จากการสังเกตแนวทางลงทุนของสมาชิกในสินธร พอสรุปแนวคิดความเชื่อได้ดังนี้
1.กลุ่มที่เชื่อว่า.....หุ้นเป็นขาลงตลอด ลงทั้งปีขึ้นเพื่อย่อไม่ขึ้นจริง กลุ่มนี้ก็กำเงินรออย่างเดียว...รอแล้วรออีก
กำเงินรอในวิหาร รอแล้วรออีก อาการข้างเคียงคือ.....ตกโร็ด
2..กลุ่มที่เชื่อว่า.....หุ้นเป็นขาขึ้นตลอด ลงเพื่อปรับฐานและเด้ง กลุ่มนี้ก็ชอปกระจาย ยิงหมดแม๊ก
เงินไม่พอถัว ถือคติ ใส่ก่อนได้เปรียบ อาการข้างเคียงคือ.....ดอย ยาว
3.กลุ่มที่รักสนุกแต่ไม่ผูกพันธ์.....ไม่ควรห่อหุ้นข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์ ก็จะซื้อๆขายๆ ล้างพอร์ทบ่อยๆ
ถือคติว่า อย่ารักหุ้น เพราะหุ้นไม่ใช่กิ๊ก อาการข้างเคียงคือ.....ได้ๆเสียๆ แล้วแต่ดวง
4.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นไม่ต้องดูพื้นฐาน ไม่ต้องรู้ว่าทำอะไร ดูกราฟและราคาอย่างเดียวลุยไปโลด
อาการข้างเคียงคือ.....ติดดอยเฉียบพลันเพราะไม่มีชุดตรวจเดาใจเจ้าว่าปิดจ๊อบตอนไหน เหมือนชุดตรวจ ATK
5.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นไม่ต้องดูกราฟ ดูอินดี้ หรือเทคนิค ปวดหัวใช้สัมผัสที่ 6
อาการข้างเคียงคือ.....คล่อมจังหวะ จะซื้อของแพง ขายถูก ตลอด
6.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นใช้หูเล่น อย่างอื่นค่อยว่ากัน ข่าววงใน ข่าวลับ ข่าวไลด์ ข่าวจ้าวบอก
อาการข้างเคียงคือ.....โดนยัดลาวาร้อนใส่มือตลอด...
7.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นขอให้ไวกว่าเจ้ามือ ตัดหน้าสิบล้อหยิบแบ้งพันทุกวัน
อาการข้างเคียงคือ.....รอดจากสิบล้อเหยีบ แต่โดนรถซื่งเสย
ปัจจุบัน ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ว่าใช่ แต่...
ปลาไว กินปลาช้า หนักกว่านะน่ะ
8.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นใช้กลยุทธเหาฉลาม หรือแมวขโมยแอบตอดเจ้า
อาการข้างเคียงคือ.....เจ้ารู้ เจ้าเห็นปิดประตูตีแมว
สรุป ความคิดหรือความเชื่อในการเล่นหุ้นจะกำหนดพฤติกรรมของเราในการลงทุน
ไม่มีสิ่งใดผิดหรือถูก เพราะผลของการลงทุนเป็นตัวชี้วัด
ถ้าได้กำไรต่อเนื่องนั่นคุณมาถูกทาง ผิดๆถูกๆ ก็ปรับหาแนวถนัด โดนตลอดก็หยุดเปลี่ยนแนว
>>> เพราะว่า ทุกคนที่มาลงทุนฉลาดกันทุกคน มีเส้นบางๆกันไว้กับคำว่า...
>>>ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้ ครับ<<<
สบายดี.......
#### ที่สุดของ....จิตวิทยาการลงทุน #### ความเชื่อและแนวคิดจะเป็นตัวกำหนดวิธีการลงทุนในตลาด
1.กลุ่มที่เชื่อว่า.....หุ้นเป็นขาลงตลอด ลงทั้งปีขึ้นเพื่อย่อไม่ขึ้นจริง กลุ่มนี้ก็กำเงินรออย่างเดียว...รอแล้วรออีก
กำเงินรอในวิหาร รอแล้วรออีก อาการข้างเคียงคือ.....ตกโร็ด
2..กลุ่มที่เชื่อว่า.....หุ้นเป็นขาขึ้นตลอด ลงเพื่อปรับฐานและเด้ง กลุ่มนี้ก็ชอปกระจาย ยิงหมดแม๊ก
เงินไม่พอถัว ถือคติ ใส่ก่อนได้เปรียบ อาการข้างเคียงคือ.....ดอย ยาว
3.กลุ่มที่รักสนุกแต่ไม่ผูกพันธ์.....ไม่ควรห่อหุ้นข้ามคืนหรือข้ามสัปดาห์ ก็จะซื้อๆขายๆ ล้างพอร์ทบ่อยๆ
ถือคติว่า อย่ารักหุ้น เพราะหุ้นไม่ใช่กิ๊ก อาการข้างเคียงคือ.....ได้ๆเสียๆ แล้วแต่ดวง
4.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นไม่ต้องดูพื้นฐาน ไม่ต้องรู้ว่าทำอะไร ดูกราฟและราคาอย่างเดียวลุยไปโลด
อาการข้างเคียงคือ.....ติดดอยเฉียบพลันเพราะไม่มีชุดตรวจเดาใจเจ้าว่าปิดจ๊อบตอนไหน เหมือนชุดตรวจ ATK
5.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นไม่ต้องดูกราฟ ดูอินดี้ หรือเทคนิค ปวดหัวใช้สัมผัสที่ 6
อาการข้างเคียงคือ.....คล่อมจังหวะ จะซื้อของแพง ขายถูก ตลอด
6.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นใช้หูเล่น อย่างอื่นค่อยว่ากัน ข่าววงใน ข่าวลับ ข่าวไลด์ ข่าวจ้าวบอก
อาการข้างเคียงคือ.....โดนยัดลาวาร้อนใส่มือตลอด...
7.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นขอให้ไวกว่าเจ้ามือ ตัดหน้าสิบล้อหยิบแบ้งพันทุกวัน
อาการข้างเคียงคือ.....รอดจากสิบล้อเหยีบ แต่โดนรถซื่งเสย
ปัจจุบัน ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ว่าใช่ แต่...
ปลาไว กินปลาช้า หนักกว่านะน่ะ
8.กลุ่มที่เชื่อว่า.....เล่นหุ้นใช้กลยุทธเหาฉลาม หรือแมวขโมยแอบตอดเจ้า
อาการข้างเคียงคือ.....เจ้ารู้ เจ้าเห็นปิดประตูตีแมว
สรุป ความคิดหรือความเชื่อในการเล่นหุ้นจะกำหนดพฤติกรรมของเราในการลงทุน
ไม่มีสิ่งใดผิดหรือถูก เพราะผลของการลงทุนเป็นตัวชี้วัด
ถ้าได้กำไรต่อเนื่องนั่นคุณมาถูกทาง ผิดๆถูกๆ ก็ปรับหาแนวถนัด โดนตลอดก็หยุดเปลี่ยนแนว
>>> เพราะว่า ทุกคนที่มาลงทุนฉลาดกันทุกคน มีเส้นบางๆกันไว้กับคำว่า...
>>>ดีชั่วรู้หมด แต่มันอดไม่ได้ ครับ<<<
สบายดี.......