สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ถ้าจขกทบอกสะใภ้ มีโอกาสสูงมากที่เค้าโกรธจขกทแล้วไปลงกับลูก จขกทจะไม่ได้อะไรเลยจากเรื่องนี้ น้องสะใภ้มองว่าจขกทไปวุ่นวายกับครอบครัวเค้าวิธีการเลี้ยงลูกของเค้าโดยที่ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไรเค้าเลย หลานจะมองว่าจขกทหักหลังเค้า ไว้ใจไม่ได้
วางตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ของหลาน มีอะไรมาระบายมาปรึกษาได้ พร้อมซัพพอร์ทเสมอ ถ้ามีปัญหาอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรงจริง ๆ ต้องการความช่วยเหลือให้บอก ประมาณนี้ก่อนน่าจะเพียงพอในเบื้องต้นค่ะ
วางตัวเป็นผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้ของหลาน มีอะไรมาระบายมาปรึกษาได้ พร้อมซัพพอร์ทเสมอ ถ้ามีปัญหาอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรงจริง ๆ ต้องการความช่วยเหลือให้บอก ประมาณนี้ก่อนน่าจะเพียงพอในเบื้องต้นค่ะ
ความคิดเห็นที่ 41
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ เจ้าของกระทู้ครุ่นคิดอยู่นานว่าควรจะทำอย่างไร จะอยู่เฉยๆ ตามความคิดเห็นของหลายๆ ท่านแนะนำ หรือคุยเรื่องนี้ทั้งกับน้องและภรรยา สุดท้ายเจ้าของกระทู้คิดว่าควรพูดค่ะ บางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่ามันกระทบกับความรุ้สึกลูกอย่างไร เชื่อว่าเราเจตนาดี เขาต้องเข้าใจ ถ้าไม่มีกระจกก็ไม่รู้สภาพตัวเอง และเพราะหวังดีจึงต้องบอกค่ะ ถ้าเราครอบครัวเดียวกันไม่บอกใครที่ไหนจะมาบอกอย่างน้อยก็คิดว่าบอกด้วยความรักความเมตตา การตัดสินใจนี้อาจจะขัดกับคำแนะนำของหลายๆ ท่าน ก็ต้องขอโทษค่ะ
เมื่อวานค่ำๆ เจ้าขอกระทู้จึงตัดสินใจคุยกับน้องชายและภรรยา ว่าหลานรู้สึกอะไร และบอกน้องสะใภ้ไปว่า เขาไม่ผิด เขาเก่งมากที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาได้ขนาดนี้ เข้าใจว่ากลัวลูกจะไม่ได้ดี กลัวลูกทำอะไรผิดพลาดแต่ผลมันคือเด็กกดดันและกลัวไปหมด ยกตัวอย่างพฤติกรรมหลานบางอย่างให้นึกภาพออก ตอนนี้หลานเป็นเด็กดี จะดีเพิ่มไปอีกถ้าเขารู้สึกว่าแม่รักและภูมิใจในตัวเขา คนเราจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ ดังนั้นรักก็ควรบอกให้รู้ ถ้าวันหนึ่งเป็นอะไรไป ยังไม่ได้บอก หรือแสดงให้เขาเห็น จะทำให้ลูกฝังใจไปตลอด ชมเขาบ้างเวลาเขาทำดี โชคดีมากที่มีลูกน่ารัก น้องชายออกตัวว่าเห็นด้วย และบอกกับน้องสะใภ้ว่าเราจะเปลี่ยนไปด้วยกันถ้ารักลูกก็ควรทำให้ลูกมีความสุข