ละครเรื่องนี้เหมาะสำหรับผู้ชมวัยผู้ใหญ่ ช่วงกลางคนขึ้นไป เด็กดูได้แต่อาจจะงง ไม่รู้เรื่องในบางเนื้อหา เนื่องจากต้องเซ็นเซอร์เพื่อออกอากาศ

อาจทำให้ละครเรื่องนี้มี3คัท

เพื่อออกอากาศทีวีดิจิตอล
ความยาวตอนเฉลี่ย 1.3 ชม.

เพื่อลงออนไลน์ในiqiyi แย่งเป็นตอนบะ2คลิป 60 กับ 35 นาที
ตัดต่อโดยผกก.จีน เพื่อให้ฉายในจีนแดงได้ และให้ละครกระชับ เนื้อหาหายไปราว 10 นาที ฉากคนนินทาตั้มตัดไปเยอะมาก

(ุถ้ามี)เพื่อลงnetflix ความยาวตอนเฉลี่ยยังไม่ทราบ
ถ้าผู้จัด ใส่ฉากที่คาบลูกคาบดอก ที่ตัดออกไปเพราะกลัวเซ็นเซอร์ จะเป็น directed cut ฉากเหล่านี้ไม่ได้อนาจารแต่อย่างใด แต่ตัดปัญหาต่างๆ เช่น เมืองพุดโถ ,ที่นี่ไม่มีบ่อน,ร้อนเงินก็กู้กับสถาบันการเงินสิ

ยังดีที่หมอออกเวร กินเบียร์ได้ ไม่เป็นประเด็นแบบสิบกว่าปีก่อน

ถ้าใส่มาเต็มละครจะเข้มข้น สะใจคนดูรุ่นใหม่ ที่เข้าใจความจริงของสังคม ว่าหลายปัญหามีทางออกไม่กี่ทาง ไม่ใช่ลูกกวาด โลกสวย  อยู่บนหอคอยงาช้าง พูดแต่วาทกรรมเดิมๆ จนเป็นแผ่นเสียงตกร่อง

เนื้อเรื่องในละครจะเล่าถึง สามเส้นเรื่อง ในช่วงเวลาเดียว จะมีเหตุให้แต่ละเส้นเรื่องมาบรรจบกัน เพื่อเดินไปสู่เหตุการณ์ต่อไป

ทั้งสามเส้นเรื่อง จะเล่าถึงชีวิตของคู่รักสามคู่ ต่างวัย ต่างสถานะ ต่างปัญหากัน
ว่าจะไปลงเอยได้เช่นไร เพราะบทวางกับดัก หลุมขวาก ไว้ใหญ่มากเดินเรื่องผิดรอดยาก

ความสัมพันธ์ทั้งสามคู่ เริ่มจากแต่ละฝ่ายจะมีปัญหาที่หนักหน่วง ขนาดเปลี่ยนชีวิตได้ ละครเน้นปัญหาสังคมผู้สูงอายุเป็นพิเศษ จึงเริ่มต้นโดย

วิกฤตวัยกลางคน(midlife crisis) เป็นเหตุให้เลิกร้างไป 1 คู่
จากนั้นทั้งสองคน ได้พบรักใหม่ กลายเป็น 2 คู่

อร
สาวใหญ่ ที่โดนทิ้งเพราะ ดนัยบอกว่า แก่ไปทั้งตัว หูตึง พูดเสียงดัง ทำตัวไม่เหมือนสมัยสาวๆ ที่สำคัญไม่เอาใจผัวเลย

นางจึงไปศัลยกรรมกับคลีนิคในที่พัก ลดอายุจาก52เหลือ25 แต่ยังเหลือตรงพุงที่แผลยังไม่เข้าที่ดี
(ตรงนี้อาจดูเกินจริงไปบ้าง แต่เพื่อให้ละครมีสีสันน่าติดตามซึ่งในอนาคตอันใกล้อาจทำได้จริงๆ)

แล้วพบรักกับ ตั้ม นักกีฬาระดับเหรียญทองโอลิมปิค จบป.ตรีเกียรตินิยม เวชศาสตร์การกีฬา ชำนาญเรื่องกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กายภาพบำบัด

แต่ตกอับเพราะมีอีกามาแอบใส่สารกระตุ้นในน้ำดื่ม ระหว่างแข่งชิงเหรียญทอง จึงถูกริบเหรียญทอง ปรับแพ้ฟาวล์ โดนไล่ออกจากสมาคมปิงปองและทีมชาติ

