สวัสดีค่ะ ตอนนี้หนูอายุ 17 ค่ะ คือตอนนี้การเงินทางบ้านหนูแย่มากๆเลยค่ะ เครียดกับคนในครอบครัวด้วย
เรื่องที่ 1
ตอนนี้แม่ของหนูเค้าเครียดมากแต่เค้าเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวไม่บอกหนูค่ะ แต่คนอื่นรอบตัวรู้เค้าเลยมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้หนูสงสารแม่มาก เพราะแม่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเป็นเสาหลักของบ้านก็ว่าได้ ในวันปกติแม่จะตื่นเช้ามาเปิดร้าน (เป็นธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน) และตอนเย็นก็ปิดร้านหากับข้าวมาให้คนที่บ้านกิน แต่งานบ้านบางอย่างหนูจะทำช่วยแม่ค่ะ
เรื่องที่ 2
เรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้หลายคนก็คงรู้ว่าเศรษฐกิจย่ำแย่มากๆ ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบต่อร้านของที่บ้านด้วย เพราะพอลูกค้าไม่มีเงิน เค้าก้อไม่มาร้าน หรือคนที่มาใช้บริการแต่เซ็นไว้ติดเงินไว้ก็มาจ่ายช้า ทำให้การเงินมันฝืดมากๆค่ะ เพราะรายได้เราน้อยลง แต่รายจ่ายเรามันเท่าเดิมเผลอๆมากขึ้นด้วยซ้ำ
เรื่องที่ 3
เรื่องสุขภาพ คือหนูเป็นภูมิแพ้กรรมพันธุ์ค่ะ พ่อหนูป่วยบ่อยเป็นนู่นนี่ แต่แม่หนูแข็งแรงมากๆ แต่หนูกลับได้พ่อมา ทีนี้บ้านที่หนูอยู่ปัจจุบันสภาพแวดล้อมแย่มากๆค่ะ มันเป็นบ้านเช่า แต่เก่ามา พุๆ ร้าวๆ เก่าสุดๆ แต่ก็ต้องทนอยู่เพราะเรายังไม่มีที่ไปต่อ แล้วผนังน้ำมันไหลลงมาค่ะ ทำให้เป็นรา แล้วมันเป็นที่ห้องของหนูค่ะ ทำให้หนูภูมิแพ้ขึ้นตลอดเลยจนต้องไปซื้อสีมาทาทับเลยดีขึ้นนิดหน่อย แต่บ้านมันเป็นบ้านสไตล์เก่าๆ หน้าต่างมันกันฝุ่นไม่ได้ เลยมีเข้ามาหนูก็กำเริบขึ้นๆลงๆ หนูทรมานมากๆเลยกับโรคนี้มันทำให้หนูใช้ชีวิตไม่เต็มที่
เรื่องที่ 4
เรื่องพ่อค่ะ หนูพูดเลยว่าหนูไม่มีความภูมิใจใดๆกับพ่อหนูเลย เค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแบบมากๆเลย คือเค้าอยากให้ทุกคนเข้าใจเค้าแต่เค้าไม่เคยเข้าใจคนในครอบครัวเลย เรื่องป่วยเค้าอยากให้คนเห็นใจแต่เค้าเปนคนที่ทำลายตัวเองทั้งนั้นเลยค่ะ เมื่อก่อนเค้ากินเหล้าทุกวัน สูบบุหรี่ เป็นโรคอะไรไม่ยอมไปหาหมอจนแรกเบา มันกลายเป็นหนัก เป็นเรื้อรัง ไม่หายขาด