คนในบ้านนี้พร้อมร่วมมือ ค่อยๆ ปรับค่อยๆ เปลี่ยน เขานั่งน้ำตาไหลและพูดว่าขอบคุณที่รักลูกเขา เพื่อลูกเขาจะพยายาม เราคุยกันหลายเรื่องแบบจริงจังค่ะ... บ้านเจ้าของกระทู้ถูกเลี้ยงมาแบบ พ่อแม่คือเพื่อน คือพี่ คือทุกอย่าง คุยกันได้ทุกเรื่อง ลูกๆ แย้งพ่อแม่ได้ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง พ่อแม่ไม่บังคับลูก บ้านเรายืนยันว่าลูกเขาก็หลานเรา ดังนั้นก็ต้องอยากให้หลานมีความสุข
โชคดีที่ความรักของแม่มีมากจนยอมรับฟังคนอื่นค่ะ คงต้องจับมือให้กำลังใจทั้งคุณแม่ คุณหลาน ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ
ขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนะคะ
เมื่อวานค่ำๆ เจ้าขอกระทู้จึงตัดสินใจคุยกับน้องชายและภรรยา ว่าหลานรู้สึกอะไร และบอกน้องสะใภ้ไปว่า เขาไม่ผิด เขาเก่งมากที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาได้ขนาดนี้ เข้าใจว่ากลัวลูกจะไม่ได้ดี กลัวลูกทำอะไรผิดพลาดแต่ผลมันคือเด็กกดดันและกลัวไปหมด ยกตัวอย่างพฤติกรรมหลานบางอย่างให้นึกภาพออก ตอนนี้หลานเป็นเด็กดี จะดีเพิ่มไปอีกถ้าเขารู้สึกว่าแม่รักและภูมิใจในตัวเขา คนเราจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ ดังนั้นรักก็ควรบอกให้รู้ ถ้าวันหนึ่งเป็นอะไรไป ยังไม่ได้บอก หรือแสดงให้เขาเห็น จะทำให้ลูกฝังใจไปตลอด ชมเขาบ้างเวลาเขาทำดี โชคดีมากที่มีลูกน่ารัก น้องชายออกตัวว่าเห็นด้วย และบอกกับน้องสะใภ้ว่าเราจะเปลี่ยนไปด้วยกันถ้ารักลูกก็ควรทำให้ลูกมีความสุข คนในบ้านนี้พร้อมร่วมมือ ค่อยๆ ปรับค่อยๆ เปลี่ยน เขานั่งน้ำตาไหลและพูดว่าขอบคุณที่รักลูกเขา เพื่อลูกเขาจะพยายาม เราคุยกันหลายเรื่องแบบจริงจังค่ะ... บ้านเจ้าของกระทู้ถูกเลี้ยงมาแบบ พ่อแม่คือเพื่อน คือพี่ คือทุกอย่าง คุยกันได้ทุกเรื่อง ลูกๆ แย้งพ่อแม่ได้ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง พ่อแม่ไม่บังคับลูก บ้านเรายืนยันว่าลูกเขาก็หลานเรา ดังนั้นก็ต้องอยากให้หลานมีความสุข
โชคดีที่ความรักของแม่มีมากจนยอมรับฟังคนอื่นค่ะ คงต้องจับมือให้กำลังใจทั้งคุณแม่ คุณหลาน ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ
ขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนะคะ
ความคิดเห็นที่ 4
เป็นคุณป้าที่น่ารักมากครับ ไม่ใช่หลานแท้ๆ แต่ก็เป็นห่วงเป็นใย อย่างน้อยเด็กก็เป็นอนาคตของชาติเนอะ ขอชื่นชมครับ
