9 ก.ย. 2564-15:05 น.
ผู้คุมพิจิตร ร่ำไห้ขอโทษ หลังยิงดับยกครัว 4 ศพ เผยปมโหด ปัญหาสะสม-โดนท้าทาย อดีตนักโทษ รุดให้กำลังใจ เพื่อนร่วมงาน ยันเป็นคนนิสัยดี
กรณี นายพุทธวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้คุมเรือนจำจังหวัดพิจิตร ก่อเหตุใช้ปืน ขนาด 9 มม. ยิง พ่อตา แม่ยาย น้องเมีย และลูกเลี้ยง จนเสียชีวิต และ หลานๆน้องสะใภ้ บาดเจ็บ 4 ราย เหตุ เกิด ที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
ความคืบหน้าวันที่ 9 ก.ย.64 ที่ สภ.เมืองพิจิตร นางลำภู (สงวนนามสกุล) ภรรยา และบรรดาญาติ ของ นายพุทธวรรณ ผู้ต้องหา คดีฆ่าพ่อตา แม่ยาย น้องเมีย และลูกเลี้ยง เสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 คน ทยอยพากันเข้าเยี่ยม ซึ่งผู้ต้องมีสภาพเครียด และเริ่มอิดโรย แต่สามารถพูดคุยกับทางญาติ ที่เข้าเยี่ยมได้ นอกจากนี้ยังมี บรรดา อดีตนักโทษ ที่เคยต้องโทษออกมาแล้ว มายืนรอเพื่อเข้าเยี่ยม เพื่อให้กำลังใจ เมื่อรู้ข่าวที่ผู้คุมยิงครอบครัว
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.บุญยัง. บุญเอี่ยม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพิจิตร นำตัว นาย พุทธวรรณ มาสอบสวนเพิ่มเติม ขณะนำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขัง ผู้ต้องหาได้ขอโทษครอบครัวภรรยา โดย มีทนายความของผู้ต้องหานั่งฟังด้วย
ขณะนั่งให้การ มีอาการเครียด และร้องไห้ตลอดเวลา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลาสอบนาน ถึง 2 ชั่วโมง โดยให้ชี้จุดในแผนที่เกิดเหตุ เนื่องจากทนาย และผู้ต้องหา มีความประสงค์ ไม่มีการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ
พ.ต.ท.บุญยัง กล่าวว่า วันนี้นำตัว นายพุทธวรรณ มาสอบเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ที่ก่อเหตุยิงทั้ง 4 ศพ และยิง ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดยให้การว่า ที่ผ่านมาถูกกดดันและ เก็บความสะสมมานานนับสิบปี เนื่องจากครอบครัวภรรยา ทั้งเรื่องลูกเลี้ยง รวมถึงเรื่องพ่อตาแม่ยาย รวมถึงน้องเมียที่ชอบดุด่าผู้ก่อเหตุ จึงเกิดการเก็บกดจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปเข้าเวร ที่เรือนจำพิจิตร และกลับมาบ้าน ในช่วงสายๆ เมื่อมาถึง พบว่าลูกเลี้ยงกับหลานชาย เปิดเพลงเสียงดังมากได้ ให้ ภรรยาไปบอกให้เบาเสียงลง เนื่องจากจะนอนพักผ่อน แต่ลูกเลี้ยงไม่เชื่อฟังกลับเปิดเสียงดังมาก
ทำให้ครั้งนี้นายพุทธวรรณ เดินไปบ้านดังกล่าว และบอกให้เบาเสียงลง ปรากฏว่าลูกเลี้ยงไม่เบาเสียงแต่กับพูดจาก้าวร้าว ด่าเสียหาย และท้าท้ายว่าไม่กลัวที่จะยิง เป็นเหตุให้นายพุทธวรรณ บันดาลโทสะจึงไปเอาปืนที่อยู่บนหัวนอนไปยิงลูกเลี้ยง ส่วนหลานถูกลูกหลง
