ออกเดินทางมาไกล3ปี แต่วนกลับมาเก็บของเหนื่อยแทบขาดใจ

ตอนนี้ทรมานจุกแน่นอก หายใจไม่ค่อยออกเป็นแพนิก กินข้าววันละ2-3คำ มา7วันแล้ว เหนื่อยมากๆ ใครเคยเป็นแบบนี้บ้างคะ เหตุผลเพราะที่เราไปไกลแล้วเรื่องนี้ค่ะ สาเหตุที่ตัดทุกคนออกจากชีวิตยกเว้นหลานๆ https://m.ppantip.com/topic/41436250?
     แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า มันมีจุดเปลี่ยนที่ยิ่งใหญ่มากแบบ ตลกตัวเองและงงมาก เพราะแค่ได้ฟังเพลง ธี่เดินทางกลับมาเวอร์ชั่นผญ. แล้วรู้สึกหวั่นไหวมากๆ 
ไม่เคยโกรธเกลียดคนในครอบครัวเลย แต่แค่มันเสียใจเจอมาหนักมากๆทรมานทุรนทุรายมา25ปี เลยชักปลั๊กจากคนที่ทำร้ายจิตใจแค่นั้นเลย
     แล้วอยู่ดีๆ ไม่รู้นึกยังไง  พอฟังเพลงนี้ มันดึงเรากลับไป ท่อนที่ร้องว่า ที่เดินทางกลับมาแค่อยากเห็นหน้าเธอ
แค่อยากรู้ว่าเธอสบายดีใช่ไหม อาจเป็นแค่ครั้งเดียว ไม่มีครั้งต่อไป ที่เราจะได้กลับมาพบกัน อีกครั้งเหมือนในวันนี้ 😄
   
     ไปกด@เพื่อนในเฟส แฟนพี่ชายของตัวเอง เพราะพี่ชายบล็อกเฟสเราโดยโปร์ไฟล์ที่เราใช้เป็นรูปใส่ชุดว่ายน้ำสวยเซ็กซี่  
พี่สะใภ้เลยไปถามแฟนว่าเป็นใคร(เค้าเล่าให้ฟัง) พี่ชายเราเลยบอก เป็นน้องสาว จากนั้นพี่สะใภ้เลยทักมาคุย มาถามเราโดยทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้
เราคุยกับเราผ่านเฟสพี่สะใภ้ พี่ชายถามว่าเราจะกลับบ้านไหม เราบอกต้องดูก่อนเลยคุยกันว่านัดเจอกินข้าวกัน ที่บ้านพี่ชาย การนัดเจอพี่ชายนี้แหละ 
จะเป็นตัววัดระดับความรู้สึกเราด้วยล่ะ ว่าอยากไปไหม ตอนแรกเราลังเล50/50 ว่าจะไปไหมหรือไม่ไปดี 
แต่พอได้เจอพี่ชาย เค้าก็ว่าเค้าทำนั่นทำนี่ให้ที่บ้าน ซื้อที่ให้แม่ทำสวน/บ่อปลา เค้าดูมีความสุขกันมาก
เราก็เห็นภาพของความสุขไปกับเขาด้วยอยากเห็นเขามีความสุข และเหตุผลที่จะกลับไปที่บ้านคืออยากเห็น ความสุขของพี่ชายที่ทำให้แม่มีความสุข 
อยากเห็นหน้าหลานสุดที่รักอยากเจอหลานๆ ไม่ได้เจอมา3ปี แต่ส่งของให้แทบทุกเดือนตลอดระยะเวลา10ปี
   