เห็นด้วยกับความคิดเห็น 1 ครับ ละก็ พึ่งเจอกันอยู่ด้วยกันจริงจังแค่ 2 เดือน เรื่องนี้น่าจะยังเร็วไปที่จะเข้าไปยื่นมือครับ
ในมุมคุณแม่ อาจมองว่า คุณป้าเป็นแค่พี่สามีใหม่ ไม่ได้เป็นอะไรกับเด็ก ลูกจากสามีเก่าเลย เป็นคนนอก
คุณแม่อาจไม่ชอบที่ไปก้าวก่ายวิธีการเลี้ยงดูลูกของคุณแม่
ช่วงนี้ก็รับฟังเป็นที่พึ่งหลานไปก่อนเถอะครับ ให้เวลาอยู่กันนานกว่านี้หน่อย ไปยุ่งตอนนี้น่าจะขัดเคืองกันเปล่าๆ
หรือนอกจากมีเหตุอันเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือจิตใจเด็กอย่างร้อยแรงต่อหน้าจริงๆ
ค่อยยื่นมือเข้าระงับเหตุครับ
เห็นด้วยกับความคิดเห็น 1 ครับ ละก็ พึ่งเจอกันอยู่ด้วยกันจริงจังแค่ 2 เดือน เรื่องนี้น่าจะยังเร็วไปที่จะเข้าไปยื่นมือครับ
ในมุมคุณแม่ อาจมองว่า คุณป้าเป็นแค่พี่สามีใหม่ ไม่ได้เป็นอะไรกับเด็ก ลูกจากสามีเก่าเลย เป็นคนนอก
คุณแม่อาจไม่ชอบที่ไปก้าวก่ายวิธีการเลี้ยงดูลูกของคุณแม่
ช่วงนี้ก็รับฟังเป็นที่พึ่งหลานไปก่อนเถอะครับ ให้เวลาอยู่กันนานกว่านี้หน่อย ไปยุ่งตอนนี้น่าจะขัดเคืองกันเปล่าๆ
หรือนอกจากมีเหตุอันเป็นอันตรายต่อร่างกาย หรือจิตใจเด็กอย่างร้อยแรงต่อหน้าจริงๆ
ค่อยยื่นมือเข้าระงับเหตุครับ
แสดงความคิดเห็น
ควรจะบอกน้องสะใภ้อย่างไร ว่าการเลี้ยงลูกของเขาทำให้ลูกกดดันจนไม่มีความสุข
วันนี้หลานสาวมาปรึกษาและร้องไห้ บอกว่า "หนูไม่อยากให้น้องเกิดมาเลย" ฟังตอนแรกก็ตกใจ เพราะเห็นหลานก็รักน้อง หอมน้องทุกวัน ทำไมถึงไม่อยากให้เกิด คิดในใจคงกลัวพ่อแม่รักน้องมากกว่า เลยถามไปว่า " ทำไมหนูถึงคิดแบบนั้น" หลานสาวพูดขึ้นและน้ำตาไหล "หนูไม่อยากให้น้องเจอแบบหนู" ฟังเสร็จ เจ้าของกระทู้ตกใจมาก อะไรที่ทำให้เด็กคนหนึ่งรู้สึกแบบนี้ เลยถามไปว่า "หนูรู้สึกอะไร ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น" หลานสาวตอบว่า "แม่ชอบดุ พูดตะคอก ด่าแต่หนู หนูทำอะไรก็ผิดไปหมด หนูไม่อยากให้น้องเจอแบบหนู" ฟังเสร็จสะท้อนใจเลยว่า หลานคงรักน้องมาก ถูกกดดันด้วยวิธีการเลี้ยงที่แม่รักแต่อาจจะไม่เคยแสดงออก เจ้าของกระทู้เลยถามว่า แม่เคยชมหนูไหม หรือมีเรื่องอะไรที่แม่บอกว่าหนู เก่ง หนูทำดีบ้าง" หลานสาวตอบว่า "แม่ไม่เคยชมหนูเลย แม่ชอบเอาหนูไปเปรียบเทียบกับคนอื่น หนูไม่ชอบเลย ป้าอย่าบอกแม่นะ" เจ้าของกระทู้ได้แต่ปลอบใจหลานไปว่า คนเรามีการแสดงความรักแตกต่างกัน แม่เขารักหนู เขาอยากให้หนูได้ดี แต่ว่าเขาอาจจะมีวิธีแสดงออกของเขา