ดนัย
หนุ่มใหญ่ นายกสมาคมปิงปอง ที่เสียผู้สนับสนุนรายใหญ่ จากเรื่องโด๊ปยาของตั้ม แถมอรเมียตัวดี ที่แม่ยายไม่ถูกเส้นกัน มาทำวิกดนัยหลุด โชว์หัวเถิกใกล้ล้านจนอับอายต่อคนทั้งสองประเทศ

งานนี้ "ให้มันแตกเลยดีกว่า ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น"
ดนัยบอกเลิกอรอย่างไม่ไยดี เพราะสารพัดเหม็นเบื่อที่อรทำ จึงลากกระเป๋าเดินทางกลับบ้านทันที ทิ้งให้อรเคว้งคว้างยืนงงในแดนกิมจิเพียงลำพัง

เมย์
สาวลูกครึ่งฝรั่งหน้าตาหวาน ราวตุ๊กตากระเบื้องยุโรป (หนึ่งในนางเอกเรื่องsix senses และหนังเรื่อง โปร เม)

มีเหตุตัองใช้เงินสองล้าน แต่ไม่มีหลักทรัพย์ จึงไปกู้นอกระบบกับเฮียเม้ง เจ้าของบ่อนและสถานบันเทิงชื่อดัง เฮียแกเป็นเจ้าพ่อดัง ทำธุรกิจทั้งบนดินใต้ดิน

ขนาดดนัยนายกสมาคมปิงปอง ยังไปขอเงินสนับสนุนสมาคม แถมหมอต๊ะยังไปเล่นที่คาสิโนของเฮียเม้ง พร้อมทั้งส่งสายตาให้ลูกสาวคนสวยของเฮียแกด้วย

เมย์จำใจทำงานในสถานบันเทิงของเฮียเม้ง เพื่อใช้หนี้ให้หมดในเร็ววัน เพราะเฮียแกจ้องตาเป็นมัน

เมย์ทำงานเป็น สาวเต้นโชว์ไม่มีโป๊ เป็นคนขับรถส่งลูกค้าที่เมาได้ที่ แม้จะดูแรง แต่เมย์ไม่แรดแต่อย่างใด ลูกค้าได้แค่มองเมย์เป็นอาหารตาเท่านั้น

ดนัยเห็นเมย์ครั้งแรกก็ปิ๊งทันที ถูกใจความใจเด็ดไม่กลัวใครของนางมาก ยิ่งรู้ว่านางยังไม่มีมลทินราคีมาแปดเปื้อนจากมือมาร เป็นแค่ขี้ปากชาวบ้าน ดนัยเห็นว่าเมย์เป็น เพชรในตม

สวยระดับนางเอก จิตใจเด็ดเดียว รักศักดิ์ศรี ความเป็นธรรม จึงคอยตามจีบไม่ห่าง ขนาดดาวน์รถให้ งูที่หัวโผล่เต็มที่ กะว่าใช้เงินฟาดหัวได้

ดนัยคงลืมไปว่ามอไซด์ที่เมย์ขี่ เป็นยี่ห้อจากอังกฤษราคารถหลักแสนบาท ชีวิตนางไม่ได้กัดก้อนเกลือกิน ทำงานเลี้ยงตัวได้ แต่มีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อน จึงถูกเมย์สั่งสอนด้วยมวยไทยไปหลายกระบวนท่า นี่ถ้าเป็นศิษย์บัวขาว คงเตะคอหัก ม้ามแตก เผาเลยไม่ต้องสวดแล้วแน่ๆ

หมอต๊ะ
หมอเอกทางเดินปัสสาวะ กินนอนแทบประจำที่รพ.เพราะต้องเร่งหาเงินใช้หนี้เฮียเม้งที่ไปกู้นอกระบบมา ไหนจะมีมาเฟียเกาหลีใต้มาตามทวงหนี้พนันสองร้อยล้านวอน(5,585,635.07บาท)

ถือว่าเป็นเงินไม่เยอะมาก เพราะค่าแรงตอนผ่าตัดเดือนๆได้หลายอยู่ ต่ำๆหลักแสน ขยันหลักล้าน แต่ถ้าจะเอาหลายล้านต่อเดือนหมออาจทำงานหนักจนตายก่อนส่งหมด

เนื่องจากหมอต๊ะผ่อนส่งเงินกู้เฮียเม้งเร็วเกินไป จึงโดนเฮียเม้งรีดไถบอกว่า คิดดอกอัตราใหม่ หมอต๊ะต้องจ่ายดอกเพิ่ม แต่หมอบอกไม่ยอมจ่ายเพิ่มเพราะตกลงกันจบไปแล้ว แถมมาเฟียเกาหลีใต้จะมาทวงเงินที่บ้านอีก คงต้องติดตามกันต่อไปว่าหมอต๊ะจะเอาตัวรอดจากสารพันปัญหาที่ก่อไว้อย่างไร

