สวัสดีครับ ขอความเห็นหน่อยครับสำหรับคนเคยเป็นโรคงูสวัด และโรคลมชัก
โรคที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก คือโรคงูสวัด และ โรคลมชัก(ไม่มีโรคประจำตัวอย่างอื่น)
ผมเป็นผู้ชาย อายุ 26ปี สาเหตุและอาการที่เป็นอยู่ปัจจุบันคือ ผมหายจากโรคงูสวัดแล้ว แผลแห้งมา4ปี (เอวด้านซ้าย) แต่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง
ปรึกษาแพทย์หลายท่านแล้วแต่คิดว่ายังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน (แพทย์บอกงูสวัดหายแล้ว ต้องทานยาไปเรื่อยๆซักพักเพราะเกี่ยวกับเรื่องปลายประสาท) จึงรักษาได้แค่แก้ปวด ไม่ใช่หายขาด
ตอนนี้ไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ เพราะคัน ต้องอยู่ติดบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่สุขภาพยังแข็งแรงดี แขนขาไม่อ่อนแรง สามารถออกกำลังกายหนัก คือกีฬาซ้อมมวย และฟิตเน็ตยกน้ำหนัก 1-2ชม.เกือบทุกวัน เน้นทานอาหารสุขภาพ ผัก ผลไม้ ดื่มน้ำประมาณ3ลิตร (เป็นคนเหงื่อเยอะมาก เนื่องจากออกกำลังกายหนักด้วย) และไม่นอนดึก ขับถ่าย2วันครั้ง ปัสสาวะนานกว่าปกติเล็กน้อย
ที่เป็นกังวลอย่างมากคือ ตอนนี้โรคงูสวัดได้หายนานแล้วแต่ยังทิ้งรอยแผลแห้งไว้อยู่ แต่มีอาการแทรกซ้อน คือ
1.ปวดตามเส้นประสาทลำตัวด้านซ้าย (เอว และ หลัง)
2.มือเฉพาะด้านซ้ายเย็นมากจากด้านในและมีเหงื่อด้วย ส่วนมือขวาจะปกติทุกอย่าง (ส่วนมากเป็นช่วงบ่ายถึงเย็น)
3.ตามีอาการเห็นเป็นดวงๆสีรุ้งส่องเข้าตาค่อยๆขยับไปมาและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วเวียนหัวเล็กน้อย (คล้ายๆกับเป็นลม) ส่วนมากจะมีเกิดเมื่อขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ (ได้ตรวจตาแล้ว ผลเป็นปกติ)
4.มีคลื่น คล้ายๆคลื่นเสียงความถี่ต่ำๆ *อี๊ดดด* ยาวๆ ขณะนั้นจะมีอาการ *เดจาวู* (เหตุการณ์ที่รู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วเกิดซ้ำอีก) มีอาการนี้บ่อยครั้ง ระหว่างนั้นจะมีความรู้สึก (get high) เป็นเวลาสั้นๆ คุณแม่ที่เห็นจะบอกว่าเหม่อ ตาค้างบ้างแต่ถาม ตอบ นับนิ้ว รู้เรื่องทุกอย่าง (แพทย์บอกว่าเป็นการชักเหม่อแบบระยะน้อย)
5.มีอาการเหมือนมีเข็มจิ้ม และไฟช้อต เสียวๆบริเวณข้างซ้ายติดสะดือ(บริเวณแผลแห้งของโรคงูสวัด) เป็นตอนเที่ยงกับก่อนนอน หรือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง (ฝนตก)
6.ไม่ได้ใส่เสื้อและอยู่ในที่เย็นมากตลอดเวลาทุกวันคือเปิดแอร์ตลอดเวลา บางทีต้องเปิดพัดลมเป่าร่วมด้วย ไม่สามารถอยู่ที่ร้อน ถ้าปิดแอร์เปิดพัดลมอย่างเดียวจะเหงื่อออกและไม่สบายตัวอย่างมาก
7.ขณะที่เดินเป็นเวลานานๆเสียการทรงตัวเล็กน้อย คือ ต้องลูบแรงๆในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของเอวตลอดเฉพาะยืน หรือเดิน (ลูบเบาๆไม่ได้)
