งูสวัด เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนี่งที่มีชื่อว่า “วาริเซลลาซอส(วี-แซด)ไวรัส” ผู้ที่ติดเชื้อนี้ครั้งแรกจะแสดงอาการของไข้สุกใส(ซึ่งมักจะเกิดขึ้นในวัยเด็ก)ส่วนน้อยอาจจะไม่แสดงอาการ ดังนั้นผู้ป่วยจึงมักมีประวัติเคยเป็นไข้สุกใสมาก่อน หลังจากหายไข้สุกใสแล้วเชื้อจะหลบซ่อนแล้วแฝงตัวอยู่ใต้ปมประสาทใต้ผิวหนัง เมื่อร่างกายมีภาวะภูมิคุ้มกันต่ำกว่าปกติ เช่น เด็กเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ช่วงที่มีความเครียดทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ โรคเอดส์ หรือโรคมะเร็งที่ได้รับยากดภูมิต้านทาน เชื้อที่แฝงตัวอยู่นั้นก็จะบ่งตัวหรือเพิ่มจำนวน และกระจายในปมประสาท ทำให้เส้นประสารทอักเสบ (เกิดอาการปวดตามแนวเส้นประสาท) เชื้อจะกระจายไปตามเส้นประสาทที่อักเสบ และปล่อยเชื้อไวรัสออกมาสู่ผิวหนังเกิดเป็นตุ่มใสเรียงเป็นแนวยาวตามแนวเส้นประสาทคล้ายกับรูปร่างของงูจึงเรียกว่าโรคงูสวัด
ก่อนมีผื่นขึ้น 1-3 วันผู้ป่วยจะมีอาการปวดแปล๊บคล้ายถูกไฟช็อต ในบริเวณที่ผื่นขึ้นซึ่งเป็นบริเวณปมประสาทที่มีเชื้อไวรัสแฝงตัวอยู่อาจมีอาการคันและปวดแสบปวดร้อนด้วย เป็นพัก หรือตลอดเวลาบางรายอาจมีอาการไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย เป็นพักๆ หรือ ตลอดเวลา ลักษณะเป็นผื่นแดงหรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆต่อมาคล้ายเป็นตุ่มน้ำใสเรียงตามแนวผิวหนังซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ตามแนวที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทที่อักเสบ ตุ่มน้ำมักทยอยขึ้นใน 4 วันแรก แล้วค่อยๆแห้งตกสะเก็ดใน 7-10 วัน เมื่อสะเก็ดตกและหลุดออกไปอาการปวดจะทุเลาลง รวมแล้วผื่นจะมีอยู่นาน 10-15 วัน ผู้ที่มีอายุมากจะมีอาการปวดจากเส้นประสาทอักเสบขึ้นอยู่กับระยะเวลาก่อนได้รับการรักษาว่าเร็วหรือช้า
การปฏิบัติตัวเมื่อพบว่าเป็นงูสวัด
1. รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆหรือยาฆ่าเชื้อที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองปิดประคบไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วทายาฆ่าเชื้อเฉพาะที่แล้วชุบเปลี่ยนใหม่ 3-4 ครั้ง ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลออกมาต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่แผลควรใช้น้ำเกลือสะอาดชะแผล แล้วปิดด้วยผ้ากอซสะอาด
2. ถ้าปวดแผลมากสามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่นพาราเซตามอล ได้
3. ไม่ควรใช้เล็บแกะเกาตุ่มงูสวัดเพราะอาจทำให้ มีการติดเชื้อแบคทีเรียแบคทีเรียแทรกซ้อน กลายเป็นตุ่มหนองแผลหายช้าและกลายเป็นแผลเป็น
4. การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานได้ทุกอย่างโดยไม่มีข้อห้าม
