เอ็มจี ได้เผยโฉม NEW MG IM6 รุ่นพวงมาลัยขวาเป็นครั้งแรกของโลก ชูจุดเด่นด้วยการเป็น “The First Ever Intelligent e-SUV” รถไฟฟ้าสุดล้ำที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ เอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์การออกแบบล้ำสมัยที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ระบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ฟังก์ชันที่ครบครัน ที่มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานให้สมบูรณ์แบบ NEW MG IM6 โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกโค้งมน และพลิ้วไหว
มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และระบบเครื่องเสียงพร้อมลําโพง 20 จุด สมรรถนะทรงพลังด้วยขุมพลังมอเตอร์คู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 787 แรงม้า (579 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.48 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 100 kWh สามารถชาร์จแบบเร็วสูงสุด 800 V (Quick Charge) จาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที และให้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ NEW MG IM6 ถือเป็นโมเดลแรกและหนึ่งเดียวในคลาสที่มีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ทำให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบอัจฉริยะแสดงผลบนหน้าจอในขณะสภาพทัศนวิสัยมืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่จะแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยเสริมความปลอดภัยขณะขับขี่โดย เอ็มจี ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้า ได้ที่
http://www.im6.mgcars.com/ ทั้งนี้ NEW MG IM6 มีกำหนดเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในครึ่งปีแรกของปี 2568
และอีกหนึ่งไฮไลท์กับ NEW MG CYBERSTER สัญลักษณ์ยนตรกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นคลาสสิกที่สร้างชื่อให้กับ เอ็มจี อย่าง MGB Roadster สู่ตำนาน “สปอร์ตคลาสสิกบทใหม่” ด้วยการเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกและเป็นรุ่นเรือธงของ เอ็มจี ที่ถ่ายทอดสปอร์ตดีเอ็นเอไว้ในงานออกแบบอย่างเต็มขั้น มาพร้อมกับสีใหม่ โมเดิร์น เบจ (MODERN BEIGE) ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอและจิตวิญญาณความสปอร์ตสุดคลาสสิก และยังคงความโดดเด่นในทุก ๆ ด้านไว้อย่างครบถ้วนทั้งด้านการออกแบบที่สะกดทุกสายด้วยประตูปีกนกแบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิดอัตโนมัติ หลังคาซอฟต์ท็อปสีแดง อัดแน่นด้วยขุมพลังมอเตอร์คู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 544 แรงม้า (400 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Ultra-Thin Rubik's Cube ความจุ 77 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 503 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC
NEW MG IM6 พวงมาลัยขวาโชว์ตัวจริงครั้งแรกในโลก ก่อนขายไทย ครึ่งแรกปีหน้า
เอ็มจี ได้เผยโฉม NEW MG IM6 รุ่นพวงมาลัยขวาเป็นครั้งแรกของโลก ชูจุดเด่นด้วยการเป็น “The First Ever Intelligent e-SUV” รถไฟฟ้าสุดล้ำที่เข้ามาเติมเต็มกลุ่มผลิตภัณฑ์อีวีพรีเมี่ยมภายใต้แบรนด์ เอ็มจี ไม่ว่าจะเป็น ดีไซน์การออกแบบล้ำสมัยที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร ระบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมยานยนต์ที่มีประสิทธิภาพ ฟังก์ชันที่ครบครัน ที่มาเติมเต็มไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งานให้สมบูรณ์แบบ NEW MG IM6 โดดเด่นด้วยดีไซน์ภายนอกโค้งมน และพลิ้วไหว
มาพร้อมหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่ และระบบเครื่องเสียงพร้อมลําโพง 20 จุด สมรรถนะทรงพลังด้วยขุมพลังมอเตอร์คู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 787 แรงม้า (579 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 800 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 3.48 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 100 kWh สามารถชาร์จแบบเร็วสูงสุด 800 V (Quick Charge) จาก 10% - 80% ใช้เวลาประมาณ 18 นาที และให้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง
ทั้งนี้ NEW MG IM6 ถือเป็นโมเดลแรกและหนึ่งเดียวในคลาสที่มีระบบบังคับเลี้ยว 4 ล้ออัจฉริยะ ทำให้การเปลี่ยนเลนมีเสถียรภาพแม้ในช่วงความเร็วสูง รวมถึงทำให้การกลับรถในที่แคบได้ง่ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีระบบอัจฉริยะแสดงผลบนหน้าจอในขณะสภาพทัศนวิสัยมืดและฝนตก (Intelligent Rainy Night Mode) ที่จะแสดงผลบนหน้าจอขนาดใหญ่ ช่วยเสริมความปลอดภัยขณะขับขี่โดย เอ็มจี ได้เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ลงทะเบียนแสดงความสนใจล่วงหน้า ได้ที่ http://www.im6.mgcars.com/ ทั้งนี้ NEW MG IM6 มีกำหนดเปิดตัวและประกาศราคาอย่างเป็นทางการในประเทศไทยภายในครึ่งปีแรกของปี 2568
และอีกหนึ่งไฮไลท์กับ NEW MG CYBERSTER สัญลักษณ์ยนตรกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากรถสปอร์ตโรดสเตอร์รุ่นคลาสสิกที่สร้างชื่อให้กับ เอ็มจี อย่าง MGB Roadster สู่ตำนาน “สปอร์ตคลาสสิกบทใหม่” ด้วยการเป็นสปอร์ตโรดสเตอร์พลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นแรกและเป็นรุ่นเรือธงของ เอ็มจี ที่ถ่ายทอดสปอร์ตดีเอ็นเอไว้ในงานออกแบบอย่างเต็มขั้น มาพร้อมกับสีใหม่ โมเดิร์น เบจ (MODERN BEIGE) ที่ถ่ายทอดดีเอ็นเอและจิตวิญญาณความสปอร์ตสุดคลาสสิก และยังคงความโดดเด่นในทุก ๆ ด้านไว้อย่างครบถ้วนทั้งด้านการออกแบบที่สะกดทุกสายด้วยประตูปีกนกแบบปุ่มสัมผัสเปิด-ปิดอัตโนมัติ หลังคาซอฟต์ท็อปสีแดง อัดแน่นด้วยขุมพลังมอเตอร์คู่ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้พละกำลังสูงสุดที่ 544 แรงม้า (400 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 725 นิวตันเมตร สามารถทำอัตราเร่ง 0 – 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ภายในเวลาเพียง 3.2 วินาที มาพร้อมแบตเตอรี่ Ultra-Thin Rubik's Cube ความจุ 77 kWh สามารถวิ่งได้ระยะทาง 503 กิโลเมตร ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง ตามมาตรฐาน NEDC