สังเวียนรัก สังเวียนร้าง...1(รีไรท์)

กระทู้สนทนา
เป็นเรื่องเก่าที่นำมารีไรท์ครับ เพราะพบจุดผิดพลาด
และ
ด้วยความชอบเป็นพิเศษกับเรื่องสั้นขนาดยาวเรื่องนี้
พบเห็นสิ่งผิดพลาด ทุกท่านสามารถทักท้วง แนะนำ
ได้เต็มที่ ข้าน้อยไม่มีอัตตา ใด ๆ คร้าบ...


ภาพได้รับความอนุเคราะห์จากคุณ แอน นลินมณี  ขอขอบคุณอีกครั้ง มา ณ ที่นี้ เด้อครับ

---------------

 
 
บทนำ
 

             หนังสือสัญญาพิเศษ
             เอกสารฉบับนี้ มีเพื่อเป็นหลักฐาน แสดงความเต็มใจ ยินยอมพร้อมใจ ปราศจากการบังคับขู่เข็ญของคู่กรณี
ระหว่าง  
             นายธารา วงค์เมฆาอรกานต์  ตำแหน่ง ผู้เป็นสามีตามกฎหมาย
             และ
             นางนิจพร วงค์เมฆาอรกานต์  ตำแหน่ง เป็นภรรยาตามกฎหมาย

             ทั้งสองคนยินยอมพร้อมใจ เต็มใจ จะขึ้นเวทีมวย เพื่อชกมวย โดยใช้กติกามวยไทยประยุกต์ ณ เวทีมวยค่ายมวย  อิเกิ้ง การชกครั้งนี้ไม่มีการกำหนดจำนวนยก ทั้งนี้ถ้าหากมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เกิดอาการบาดเจ็บ พิการ เสียชีวิต เสียโฉม วิกลจริต ปัญญาเสื่อม ตานขโมย เอ๋อ ระหว่าง / และ หรือหลังการชก อีกฝ่ายจะไม่ติดใจเอาความโดยเด็ดขาด  

             ข้อตกลงในการชกครั้งนี้
             1 ถ้าสามีเป็นฝ่ายชนะ ฝ่ายหญิงจะต้องยินยอม หย่า ขาดจากสามีโดยไม่มีข้อแม้ทันที พร้อมจ่ายเงินทดแทนหนึ่งล้านบาท

             2 ถ้าฝ่ายภรรยาเป็นฝ่ายชนะ สามีจะต้องจ่ายค่าทดแทนเป็นเงินหนึ่งล้านบาท และจะต้องปฏิบัติตามคำสั่งของภรรยาโดยเคร่งครัดไม่มีข้อแม้ใด ๆ ทั้งสิ้นยกเว้นคำสั่งที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม เป็นเวลาหนึ่งปี นับจากวันที่ทราบผลแพ้ชนะอย่างเป็นทางการ โดยคำตัดสินของกรรมการ ถือเป็นเด็ดขาด ครบกำหนดจึงจะถือว่าสิ้นสุดระยะเวลาสัญญา  

             3 การชกจะจัดขึ้นภายในเวลาสิบวัน หลังจากมีการลงนามในหนังสือสัญญาฉบับนี้ และในระหว่างเก็บตัวนักกีฬา ห้ามมิให้ทั้งคู่เข้าใกล้กันใน รัศมีสิบเมตร โดยไม่มีอะไรขวางกั้นเด็ดขาด และห้ามไม่ให้มีการ พูดจา ติดต่อ สื่อสารกัน ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม หรือจะด้วยวิธีการหนึ่งวิธีการใดก็ห้ามเด็ดขาดทั้งสิ้น ถ้าฝ่ายใดทำผิดสัญญาก่อน จะต้องโดนปรับหนึ่งหมื่นบาททุกครั้งต่อหนึ่งความผิดทันที