5. ไม่ควรเป่าหรือพ่นยาลงบนแผล เพราะจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน แผลหายช้าและการเป็นแผลเป็น
งูสวัดเป็นโรคติดต่อหรือไม่
คนที่มีภูมิคุ้มกันปกติ การสัมผัสหรือใกล้ชิดอาจไม่ทำให้ติดโรคงูสวัดเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยงูสวัดนั้นยากที่จะเกิดเพราะงูสวัดจะแพร่เชื้อในระยะที่เป็นตุ่มน้ำแตก หรือ สัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยตุ่มน้ำโดยตรงจึงสามารถที่จะสัมผัสใกล้ชิดหรือกินข้าวร่วมกับผู้ป่วยได้ตามปกติ เว้นคนที่ยังไม่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อนหากสัมผัสคนที่เป็นงูสวัดก็จะได้รับ เชื้อและเป็นไข้สุกใสได้ แต่ควรระวังไม่อยู่ใกล้คลุกคลีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ในระหว่างป่วย แต่ในผู้ป่วยที่เป็นงูสวัดแบบแพร่กระจายอาจสามารถแพร่เชื้อได้ทางลมหายใจได้ด้วย
การรักษา
การรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ เนื่องจากโรคงูสวัด สามารถหายเองได้เมื่อผู้ป่วยมีภูมิต้านทานดี โดยพักผ่อนอย่างเพียงพอ ในบางครั้งผื่นติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเป็นหนอง การใช้ยาปฎิชีวนะแบบทาหรือรับประทาน จะมีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุหรืออายุมากกว่า 50 ปี ผู้ทีที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมากหรือมีอาการปวดรุนแรงตั้งแต่แรกที่มีผื่นจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสแบบปรับประทานร่วมด้วยคือยา อะไซโคลเวีย ครั้งละ 800มก. วันละ 5 ครั้งทุก 4 ชั่วโมง (เว้นมื้อดึก 1 มื้อ) การให้ยาภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการจะมีประโยชน์ในการลดความรุนแรงของโรค และช่วยให้หายเร็วขึ้น รวมทั้งลดภาวะแทรกซ้อนภายหลังได้
ในรายที่รุนแรงแบบแพร่กระจายหรือบริเวณตาแพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสในรูปแบบฉีดเข้าเส้นเลือดดำแทน ซึ่งผลการรักษาจะได้ประสิทธิภาพกว่ามาก และลดภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก world.kapook.com

Report by LIV APCO
ป้องกันอันตราย…จากโรคงูสวัด
ก่อนมีผื่นขึ้น 1-3 วันผู้ป่วยจะมีอาการปวดแปล๊บคล้ายถูกไฟช็อต ในบริเวณที่ผื่นขึ้นซึ่งเป็นบริเวณปมประสาทที่มีเชื้อไวรัสแฝงตัวอยู่อาจมีอาการคันและปวดแสบปวดร้อนด้วย เป็นพัก หรือตลอดเวลาบางรายอาจมีอาการไข้ หนาวสั่นร่วมด้วย เป็นพักๆ หรือ ตลอดเวลา ลักษณะเป็นผื่นแดงหรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆต่อมาคล้ายเป็นตุ่มน้ำใสเรียงตามแนวผิวหนังซีกใดซีกหนึ่งของร่างกาย ตามแนวที่เลี้ยงโดยเส้นประสาทที่อักเสบ ตุ่มน้ำมักทยอยขึ้นใน 4 วันแรก แล้วค่อยๆแห้งตกสะเก็ดใน 7-10 วัน เมื่อสะเก็ดตกและหลุดออกไปอาการปวดจะทุเลาลง รวมแล้วผื่นจะมีอยู่นาน 10-15 วัน ผู้ที่มีอายุมากจะมีอาการปวดจากเส้นประสาทอักเสบขึ้นอยู่กับระยะเวลาก่อนได้รับการรักษาว่าเร็วหรือช้า