พ.ต.ท.บุญยัง กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหา เดินออกไปยังข้างกำแพง เพื่อไปบ้านแม่ยาย พ่อตา น้องเมีย และ หลานสะใภ้หลานสาว ซึ่งอยู่กันหลายคน และจ่อยิงทั้งหมดจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่ง ผู้ต้องหามีความประสงค์ที่จะไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.) จะนำตัวไปฝากขังนัดแรก กับทางศาลจังหวัดพิจิตร ซึ่งได้ตั้ง 4 ข้อหาด้วยกัน 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจนา 2.พยายามฆ่า 3.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และ 4.ยิงปืนในหมู่บ้านหรือชุมชน โดยไม่มีเหตุอันควร
ด้าน เพื่อนร่วมงานของผู้ต้องหา ระบุว่า นายพุทธวรรณ เป็นคนนิสัยดี ในที่ทำงาน มีความช่วยเหลือ ทั้งเพื่อนร่วมงาน และ ผู้ต้องขัง ซึ่งตนเองยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าสาเหตุที่ทราบมา น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เกิดขึ้น ระหว่างลูกเลี้ยง และ น้องชายของภรรยา ที่มีปัญหาทะเลาะ กันบ่อยครั้ง
ในส่วน นางลำภู วงศ์จันทร์แดง ภรรยา ของ นายพุทธวรรณ มั่นปาน ผู้ต้องหา ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวได้ เนื่องจากยัง ไม่พร้อม ด้านสภาพจิตใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องศูนย์เสียสมาชิกในครอบครัว ถึง 4 คน
ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ยังคงมีอาการสาหัส เนื่องจากถูกกระสุนปืน เข้าบริเวณจุดสำคัญของร่างกาย และ เข้ารักษาตัว อยู่ในห้องไอซีอู โรงพยาบาลพิจิตร
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6610583
ผู้คุมพิจิตร ร่ำไห้ขอโทษ หลังยิงดับยกครัว 4 ศพ เผยปมแค้น-โดนท้าทาย
9 ก.ย. 2564-15:05 น.
ผู้คุมพิจิตร ร่ำไห้ขอโทษ หลังยิงดับยกครัว 4 ศพ เผยปมโหด ปัญหาสะสม-โดนท้าทาย อดีตนักโทษ รุดให้กำลังใจ เพื่อนร่วมงาน ยันเป็นคนนิสัยดี
กรณี นายพุทธวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้คุมเรือนจำจังหวัดพิจิตร ก่อเหตุใช้ปืน ขนาด 9 มม. ยิง พ่อตา แม่ยาย น้องเมีย และลูกเลี้ยง จนเสียชีวิต และ หลานๆน้องสะใภ้ บาดเจ็บ 4 ราย เหตุ เกิด ที่บ้านหลังหนึ่ง ในตำบลคลองคะเชนทร์ อำเภอเมือง จังหวัดพิจิตร
ความคืบหน้าวันที่ 9 ก.ย.64 ที่ สภ.เมืองพิจิตร นางลำภู (สงวนนามสกุล) ภรรยา และบรรดาญาติ ของ นายพุทธวรรณ ผู้ต้องหา คดีฆ่าพ่อตา แม่ยาย น้องเมีย และลูกเลี้ยง เสียชีวิต 4 ศพ และบาดเจ็บ 4 คน ทยอยพากันเข้าเยี่ยม ซึ่งผู้ต้องมีสภาพเครียด และเริ่มอิดโรย แต่สามารถพูดคุยกับทางญาติ ที่เข้าเยี่ยมได้ นอกจากนี้ยังมี บรรดา อดีตนักโทษ ที่เคยต้องโทษออกมาแล้ว มายืนรอเพื่อเข้าเยี่ยม เพื่อให้กำลังใจ เมื่อรู้ข่าวที่ผู้คุมยิงครอบครัว
ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. พ.ต.ท.บุญยัง. บุญเอี่ยม รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองพิจิตร นำตัว นาย พุทธวรรณ มาสอบสวนเพิ่มเติม ขณะนำตัวผู้ต้องหาออกจากห้องขัง ผู้ต้องหาได้ขอโทษครอบครัวภรรยา โดย มีทนายความของผู้ต้องหานั่งฟังด้วย