             4 กติกาพิเศษคือ ฝ่ายสามีจะต้องสวมนวมขนาดใหญ่ที่มือซ้าย มือขวาไพล่หลังมัดแน่นติดตัวไว้ตลอดการชก ห้ามสามีต่อยภรรยาบริเวณใบหน้า หรือต่ำกว่าเอวเด็ดขาด มิฉะนั้นจะถูกจับแพ้  

             5 สามีต้องใช้มือซ้ายข้างเดียวต่อสู้เท่านั้น ห้ามมิให้สามีใช้เท้าศอก เข่า หัว ส่วนฝ่ายภรรยาให้ใช้นวมขนาดเล็กสุดเท่าที่จะหาได้  สามารถต่อสู้แบบฟรีสไตล์ไร้ข้อจำกัด ไม่มีการชนะคะแนน 

             6 การแพ้ชนะจะเกิดขึ้นเมื่อมีการนับสิบไม่ลุก มีแผลแตก ออกปากยอมแพ้ วิกลจริต ร้องไห้นาน หรือตกเวที เท่านั้น

             7 ถ้าหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่มาชกตามสัญญา จะถูกปรับแพ้เพิ่มโทษตามสัญญาสองเท่าโดยไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น

             8 ระหว่างการเก็บตัวฝึกซ้อม ห้ามติดต่อ ห้ามมิให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งรบกวนสมาธิและความเป็นอยู่ของอีกฝ่ายอย่างเด็ดขาด มิฉะนั้นต้องจ่ายเงินให้ผู้ถูกกระทำหนึ่งหมื่นบาทต่อครั้งทันที

              ลงชื่อพยาน ทนายความ และคู่กรณี
              ………………………..
              ………………………..
              ………………………..
              ………………………..
 
 
 
             บทที่ 1 นักชกฝ่ายชาย
              
             “นี่แกจะขึ้นเวทีชกกับภรรเมียจริงหรือวะ” 

             เอกชัยยื่นหนังสือสัญญาประหลาด คืนให้เจ้าของหลังจากอ่านจบ ธาราพยักหน้าพลางยิ้มเข้มให้เพื่อนรัก ก่อนยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มด้วยสีหน้าท่าทางสบายใจไร้กังวล

             สองหนุ่มหล่อยังอยู่ในชุดทำงานของบริษัท พากันนั่งอยู่ในร้านอาหารประจำตำแหน่ง สังสรรค์มาตั้งแต่บ่ายจนกระทั่งเย็น และยังไม่มีทีท่าว่างานเลี้ยงเลิกรา ห้องปรับอากาศเย็นฉ่ำ พนักงานสาวสวยมากหน้าหลายตา แต่งตัวเน้นสัดส่วนโค้งเว้านวลเนียน ทำให้การดื่มกินเป็นไปอย่างเพลิดเพลินเจริญใจผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี

             “จริงแท้แน่นอนที่สุด”  ธาราตอบอย่างมั่นใจ ไม่ได้วิตกกังวลกับกฏ กติกา ข้อแม้ ที่ดูเหมือนจะถูกเอาเปรียบอยู่พอสมควร  

             “มันเป็นวันเวลาที่ข้าจะต่อสู้ เพื่อเกียรติยศศักดิ์ศรี เสรีภาพ เสมอภาค ภราดรภาพ อันหอมหวนของลูกชายตัวจริงเสียงจริง ให้กลับคืนมาเสียที ห้าปีกว่าที่แต่งงาน ทำให้ข้ารู้ว่านรกบนดินมีจริง ปีศาจมีจริง ข้าจะไม่ยอมปล่อยโอกาสทองให้หลุดลอยไปอย่างเด็ดขาด”

            “นี่แกไม่มีศักดิ์ศรีลูกผู้ชายเลยหรือวะ”  เอกชัยถามตรง ๆ อย่างกังวล เขาไม่อยากเห็นครอบครัวของเพื่อนแตกแยก เพราะรู้จักคุ้นเคยนิจพร ภรรยาของธาราเป็นอย่างดี วันแต่งงานเขาเองก็ทำหน้าที่เพื่อนเจ้าบ่าว

