วันนี้เสือตะหลิวจะพาไปบุกแดนอิตาลีกับเมนูอาหารที่คนไทยหลายๆคนอาจจะไม่คุ้นหู กับเมนูที่ชื่อว่า "ญ็อกกี้(Gnocchi)"
เรามาทำความรู้จักกับเจ้า "ญ็อกกี้" กันก่อน โดยถ้าจะให้นิยามเจ้าพาสต้าตัวนี้ให้ตรงตัวที่สุด ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ลูกชิ้นมันฝรั่ง" หลักๆจะเป็นการผสานมันฝรั่งบดกับแป้งพาสต้าแล้วนวดให้เนียนเข้ากัน จากนั้นต้มจนสุกแล้วจึงนำไปประกอบอาหารกันต่อไป
ประวัติศาสตร์ของเมนูที่ชื่อว่า "ญ็อกกี้" นี้สามารถสืบย้อนไปได้ถึงสมัยอาณาจักรโรมันโบราณ โดยคำว่า Gnocchi นี้ ถ้าแปลตรงตัวจะหมายถึง "การนวดแป้งในป่า" หรือ "การนวดแป้งด้วยหมัด" จากความหมายดังกล่าว เราจึงสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า "ญ็อกกี้" นั้น เป็นเส้นพาสต้าชนิดที่ต้องทำกันสดๆ ไม่มีการอาศัยเครื่องมือใดๆ ต้องนวดด้วยแรงจากสองมือล้วนๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจึงไม่ค่อยจะพบเห็นเมนู "ญ็อกกี้" ได้ในร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วๆไปเพราะ เป็นพาสต้าชนิดที่ต้องนวดกันสดๆแบบวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ร้านส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเสิร์ฟเส้นพาสต้าแบบอบแห้งสำเร็จรูปมากกว่า
แต่ถึงแม้ว่า "ญ็อกกี้" นั้นจะหาทานได้ยาก แต่วิธีทำกลับทำได้ง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อ รับรองว่าลองชิมดูแล้วจะติดใจครับ
เริ่มต้นทำเจ้าตัว gnocchi กันก่อนเลย
ต้มมันฝรั่งจนสุกแล้วบดจนเนื้อเนียนละเอียด
จากนั้นก็ผสมมันฝรั่งบดกับแป้งสาลีในอัตราส่วน มันฝรั่งบด 500 กรัม ต่อแป้ง 100 กรัม ใส่ไข่แดงสดลงไป 1 ฟอง แล้วนวดไปเรื่อยๆจนเนื้อเนียนแป้งไม่ติดนิ้ว ระหว่างนวดสามารถใส่แป้งสาลีลงไปเพิ่มได้ตลอด
จากนั้นแป้งก้อนแป้งเป็นสี่ส่วน แล้วเอาแต่ละส่วนมาคลึงเป็นเส้นยาวๆหนาพอประมาณ จากนั้นจึงตัดแบ่งเป็นก้อนเล็กๆเท่าๆกัน
ตกแต่งก้อน gnocchi เพิ่มเติมโดยใช้หลังส้อมกดลงไปที่เนื้อแป้งแล้วรูดแป้งจนสุด ก็จะได้เนื้อ gnocchi เป็นร่องๆ
ก้อน gnocchi สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 2-3 วัน
ต้มน้ำจนเดือด แล้วนำก้อน gnocchi ลงไปต้ม ถ้าก้อนไหนลอยก็แปลว่าก้อนนั้นสุกดีแล้ว จึงตักออกมาสะเด็ดน้ำ
ทีนี้เรามาดูที่ตัว เบชาแมล (bechamel) หรือ ไวท์ซอส (white sauce) กันต่อ
ตั้งกระทะไฟอ่อน ผัดกระเทียมหอมใหญ่กับเนยจนหอม
