.....เรื่องนี้เราขอเล่าจากเหตุการณ์จริงๆที่เพิ่งเจอกับตัวเองมาหมาดๆ เราได้คุยกับผช.คนนึงผ่านแอปหาคู่ ซึ่งเราก้อไม่ได้คิดจริงจังอะไร เพราะเราคุยแค่ต้องการเพื่อนคุยเท่านั้น เราคุยกับผช.คนนี้ประมาณ5เดือน แต่ยังไม่เคยเจอหน้ากันสักครั้ง คำที่แชทคุยกัน เราไม่เคยส่อไปในทางลามกอนาจาร ทักทายกันปกติในแต่ละวัน “กินข้าวหรือยัง,ตื่นนอนยัง,กู๊ดมอนิ่ง,หลับฝันดี,กู๊ดไนท์” ในแต่ละวันจะมีแค่นี้ ..เขาทักมา เราก็ตอบ ถ้าเขาเงียบเราก็นิ่ง ….มีวันนึงเขาบอกว่าจะไปทำธุระซึ่งจะผ่านที่เราพักพอดี ก็เลยจะแวะมาหาเรา ส่วนเราก็คิดในใจว่าถ้าจะเจอกันก็คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เราเองก็คุยกันมานานตั้งหลายเดือนแล้วและตอนนั้นก็เป็นเวลากลางวันคงไม่น่าจะเกิดอะไรขึ้น พอถึงเวลานัดหมายเขาก็แวะมาหาเราตามที่บอก พอเราเจอหน้าเขาครั้งแรกก็รู้สึกเฉยๆไม่ได้คิดไร และก็ไม่รู้จะไปไหนดี จึงชวนเขาไปนั่งกินกาแฟที่คาเฟ่ใกล้ๆ แต่เราก็ลืมไปว่าสถานการณ์ตอนนี้โควิดไม่อนุญาตให้นั่งในร้าน จึงได้แค่ซื้อกาแฟไปนั่งกินในรถเขาแทน เราได้ขึ้นไปนั่งในรถเขาอีกครั้งและเราก็ได้เอ่ยถามเขาไปว่า"เราจะไปไหนดี"เขาตอบกลับว่า”ไปไหนก็ได้โตแล้ว” ในระหว่างที่นั่งรถอยู่เรามีสายโทรศัพท์เข้าและเป็นน้องพนักงานที่ทำงานโทรมาซึ่งในระหว่างที่เราคุย โทรศัพท์อยู่นั้น เขาขับรถพาเราเลี้ยวเข้าโรงแรมม่านรูด ไม่ทันได้ตั้งตัว ซึ่งเราตกใจมาก เราเองก็ใช้มือโบกบ๊ายบายเป็นสัญญาณว่าเราไม่เข้านะ แต่เขาก็ไม่ยอมหยุดรถ พาเราไปจอดหน้าห้องๆหนึ่ง เขาพยายามชวนเราเข้าไปในห้อง เราก็โบกมือปฏิเสธตลอดเวลาและพยายามคุยโทรศัพท์เพื่อถ่วงเวลาจะไม่ยอมเข้า ไป
.....เราคุยโทรศัพท์อยู่นานมากจนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่รอนาน เขาจึงได้เดินเข้ามาอุ้มเราลงจากรถเพื่อเข้าห้องและด้วยลักษณะรูปร่างของเราตัวเล็ก ผอม จึงทำให้เขาอุ้มเข้าไปในห้องได้อย่างง่ายดาย พอเข้าไปในห้องเสร็จเขารีบล็อกประตู มันทำให้เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที เราคุยโทรศัพท์ไม่ยอมวางสาย แต่ในระหว่างที่เรานั่งคุยโทรศัพท์อยู่นั้นเขาพยายามเข้ามาโอบกอด คลอเคลีย ลูบไล้ เราทางด้านหลัง เราใช้มือปัดทิ้ง และเดินหนีอยู่ตลอดเวลา เขาก็เดินตามเราทั่วห้องเราเลยตัดสินใจวางสายเพื่อจะได้คุยกับเขา และจะถามว่า”พาเรามาที่นี่ทำไม”แต่ยังไม่ทันจะตั้งตัว พอหลังจากที่เราวางสายโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เรายังไม่ทันจะเอ่ยปากพูดอะไร เขาก็เข้ามาจู่โจมทันที เราพยายามต่อสู้ขัดขืนกับเขา ในใจตอนนั้นคือคิดว่ายังไงเราต้องโดนแน่ๆละ แต่เราจะไม่ยอมเด็ดขาด ซึ่งตอนนั้นเราเองไว้เล็บยาวแล้วคิดจะใช้เล็บข่วน แต่ก็ต้องชะงักมือกลับทันที คิดในใจถ้าเราทำอย่างงั้นถ้าเขารู้สึกเจ็บและเราโดนสวนคืนละ เราจะมีชีวิตรอดหรือจะกลายเป็นศพ เขาใช้กำลังขู่เข็ญเรา ลากเราขึ้นเตียง ถ้าเราใช้กำลังต่อสู้กลับไม่ดีแน่ เราจึงเปลี่ยนเป็นใช้ถ้อยคำพูดที่นิ่มนวล พูดกับเขาดีๆ ”อย่าทำอะไรเราเลยนะ ….ขอร้อง” ร้องไห้น้ำตาไหลพราก เสียงสะอื้นสั่นเครือ "ให้เรากราบตีนก็ได้นะ..ขออย่าทำเราเลย"ในระหว่างที่เราร้องขอจากเขา เหมือนทุกอย่างไม่เป็นผลเอาซะเลย เขาก็ยังเล้าโลม ล้วงเข้าไปในกระโปรงถอดกางเกงในเราออก ในใจเราคิดตลอด คือไม่อยากมีผัวเพิ่ม ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย นี่ตัวเราโง่ขนาดนี้เลยหรอ สมเพชตัวเองที่สุด ในเมื่อมาถึงจุดๆนี้ละ จะทำยังไงให้ตัวเรารอดได้ ถึงแม้ความหวังจะแค่1%ก็ตาม เราพยายามจนถึงที่สุด เกลี้ยกล่อมเขา”อย่าทำอะไรเราเลยนะ” คำพูดไหนที่เราคิดได้เราพูดออกมาหมด “เราเป็นเอดส์”….”อย่ามาอ้าง”โดนตอกกลับ คำพูดนี้เหมือนจะไม่ได้เป็นผล”เราไม่อยากมีอะไรกับใคร "เพราะ”เรามีผัวแล้ว” …..”มีผัวแล้วยังไง” เหตุผลร้อยแปดพันเก้าคงไม่เป็นผลโดยเฉพาะคนที่กำลังหน้ามืดยังไงก็ไม่มามัวนั่งฟังไรทั้งนั้น เราต้องทำใจแล้วละ แต่เราเองก็ไม่ละความพยายาม ใช้มือเล็กๆของเราตบที่มือเขาเบาๆ “ปล่อยเราไปเหอะนะ ผู้หญิงที่เธอคุยมีตั้งเยอะแยะ”……”แต่ผมชอบคุณ” ขอให้โลกหยุดหมุนก่อนได้ไหม เราไม่อยากนึกภาพที่เราโดนข่มขืน เขาพยายามปลุกเล้าอารมณ์ตัวเองโดยอาศัยเรือนร่างเรา ใช้ปากใช้ลิ้นทำทุกอย่าง แม้แต่ใช้ลิ้นกับอวัยวะเพศของเรา เราพยายามใช้มือปัดป้องตลอดเวลา ปากก็ร้องขอชีวิตเหมือนคนใกล้ตายที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองรอด ต่อให้เราพูดยังไงก้อไม่มีอะไรเป็นผลเลย ไหนๆก็ไหนๆละ”เดี๋ยวเราใช้มือช่วยเธอให้เสร็จนะ ขอแค่อย่าสอดใส่ของเราเลยนะ”เหมือนเขาจะชอบด้วยสิ รีบถอดกางเกงออกอย่างไว ลงนอนบนเตียงแผ่หรา เพื่อให้เราทำภาระกิจ เราใช้มือชักให้ แต่หน้าเบือนหนี รู้สึกสะอิดสะเอียนอ๊วกแทบพุ่ง กิริยาเราเหมือนจะทำให้เขาพลอยหมดอารมณ์ เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมบอกว่า”ให้ใช้ปากทำ”ข้าวปลาที่กินมาก่อนหน้านี้รีบวิ่งมาจ่อที่คอหอยเลยทันที แค่คิดก็ขยะแขยง เราส่ายหัวบอกไม่ทำ เราใช้มืออีกข้างดันตัวเขาให้ลงนอนและพูดเสียงอ่อยๆว่า“เดี๋ยวเราใช้มือทำให้เองนะ” มือก็ทำไป แต่ในใจกลับครุ่นคิด จุดสำคัญอยู่ที่มือเราแล้ว หรือว่าเราจะบีบสุดแรงให้เขาเจ็บปวดจนตัวงอเหมือนในหนังดีมั้ย? พอเขาเจ็บจนลุกไม่ได้ แล้วเรารีบวิ่งไปที่ประตูแล้วรีบเปิดประตูหนี……ไม่ได้ๆ ....