             “ไม่มี้...ไม่มี  มีไปทำไมศักดิ์ศรี กินก็ไม่ได้ ที่มีคือ ยอดนักชกผู้ยิ่งใหญ่”  ธาราเน้นเสียงพลางหัวเราะเบา ๆ

            “นี่คือโอกาสแห่งเวลาการปลดปล่อยอิสรภาพแสนสวยงาม ที่จะต้องสั่งสอนยัยนิด ให้หยอดน้ำข้าวต้ม สำนึกผิดในการกระทำละเมิดสิทธิส่วนสามี เผด็จการในครอบครัว จะจัดหนักให้นอนโรงพยาบาลไปเลย มันเป็นโอกาสงาม หาได้ง่ายเสียเมื่อไรกันละเพื่อนเอ๋ย”

            ว่าพลางชายหนุ่มก็ทำท่าโยกตัว โยกไหล่ ทำท่าหลบหลีกล่อหลอก ออกหมัดซ้ายขวาไปมาอย่างมั่นใจ ราวกับลีลานักชกมืออาชีพ ทั้งที่กติกาคือให้ใช้หมัดซ้ายได้ข้างเดียวเท่านั้น ไม่สนใจว่าใครจะมองเพราะถือว่าร้านอาหารแห่งนี้เป็นดินแดนในสังกัดเพราะมาบ่อยจนคุ้นเคยกับเจ้าของร้านและพนักงานแทบทุกคน ลูกค้าโต๊ะอื่นส่วนมากก็คุ้นหน้าคุ้นตากันเป็นอย่างดี

             เอกชัยมองอาการของเพื่อนทำคอย่นอย่างสยองจิต เมื่อฟังวาทะองอาจห้าวหาญทะยานฟ้า ราวกับจะออกไปสร้างวีรกรรมในสมรภูมินรก เพื่อคุณธรรมกู้โลกให้วิบัติ นึกถึงนิจพรภรรยาคนงามของธารา เปรียบเทียบกันเรื่องรูปร่างของคู่ชกพิเศษ ก็ไม่ได้ต่างกันมากจนขั้น มือใหญ่-มือบาง  ร่างหนา-ร่างบาง อย่างพระเอกนางเอกพิมพ์นิยม ในนิยายหลายเรื่อง ที่ร่างหนามักคู่ร่างบาง มือบางคู่มือหนา แต่ถึงอย่างนั้นนิจพรก็ต้องแบกน้ำหนักประมาณเกือบยี่สิบกว่ากิโลกรัมเลยทีเดียว

             “อย่าลืมว่าคุณนิดเป็นผู้หญิงนะโว้ย”   เอกชัยอดแย้งไม่ได้  ในใจรู้สึกเข้าข้างนิจพรมากกว่า

             “ผู้หญิงนั่นละต่อยดีนักแล จะบอกให้ คอยดูนะแก ข้าจะต่อยด้วยมือข้างเดียวนี่ละ ฟิ้ว ๆ”
ธาราพูดพลางทำท่าออกหมัดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง ไม่นึกวิตกกังวลเลยสักนิด จากนั้นหันไปหยิบแก้วมาจิบเล็กน้อย เพราะรู้ตัวว่าเริ่มเมาแล้ว ไม่อยากเมาแล้วขับ แต่ถึงกระนั้นก็ยังคุยต่อไปอย่างมันในอารมณ์

              “ข้าต่อย ๆ... และต่อย จนทำให้บังอรนอนตื่นสายต้องลงคุกเข่าคร่ำครวญ อ้อนวอนขอชีวิตขอความเมตตาปรานี ซมซานทรมานจนแทบขาดใจ น้ำตาร่วงหลังพวงมาลัย ยอมแพ้ทั้งกายและใจ เจ็บนี้อีกนาน ให้รู้บ้างว่าไผเป็นไผ”

             เอกชัยฟังแล้วอยากเป็นมวยแทน แล้วกระโดดไปต่อยปากเพื่อน ให้ร่วงลงไปกองเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพราะความเป็นเพื่อนกันมานาน จึงได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอาใจ แล้วหันไปยิ้มกับสาวเสิร์ฟ