     เลยตัดสินใจตกลงกับพี่ชายว่าจะกลับบ้าน ขับรถไปกันเองกับแฟนพร้อมกับน้องหมากะว่าจะเช่ารร.นอนเพราะน่าจะะสะดวกกว่า
และพอไปถึงความรู้สึกเราเหมือนผญ. คนนี้ในคลิป ขอนุญาตนำคลิปน้องผญ.คนนี้มาลงนะคะ น้องพูดแทนความรู้สึกเราหมดเลย ทุกอย่างมันสายไปหมดแล้ว เพียงแค่เรารักษาหน้าและรักษาความรู้สึกคนอื่นอยู่ว่าทุกอย่างมันดีขึ้นแล้ว ความเป็นจริง มันไม่มีทางลบล้างแก้ไข เรื่องราวทุกอย่าง25ปี ได้ภายในไม่กี่ชม.หรือ2วัน รู้สึกยืนท่ามกลางคนแปลกหน้าที่ไม่สนิท เรานั่งตัวเล็กๆ ในบ้านหลังใหญ่ที่พี่ชายสร้างให้แม่และพี่สาวและหลานๆอยู่ รู้สึกภูมิใจในตัวพี่ชายมาก แต่ก็รู้สึกที่นี่ไม่ใช่ที่ของเรา ไม่ใช่คนในครอบของเรา แค่เกือบเหมือน แต่ความรู้สึกที่เรามีให้หลานๆคือความรัก ห่วงใย ความเอ็นดู เหมือนเดิม
ถึงแม้หลานๆจะเริ่มโต เป็นหนุ่มสาว วัยรุ่นมีโลกส่วนตัวจนเราตามไม่ทัน ก็รู้สึก น่าใจหายอีกแบบ  จากเมื่อก่อน หลาน จะมาคลอเคลีย
 แต่ตอนนี้ หลานจะมีโลกส่วนตัวของเค้า ตอนเราเจอหลานร้องให้ฟูมฟาย เป็นความรู้สึก แต่ดีมากๆ แต่เราไม่ได้เจอหลาน3ปี 
หลานไม่ลงรูป เราไม่ได้ติดต่อกัน เรามาเห็นหลานอีกที คือเหมือนคนละคนเพราะโตเป็นหนุ่มสาวแล้ว 
เป็นความรู้สึก ที่เสียดายช่วงเวลา3ปี นั้นมาก

      แม่ยังคงคบพ่อเลี้ยงอยู่ เราก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยไป เพราะแม่ก็แก่แล้วดีแล้ว ที่เค้ามีคนดูแลผูกพันกันมานาน
แม่ดูรู้สึก ดีมากที่ได้เจอเรา พี่สาวกอดเราบ่อยมาก ทุกคนพูดจาดีกับเรา วางตัวดีกับเรา แต่เรายังไม่ไว้ใจ
รู้สึก แปลกเหมือนฝันเหมือนมันไม่มีอยู่จริงเป็นภาพลวงตาไม่มีประโยชน์อะไรกับเราอีกแล้ว มีประโยชน์แค่เค้ารู้สึกดีกัน และเราก็ดีตอบนะคะแกล้งลืมๆทุกอย่างไปให้เค้าสบายใจ
     อยู่แค่3วัน2คืน รีบกลับก่อนเพราะเช่ารร.นอนไม่อยากอยู่นานค่าใช้จ่ายเยอะ
และอยากรีบกลับ เพราะเหนื่อยสมองมากๆ เหนื่อยใจมากๆ สับสนกับตัวเอง ว่าจะเอายังไงต่อไปดี
ถ้าคนภายนอกเห็น จะคิดว่าครอบครัวอบอุ่นมีตวามสุข แฮปปี้มาก แต่เราเหนื่อยจนต้องรีบกลับ มาทบทวนตัวเองขอใช้ความคิด
    มาไกลเกินกว่าจะเอาตัวเองกลับไปเป็นสมาชิคในครอบครัวทำได้ก็แค่เปลือกนอก
เราบริจาคร่างกาย/งานศพ/การวางแผนการตาย ของเรา ไม่มีพวกเค้าอยู่ในชีวิตเราอีกแล้วแผนทุกอย่างเรายังทำตามเดิม คือถ้าตายจะไม่ให้ครอบครัวเก่ารับรู้ข่าวจนกว่าจะผ่านไป15วัน-1เดือน

    สิ่งที่ทำได้ตอนนี้ได้แค่การพูดคุย/ให้เค้ามีความสุข/เห็นเค้ามีความสุข เรารู้สึกเหมือนเห็นพวกเค้าเป็นแค่คนอื่นไปแล้วจริงๆ 
 เหนื่อยหนักอกมากๆ นอนตื่น10โมง จากเมื่อก่อน 7.30น. ก็ลุกจากที่นอนแล้ว 
แทบไม่มีอารมณ์จะทำอะไรเลย นอกจากงานที่ทำอยู่จากเมื่อก่อน ชอบทำงานบ้าน สนุกกับงานบ้านมากตอนนี้เอาแต่นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆ ซึม 
เราไม่ไหวแล้วจริงๆ มันเจ็บจังเลยค่ะ ไม่ไหวแล้ว เจ็บที่ไม่รู้เจ็บที่ตรงไหน มันปวดตรงน่าอก ตื้อๆ
นั่งรถอยู่ อยู่ดีๆ น้ำตามันไหล ออกมาเอง พิมพ์ตอนนี้ก็น้ำตาไหล