มิ้น
หมอฝึกหัดปีสุดท้าย น่ารัก เห็นเลือดแล้วเป็นลม แต่อยากต่อจิตแพทย์จึงต้องทน

ต้องพบกับการว๊ากเพ้ย ตะคอกเสียงจากหมอต๊ะ ที่คอยสั่งสอนมิ้นกับศ้กดิ์ชายให้ยึดมั่นในจิตวิญญาณของหมอ

ตั้งแต่ลนลาน ชักช้า ในการรักษาคนไข้
ไปเที่ยวเมาแอ้แล้วมาเข้าเวร
ความรู้พื้นฐานไม่แน่น ตอบคำถามไม่ถูกต้อง

ในการฝึกงานที่รพ. ตึกอุบัติเหตุย่อมดุดันเป็นธรรมดา ไหนจะคนไข้ ไหนจะหมอฝึกหัด ไม่งั้นเอาไม่อยู่ ทุกเวลาทุกวินาทีตัดสินความเป็นความตายคนไข้ได้เสมอ

มิ้นแรกทีไม่ถูกชะตากับหมอต๊ะ แต่เวลาผ่านไปและเข้าใจเจตนาจากคำพูดของหมอที่ใส่ใจคนไข้ รับผิดต่อจรรยาบรรณหมออย่างแท้จริง จึงเกิดความประทับใจอย่างไม่รู้ตัวจนกลายเป็นความรักในที่สุด

อย่างที่เขาว่ากัน จะจีบหมอสาวอย่าริปลอมเป็นคนไข้ ต้องเป็นหมอด้วยกัน หรือมีคนพาไปแนะนำตอนออกเวรถึงมีหวัง เพราะหมอสำนึกในจรรยาบรรณวิชาชีพระหว่างทำงาน

บทละครเรื่องนี้ เขียนจากประสบการณ์ของคนไข้รักษาตัวอยู่ที่รพ.ชั่วระยะหนึ่ง

เหตุการณ์ รายละเอียดต่างๆจึงสมจริง เสมือนดูหมอ พยาบาลทำงานในแต่ละวัน
เจอคนไข้สารพัดแบบ โรคจิตจะทำร้ายคนก็มี ไหนจะเชื้อดื้อยาในรพ.ที่น้ำยาฆ่าไม่ตายอีก คนอ่อนแอแต่ยังไม่ป่วยอย่างยาย หมอต๊ะถึงให้กลับบ้านอย่าอยู่รพ.นาน เพราะกลัวจะรับเชื้อดื้อยาเข้าไป เบาะๆติดเชื้อทางเดินหายใจ หนักๆติดเชื้อในกระแสโลหิต

การทำcpr ในเรื่องฝึกซ้อมมาดี เช่นเดียวกับดวงตาที่3

แม้แต่ฉากอาการลมชัก เพราะแสงแฟลช เก็บรายละเอียดได้ดี

แกนในการเดินเรื่องของละคร อยู่ที่ตั้ม เพราะละครเล่าถึงมากที่สุด จนไปเชื่อมโยงกับทุกคน จะว่าละครเรื่องนี้คือ "สงครามชีวิตของตั้ม" ก็ได้ แม้ไม่โหดร้ายเท่า สงครามชีวิตโอชิน ก็ตามที

นักแสดง
ตัวเอกทั้งหก เลือกมาได้เหมาะสมลงตัวมาก ดูแล้วเชื่อว่าเป็นตัวนั้นๆ

แยม จากมล.ดาริน ในพิภพหิมพานต์ ได้บทบาทที่ท้าทายมากขึ้น
การเป็นคนที่แก่กว่าตัวจริงมาก ถือว่าไม่ง่าย เพราะท่าทาง น้ำเสียงนั้นเลียนแบบยาก ในเงื่อนไขละครเรื่องนี้ ถือว่าใช้ได้ เพราะมีเวลาจำกัด

ขนาดแต่งหน้าให้แก่ลง ยังปิดความเยาว์วัยได้แค่บางส่วน
ต้องใช้เสื้อผ้า หน้าผม จัดแสงช่วย ถึงทำให้เชื่อว่าแก่

รวมกับอากัปกิริยา หลายจุด ทำให้เชื่อว่าอายุ52 เช่น
ต้องมองผ่านแว่น
น้ำเสียงที่ไม่เร็วเกิน
ท่าทางช้าลงที่ต่างจากวัยรุ่นที่ว่องไว

