Weathering with you (2019): เธอคือแสงสว่างกลางฤดูฉัน

กระทู้สนทนา
ครั้งแรกที่ดู ผมรู้สึกว่านี่เป็นการเล่าเรื่องที่ "Mass" ที่สุดของ Makoto Shinkai ตามรอยความสำเร็จของ Your Name (2016) แต่กลมกล่อมไม่เท่า ทั้งพล็อต เพลงประกอบ ตัวละคร ฯลฯ ทุกอย่างดูถูกใส่ลงมาอย่างจงใจเกินไป จนเกือบเป็นสูตรสำเร็จ เป็นความประทับใจ อยู่ในมาตรฐานงานชั้นดีอีกเรื่อง แต่ไม่อิ่มเอมกระแทกใจเท่างานชิ้นก่อนหน้าของเขา

แต่แปลก ที่เมื่อเวลาผ่านไปนานเท่าไร ผมกลับรู้สึกนึกถึงเรื่องราวเหตุการณ์ของตัวละครในเรื่องนี้ มากขึ้น ๆ กว่าใน Your Name เสียอีก (ไม่นับงานยุคต้นของเขาที่ขึ้นหิ้งความประทับใจไปแล้ว)

จนเมื่อได้กลับมาดูอีกครั้ง จึงได้เข้าใจแล้วว่า ทำไมผมถึงรู้สึกเช่นนั้น

ที่จริงแล้วไม่จำเป็นต้องเอาผลงานสองเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกัน เพราะต่างมีองค์ประกอบรวมเป็นเรื่องราวชั้นดีของตัวเองอยู่ ถึงผมจะมองว่า Weathering with you นั้นยังไม่ลงตัวเท่า แต่กลายเป็นว่า นี่เหมือนเพลงพิเศษที่ฟังตอนแรกอาจไม่เพราะ แต่เมื่อยิ่งเวลาผ่านไป ได้ฟังซ้ำ กลับยิ่งเพราะขึ้นเรื่อย ๆ

ทำไมเป็นเช่นนั้น?

เมื่อได้ดูอีกครั้งผมพบว่า WWY จากเดิมที่ดู Mass หรือตามรอยความสำเร็จของ YN กลับมีความเป็น "ชินไก" มากกว่า และใช้วิธีเล่าเรื่องแบบ "น้อยได้มาก" กว่า YN จนเราต้องกลับมาเก็บรายละเอียดที่ซ่อนไว้

หลังจากนี้คือสปอยด์

ขณะที่ YN คืองานโชว์ศักยภาพการเล่าเรื่องและงานภาพเพื่อมารับใช้เรื่องราวของชินไก เป็นความผูกพันน่าประทับใจที่เล่นกับ "ทวิลักษณ์" ที่ถูกเชื่อมโยงกัน เช่น ชาย-หญิง เมือง-ชนบท จิต-จักรวาล ฯลฯ มีการเล่นกับลำดับเวลา และการแก้ไขเหตุการณ์ จุดหักเห แต่เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวละครนั้น ล้วนถูกเล่าอย่างตรงไปตรงมาเป็นเหตุและผลชัดเจน ทั้งเรื่องโชคชะตา ความรักและผูกพัน การเติบโต เป็นเรื่องราวของ Soul Mate เป็นงาน Fantasy มารับใช้เรื่องของความรัก

ตรงข้าม WWY การเล่าเรื่องไปเป็นเส้นตรงชัดเจน ไม่มีลูกเล่นใด ประเด็นต่าง ๆ ก็ชัดเจน ทั้งเรื่องการต่อสู้ในสังคมเมือง การเป็นความหวังความสุขระหว่างกันของตัวละคร เป็นเรื่องราวของ Life Partner ที่ต้องฟันฝ่าอุปสรรค เป็นงาน Realistic ที่ใช้เรื่องเหนือธรรมชาติมาเป็นเครื่องมืออุปมา สิ่งที่ถูกแทรกเป็นสัญลักษณ์ภายในเรื่อง ไม่ใช่ Symbol ตรงไปตรงมาเหมือน ด้ายแดงที่แทนสายใย หรือเหล้าสาเกที่แทนการแลกเปลี่ยนทางจิตวิญญาณ Symbolic ต่าง ๆ ใน WWY ล้วนใช้สิ่งที่อยู่รอบตัวเรา แต่กลับมีความหมายแฝงมากมายต่อตัวละคร เช่น แฮมเบอเกอร์ แมว ปืน หมวก ไปจนถึงเรื่องธรรมชาติที่ถูกทำให้เหนือธรรมชาติอย่าง ฝน