แล้วหลังๆเค้าทิ้งงานที่บ้านค่ะ คือร้านมันเป็นของพ่อกับแม่ แต่ตอนนี้แม่ดูร้านคนเดียว ตอนนี้เค้าอยู่ที่บ้านเกิดเค้าเพราะตอนแรก ที่นั่นมีงานด่วนเค้าเลยไปช่วยสักพัก แต่คือตอนนี่พี่ชายหนูเค้าไปช่วยแล้วค่ะ แต่เค้าไม่ยอมออกมา ตอนอยู่นั้นทุกคนก็บอกว่าเค้าปกติดี พอกลับมาบ้านก็ป่วยนู่นนี่นั้นไม่ได้มาเคลียงานที่ร้านเลย งานลูกค้าก็ดองไว้ให้เค้ารอนาน ทีนี้ลูกค้าเค้าก้อไม่ประทับใจ เค้าก็ไม่อยากมาอีก เสียลูกค้าอีก ไม่เคยคิดถึงใจแม่เลย ทุกคนคิดตามนะคะ แม่เป็นคนเปิดร้านจัดร้าน และก็มีออกไปซื้อของเข้าร้านด้วย ไปซื้อของคือไม่ได้สบายเลยนะคะ มันเจอทั้งแดด ของเยอะแยะมากมายก็หนัก นั่งรถนานๆ อีก เป็นคนปิดร้านเก็บของ หากับข้าว งานบ้าน ตัดมาที่พ่อแค่ตื่นมาทำงานๆ เย็นรอกินข้าว ไม่ต้องทำไรเลย แล้วเคยแอบเอาเงินของแม่ไปซื้อของส่วนตัวโดยที่ไม่บอกด้วย ซึ่งเงินนั้นแม่เอาไว้ไปลงทุน ไม่ใช่น้อยๆนะคะ ครึ่งแสนบาท ตอนนั้นแม่ก็โมโหมากๆ
เรื่องที่ 5
เรื่องของหนูเองค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ม.5 ใช่ไหมคะ แน่นอนว่าหนูใกล้จะเข้ามหาลัยแล้ว แต่ตอนนี้หนูคือแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ แบบมันงงไปหมดเลย ไม่ได้ไปโรงเรียน หรือไปเจออะไรใหม่ๆเลย หนูหมด passion สุดๆ คือบ้านหนูไม่ได้รวย หนูจึงมีตัวเลือกน้อย แม่บอกให้หนูหามหาลัยแถวบ้าน แล้วหนูเรียนศิลปภาษาค่ะ สายการเรียนมันเลยแคบขึ้น ในมหาลัยนั้นก็มีแค่ไม่กีคณะที่หนูสามารถเข้าได้ คือหนูแทบไม่ได้เลือกเลยอ่ะค่ะ หนูไม่โทดศิลปภาษาค่ะ เพราะถ้าให้เลือกใหม่หนูก็รักศิลปภาษาเหมือนเดิม แต่เราไม่มีต้นทุนมากพอที่จะไปที่อื่นได้ แต่แค่มหาลัยแถวบ้านหนูก็ยังกลัวแม่ส่งไม่ไหวเลย ตอนนี้หนูก็เริ่มคิดว่าถ้าหนูดรอปไม่เรียนมหาลัย มันจะมีผลอะไรไหม คือตอนนี้เรื่องเงินมาก่อนจริงๆ เสียใจ เสียดายอนาคตหลายอย่าง รู้สึกใจหายมาก แต่คือเราปรึกษาใครไม่ได้จริงๆค่ะ แม่ก้อเครียดมากพอแล้ว พ่อเค้าก้อไม่เคยสนใจคนในครอบครัว พี่ชายเาก้อจบม.6 ค่ะ เค้าเกเรเลยได้แค่นั้น ถามปรึกษาใครไม่ได้จริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้เลยนะคะ หนูอยากได้รับคำปรึกษาจากทุกคนนะคะ ไม่จำเป็นว่าอายุเท่าไหร่หนูเชื่อว่าทุกคนผ่านเรื่องราวชีวิตไม่เหมือนกันเพราะงั้นอายุไม่เกี่ยวค่ะ ใครมีความรู้เรื่องการเรียนต่อหรืออื่นๆแนะนำมาได้เลยนะคะต้องการมากๆจริงๆ ขอบคุณค่ะ🙏