การปฏิบัติตัวเมื่อพบว่าเป็นงูสวัด
1. รักษาแผลให้สะอาด ในระยะเป็นตุ่มน้ำใสที่มีอาการปวดแสบปวดร้อนให้ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเกลืออุ่นๆหรือยาฆ่าเชื้อที่ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองปิดประคบไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วทายาฆ่าเชื้อเฉพาะที่แล้วชุบเปลี่ยนใหม่ 3-4 ครั้ง ในระยะตุ่มน้ำแตกมีน้ำเหลืองไหลออกมาต้องระวังการติดเชื้อแบคทีเรียที่จะเข้าสู่แผลควรใช้น้ำเกลือสะอาดชะแผล แล้วปิดด้วยผ้ากอซสะอาด
2. ถ้าปวดแผลมากสามารถรับประทานยาแก้ปวด เช่นพาราเซตามอล ได้
3. ไม่ควรใช้เล็บแกะเกาตุ่มงูสวัดเพราะอาจทำให้ มีการติดเชื้อแบคทีเรียแบคทีเรียแทรกซ้อน กลายเป็นตุ่มหนองแผลหายช้าและกลายเป็นแผลเป็น
4. การรับประทานอาหาร สามารถรับประทานได้ทุกอย่างโดยไม่มีข้อห้าม
5. ไม่ควรเป่าหรือพ่นยาลงบนแผล เพราะจะทำให้ติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน แผลหายช้าและการเป็นแผลเป็น
งูสวัดเป็นโรคติดต่อหรือไม่
คนที่มีภูมิคุ้มกันปกติ การสัมผัสหรือใกล้ชิดอาจไม่ทำให้ติดโรคงูสวัดเนื่องจากการติดเชื้อไวรัสจากผู้ป่วยงูสวัดนั้นยากที่จะเกิดเพราะงูสวัดจะแพร่เชื้อในระยะที่เป็นตุ่มน้ำแตก หรือ สัมผัสสารคัดหลั่งจากผู้ป่วยตุ่มน้ำโดยตรงจึงสามารถที่จะสัมผัสใกล้ชิดหรือกินข้าวร่วมกับผู้ป่วยได้ตามปกติ เว้นคนที่ยังไม่เคยเป็นโรคสุกใสมาก่อนหากสัมผัสคนที่เป็นงูสวัดก็จะได้รับ เชื้อและเป็นไข้สุกใสได้ แต่ควรระวังไม่อยู่ใกล้คลุกคลีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ในระหว่างป่วย แต่ในผู้ป่วยที่เป็นงูสวัดแบบแพร่กระจายอาจสามารถแพร่เชื้อได้ทางลมหายใจได้ด้วย
การรักษา
การรักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ปวดลดไข้ เนื่องจากโรคงูสวัด สามารถหายเองได้เมื่อผู้ป่วยมีภูมิต้านทานดี โดยพักผ่อนอย่างเพียงพอ ในบางครั้งผื่นติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเป็นหนอง การใช้ยาปฎิชีวนะแบบทาหรือรับประทาน จะมีประโยชน์สำหรับผู้สูงอายุหรืออายุมากกว่า 50 ปี ผู้ทีที่มีภูมิคุ้มกันต่ำมากหรือมีอาการปวดรุนแรงตั้งแต่แรกที่มีผื่นจำเป็นต้องใช้ยาต้านไวรัสแบบปรับประทานร่วมด้วยคือยา อะไซโคลเวีย ครั้งละ 800มก. วันละ 5 ครั้งทุก 4 ชั่วโมง (เว้นมื้อดึก 1 มื้อ) การให้ยาภายใน 48-72 ชั่วโมง หลังเกิดอาการจะมีประโยชน์ในการลดความรุนแรงของโรค และช่วยให้หายเร็วขึ้น รวมทั้งลดภาวะแทรกซ้อนภายหลังได้
ในรายที่รุนแรงแบบแพร่กระจายหรือบริเวณตาแพทย์อาจพิจารณาให้ยาต้านไวรัสในรูปแบบฉีดเข้าเส้นเลือดดำแทน ซึ่งผลการรักษาจะได้ประสิทธิภาพกว่ามาก และลดภาวะแทรกซ้อนอื่นตามมา
ขอขอบคุณข้อมูลจาก world.kapook.com
Report by LIV APCO