สิ่งที่อยากถาม ควรจะพูดเรื่องนี้กับน้องสะใภ้อย่างไร เพราะเขาเป็นคนดื้อ ไม่ฟังใคร ถ้าพูดไปกลัวจะไปลงที่หลาน หาว่ามาฟ้อง เท่าที่อยู่ด้วยกันมาสองเดือนกว่า ก็จริงตามหลานพูด เห็นเรื่องให้ดุหลานทุกวัน ไม่เคยชมอะไรลูก ที่สำคัญหลานสาวจะกลัวแม่มาก ระแวงทุกอย่างที่จะทำเพราะกลัวโดนดุ ครั้นจะเฉยๆ ไปก็ทำใจไม่ได้ รู้สึกว่ามันเป็นเรื่องที่จะสร้างปมในใจให้หลานสาว กลัวจะส่งผลต่อจิตใจและพฤติกรรมในอนาคต
-------------------------------------------------------
ขอบคุณมากค่ะ สำหรับคำแนะนำ เจ้าของกระทู้ครุ่นคิดอยู่นานว่าควรจะทำอย่างไร จะอยู่เฉยๆ ตามความคิดเห็นของหลายๆ ท่านแนะนำ หรือคุยเรื่องนี้ทั้งกับน้องและภรรยา สุดท้ายเจ้าของกระทู้คิดว่าควรพูดค่ะ บางทีเขาอาจจะไม่รู้ตัวและไม่รู้ว่ามันกระทบกับความรุ้สึกลูกอย่างไร เชื่อว่าเราเจตนาดี เขาต้องเข้าใจ ถ้าไม่มีกระจกก็ไม่รู้สภาพตัวเอง และเพราะหวังดีจึงต้องบอกค่ะ ถ้าเราครอบครัวเดียวกันไม่บอกใครที่ไหนจะมาบอกอย่างน้อยก็คิดว่าบอกด้วยความรักความเมตตา การตัดสินใจนี้อาจจะขัดกับคำแนะนำของหลายๆ ท่าน ก็ต้องขอโทษค่ะ
เมื่อวานค่ำๆ เจ้าขอกระทู้จึงตัดสินใจคุยกับน้องชายและภรรยา ว่าหลานรู้สึกอะไร และบอกน้องสะใภ้ไปว่า เขาไม่ผิด เขาเก่งมากที่เลี้ยงลูกคนเดียวมาได้ขนาดนี้ เข้าใจว่ากลัวลูกจะไม่ได้ดี กลัวลูกทำอะไรผิดพลาดแต่ผลมันคือเด็กกดดันและกลัวไปหมด ยกตัวอย่างพฤติกรรมหลานบางอย่างให้นึกภาพออก ตอนนี้หลานเป็นเด็กดี จะดีเพิ่มไปอีกถ้าเขารู้สึกว่าแม่รักและภูมิใจในตัวเขา คนเราจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จะตายวันนี้พรุ่งนี้ก็ไม่รู้ ดังนั้นรักก็ควรบอกให้รู้ ถ้าวันหนึ่งเป็นอะไรไป ยังไม่ได้บอก หรือแสดงให้เขาเห็น จะทำให้ลูกฝังใจไปตลอด ชมเขาบ้างเวลาเขาทำดี โชคดีมากที่มีลูกน่ารัก น้องชายออกตัวว่าเห็นด้วย และบอกกับน้องสะใภ้ว่าเราจะเปลี่ยนไปด้วยกันถ้ารักลูกก็ควรทำให้ลูกมีความสุข คนในบ้านนี้พร้อมร่วมมือ ค่อยๆ ปรับค่อยๆ เปลี่ยน เขานั่งน้ำตาไหลและพูดว่าขอบคุณที่รักลูกเขา เพื่อลูกเขาจะพยายาม เราคุยกันหลายเรื่องแบบจริงจังค่ะ... บ้านเจ้าของกระทู้ถูกเลี้ยงมาแบบ พ่อแม่คือเพื่อน คือพี่ คือทุกอย่าง คุยกันได้ทุกเรื่อง ลูกๆ แย้งพ่อแม่ได้ถ้าเห็นว่าไม่ถูกต้อง พ่อแม่ไม่บังคับลูก บ้านเรายืนยันว่าลูกเขาก็หลานเรา ดังนั้นก็ต้องอยากให้หลานมีความสุข
โชคดีที่ความรักของแม่มีมากจนยอมรับฟังคนอื่นค่ะ คงต้องจับมือให้กำลังใจทั้งคุณแม่ คุณหลาน ให้ก้าวไปข้างหน้าด้วยกันค่ะ
ขอบคุณความคิดเห็นของทุกๆ ท่านนะคะ