เครียดกับทุกอย่างตอนนี้ขอคำแนะนำหน่อยนะคะ
เรื่องที่ 1
ตอนนี้แม่ของหนูเค้าเครียดมากแต่เค้าเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวไม่บอกหนูค่ะ แต่คนอื่นรอบตัวรู้เค้าเลยมาเล่าให้ฟัง ตอนนี้หนูสงสารแม่มาก เพราะแม่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียวเป็นเสาหลักของบ้านก็ว่าได้ ในวันปกติแม่จะตื่นเช้ามาเปิดร้าน (เป็นธุรกิจส่วนตัวของที่บ้าน) และตอนเย็นก็ปิดร้านหากับข้าวมาให้คนที่บ้านกิน แต่งานบ้านบางอย่างหนูจะทำช่วยแม่ค่ะ
เรื่องที่ 2
เรื่องเศรษฐกิจ ตอนนี้หลายคนก็คงรู้ว่าเศรษฐกิจย่ำแย่มากๆ ซึ่งมันก็ส่งผลกระทบต่อร้านของที่บ้านด้วย เพราะพอลูกค้าไม่มีเงิน เค้าก้อไม่มาร้าน หรือคนที่มาใช้บริการแต่เซ็นไว้ติดเงินไว้ก็มาจ่ายช้า ทำให้การเงินมันฝืดมากๆค่ะ เพราะรายได้เราน้อยลง แต่รายจ่ายเรามันเท่าเดิมเผลอๆมากขึ้นด้วยซ้ำ
เรื่องที่ 3
เรื่องสุขภาพ คือหนูเป็นภูมิแพ้กรรมพันธุ์ค่ะ พ่อหนูป่วยบ่อยเป็นนู่นนี่ แต่แม่หนูแข็งแรงมากๆ แต่หนูกลับได้พ่อมา ทีนี้บ้านที่หนูอยู่ปัจจุบันสภาพแวดล้อมแย่มากๆค่ะ มันเป็นบ้านเช่า แต่เก่ามา พุๆ ร้าวๆ เก่าสุดๆ แต่ก็ต้องทนอยู่เพราะเรายังไม่มีที่ไปต่อ แล้วผนังน้ำมันไหลลงมาค่ะ ทำให้เป็นรา แล้วมันเป็นที่ห้องของหนูค่ะ ทำให้หนูภูมิแพ้ขึ้นตลอดเลยจนต้องไปซื้อสีมาทาทับเลยดีขึ้นนิดหน่อย แต่บ้านมันเป็นบ้านสไตล์เก่าๆ หน้าต่างมันกันฝุ่นไม่ได้ เลยมีเข้ามาหนูก็กำเริบขึ้นๆลงๆ หนูทรมานมากๆเลยกับโรคนี้มันทำให้หนูใช้ชีวิตไม่เต็มที่
เรื่องที่ 4
เรื่องพ่อค่ะ หนูพูดเลยว่าหนูไม่มีความภูมิใจใดๆกับพ่อหนูเลย เค้าเป็นคนที่เห็นแก่ตัวแบบมากๆเลย คือเค้าอยากให้ทุกคนเข้าใจเค้าแต่เค้าไม่เคยเข้าใจคนในครอบครัวเลย เรื่องป่วยเค้าอยากให้คนเห็นใจแต่เค้าเปนคนที่ทำลายตัวเองทั้งนั้นเลยค่ะ เมื่อก่อนเค้ากินเหล้าทุกวัน สูบบุหรี่ เป็นโรคอะไรไม่ยอมไปหาหมอจนแรกเบา มันกลายเป็นหนัก เป็นเรื้อรัง ไม่หายขาด แล้วหลังๆเค้าทิ้งงานที่บ้านค่ะ คือร้านมันเป็นของพ่อกับแม่ แต่ตอนนี้แม่ดูร้านคนเดียว