Lamborghini Countach LPI 800-4 รถซุปเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดจาก ค่ายกระทิงเปลี่ยวที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา กับความ Limited แค่ 112 คัน
โดย Countach LPI-800 ผลิตขึ้นเพื่อย้อนตำนานรถที่ใช้ประตูปีกนกของค่าย ที่ได้ยุติสายการผลิตไปช่วงต้นยุค 90'
สำหรับรูปลักษณ์ Countach มีดีไซน์ ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคของ ลัมโบยุคเก่า กับรถยุคใหม่ขึ้นมาอย่าง Murcielago
Countach LPI-800-4 ใหม่ ยังอิงเส้นสายจาก Countach เดิม มันเน้นเหลี่ยมสัน และเส้นสายที่ดูคม
ไฟหน้า และกระจังหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยตัวไฟปรับเป็นทรงตัดเฉียงขึ้น ซุ้มล้อมีเอกลักษณ์ด้วยการตัดเหลี่ยมไม่ใช่มุมโค้งแบบรถทั่วไป
นอกนั้นยังคงมีเส้นสายตั้งแต่หลังคา ไปจนถึงท้ายรถในแบบรถ Countach ยุคก่อน
ไฟท้ายข้างละ 3 ดวงทรง 6 เหลี่ยม มากับปลายท่อไอเสียออก 4 ช่องทรงกลม
รถรุ่นนี้มากับขุมพลังไฮบริดที่วางอยู่ใน Lamborghini Cian
ประกอบด้วย เครื่อง V12 NA พิกัด 6.5 ลิตร กำลัง 780 แรงม้า และแรงบิด 720 Nm
ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 48V และซูเปอร์คาปาซิเตอร์ (ทางค่ายระบุว่า มันให้กำลังได้มากกว่าแบต Li-ion ที่มีนน. เท่ากันถึง 3 เท่า)
ซึ่งรวมพละกำลังทั้งระบบออกมาสูงสุดที่ 814 แรงม้า
ส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ AMT 7 Speed
เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที
กับ TopSpeed 355 กม./ชม.
และแน่นอนว่าสไตล์ Lambo ยังคงเน้นการขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนไซส์ล้อด้านหน้าขอบ 20” และล้อหลัง 21” ภายในมีระบบเบรกเซรามิค
สำหรับภายใน ภายในใช้วัสดุหนังสีดำตัดกับสีแดง มีลูกเล่นเพิ่มเติมที่จอ Entertainment ตรงกลางคอนโซล โดยเมื่อกดปุ่ม Stile แล้ว ก็จะมีการบอกประวัติความเป็นมาของตัวรถ
Lamborghini Countach LPI 800-4 ซุปเปอร์คาร์ย้อนตำนาน ผลิตแค่ 112คัน
Lamborghini Countach LPI 800-4 รถซุปเปอร์คาร์รุ่นล่าสุดจาก ค่ายกระทิงเปลี่ยวที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนที่ผ่านมา กับความ Limited แค่ 112 คัน
โดย Countach LPI-800 ผลิตขึ้นเพื่อย้อนตำนานรถที่ใช้ประตูปีกนกของค่าย ที่ได้ยุติสายการผลิตไปช่วงต้นยุค 90'
สำหรับรูปลักษณ์ Countach มีดีไซน์ ที่ผสมผสานระหว่างความคลาสสิคของ ลัมโบยุคเก่า กับรถยุคใหม่ขึ้นมาอย่าง Murcielago
Countach LPI-800-4 ใหม่ ยังอิงเส้นสายจาก Countach เดิม มันเน้นเหลี่ยมสัน และเส้นสายที่ดูคม
ไฟหน้า และกระจังหน้าเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า โดยตัวไฟปรับเป็นทรงตัดเฉียงขึ้น ซุ้มล้อมีเอกลักษณ์ด้วยการตัดเหลี่ยมไม่ใช่มุมโค้งแบบรถทั่วไป
นอกนั้นยังคงมีเส้นสายตั้งแต่หลังคา ไปจนถึงท้ายรถในแบบรถ Countach ยุคก่อน
ไฟท้ายข้างละ 3 ดวงทรง 6 เหลี่ยม มากับปลายท่อไอเสียออก 4 ช่องทรงกลม
รถรุ่นนี้มากับขุมพลังไฮบริดที่วางอยู่ใน Lamborghini Cian
ประกอบด้วย เครื่อง V12 NA พิกัด 6.5 ลิตร กำลัง 780 แรงม้า และแรงบิด 720 Nm
ทำงานร่วมกับระบบมอเตอร์ไฟฟ้า 48V และซูเปอร์คาปาซิเตอร์ (ทางค่ายระบุว่า มันให้กำลังได้มากกว่าแบต Li-ion ที่มีนน. เท่ากันถึง 3 เท่า)
ซึ่งรวมพละกำลังทั้งระบบออกมาสูงสุดที่ 814 แรงม้า
ส่งกำลังผ่านเกียร์แบบ AMT 7 Speed
เคลมอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 2.8 วินาที และ 0-200 กม./ชม. ใน 8.6 วินาที
กับ TopSpeed 355 กม./ชม.
และแน่นอนว่าสไตล์ Lambo ยังคงเน้นการขับเคลื่อน 4 ล้อ
ส่วนไซส์ล้อด้านหน้าขอบ 20” และล้อหลัง 21” ภายในมีระบบเบรกเซรามิค
สำหรับภายใน ภายในใช้วัสดุหนังสีดำตัดกับสีแดง มีลูกเล่นเพิ่มเติมที่จอ Entertainment ตรงกลางคอนโซล โดยเมื่อกดปุ่ม Stile แล้ว ก็จะมีการบอกประวัติความเป็นมาของตัวรถ