการสอบเข้า
-ถ้าอยากเข้มๆทุกอย่าง เเละมีดีกรีมอรัฐ สอบรัฐ
-ถ้ามีเวลาติวน้อยมากๆเเละไม่อยากปวดหัวเยอะ สอบเอกชนครับ
สุดท้ายทุกที่ก็ต้อง สอบ NL ทั้ง 3 รอบเหมือนกัน เหนื่อยเหมือนกัน ถ้าแพทย์สภาารองรับไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะอย่างที่รู้กันแพทย์สภาาไทยเข้มมาก คณะเเพทย์ก็สอนเข้มทุกที่แหละครับแต่อยู่ที่ว่าจะสอนสไตล์ไหน เพราะ มหาลัยเอกชนก็อยากจะปั้นเด็กให้มหาลัยเขามีชื่อเสียงครับ ทุกวันนี้เลยมีคณะแพทย์์เอกชนก่อตั้งเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกกับเด็กไทยเเละก็อย่างที่รู้กันครับเด็กไทยหลายคนในไทยอยากเรียนหมอ สุดท้ายก่อนจบกระทู้ครับ จบจากที่ไหนไม่สำคัญครับ เป้าหมายของเราคือรักษาคนไข้เป้าหมายเดียวกันครับ เเค่เต็มที่ที่สุด ตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเรียน มีจรรยาบรรณเเพทย์ รักษาคนไข้ให้เหมือนกำลังรักษาคนที่เรารักครับ แค่นี้คนไข้เขาก็พอใจแล้ววถูกมั้ยครับ
สรุปเเพทย์รัฐ , เอกชน
เเพทย์รัฐ
ข้อดี
-ค่าเทอมถูก
-ครูหลายๆคนจะเข้มมากๆทั้งระเบียบวินัยและตรงเวลา
-คนเก่งๆเยอะมากๆเพราะแข่งขันกันสอบเข้ามาเรียนกันหมด
-มีดีกรีมอรัฐ
-ตอนชั้นClinic เข้มมากๆ
ข้อเสีย
-ตัองใช้ทุนหลังจบ (ไม่ทราบว่าเท่าไหร่นะครับเเสนขึ้นไปอยู่เเล้ว)
-กฎระเบียบจะเข้มกว่ามากๆอยู่เเล้ว และอาจารย์ก็ตึง
-การเเข่งขันสูง
-อาจจะมีข้อจำกัดด้านงบประมาณ เพราะมีนศพเรียนเยอะมากๆ
-คะเเนนไม่ถึงก็อาจได้ไปใช้ทุนที่โรงพยาบาลไกลบ้าน หรือตจว
แพทย์เอกชน
ข้อดี
-การเเข่งขันน้อย เเต่ดูจากข้อสอบเก่าของมอเอกชนแห่งนึงก็ต้องติวเข้มเเละมีความรู้ในระดับนึงถึงจะสอบติด เพราะก็มีการแข่งขันนเหมือนกันเพราะในไทยก็มีลูกคนรวยเยอะที่อยากเรียนหมอแต่ก็มีการเเข่งขันน้อยกว่ามอรัฐมากๆ
-ข้อสอบเข้าไม่ยากเท่ามอรัฐเเน่นอน
-สำหรับคนมีเวลาน้อยตอนมปลายแล้วบ้านมีเงินส่ง
-ติวสอบไม่หนักเท่ามอรัฐ
-อุปกรณ์ในคณะครบทุกอย่างไม่ต้องเเย่งกัน
-ไม่ต้องรอคิวในการทำเเล็ป หรือกายวิภาคศาสตร์
-สังคมก็ดีเหมือนกับมอรัฐเลย แต่บางคนอาจจะบ้านรวยขี้อวดนิดๆ55
ข้อเสีย
-ค่าเทอมสูงปรี๊ด ต้องมีเงิน
-อาจจะไม่ได้มีดีกรีเท่ารัฐบาลอยู่แล้ววเเต่ก็ยังมีดีกรีหมอนะครับ
-อาจจะถูกมองว่าสู้มอรัฐไม่ได้แต่ก็นะเเล้วเเต่บุคคลครับ ไม่เหมารวม บางคนลูกคนรวยก็ถูกพ่อแม่บังคับมาเรียน แล้วก็ขี้เกียจ แต่คนที่เก่งจริงๆในมอเอกชนก็มี ไม่เหมารวมทั้งหมด สุดท้ายก็ต้องสอบ NL เหมือนกัน
-ประสบการณ์ในการรักษาอาจจะน้อยกว่ามอรัฐครับ แต่ก็เเล้วเเต่วันเหมือนกันบางวันคนไข้ในโรงพยาบาลของสังกัดมอเอกชนอาจจะคนไข้เข้าจนล้นก็ได้ครับ แต่มอรัฐไม่ต้องถามเลยครับเยอะทุกวัน
-ถ้ากู้มาเรียน ภาระทางการเงินอาจเยอะขึ้นครับ
-อาจจะโดนเปรียบเทียบหรือดูถูกว่าเรียนหมอเอกชน แต่ก็ไม่ต้องคิดมากครับ เรียนให้จบ สอบNLให้ผ่าน มีวินัย ตั้งใจมุ่งมั่นก็พอครับ
สรุปรวมสุดท้ายทั้งเอกชน,รัฐ สำหรับตัวเลือกในการสอบเข้า
-ถ้าอยากเข้มๆทุกอย่าง เเละมีดีกรีมอรัฐ สอบรัฐ
-ถ้ามีเวลาติวน้อยมากๆเเละไม่อยากปวดหัวเยอะ สอบเอกชนครับ
สุดท้ายทุกที่ก็ต้อง สอบ NL ทั้ง 3 รอบเหมือนกัน เหนื่อยเหมือนกัน ถ้าแพทย์สภาารองรับไม่น่าเป็นห่วงครับ เพราะอย่างที่รู้กันแพทย์สภาาไทยเข้มมาก คณะเเพทย์ก็สอนเข้มทุกที่แหละครับแต่อยู่ที่ว่าจะสอนสไตล์ไหน เพราะ มหาลัยเอกชนก็อยากจะปั้นเด็กให้มหาลัยเขามีชื่อเสียงครับ ทุกวันนี้เลยมีคณะแพทย์์เอกชนก่อตั้งเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นตัวเลือกกับเด็กไทยเเละก็อย่างที่รู้กันครับเด็กไทยหลายคนในไทยอยากเรียนหมอ สุดท้ายก่อนจบกระทู้ครับ จบจากที่ไหนไม่สำคัญครับ เป้าหมายของเราคือรักษาคนไข้เป้าหมายเดียวกันครับ เเค่เต็มที่ที่สุด ตั้งใจมุ่งมั่นที่จะเรียน มีจรรยาบรรณเเพทย์ รักษาคนไข้ให้เหมือนกำลังรักษาคนที่เรารักครับ แค่นี้คนไข้เขาก็พอใจแล้ววถูกมั้ยครับ