ใส่แป้งสาลีลงไปผัด โดยอัตราส่วนเท่าๆกับเนยที่ใส่ลงไปตอนแรก ผัดจนส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน
ใส่นมสดลงไปเคี่ยว ค่อยๆเทลงไปทีละนิด คนไปเรื่อยๆ ใช้นมสดประมาณหนึ่งถ้วยตวง พอเห็นว่าซอสข้นตามชอบแล้วก็ปิดไฟได้เลย จากนั้นก็เอามากรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้ซอสเบชาแมลพร้อมใช้งาน
เตรียม gnocchi กันต่อ โดยตั้งกระทะไฟกลาง ผัดเนยกับแครอทสับ ก้านขึ้นฉ่ายสับ หอมใหญ่สับ พริกไทยบด กระเทียมสับ จนส่งกลิ่นหอม
ใส่ gnocchi ลงไปผัดเร็วๆให้เข้ากัน
เทซอสเบชาแมลลงไปผัดกับ gnocchi ให้เข้ากันเร็วๆ
ปิดท้ายโดยโรยชีสลงไปตามชอบ ถ้าบ้านใครมีพาเมซานก็โรยลงไปตามชอบ หรือจะใช้ชีสแผ่นทั่วๆไปก็ได้
ใส่ชีสลงไปแล้วปิดไฟคลุกให้เข้ากัน โรยต้นหอมหรือผักชีแต่งหน้าตามชอบ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เนื้อ gnocchi เนื้อนุ่มหนึบหวาน ผสานกับซอสเบชาแมลรสหอมมันเข้มข้น กินไปแล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจได้พลังงาน มีคำแรกก็ต้องมีคำที่สอง มีจานแรกก็ต้องมีจานที่สอง นี่แหละคือเมนูพาสต้าชนิดหาทานยากอันมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่รับรองว่าทำได้ไม่ยาก ใครๆก็ทำได้ ทั้งง่ายแถมอร่อยอีกต่างหาก 55555
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "
พาสต้าชนิดหาทานยาก...แต่ทำเองได้ไม่ยาก "ญ็อกกี้(Gnocchi) เบชาแมล(bechamel)"
เรามาทำความรู้จักกับเจ้า "ญ็อกกี้" กันก่อน โดยถ้าจะให้นิยามเจ้าพาสต้าตัวนี้ให้ตรงตัวที่สุด ก็น่าจะเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ลูกชิ้นมันฝรั่ง" หลักๆจะเป็นการผสานมันฝรั่งบดกับแป้งพาสต้าแล้วนวดให้เนียนเข้ากัน จากนั้นต้มจนสุกแล้วจึงนำไปประกอบอาหารกันต่อไป
ประวัติศาสตร์ของเมนูที่ชื่อว่า "ญ็อกกี้" นี้สามารถสืบย้อนไปได้ถึงสมัยอาณาจักรโรมันโบราณ โดยคำว่า Gnocchi นี้ ถ้าแปลตรงตัวจะหมายถึง "การนวดแป้งในป่า" หรือ "การนวดแป้งด้วยหมัด" จากความหมายดังกล่าว เราจึงสามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า "ญ็อกกี้" นั้น เป็นเส้นพาสต้าชนิดที่ต้องทำกันสดๆ ไม่มีการอาศัยเครื่องมือใดๆ ต้องนวดด้วยแรงจากสองมือล้วนๆ
ด้วยเหตุผลดังกล่าว เราจึงไม่ค่อยจะพบเห็นเมนู "ญ็อกกี้" ได้ในร้านอาหารอิตาเลี่ยนทั่วๆไปเพราะ เป็นพาสต้าชนิดที่ต้องนวดกันสดๆแบบวันต่อวัน ไม่สามารถเก็บไว้ได้นาน ร้านส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะเสิร์ฟเส้นพาสต้าแบบอบแห้งสำเร็จรูปมากกว่า
