ไทรใบสักครับ   
ถ้าจะเลี้ยงในห้องต้องคอยดูแลเรื่องแสงว่ามีพอมั๊ย  ถ้าแสงน้อยไปใบจะลู่และใบร่วง   แต่ถ้าโดนแดดมากไปใบก็ไหม้   ถ้าไม่โดนแสงเลยน้องก็ตาย  แม้น้องจะเป็นไม้ทนแดด แต่ถ้าเราไปซื้อต้นที่เค้าเพาะมาให้อยู่ในที่ร่มก็ต้องค่อยๆปรับให้เค้าเจอแดดทีละนิดสัปดาห์ละหน่อยไม่งั้นถ้าไปเจอแดดเลยใบจะตกทันที

ต้องคอยดูอากาศในห้องว่าหมุนเวียนไหม   ถ้าห้องอับก็ตายไว (จึงควรเปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทไว้เสมอๆ  หรืออาจเปิดแอร์ เปิดพัดลมให้น้องเค้าก็ได้    แต่จะดีที่สุดเมื่อเอาน้องไปวางข้างนอกด้วยให้มีอากาศถ่ายเทเพราะน้องชอบอากาศที่ถ่ายเทมากกว่าห้องอับลม

เรื่องการให้น้ำ   ถ้ารดมากไปหรือรดถี่ไปรากก็เน่า   ถ้ารดน้อยไปใบก็ลู่   ควรรดน้ำสัปดาห์ละครั้งก็พอแล้ว หน้าร้อนอาจ2ครั้งต่อสัปดาห์  ดีที่สุดคือเช็คหน้าดินหรือเอานิ้วชี้จุ่มลงไปในดินว่ายังชื้นไหม  ถ้าชื้นก็ไม่ต้องรด  เพราะน้องเค้าไม่ชอบน้ำมาก  แต่ก็ขาดน้ำไม่ได้

เรื่องการเช็ดใบ  เนื่องจากการเลี้ยงน้องให้อยู่ในห้องก็เพื่อความสวยงามเป็นไม้ประดับห้อง  เพราะฉะนั้นเราจึงอยากได้ใบไม้ที่เงาๆมันๆวาวๆ ดูสวยดูแพงใช่มั๊ยล่ะ   บางสูตรบอกว่าห้ามใช้น้ำมันไปทาเคลือบใบไม้ให้ใช้เฉพาะน้ำเปล่าเช็ดเพราะต้นไม้ต้องใช้ใบในการสังเคราะห์แสง   แต่บางสูตรก็บอกว่าสามารถทาน้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอกที่ใบได้     ในขณะที่บางสูตรบอกใช้น้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันมะกอกได้ในปริมาณนิดเดียวโดยเอาไปใส่ในน้ำเปล่าที่มีปริมาณน้ำเปล่ามากๆเหยาะน้ำมันนิดนึง     เท่าที่ผมทำมาแล้วไม่เป็นไรคือใช้น้ำมันมะพร้าวครับ   แต่เพื่อความไม่ประมาทก็เลยต้องใช้น้ำเปล่าเช็ดคราบน้ำมันออกไปให้มากที่สุดเพราะกลัวใบไหม้เมื่อเจอแดด   สรุปคือใช้น้ำมันมะพร้าวได้ครับ  เอาให้ชัวร์คือเอาไปผสมน้ำเปล่าโดยเหยาะน้ำมันลงไปในน้ำเปล่าแค่นิดเดียวก็พอ  เช็ดเคลือบใบเดือนละครั้งก็พอแล้ว

ใครที่เลี้ยงไว้ในห้อง  ควรเอาน้องออกไปวางข้างนอกให้โดนลมโดนแสงโดนแดดด้วยสัปดาห์ละครั้งสองครั้ง  ถ้าให้อยู่แต่ในห้องไม่มีทางโตแน่ๆ  อยากให้น้องสวยงามและแตกใบใหม่ต้องคอยดูแลน้องครับ  ผลที่ได้คือความงดงามของน้องที่เจ้าของภาคภูมิใจ  อยากให้น้องโตและสวยเจ้าของต้องวิ่งรอกบ่อยๆคือตอนเช้าเอาน้องไปวางข้างนอก ตกบ่ายเก็บน้องเข้าห้อง  เช็คหน้าดินอยู่เสมอ  เช็คใบทุกวันว่าใบโดนแมลงเจาะรึเปล่า  ใบไหม้รึเปล่า  ใบมีจุดรึเปล่า  ฯลฯ