จังหวะที่เราบีบถ้าเขารู้สึกเจ็บ แล้วสวนกลับเราเลยทันที เราก็ไม่รอดอีกอยู่ดีแถมยังต้องเจ็บตัวอีก ใจเราห่อเหี่ยว กับความหวังที่ริบหรี่เต็มทีที่จะรอด ในระหว่างที่เรากำลังคิดอยู่นั้น เขาก็ดันตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง และพยายามบังคับขู่เข็ญให้เราใช้ปากเพื่อสำเร็จความใคร่ เราตกอยู่ในสภาวะจำยอมที่เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆหรอ พูดออกมาพร้อมน้ำตา”งั้นไปล้างก่อนนะ เดี๋ยวเราใช้ปากทำให้”เขารีบลุกจากเตียงอย่างทันทีเข้าห้องน้ำเพื่อล้าง เราอึ้ง!!!!!!ไปชั่วขณะ เรารนลานจนทำไรไม่ถูก รีบกระโดดลงจากเตียงทันที ควานหากางเกงในที่ถูกโดนถอดตั้งแต่แรก มองหาโทรศัพท์เราอยู่ไหน?พอหยิบโทรศัพท์กับกางเกงในได้เท่านั้นแหละ เรารีบวิ่งไปที่ประตูและเปิดออกใส่เกียร์วิ่งทันที แต่เราไม่ใส่รองเท้าออกมาด้วย ถ้าเรามัวแต่หารองเท้าอยู่ คงไม่ทันการณ์แน่ ณ ช่วงเวลานั้นเหมือนเราได้มีชีวิตเกิดใหม่ในโลกใบนี้อีกครั้ง นี่เรารอดจากการถูกข่มขืนจริงๆเหรอ มันเป็นไปได้ยังไงแทบไม่น่าเชื่อ ถ้าวันนั้นเราไม่ได้ใส่เอี๊ยมกระโปรง แต่ใส่กางเกงมาละ ถ้ามัวแต่ใส่กางเกงอยู่ก็คงไม่รอด หรือไม่ก็วิ่งออกมาในมือถือกางเกง ไม่อยากนึกสภาพตัวเอง เราวิ่งออกจากม่านรูดรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ใครจะมองยังไงก็ชั่ง แต่เราออกจากที่ตรงนั้นมาได้แล้ว เราต้องหนีไปให้พ้น ในระหว่างที่เรารอเรียกแท็กซี่อยู่นั้น เขาขับรถออกมาเจอเราพอดี ใจเราเต้นตุ๊บๆ”พี่ค่ะพอดีหนูไม่มีแมส หนูขอแมสอันนึง””อ่อ….ได้ครับๆ”มีแทกซี่คันนึงมาจอดตรงหน้า ในที่สุดเราก็รอดแล้ว แท็กซี่ส่งเราถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย แม้ก่อนหน้านั้นเรารู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัยก็ตาม
.....เรื่องเราอาจจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงหลายๆคน ที่เล่นแอปหาคู่และก็โดนล่อลวงไปข่มขืน ซึ่งตัวเราเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะรอดมาได้ เพราะแต่ละคนมีความรู้สึกนึกคิดไม่เหมือนกัน แต่อันดับแรกตัวเราต้องมีสติก่อนเสมอ หนทางที่ดีที่สุดคืออย่าหลงเชื่อและไปขึ้นรถคนอื่นง่ายๆไม่งั้นจะเจอเหตุการณ์แบบเราค่ะ😔😔
?เมื่อครั้งนึง…เราโดนผู้ชายในแอปหาคู่ข่มขืน