             “วันนี้เจี๊ยบน่ารักเป็นพิเศษเลยนะ สวยวันสวยคืน เมื่อวานก็ดูสวยดี แต่วันนี้สวยกว่าเมื่อวาน นะครับ”

             “ขอบคุณค่ะ” คนถูกชมยิ้มหวานรับคำชม ขณะมือจัดการเติมน้ำแข็งผสมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างคล่องแคล่วมืออาชีพ ได้รสกลมกล่อมลื่นคอ เพราะความทำงานในร้านมานานหลายปี จนบรรลุทักษะศาสตร์และศิลป์แห่งการชงเหล้า เข้าถึงความหวานของลูกค้า

             นี่เองทำให้หลายคนติดใจร้านอาหารนอกบ้าน เพราะมีคนน่ารัก คอยเอาใจบริการ อำนวยความสะดวก แถมด้วยภาพประกอบมีชีวิต สวยงามวับแวมพองาม กระตุ้นลมปราณภายในให้ระอุความเร้าอารมณ์

             “เฮ้ย! นี่เจี๊ยบแฟนข้า แกห้ามยุ่ง ห้ามมองนาน ห้ามพุดคุย ห้ามแทะโลมด้วยสายตาและวาจา ห้ามแต๊ะอั๋ง” ธาราโวยวายขึ้นทันที สาวต้นเหตุยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างพอใจ ด้วยความเป็นคนหน้าตาสะสวยอัชฌาสัยดี ทำให้ที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง และลูกค้าของร้านอาหารประจำตำแหน่ง

             “ถ้างั้น คุณทั้งสองคนก็ต้องมาบ่อย ๆ นะคะ” เธอบอกขณะชายตายิ้มหวานให้อีกครั้ง ก่อนผละพลิ้วไหวไปบริการโต๊ะอื่น 

             พนักงานของร้านอาหารประจำตำแหน่งสวยน่ารักแทบทุกคน ทำให้เปรียบเสมือนเป็นแหล่งหลบภัย พักพิงทางใจ รังรักในจินตนาการของคนใจเหงา ที่ได้แต่เหงาใจ ไม่ว่าหนุ่มหรือแก่  น้องเจี๊ยบสาวเสิร์ฟคนงามก็เป็นหนึ่งในชนวนแห่งการจุดระเบิดนิวเคลียร์ของมวยคู่เอก เพราะเบอร์โทรศัพท์ของเธอหลุดจากกระเป๋าเสื้อของธารา ไปอยู่ในมือของนิจพรแบบไม่ตั้งใจ 

             นั่นละ จุดเริ่มต้นของ ศึกวันครอบครัว ครั้งนี้

             หลายปีผันผ่าน กับวิถีชีวิตการแต่งงาน แม้จะไม่ค่อยสงบสุขเท่าไรนัก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติทั่วไป แต่ก็ไม่มีใครคิดว่าเรื่องจะรุนแรง ถึงขนาดต้องมาตัดสินชะตากรรมครอบครัว ด้วยการขึ้นสังเวียน ชกมวยตัดสินปัญหา

             อีกแปดวันจะถึงวันขึ้นเวที  ต่างฝ่ายต่างเก็บตัวและฝึกซ้อม 

             ฝ่ายชายใช้วิธีการซ้อมพิเศษ ออกกำลังกายด้วยการยกแก้วเหล้า บริหารสายตาด้วยการมองสาว ๆ ไม่ต้องมีใครมาคอยห้ามหรือขัดขวาง เพราะอยู่ในช่วงแห่งการประกาศภาวะฉุกเฉินในครอบครัว  ตามสัญญาและข้อตกลง ทุกคนสามารถใช้ชีวิตอย่างอิสระได้ชั่วคราว

             ฝ่ายหญิงเก็บตัวอยู่ที่ ค่ายมวยอิเกิ้ง ซึ่งก็ไม่ใช่ของใครที่ไหน เจ้าของค่ายมวยเป็นลุงแท้ ๆ ของนิจพร จากการระหองระแหงกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ท้ากันไปท้ากันมา ทีเล่นทีจริง จนกลายเป็นการเอาจริงเอาจังในที่สุด 

