เราจะมาเล่าเรื่องราวก่อนที่เราจะรับเชื่อ HIV ตั้งแต่เริ่มจนปัจจุบันให้ทุกคนฟัง (ตอน 2)

หลังจากที่ทุกคนกินข้าวกันเรียบร้อยท้องฟ้าก็เริ่มมืด แล้วจะเห็นแสงไฟตามจุดต่างๆ นั้นคือ ตะเกียงน้ำมัน แล้วทุกคนก็เริ่มนอนหลับกันด้วยความเหนื่อย
 ส่วนตัวเราก็ต้องเตรียมตัวและเสื่อผ้าให้พร้อม เพื่อนที่จะเข้าเรียนในวันรุ่งขึ้น ตื่นเต้นมากที่จะได้เจอคนมากมายที่ไม่เคยเจอมาก่อนในใจคิดว่ามันจะต้องดีแน่ๆ แต่กลับกันทุกคนกลับมองเราด้วยสายตาแปลกๆ ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเพราะเราเด็กใหม่ก็คงไม่แปลกแต่แปลกที่ไม่มีใครทักเราเลยนอกจากมอง
      
     เรียนไปจนถึงเลวาพักเที่ยงมัเป็นเรื่องยากมากที่จะไม่เขินใครเลย เราเอาแต่นั่นก้มหน้ากินข้าวแล้วเดินขึ้นห้องไป แต่เรื่องราวไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น กระเป๋าเราหายไป!! แน่นอนว่าต้องมีคนแกล้งสุดท้ายเราก็หามันนเจอและก็ได้รู้ว่าเพื่อนในห้องเป็นคนเอไปซ่อน เรากลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยและได้ทำงานบ้านอย่างที่ทำในทุกๆวัน 

      เราขอเรารวบๆนะ เพราะมันอาจจะยาวเกินไป  พอเราเรียนมาถึง ป.4 มีการคัดเด็กกิจกรรมวิชาการ ตัวเราอยากได้ผลงานเลยลงสมัคร เกือบทุกอย่าง เช่น สมัครเป็นดุริยางค์ นักกีฬา ท่องทำนองเสนาะ แสดงละครภาษาอังกฤษ ปลูกสวนถาด ในแต่ละเทอมเราจะทำเทอมละสองอย่าง จนได้เป็นเด็กกิจกรรมและนักเรียนต้นแบบ พอจบ ป.4 เราขึ้น ป.5 เรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดอีกรอบ ที่บ้านเราทำไรด้วยการที่พื้นที่ในการทำงานมีไม่กี่ไร่  เงินหมุนเวียนในครอบครัวเลยไม่พอใช้ พ่อขายรถเครื่องเพื่อเอาเงินมาดาว รถอีต๊อก แล้วไปเก็บขยะขาย สวนตัวเราจากที่ได้เงิไป รร วันละ20 ตอนนั้นต้องลดลงมาเหลือ 5 บ. 

     มันเหนื่อยมาก รถที่มีไปส่ง รร ก็ไม่มีต้องปั่นจักยานไป ระยะทางราวๆ10กิโลจากบ้านถึง รร แถมไปรรก็โดนรุ่นพี่ปล่อยยางรถจนต้องเข็นกลับระหวางทางกลับบ้านนั้นคนที่มันปล่อยลมยางเรา โครตหยามเขามีเงินเขาขึ้นรถรับส่งส่วนเรามาตกอับ เดินกลับบ้านพวกนั้นเห็นมันทำอะไรกับเรารู้ไหมทุกคน มันยิ้มน้ำลายใส่หัวเรา เราร้องให้ไปเดินไป ทุกวันที่ไป รร ไม่มีใครเรียกชื่อเรา แต่ เขาเรียกเราว่า ''เงาะป่า'' ตอนนั้นไม่มีใครแม้แต่อยากจะคบคนตัวดำผมหยิก 

    ทุกครั้งที่เราเดินไปไหนเรารู้สึกด้อยกว่าคนอื่นมาก ด้วยสายตาและคำพูด เราไม่เคยไปทัศนศึกษากับทาง รร ไม่เคยเข้าค่าย ลูกเสือในตอนเรียน ปถม เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าถ้าไปจะเกิดอะไรขึ้น เราโดนแกล้งแบบนี้ทุกวันกล้าพูดเลยว่าทุกวัน และวันหนึ่งเหตุการไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นอีกครั้ง!! พ่อกับแม่แยกทางกันเหตุการจบไม่สวยด้วยการนองเลือด พ่อต่อยกระจก ปาดข้อมือ ต่อหน้าเรา ทำให้เราช็อคไปสามวัน เราคล้ายเป็นเด็กโรคจิตร ไม่พูดไม่จา ไม่เข้าสังคม. และแล้วแม่ก็ต้องย้ายไปอยู่กับลุง ทำไมชีวิตเราถึงต้องแย่ขนาดนี้ พลัดพรากทุกสิ่งอย่าง แต่ที่แม่ทิ้งสิ่งดีๆไว้ให้เรา ก็คือน้องชายตัวน้อย และความรับผิดชอบของเราก็เพิ่มขึ้น 
     
     ด้วยสถานการที่บีบบังคับทำไห้เราต้องทำงานเพื่อเลียงตัวเอง ยาย น้อง เพราะเราโตขึ้นด้วยแหละ จำได้ว่าตอนนั้นยังไม่จบ ป.5 ทำทุกอย่าง ตั้งแต่ ก่อสร้าง ตัดอ้อย ขุดมัน หาเห็น เก็บหน่อไม้ ขายเพราะในใจอยากเรียนแต่เงินก็ไม่มี เลยต้องทำ บางครั้งข้าวสารหมดเหลือถ้วยเดียวก็ต้องเอามาทำข้าวต้มแบ่งกันกิน เราทำแบบนี้เกือบทุกวันทำงานสลับเรียน วันเว้นวัน สงสัยไหมว่าพ่อแม่ไปไหน เดี๋ยวจะกลับมาเล่าให้ฟังนะทุกคน และมีเรื่องเซอร์ไพรส์ตลอด รอฟังกันนะทุกค
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่