.....เราคุยโทรศัพท์อยู่นานมากจนทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดที่รอนาน เขาจึงได้เดินเข้ามาอุ้มเราลงจากรถเพื่อเข้าห้องและด้วยลักษณะรูปร่างของเราตัวเล็ก ผอม จึงทำให้เขาอุ้มเข้าไปในห้องได้อย่างง่ายดาย พอเข้าไปในห้องเสร็จเขารีบล็อกประตู มันทำให้เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยขึ้นมาทันที เราคุยโทรศัพท์ไม่ยอมวางสาย แต่ในระหว่างที่เรานั่งคุยโทรศัพท์อยู่นั้นเขาพยายามเข้ามาโอบกอด คลอเคลีย ลูบไล้ เราทางด้านหลัง เราใช้มือปัดทิ้ง และเดินหนีอยู่ตลอดเวลา เขาก็เดินตามเราทั่วห้องเราเลยตัดสินใจวางสายเพื่อจะได้คุยกับเขา และจะถามว่า”พาเรามาที่นี่ทำไม”แต่ยังไม่ทันจะตั้งตัว พอหลังจากที่เราวางสายโทรศัพท์เท่านั้นแหละ เรายังไม่ทันจะเอ่ยปากพูดอะไร เขาก็เข้ามาจู่โจมทันที เราพยายามต่อสู้ขัดขืนกับเขา ในใจตอนนั้นคือคิดว่ายังไงเราต้องโดนแน่ๆละ แต่เราจะไม่ยอมเด็ดขาด ซึ่งตอนนั้นเราเองไว้เล็บยาวแล้วคิดจะใช้เล็บข่วน แต่ก็ต้องชะงักมือกลับทันที คิดในใจถ้าเราทำอย่างงั้นถ้าเขารู้สึกเจ็บและเราโดนสวนคืนละ เราจะมีชีวิตรอดหรือจะกลายเป็นศพ เขาใช้กำลังขู่เข็ญเรา ลากเราขึ้นเตียง ถ้าเราใช้กำลังต่อสู้กลับไม่ดีแน่ เราจึงเปลี่ยนเป็นใช้ถ้อยคำพูดที่นิ่มนวล พูดกับเขาดีๆ ”อย่าทำอะไรเราเลยนะ ….ขอร้อง” ร้องไห้น้ำตาไหลพราก เสียงสะอื้นสั่นเครือ "ให้เรากราบตีนก็ได้นะ..ขออย่าทำเราเลย"ในระหว่างที่เราร้องขอจากเขา เหมือนทุกอย่างไม่เป็นผลเอาซะเลย เขาก็ยังเล้าโลม ล้วงเข้าไปในกระโปรงถอดกางเกงในเราออก ในใจเราคิดตลอด คือไม่อยากมีผัวเพิ่ม ไม่อยากให้เป็นแบบนี้เลย นี่ตัวเราโง่ขนาดนี้เลยหรอ สมเพชตัวเองที่สุด ในเมื่อมาถึงจุดๆนี้ละ จะทำยังไงให้ตัวเรารอดได้ ถึงแม้ความหวังจะแค่1%ก็ตาม เราพยายามจนถึงที่สุด เกลี้ยกล่อมเขา”อย่าทำอะไรเราเลยนะ” คำพูดไหนที่เราคิดได้เราพูดออกมาหมด “เราเป็นเอดส์”….”อย่ามาอ้าง”โดนตอกกลับ คำพูดนี้เหมือนจะไม่ได้เป็นผล”เราไม่อยากมีอะไรกับใคร "เพราะ”เรามีผัวแล้ว” …..”มีผัวแล้วยังไง” เหตุผลร้อยแปดพันเก้าคงไม่เป็นผลโดยเฉพาะคนที่กำลังหน้ามืดยังไงก็ไม่มามัวนั่งฟังไรทั้งนั้น เราต้องทำใจแล้วละ แต่เราเองก็ไม่ละความพยายาม ใช้มือเล็กๆของเราตบที่มือเขาเบาๆ “ปล่อยเราไปเหอะนะ ผู้หญิงที่เธอคุยมีตั้งเยอะแยะ”……”แต่ผมชอบคุณ” ขอให้โลกหยุดหมุนก่อนได้ไหม เราไม่อยากนึกภาพที่เราโดนข่มขืน เขาพยายามปลุกเล้าอารมณ์ตัวเองโดยอาศัยเรือนร่างเรา ใช้ปากใช้ลิ้นทำทุกอย่าง แม้แต่ใช้ลิ้นกับอวัยวะเพศของเรา เราพยายามใช้มือปัดป้องตลอดเวลา ปากก็ร้องขอชีวิตเหมือนคนใกล้ตายที่ต้องดิ้นรนเพื่อให้ตัวเองรอด ต่อให้เราพูดยังไงก้อไม่มีอะไรเป็นผลเลย ไหนๆก็ไหนๆละ”เดี๋ยวเราใช้มือช่วยเธอให้เสร็จนะ ขอแค่อย่าสอดใส่ของเราเลยนะ”เหมือนเขาจะชอบด้วยสิ รีบถอดกางเกงออกอย่างไว ลงนอนบนเตียงแผ่หรา เพื่อให้เราทำภาระกิจ เราใช้มือชักให้ แต่หน้าเบือนหนี