ใน WWY ทุกมุมมองเป็นเรื่องราวของตัวเอกชายอย่างโฮดากะ ฝนในเรื่องก็คือสัญลักษณ์แทนจิตใจที่มีต่อสังคมเมืองและความรู้สึกของตนนั่นเอง
เรื่องเริ่มต้นการตกของฝนพร้อมกับการหนีออกจากบ้านและสังคมเดิม ผ่านชีวิตที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน จนมาพบกับฮินะ ในเรื่องคือสาวฟ้าใสจากพลังของการสื่อสารกับเทพเจ้า ในเมื่อเธอคือสาวฟ้าใสผู้ทำให้ฝนหายไป แล้วใครคือผู้เรียกฝน?

ถ้าตัดเรื่องพิธีกรรมขอเทพมังกรปลาออกไป ทุกครั้งที่สองคนอยู่ข้างกัน ฟ้าก็ล้วนสว่างตามจิตใจของโฮดากะที่มีต่อฮินะ โดยเฉพาะหลังจากสามปีผ่านไปในฉากสุดท้ายที่ทั้งคู่ได้กลับมาพบกัน ต่อให้ฮินะจะไม่ได้เป็นสาวฟ้าใสแล้ว แต่เราเริ่มเห็นถึงท้องฟ้ากลับมาสดใสตามหัวใจของโฮดากะ

หากเราดูเรื่องราวของชินไก จะเห็นรายละเอียดความเกี่ยวเนื่องของเหตุการณ์จากเรื่องนี้ไปยังผลงานก่อนหน้า ทั้งฝนที่ตกใน Garden of Words (2013) ไปจนสามารถจินตยาการเรื่องโตเกียวจะเริ่มฟื้นฟูใหม่ ตามสิ่งที่ทากิ ตัวเอกเรื่อง YN ได้พูดระหว่างสัมภาษณ์งานในช่วงท้ายของ YN ว่าเขาอยากเป็นสถาปนิกเพราะไม่มีใครรู้ว่าโตเกียวจะจมหายไปเมื่อไร

นี่คือรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่แทรกในงานชิ้นนี้ ที่หากดูผ่านเพียงผิวเผินเราจะไม่เห็นสารจากชินไกที่แทรกไว้ และกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างจากการดูแล้วอินไปกับเรื่องราว Soul Mate ใน YN เพราะใจความสำคัญที่ทำให้เรื่องนี้กินใจคือ การวิพากษ์สังคมเมืองไปถึงกรอบการดำเนินชีวิตในญี่ปุ่น การให้ความหวังว่าเราทุกคนแม้เป็นเพียงคนตัวเล็ก ๆ ก็สามารถต่อสู้เพื่อคนที่รักได้ ถึงจะต้องแลกกับสิ่งใด

ความเป็นขบถของตัวละครในเรื่อง จังหวะของเรื่องที่ดูครั้งแรกอาจไม่ลงตัวเท่างานก่อนหน้า แต่เมื่อตั้งใจดู จึงได้รู้ว่า นี่คือความจงใจจะแทรกความเป็นตัวตนของชินไก ดังที่เขาเคยพูดว่า YN อาจเป็นงานที่ยังไม่ลงตัวของเขาเท่าเรื่องนี้

เพียงฉากช่วงเวลาแห่งความสุขง่าย ๆ หลังฝ่าฟันคืนอันเหน็บหนาว จนได้มาพักผ่อนกันในห้องโรงแรมของสามตัวละคร ก็สื่อแทนความสุข ความหวัง ความจริงใจที่มีต่อกันได้จนหัวใจเราอิ่มเอม

ขอบคุณที่โลกนี้มีภาพยนตร์

10/10

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่