ชาคริต ต้องใส่วิกหัวเถิก วิกผมหน้าม้า แต่งหน้าแก่ ทั้งเรื่อง คอยจีบเด็กจนติด เล่นดีเหมือนดูชายกลางคนที่มีเงิน ไม่มีเวลา แต่มีแรง ได้เหมือนมาก นึกว่าเรื่องจริง เป็นธรรมชาติกว่าตอนเล่นขุนช้างเยอะ ถ้าเอาฉบับวัดเกาะมาเขียนบท ขุนช้างจะดูสมจริงกว่านี้

บอม เล่นดีดูแล้วเชื่อว่าเป็นหมอจริงๆตอนอยู่รพ. ต้องติดตามในละครตอนต่อๆไป

คริสซี่ เล่นดี หลากหลายอารมณ์ ตัวละครตัวนี้ถ่ายทอดตวามรู้สึกออกมา ได้ตรงใจคนรุ่นใหม่หลายคน

ยิ่งไปลงเอยกับ ชายแก่ที่รักจริงดูแลจริง แม้จะหายาก แต่คงเป็นกำลังให้ให้สาวน้อยที่ชอบชายแก่ได้ดี เพราะหนุ่มน้อยๆดีก็หายากไม่แพ้กัน แถมโกหก กะล่อนเหนือกว่าด้วย เพราะอาศัยความหล่อ เท่ เป็นเปลือกนอก

ริว ตั้งใจมาก เล่นไม่แข็ง ไม่ตื่นเวลาเข้าฉากกับพี่ๆที่มากประสบการณ์

บทตั้มส่งมาก ถ้ารักษาระดับการแสดงได้คงเส้นคงวาทั้งเรื่อง คนดูจำได้ไม่ลืมแน่ หนุ่ม หล่อ สุภาพ สู้ชีวิตแม้รับบทหนักแต่แสดงดี

มินท์ เล่นได้น่ารัก น่าเอ็นดู ทำการบ้านเยอะ ถึงรับส่งกับบอมได้ไหลลื่น แบบหนุ่มขี้ว๊ากกับสาวช่างเอาใจใส่

ละครเรื่องนี้ผู้เขียน ต้องดูเปรียบเทียบทั้งสด และแห้ง เพื่อเก็บรายละเอียดมากกว่า เรื่องอื่น เพราะมีฟุตเตทที่ลงในตย. แต่ไม่ลงในละคร

น่าเสียดายถ้าฟุทเตทเหล่านั้นไม่ใส่ลงใน คัท3 เพื่อลงnetflix เพราะทำให้คนดูเข้าใจเรื่องราว มี่มาที่ไป ภูมิหลังของแต่ละตัวละครเพิ่มขึ้น

ดูละครไทยต้องใช้สมองหนึ่งในนั้นก็เรื่องนี้ เพราะโดนใจวัยกลางคนที่สารพัดเบื่อ กับสารพันปัญหามารุมเร้า จากความเสื่อมของร่างกายและจิตใจ

เด็กไม่เข้าใจผู้ใหญ่หลายเรื่อง เพราะผู้ใหญ่ไม่อยากและไม่กล้าเล่ากลัวอายเด็ก

พอเด็กรู้ปัญหา ก็แถว่า ธรรมชาติมันเรียกร้อง ใครๆก็ทำกัน เด็กรู้ทันก็ดีไป รู้ไม่ทันก็จำไปผิดๆ ผู้ใหญ่รังแกเด็กแท้ๆ

ละครเรื่องนี้ช่วยให้เข้าใจช่องว่างต่างๆ ของวัยกลางคนมากขึ้น
ให้คนอายุน้อยกว่าพอแยกแยะพฤติกรรมได้

เนื้อหาในละครจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ แต่คนดูจะเข้าใจเหตุผลที่ตัวละครต้องเป็นแบบนั้น

บ้านของตั้ม คือ บ้านของเจ๊ฮิเดโกะ ในดวงตาที่3
บ้านแม่ของอร คือ บ้านของนางเอก ในพิภพหิมพานต์

เพลงประกอบ


เพลงตัวปลอม
คำร้อง ทำนองต้นฉบับวงไฮดร้า
ขับร้องใหม่ แอน ธิติมา

เพลงนี้บอกเล่าได้ตรงกับเนื้อหาในละครมาก แบบภาษาคนเมือง

ซึ่งมีเพลงลูกทุ่งที่ให้ความหมาย ถึงวิกฤตชีวิตคู่ได้ใกล้เคียงกัน



ท้ายนี้ผิดพลาดประการใด ผู้เขียนต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ ขอบคุณครับ