รู้สึกสะอิดสะเอียนอ๊วกแทบพุ่ง กิริยาเราเหมือนจะทำให้เขาพลอยหมดอารมณ์ เขาลุกขึ้นนั่งพร้อมบอกว่า”ให้ใช้ปากทำ”ข้าวปลาที่กินมาก่อนหน้านี้รีบวิ่งมาจ่อที่คอหอยเลยทันที แค่คิดก็ขยะแขยง เราส่ายหัวบอกไม่ทำ เราใช้มืออีกข้างดันตัวเขาให้ลงนอนและพูดเสียงอ่อยๆว่า“เดี๋ยวเราใช้มือทำให้เองนะ” มือก็ทำไป แต่ในใจกลับครุ่นคิด จุดสำคัญอยู่ที่มือเราแล้ว หรือว่าเราจะบีบสุดแรงให้เขาเจ็บปวดจนตัวงอเหมือนในหนังดีมั้ย? พอเขาเจ็บจนลุกไม่ได้ แล้วเรารีบวิ่งไปที่ประตูแล้วรีบเปิดประตูหนี……ไม่ได้ๆ ....จังหวะที่เราบีบถ้าเขารู้สึกเจ็บ แล้วสวนกลับเราเลยทันที เราก็ไม่รอดอีกอยู่ดีแถมยังต้องเจ็บตัวอีก ใจเราห่อเหี่ยว กับความหวังที่ริบหรี่เต็มทีที่จะรอด ในระหว่างที่เรากำลังคิดอยู่นั้น เขาก็ดันตัวลุกขึ้นมานั่งอีกครั้ง และพยายามบังคับขู่เข็ญให้เราใช้ปากเพื่อสำเร็จความใคร่ เราตกอยู่ในสภาวะจำยอมที่เลี่ยงไม่ได้แล้วจริงๆหรอ พูดออกมาพร้อมน้ำตา”งั้นไปล้างก่อนนะ เดี๋ยวเราใช้ปากทำให้”เขารีบลุกจากเตียงอย่างทันทีเข้าห้องน้ำเพื่อล้าง เราอึ้ง!!!!!!ไปชั่วขณะ เรารนลานจนทำไรไม่ถูก รีบกระโดดลงจากเตียงทันที ควานหากางเกงในที่ถูกโดนถอดตั้งแต่แรก มองหาโทรศัพท์เราอยู่ไหน?พอหยิบโทรศัพท์กับกางเกงในได้เท่านั้นแหละ เรารีบวิ่งไปที่ประตูและเปิดออกใส่เกียร์วิ่งทันที แต่เราไม่ใส่รองเท้าออกมาด้วย ถ้าเรามัวแต่หารองเท้าอยู่ คงไม่ทันการณ์แน่ ณ ช่วงเวลานั้นเหมือนเราได้มีชีวิตเกิดใหม่ในโลกใบนี้อีกครั้ง นี่เรารอดจากการถูกข่มขืนจริงๆเหรอ มันเป็นไปได้ยังไงแทบไม่น่าเชื่อ ถ้าวันนั้นเราไม่ได้ใส่เอี๊ยมกระโปรง แต่ใส่กางเกงมาละ ถ้ามัวแต่ใส่กางเกงอยู่ก็คงไม่รอด หรือไม่ก็วิ่งออกมาในมือถือกางเกง ไม่อยากนึกสภาพตัวเอง เราวิ่งออกจากม่านรูดรองเท้าก็ไม่ได้ใส่ ใครจะมองยังไงก็ชั่ง แต่เราออกจากที่ตรงนั้นมาได้แล้ว เราต้องหนีไปให้พ้น ในระหว่างที่เรารอเรียกแท็กซี่อยู่นั้น เขาขับรถออกมาเจอเราพอดี ใจเราเต้นตุ๊บๆ”พี่ค่ะพอดีหนูไม่มีแมส หนูขอแมสอันนึง””อ่อ….ได้ครับๆ”มีแทกซี่คันนึงมาจอดตรงหน้า ในที่สุดเราก็รอดแล้ว แท็กซี่ส่งเราถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย แม้ก่อนหน้านั้นเรารู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัยก็ตาม
.....เรื่องเราอาจจะเป็นอุทาหรณ์ให้กับผู้หญิงหลายๆคน ที่เล่นแอปหาคู่และก็โดนล่อลวงไปข่มขืน ซึ่งตัวเราเองก็ไม่คิดไม่ฝันว่าจะรอดมาได้ เพราะแต่ละคนมีความรู้สึกนึกคิดไม่เหมือนกัน แต่อันดับแรกตัวเราต้องมีสติก่อนเสมอ หนทางที่ดีที่สุดคืออย่าหลงเชื่อและไปขึ้นรถคนอื่นง่ายๆไม่งั้นจะเจอเหตุการณ์แบบเราค่ะ😔😔