ตอนนี้เค้าอยู่ที่บ้านเกิดเค้าเพราะตอนแรก ที่นั่นมีงานด่วนเค้าเลยไปช่วยสักพัก แต่คือตอนนี่พี่ชายหนูเค้าไปช่วยแล้วค่ะ แต่เค้าไม่ยอมออกมา ตอนอยู่นั้นทุกคนก็บอกว่าเค้าปกติดี พอกลับมาบ้านก็ป่วยนู่นนี่นั้นไม่ได้มาเคลียงานที่ร้านเลย งานลูกค้าก็ดองไว้ให้เค้ารอนาน ทีนี้ลูกค้าเค้าก้อไม่ประทับใจ เค้าก็ไม่อยากมาอีก เสียลูกค้าอีก ไม่เคยคิดถึงใจแม่เลย ทุกคนคิดตามนะคะ แม่เป็นคนเปิดร้านจัดร้าน และก็มีออกไปซื้อของเข้าร้านด้วย ไปซื้อของคือไม่ได้สบายเลยนะคะ มันเจอทั้งแดด ของเยอะแยะมากมายก็หนัก นั่งรถนานๆ อีก เป็นคนปิดร้านเก็บของ หากับข้าว งานบ้าน ตัดมาที่พ่อแค่ตื่นมาทำงานๆ เย็นรอกินข้าว ไม่ต้องทำไรเลย แล้วเคยแอบเอาเงินของแม่ไปซื้อของส่วนตัวโดยที่ไม่บอกด้วย ซึ่งเงินนั้นแม่เอาไว้ไปลงทุน ไม่ใช่น้อยๆนะคะ ครึ่งแสนบาท ตอนนั้นแม่ก็โมโหมากๆ
เรื่องที่ 5
เรื่องของหนูเองค่ะ ตอนนี้หนูอยู่ม.5 ใช่ไหมคะ แน่นอนว่าหนูใกล้จะเข้ามหาลัยแล้ว แต่ตอนนี้หนูคือแทบไม่รู้เรื่องอะไรเลยค่ะ แบบมันงงไปหมดเลย ไม่ได้ไปโรงเรียน หรือไปเจออะไรใหม่ๆเลย หนูหมด passion สุดๆ คือบ้านหนูไม่ได้รวย หนูจึงมีตัวเลือกน้อย แม่บอกให้หนูหามหาลัยแถวบ้าน แล้วหนูเรียนศิลปภาษาค่ะ สายการเรียนมันเลยแคบขึ้น ในมหาลัยนั้นก็มีแค่ไม่กีคณะที่หนูสามารถเข้าได้ คือหนูแทบไม่ได้เลือกเลยอ่ะค่ะ หนูไม่โทดศิลปภาษาค่ะ เพราะถ้าให้เลือกใหม่หนูก็รักศิลปภาษาเหมือนเดิม แต่เราไม่มีต้นทุนมากพอที่จะไปที่อื่นได้ แต่แค่มหาลัยแถวบ้านหนูก็ยังกลัวแม่ส่งไม่ไหวเลย ตอนนี้หนูก็เริ่มคิดว่าถ้าหนูดรอปไม่เรียนมหาลัย มันจะมีผลอะไรไหม คือตอนนี้เรื่องเงินมาก่อนจริงๆ เสียใจ เสียดายอนาคตหลายอย่าง รู้สึกใจหายมาก แต่คือเราปรึกษาใครไม่ได้จริงๆค่ะ แม่ก้อเครียดมากพอแล้ว พ่อเค้าก้อไม่เคยสนใจคนในครอบครัว พี่ชายเาก้อจบม.6 ค่ะ เค้าเกเรเลยได้แค่นั้น ถามปรึกษาใครไม่ได้จริงๆ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้เลยนะคะ หนูอยากได้รับคำปรึกษาจากทุกคนนะคะ ไม่จำเป็นว่าอายุเท่าไหร่หนูเชื่อว่าทุกคนผ่านเรื่องราวชีวิตไม่เหมือนกันเพราะงั้นอายุไม่เกี่ยวค่ะ ใครมีความรู้เรื่องการเรียนต่อหรืออื่นๆแนะนำมาได้เลยนะคะต้องการมากๆจริงๆ ขอบคุณค่ะ🙏