8.มีอาการปวด บิด เวลากลางคืนก่อนนอน 23.00น. ตอนนอนไม่สามารถหันไปทางซ้ายได้เลย รู้สึกติดเส้นประสาท(ไม่แน่ใจ) ต้องนอนตะแคงขวาตลอดเวลาเป็นเวลามา3ปีแล้ว
***9.ไม่สามารถใส่เสื้อหรือห่มผ้าห่มได้เพราะจะคันมากๆบริเวณแผลงูสวัดที่แห้งแล้ว กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
10.มีอาการกล้ามเนื้อกระตุก หมุน แกว่ง เหมือนไม่เข้าที่เฉพาะแขนซ้ายและลำตัว (ไม่บ่อย)
11.เกิดอาการตื่นคนได้ง่าย (panic) ทั้งๆที่เป็นคนที่ชอบเข้าสังคมไม่ได้กลัวคนแปลกหน้า อาการเกิดขึ้นเมื่อ คุยโทรศัพท์ติดต่อทั่วไป หรือพบเจอคุยกับเพื่อนๆ (บรรยากาศโดยรอบรู้สึกเปลี่ยนไปอย่างกดดันอย่างมาก)
12.หัวใจเต้นแรงเสียงดังบ่อยๆแต่ไม่เร็วเกินปกติ (ตรวจไม่พบโรคหัวใจ )
13.กินยาแก้ปวดหลายตัว หรือยาชา หลายชนิดร่วมกันแต่อาการเจ็บปวดไม่หาย ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพรร่วมกับยาแพทย์ปัจจุบันหรือฝังเข็ม เพราะจะมีอาการชักเพิ่มอีก
14.มีอาการย้ำคิดย้ำทำ และนอนหลับไม่สนิท
***ยาที่ใช้อยู่ขณะนี้เป็นยาควบคุมอาการเท่านั้นไม่ใช่สำหรับรักษาให้หายขาดได้***
(ได้ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และค่าไตตลอดทุก3-6เดือน) บางครั้งก็MRI ด้วยครับ
8.00น.
Keppra 500mg 2เม็ด
Lamictal 25mg 1เม็ด
Depakine 500mg ครึ่งเม็ด
Lyrica 150mg. 1เม็ด
Frisium 5mg 1เม็ด
Tegretol CR 200 จำนวน 2เม็ด
13.00น.
Keppra 250mg 1เม็ด
18.00น.
Lyrica 150mg 1เม็ด
Frisium 5mg 1เม็ด
Keppra 500mg 2เม็ด
Lamictal 25mg 1เม็ด
Depakine 500mg ครึ่งเม็ด
Tegretol CR 200 จำนวน 3เม็ด
22.00น.
Lyrica 150mg 1เม็ด
Tripta 1เม็ด
เป็นโรคงูสวัด อาการแทรกซ้อน รบกวนการใช้ชีวิตประวันอย่างมาก (แผลแห้งมาหลายปีแล้ว)
โรคที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก คือโรคงูสวัด และ โรคลมชัก(ไม่มีโรคประจำตัวอย่างอื่น)
ผมเป็นผู้ชาย อายุ 26ปี สาเหตุและอาการที่เป็นอยู่ปัจจุบันคือ ผมหายจากโรคงูสวัดแล้ว แผลแห้งมา4ปี (เอวด้านซ้าย) แต่มีอาการแทรกซ้อนรุนแรง
ปรึกษาแพทย์หลายท่านแล้วแต่คิดว่ายังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน (แพทย์บอกงูสวัดหายแล้ว ต้องทานยาไปเรื่อยๆซักพักเพราะเกี่ยวกับเรื่องปลายประสาท) จึงรักษาได้แค่แก้ปวด ไม่ใช่หายขาด
ตอนนี้ไม่สามารถใส่เสื้อผ้าได้ เพราะคัน ต้องอยู่ติดบ้านเป็นส่วนใหญ่ แต่สุขภาพยังแข็งแรงดี แขนขาไม่อ่อนแรง สามารถออกกำลังกายหนัก คือกีฬาซ้อมมวย และฟิตเน็ตยกน้ำหนัก 1-2ชม.เกือบทุกวัน เน้นทานอาหารสุขภาพ ผัก ผลไม้ ดื่มน้ำประมาณ3ลิตร (เป็นคนเหงื่อเยอะมาก เนื่องจากออกกำลังกายหนักด้วย) และไม่นอนดึก ขับถ่าย2วันครั้ง ปัสสาวะนานกว่าปกติเล็กน้อย
ที่เป็นกังวลอย่างมากคือ ตอนนี้โรคงูสวัดได้หายนานแล้วแต่ยังทิ้งรอยแผลแห้งไว้อยู่ แต่มีอาการแทรกซ้อน คือ
1.ปวดตามเส้นประสาทลำตัวด้านซ้าย (เอว และ หลัง)
2.มือเฉพาะด้านซ้ายเย็นมากจากด้านในและมีเหงื่อด้วย ส่วนมือขวาจะปกติทุกอย่าง (ส่วนมากเป็นช่วงบ่ายถึงเย็น)