แต่ถึงแม้ว่า "ญ็อกกี้" นั้นจะหาทานได้ยาก แต่วิธีทำกลับทำได้ง่ายๆอย่างไม่น่าเชื่อ รับรองว่าลองชิมดูแล้วจะติดใจครับ
เริ่มต้นทำเจ้าตัว gnocchi กันก่อนเลย
ต้มมันฝรั่งจนสุกแล้วบดจนเนื้อเนียนละเอียด
จากนั้นก็ผสมมันฝรั่งบดกับแป้งสาลีในอัตราส่วน มันฝรั่งบด 500 กรัม ต่อแป้ง 100 กรัม ใส่ไข่แดงสดลงไป 1 ฟอง แล้วนวดไปเรื่อยๆจนเนื้อเนียนแป้งไม่ติดนิ้ว ระหว่างนวดสามารถใส่แป้งสาลีลงไปเพิ่มได้ตลอด
จากนั้นแป้งก้อนแป้งเป็นสี่ส่วน แล้วเอาแต่ละส่วนมาคลึงเป็นเส้นยาวๆหนาพอประมาณ จากนั้นจึงตัดแบ่งเป็นก้อนเล็กๆเท่าๆกัน
ตกแต่งก้อน gnocchi เพิ่มเติมโดยใช้หลังส้อมกดลงไปที่เนื้อแป้งแล้วรูดแป้งจนสุด ก็จะได้เนื้อ gnocchi เป็นร่องๆ
ก้อน gnocchi สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นช่องธรรมดาได้ประมาณ 2-3 วัน
ต้มน้ำจนเดือด แล้วนำก้อน gnocchi ลงไปต้ม ถ้าก้อนไหนลอยก็แปลว่าก้อนนั้นสุกดีแล้ว จึงตักออกมาสะเด็ดน้ำ
ทีนี้เรามาดูที่ตัว เบชาแมล (bechamel) หรือ ไวท์ซอส (white sauce) กันต่อ
ตั้งกระทะไฟอ่อน ผัดกระเทียมหอมใหญ่กับเนยจนหอม
ใส่แป้งสาลีลงไปผัด โดยอัตราส่วนเท่าๆกับเนยที่ใส่ลงไปตอนแรก ผัดจนส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน
ใส่นมสดลงไปเคี่ยว ค่อยๆเทลงไปทีละนิด คนไปเรื่อยๆ ใช้นมสดประมาณหนึ่งถ้วยตวง พอเห็นว่าซอสข้นตามชอบแล้วก็ปิดไฟได้เลย จากนั้นก็เอามากรองเอาแต่น้ำ ก็จะได้ซอสเบชาแมลพร้อมใช้งาน
เตรียม gnocchi กันต่อ โดยตั้งกระทะไฟกลาง ผัดเนยกับแครอทสับ ก้านขึ้นฉ่ายสับ หอมใหญ่สับ พริกไทยบด กระเทียมสับ จนส่งกลิ่นหอม
ใส่ gnocchi ลงไปผัดเร็วๆให้เข้ากัน
เทซอสเบชาแมลลงไปผัดกับ gnocchi ให้เข้ากันเร็วๆ
ปิดท้ายโดยโรยชีสลงไปตามชอบ ถ้าบ้านใครมีพาเมซานก็โรยลงไปตามชอบ หรือจะใช้ชีสแผ่นทั่วๆไปก็ได้
ใส่ชีสลงไปแล้วปิดไฟคลุกให้เข้ากัน โรยต้นหอมหรือผักชีแต่งหน้าตามชอบ ก็เป็นอันเสร็จพิธี
เนื้อ gnocchi เนื้อนุ่มหนึบหวาน ผสานกับซอสเบชาแมลรสหอมมันเข้มข้น กินไปแล้วรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจได้พลังงาน มีคำแรกก็ต้องมีคำที่สอง มีจานแรกก็ต้องมีจานที่สอง นี่แหละคือเมนูพาสต้าชนิดหาทานยากอันมีประวัติศาสตร์อันยาวนาน แต่รับรองว่าทำได้ไม่ยาก ใครๆก็ทำได้ ทั้งง่ายแถมอร่อยอีกต่างหาก 55555
facebook page : เสือตะหลิว " อาหาร กับ ชายชาตรี "