             และจากกฎข้อหนึ่งบอกว่า ห้ามเข้าใกล้กันในระยะสิบเมตร ทำให้ธาราเป็นฝ่ายต้องหิ้วกระเป๋าก้าวลงบันได ออกจากบ้านมาเช่าโรงแรมอยู่ใกล้ที่ทำงานเป็นการชั่วคราว เนื่องจากถ้าอยู่บ้านเดียวกัน โอกาสจะทำพลาดพลั้งผิดสัญญามีมากอย่างแน่นอน ระยะสิบเมตรจะหลบกันไปไหนพ้น เกิดใครคนหนึ่งหลบรอจังหวะอยู่มุมเลี้ยวก็ไม่รอด  เขาจึงเป็นฝ่ายยอมออกมาเสียเอง อย่างน้อยก็เพื่อพิสูจน์ว่าเขาเป็นผู้ยอมอ่อนข้อให้ อย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยวิญญาณแห่งลูกผู้ชายและวิญญูชน

             ภายในบ้านมีการติดกล้องวงจรปิดไว้แทบทุกจุด สามารถนำมาเป็นหลักฐานชั้นดี เมื่อมีการละเมิดสัญญา นี่เองคือสาเหตุหลักของความลำบากใจในการอยู่บ้านด้วยกัน ทำให้นักชกฝ่ายชายอ้างความชอบธรรม หนีออกมานั่งดื่มกินนอกบ้านได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลับไปตรวจสภาพ ไม่ต้องถูกพิสูจน์หลักฐาน และวัดปริมาณแอลกอฮอล์ที่บ้าน 

             “เออ...ได้ข่าวว่านิดไปซ้อมมวยที่ค่ายอิเกิ้งแล้วนะเพื่อน”  เอกชัยรายงานความเคลื่อนไหวของอีกฝ่าย ทำให้คนฟังตาลุกโพลงทันที 

             หนอย... มันจะมากเกินไปแล้ว ถึงขนาดซ้อมมวยเพื่อจะชกกับสามีของตัวเอง! แบบนี้ไม่ต้องปรานีสงสารให้เสียเวลา ธาราคิดอย่างหงุดหงิดใจโดยไม่มีเหตุผล

             “นิดไปซ้อมมวย จะบ้าเหรอ”  หนุ่มโสดชั่วคราวพูดอย่างฉุนเฉียว

             “ไม่บ้าหรอกเพื่อน ไม่เชื่อไปดูในเฟซบุ๊กของเธอสิ รูปหราเชียว”  เอกชัยตอบยิ้ม ๆ ขำก็ขำ อยากเตะก็อยากเตะ

             “จะมากไปแล้วนะ” ธาราขบกรามกรอด รีบดึงโทรศัพท์มือถือราคาแพงขึ้นมา กดเข้าอินเทอร์เน็ต ส่องดูเฟซบุ๊กของคู่ชกหน้าสวยทันที และก็เป็นจริงอย่างที่ว่า 

             นิจพรอยู่ในชุดนักมวยกางเกงขาสั้นเสื้อแขนกุด กำลังโชว์ลีลาการเตะกระสอบทรายด้วยท่าทางทะมัดทะแมงเอาจริงเอาจัง นิจพรในวันนี้ยังหุ่นดีสวยงามไม่ต่างจากก่อนแต่งงาน เพราะเธอออกกำลังกายด้วยการซ้อมมวยเป็นประจำ ตามสายเลือดนักชกแห่งวงค์ตระกูล  และอะไรก็ไม่ร้ายเท่า อัลบั้มสะสมภาพถ่ายวันแต่งงาน วันหวานชื่น ภาพถ่ายวัยหวาน และความทรงจำที่ดี ถูกลบหายไปจนหมด ราวกับว่าสิ้นเยื่อขาดใยกันโดยสิ้นเชิง

.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่