3.ตามีอาการเห็นเป็นดวงๆสีรุ้งส่องเข้าตาค่อยๆขยับไปมาและขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆแล้วเวียนหัวเล็กน้อย (คล้ายๆกับเป็นลม) ส่วนมากจะมีเกิดเมื่อขณะที่ใช้คอมพิวเตอร์ (ได้ตรวจตาแล้ว ผลเป็นปกติ)
4.มีคลื่น คล้ายๆคลื่นเสียงความถี่ต่ำๆ *อี๊ดดด* ยาวๆ ขณะนั้นจะมีอาการ *เดจาวู* (เหตุการณ์ที่รู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นมาแล้วเกิดซ้ำอีก) มีอาการนี้บ่อยครั้ง ระหว่างนั้นจะมีความรู้สึก (get high) เป็นเวลาสั้นๆ คุณแม่ที่เห็นจะบอกว่าเหม่อ ตาค้างบ้างแต่ถาม ตอบ นับนิ้ว รู้เรื่องทุกอย่าง (แพทย์บอกว่าเป็นการชักเหม่อแบบระยะน้อย)
5.มีอาการเหมือนมีเข็มจิ้ม และไฟช้อต เสียวๆบริเวณข้างซ้ายติดสะดือ(บริเวณแผลแห้งของโรคงูสวัด) เป็นตอนเที่ยงกับก่อนนอน หรือช่วงอากาศเปลี่ยนแปลง (ฝนตก)
6.ไม่ได้ใส่เสื้อและอยู่ในที่เย็นมากตลอดเวลาทุกวันคือเปิดแอร์ตลอดเวลา บางทีต้องเปิดพัดลมเป่าร่วมด้วย ไม่สามารถอยู่ที่ร้อน ถ้าปิดแอร์เปิดพัดลมอย่างเดียวจะเหงื่อออกและไม่สบายตัวอย่างมาก
7.ขณะที่เดินเป็นเวลานานๆเสียการทรงตัวเล็กน้อย คือ ต้องลูบแรงๆในบริเวณใดบริเวณหนึ่งของเอวตลอดเฉพาะยืน หรือเดิน (ลูบเบาๆไม่ได้)
8.มีอาการปวด บิด เวลากลางคืนก่อนนอน 23.00น. ตอนนอนไม่สามารถหันไปทางซ้ายได้เลย รู้สึกติดเส้นประสาท(ไม่แน่ใจ) ต้องนอนตะแคงขวาตลอดเวลาเป็นเวลามา3ปีแล้ว
***9.ไม่สามารถใส่เสื้อหรือห่มผ้าห่มได้เพราะจะคันมากๆบริเวณแผลงูสวัดที่แห้งแล้ว กระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก
10.มีอาการกล้ามเนื้อกระตุก หมุน แกว่ง เหมือนไม่เข้าที่เฉพาะแขนซ้ายและลำตัว (ไม่บ่อย)
11.เกิดอาการตื่นคนได้ง่าย (panic) ทั้งๆที่เป็นคนที่ชอบเข้าสังคมไม่ได้กลัวคนแปลกหน้า อาการเกิดขึ้นเมื่อ คุยโทรศัพท์ติดต่อทั่วไป หรือพบเจอคุยกับเพื่อนๆ (บรรยากาศโดยรอบรู้สึกเปลี่ยนไปอย่างกดดันอย่างมาก)
12.หัวใจเต้นแรงเสียงดังบ่อยๆแต่ไม่เร็วเกินปกติ (ตรวจไม่พบโรคหัวใจ )
13.กินยาแก้ปวดหลายตัว หรือยาชา หลายชนิดร่วมกันแต่อาการเจ็บปวดไม่หาย ไม่สามารถใช้ยาสมุนไพรร่วมกับยาแพทย์ปัจจุบันหรือฝังเข็ม เพราะจะมีอาการชักเพิ่มอีก
14.มีอาการย้ำคิดย้ำทำ และนอนหลับไม่สนิท
***ยาที่ใช้อยู่ขณะนี้เป็นยาควบคุมอาการเท่านั้นไม่ใช่สำหรับรักษาให้หายขาดได้***
(ได้ตรวจร่างกาย ตรวจเลือด และค่าไตตลอดทุก3-6เดือน) บางครั้งก็MRI ด้วยครับ
8.00น.
Keppra 500mg 2เม็ด
Lamictal 25mg 1เม็ด
Depakine 500mg ครึ่งเม็ด
Lyrica 150mg. 1เม็ด
Frisium 5mg 1เม็ด
Tegretol CR 200 จำนวน 2เม็ด
13.00น.
Keppra 250mg 1เม็ด
18.00น.
Lyrica 150mg 1เม็ด
Frisium 5mg 1เม็ด
Keppra 500mg 2เม็ด
Lamictal 25mg 1เม็ด
Depakine 500mg ครึ่งเม็ด
Tegretol CR 200 จำนวน 3เม็ด
22.00น.
Lyrica 150mg 1เม็ด
Tripta 1เม็ด