     ตัวเราอยู่ตรงหน้าพวกเค้า แต่ใจเราอยู่ไหนก็ไม่รู้ แต่รู้สึกว่าก็ดีแล้วที่เหมือนได้เจอหน้าเครียร์ใจกัน
แต่เราไม่รื้อฟื้นอะไร พูดประมาณแค่ว่า หนูไม่เคยโกรธเกลียดใครเลย แต่ที่ไปเพราะเสียใจ คำพูดมันสำคัญมากนะ
ระวังการกระทำและคำพูดของตัวเองที่ทำให้คนอื่นเสียใจ

     จุดพีคอยู่ตรงนี้ มันปลดล็อกเราเลย ว่าแม่ยังเป็นคนเดิม แต่รู้สึกช่างเถอะเหนื่อยแล้วก่อนกลับจะแลกเบอร์กับแม่ 
อีกครั้งเพื่อความชัวร์เรารู้แล้วล่ะ ว่าคนที่บ้านบล็อกเบอร์เรา แต่ไม่รู้ใคร เราเดาว่าคงเป็นพี่สาวมั้ง งอลเรา 
เพราะโทรไม่ติดมาหลายวันแล้ว เลยเอาโทรศัพท์แม่มาเช็คแม่ก็นั่งอยู่ เพื่อที่เราจะปลดบล็อก โดยเราจะไม่พูดอะไร
 เพราะบรรกาศที่บ้านก็ดูดีขึ้นแล้ว
     แต่บังเอิญเราหาทางปลดบล็อกเบอร์เรา จากโทรศัพท์แม่ไม่เป็น เราเลยเรียกหลานมาช่วยดู ว่าโทรศัพท์เป็นไร เราโทรหาแม่ไม่ติดไม่แน่ใจ
พอหลานปลดบล็อกเสร็จ เราโทรหาแม่ได้
เราเลย ถามลอยๆ ด้วยความ งง ว่า เอ้า แม่บล็อกเบอร์หนูหรอ เพราะนึกว่าแม่มือกดไปโดน รึป่าว 
ลังเล ว่าพี่สาวไม่น่าบล็อก  เพราะเราต่างหากที่ผ่านมาบล็อกเบอร์แม่เองเป็นเวลา2 ปี แค่งง ว่าแม่บล็อกเบอร์เราทำไม ในเมื่อเราบล็อกเบอร์แม่แล้วจะมาบล็อกซ้ำกันทำไม แต่ความคิดก็ผุดขึ้นมาทันที ว่ายิ้มอลเรา มั้ง พี่สาวคงไปเล่าอะไร อีกช่วงนึงที่ทะเลาะกัน แต่เราไม่ได้อะไร

     ในทันทีนั้น แม่โทษหลานสาวว่า หลานเป็นคนบล็อกเรา แต่หลานเถียงกลับว่า ยาย นั่นแหละเป็นคนให้หนูบล็อก เพราะกลัวจะกดโทรหาเรา 
แล้วหลานก็ร้องให้ฟูมฟายเสียใจ  เรากอดปลอบหลานยกใหญ่  แล้วแม่ ก็ดุหลานแรงมาก บอกร้องให้ทำไม
มาทำให้เรากลับไปด้วยความไม่สบายใจทำไม เราเครียดกับคำพูดแม่มากไม่ได้ เลย 
 เราไม่รู้จะทำตัวยังไงดี พี่สาวก็มาดูลูก และบอกลูกว่าเข้มแข็ง อย่าร้องให้
ส่วนเราบอกหลานว่า เราเป็นคนไม่ใช่หุ่นยนต์ ถ้าเจ็บและเสียใจก็ร้องระบายมันออกมานะลูก
อย่าเก็บคำพูดมาใส่ใจ น้าเข้าใจความรู้สึกหนูนะ น้าผ่านมาแล้ว แล้วพูดอะไรอีกเยอะมากลืม ปลอบหลานนานมากจนหลานหยุดร้อง 
พอแม่เดินมานั่งก็มองตาขวาง ใส่หลาน ที่ร้องให้ ดุ และบ่นๆ 
เราบอกให้แม่ขอโทษ หลานที่พูดกับหลานไปแบบนั้น หลานไม่ได้เป็นคนทำ แม่โทษหลานหลานเสียใจ 
และเราก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องบล็อกเลย แค่โทรหาไม่ได้ หาทางแก้แค่นั้นเลย 
ทำให้เราเป็นห่วงความรู้สึกนั้นกว่าจะเจอแบบนี้อีก แม่เค้าแก่แล้ว เปลี่ยนตัวเองไม่ได้แล้ว 
ทำได้แค่ทำใจ แต่รู้สึกดีที่หลานมีแม่ มียาย และมีเพื่อน ได้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอยู่บ้าง ต่างจากเราฟ้ากับเหว 
เพราะเราไม่มีใครเลย ไม่มีอะไรเลย ดีใจที่หลานได้มี
    ไม่กล้าคิดต่อหรอกค่ะ ว่าเค้าจะคิดได้กันจริงๆ ไม่อยากหาคำตอบ ไม่อยากรู้การกระทำต่อจากนี้
รู้แค่ว่า มาเจอเป็นครั้งคราวปีละ1-2ครั้ง ครั้งละ3 วัน เค้าคงไม่ทันจะแสดงธาตุแท้อะไรออกมา เพราะมีความเกรงใจกันอยู่
ด้วยเรื่องเวลาเจอกันที่น้อย
    รู้แค่ว่าให้เหมือนจบกันๆกันไปด้วยดีในชาตินี้ ไม่มีอะไรติดค้างกันอีกก็พอ
เพราะทนทรมานเพราะคิดถึงพวกเค้ามาตลอด แต่ไปเจอไม่ได้แต่เจอไม่ได้แค่นั้นเอง 
แต่พอได้เจอก็เป็นอย่างที่เล่าไปเลยค่ะ ใครเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วเป็นแบบเราบ้างคะ
มันจะดีขึ้นต่อเมื่อเราต้องทำอะไร สับสนไปทุกอย่าง คำว่าครอบครัวสำหรับเราที่เราเคยเจอมาจะต้องเกื้อกูล เป็นที่พึ่งพิงให้กันและกัน เป็นที่ปรึกษา ดูแลกันและกัน แต่ที่ผ่านมาที่เราเจอมาไม่ใช่เลยมีแต่กอบโกยและเห็นแต่ตัวกับเราทุกด้านทั้งๆที่เราดีกับเค้ามาตลอดไม่เคยเรียกร้องอะไรเลย
มาวันนี้ ปีนี้เราไม่รู้จริงๆแล้วว่าที่เค้าพูดดีกับเราเป็นเพราะอะไร แต่ไม่ว่าสิ่งที่เค้าปฎิบัติกับเราในปีนี้ จะมีความหมายว่ายังไง
แต่เราก็ไม่สามารถให้เค้าอยู่ในบุคคลที่จะเป็นที่พึ่งพิงปรึกษา/พึ่งพา/ขอความช่วยเหลือ ขอให้ซับพอตทุกเรื่องไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่
ถ้าจะขอให้ทำมีค่าตอบแทนเสมอ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรี รู้สึกเหมือนน้องคนนี้มากเลย เวลาจะรับอะไรมามีสิ่งที่ต้องแลกเปลี่ยนเสมอ มารยาททางสังคมก็ส่วนนึง ใจเราที่เป็นคนชอบช่วยเหลือให้คนอื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนก็ส่วนนึง แต่ตัดจบแบบอารมณ์ค้างคามาก ยิ่งโตขึ้นยิ่งทำให้รู้ว่าบางเรื่องเราเสียเวลากับการหาเหตุผล ทำชีวิตตอนนี้ให้มีความสุขทำสุขภาพจิตของตัวเองให้ดีซึ่งในตอนนี้ ยังหาจิ๊กซอร์ไม่เจอเลยค่ะ เพราะมันไม่มีแต่แรก เป็นสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาเจออารมณ์แบบนี้ ขอจบเท่านี้นะคะพิมพ์ต่อก็วนมาที่เดิม เพราะความรู้สึกมันวนวูปจริงๆ เครียดเหม่อลอยกับชีวิตมากค่ะ
แต่ถ้ามีคนตอบได้ว่าอาการนี้เรียกว่าอะไรอาจช่วยให้เราดีขึ้นและเจอทางออกให้กับตัวเองได้ค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่