ขณะนั่งให้การ มีอาการเครียด และร้องไห้ตลอดเวลา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ใช้เวลาสอบนาน ถึง 2 ชั่วโมง โดยให้ชี้จุดในแผนที่เกิดเหตุ เนื่องจากทนาย และผู้ต้องหา มีความประสงค์ ไม่มีการทำแผนประกอบรับคำสารภาพ
พ.ต.ท.บุญยัง กล่าวว่า วันนี้นำตัว นายพุทธวรรณ มาสอบเพิ่มเติม โดยผู้ต้องหารับสารภาพ ที่ก่อเหตุยิงทั้ง 4 ศพ และยิง ผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดยให้การว่า ที่ผ่านมาถูกกดดันและ เก็บความสะสมมานานนับสิบปี เนื่องจากครอบครัวภรรยา ทั้งเรื่องลูกเลี้ยง รวมถึงเรื่องพ่อตาแม่ยาย รวมถึงน้องเมียที่ชอบดุด่าผู้ก่อเหตุ จึงเกิดการเก็บกดจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้น
โดยวันเกิดเหตุ ผู้ต้องหาไปเข้าเวร ที่เรือนจำพิจิตร และกลับมาบ้าน ในช่วงสายๆ เมื่อมาถึง พบว่าลูกเลี้ยงกับหลานชาย เปิดเพลงเสียงดังมากได้ ให้ ภรรยาไปบอกให้เบาเสียงลง เนื่องจากจะนอนพักผ่อน แต่ลูกเลี้ยงไม่เชื่อฟังกลับเปิดเสียงดังมาก
ทำให้ครั้งนี้นายพุทธวรรณ เดินไปบ้านดังกล่าว และบอกให้เบาเสียงลง ปรากฏว่าลูกเลี้ยงไม่เบาเสียงแต่กับพูดจาก้าวร้าว ด่าเสียหาย และท้าท้ายว่าไม่กลัวที่จะยิง เป็นเหตุให้นายพุทธวรรณ บันดาลโทสะจึงไปเอาปืนที่อยู่บนหัวนอนไปยิงลูกเลี้ยง ส่วนหลานถูกลูกหลง
พ.ต.ท.บุญยัง กล่าวอีกว่า จากนั้นผู้ต้องหา เดินออกไปยังข้างกำแพง เพื่อไปบ้านแม่ยาย พ่อตา น้องเมีย และ หลานสะใภ้หลานสาว ซึ่งอยู่กันหลายคน และจ่อยิงทั้งหมดจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่ง ผู้ต้องหามีความประสงค์ที่จะไม่ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยในวันพรุ่งนี้(10 ก.ย.) จะนำตัวไปฝากขังนัดแรก กับทางศาลจังหวัดพิจิตร ซึ่งได้ตั้ง 4 ข้อหาด้วยกัน 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจนา 2.พยายามฆ่า 3.พกพาอาวุธปืนในที่สาธารณะ และ 4.ยิงปืนในหมู่บ้านหรือชุมชน โดยไม่มีเหตุอันควร
ด้าน เพื่อนร่วมงานของผู้ต้องหา ระบุว่า นายพุทธวรรณ เป็นคนนิสัยดี ในที่ทำงาน มีความช่วยเหลือ ทั้งเพื่อนร่วมงาน และ ผู้ต้องขัง ซึ่งตนเองยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คาดว่าสาเหตุที่ทราบมา น่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว ที่เกิดขึ้น ระหว่างลูกเลี้ยง และ น้องชายของภรรยา ที่มีปัญหาทะเลาะ กันบ่อยครั้ง
ในส่วน นางลำภู วงศ์จันทร์แดง ภรรยา ของ นายพุทธวรรณ มั่นปาน ผู้ต้องหา ยังไม่สามารถให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวได้ เนื่องจากยัง ไม่พร้อม ด้านสภาพจิตใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ต้องศูนย์เสียสมาชิกในครอบครัว ถึง 4 คน
ขณะที่ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย ยังคงมีอาการสาหัส เนื่องจากถูกกระสุนปืน เข้าบริเวณจุดสำคัญของร่างกาย และ เข้ารักษาตัว อยู่ในห้องไอซีอู โรงพยาบาลพิจิตร
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6610583