Cruella (2021) ครูเอลล่า 



เรื่องย่อ
ภาพยนต์ที่เป็นขวัญใจวัยเด็ก  ที่เต็มไปด้วยความน่ารักของเจ้าหมาลายจุด และคราวนี้เตรียมพบกับอีกมุมที่จะทำให้ได้รู้จักกับครูเอลล่า (รับบทโดย Emma Stone) หญิงสาวที่เป็นตัวแม่ทางด้านแฟชั่น ด้วยสไตล์การแต่งตัวที่จัดจ้านที่สุด เธอร่วมมือกับคู่หูจอมโจรที่ชื่นชอบความวายป่วงของเธอ ช่วยกันหาเลี้ยงชีพข้างถนนลอนดอนแต่แล้ววันนึงชื่อเสียงของเธอกลับไปเข้าหู บารอนเนส วอน เฮลล์แมน (เอ็มม่า ธอมป์สัน) เจ้าแม่แฟชั่นในวงการ เรื่องราวพลิกผันทำให้ครูเอลล่าได้เปิดอีกมุมที่ร้ายของเธอ เธอมีคติประจำใจคือ อย่าร้ายกับเธอ เพราะเธอจะกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผู้เกรี้ยวกราดและเต็มไปด้วยความอาฆาต

ตัวอย่าง





ตอนเห็นตัวอย่างแรก ก็แอบคิดนะ ว่าหนังแนวนี้ จะทำออกมาให้สนุกได้ยังไง เพราะเนื้อเรื่อง ดูไม่มีอะไรเยอะเลย
 
ความรู้สึกหลังดูจบ
แต่พอหลังจากได้ดูจบ บอกเลยว่า โคตรสนุก หนังทำออกมาโคตรดี กลมกล่อม ทุกอย่างคือดีไปหมด เป็นการผสมผสานระหว่างแฟชั่น ดนตรี เพลง 
ศิลปะ และตัวละคร เข้ากันได้อย่างลงตัว

หนังมีความครบรส สนุก เศร้า และบันเทิง คือบางฉากแอบทำให้เสียน้ำตาไปกับตัวละคร 
นักแสดงคือเล่นนดี สมบทบาท น้องหมา น่ารักมากกกกกก นอกจากดัลเมเชี่ยน ตัวแย่งซีน คงต้องยกให้น้องวิงซ์ และบัดดี้ น่ารักทุกฉาก



คือกว่าครูเอลล่า จะมาเป็นตัวร้าย แบบแสบๆ ทุกย่างล้วนย่อมมีที่มาที่ไป 

บท คือปัง เนื้อเรื่องถึงแม้ไม่มีอะไรมากเลย แต่เล่าออกมาให้สนุก และมีมิติได้ ไม่มีความรู้สึกว่าน่าเบื่อเลย คือสนุก เพลินทั้งเรื่อง 
การดำเนินเรื่องชวนติดตาม ดี และสนุกมาก ทำให้เราอิน และหลงไปอยู่ในหนังกับตัวละคร คือไม่ได้เล่าเรื่องแบบเรียบง่าย หรือเส้นตรง ตามเนื้อเรื่อง 
แต่เป็นการเล่าผ่านตัวละคร และเหตุการณ์ต่างๆ สถานที่ต่างๆ ที่ไม่จำเจ เนื้อหาที่ค่อยเปิดออกมาเรื่อยๆ มีอะไรใหม่ๆ ให้ติดตามไปกับหนังตลอด
ว่าจะเป็นยังไงต่อ ชอบการใส่พาดหัวข่าว หนังสือพิมพ์ มาในหนัง เหมือนเป็นการเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือและภาพ เข้ากันดี
ชอบตัวบทของเรื่องนี้มาก คือทำเรื่องราวธรรมดาๆ ที่มีแค่แฟชั่น และตัวละครหนึ่งตัว ให้ออกมาได้หลายแง่มุม และมีความซับซ้อนของตัวบท 
และบทสรุป ที่เชื่อว่า หลายๆคนน่าจะเดาทางไม่ถูก คือมีหักมุม แบบพีคๆด้วย คาดไม่ถึงเลย ว่าจะ...







เรื่องงานสร้าง คือเริ่ด ปัง อลังการงานสร้าง มีความไฮแฟชั่น ในหนังคือมีโน่นนี่นั่น ให้มองตลอด 
เสื้อผ้า หน้าผม แต่ละชุด คือออกแบบมาได้สวยงามมากๆ ว้าว และสวยทุกชุด ชอบชุดที่จุดไฟใส่ แล้วเปลี่ยนมาก
สมกับหนังแนวเรื่องราวแฟชั่นของตัวแม่จริงๆ ที่ใช้ความความคิดสร้างสรรค์ ไอเดียการออกแบบ ออกมาประชันกัน แบบปังๆ



งานภาพ CG คือสวย ฉาก แสง สี องค์ประกอบต่างๆ จัดวางได้อย่างดี สวย และลงตัว ละสายตาไม่ได้เลย

ในส่วนของเสียง ดนตรีประกอบ และเพลง ส่วนนี้คือเป็นอีกส่วน ที่ต้องยกนิ้วให้เลย คือทำออกมาได้ดีมาก 
คือเอาเพลงในยุคๆนั้น ช่วงเวลาในหนัง มาใส่ตามอารมณ์ของหนัง ซึ่งมันเข้ากันมาก ทำให้สร้างอารมณ์ร่วม และความอินไปกับตัวหนังได้ดีสุดๆ
เพลงเยอะมาก และเพราะทุกเพลง

สำหรับคะแนนความชอบ ส่วนตัวให้ไปเลย 8.9/10 คะแนน สนุกเกินคาดมาก

เสียดายมาก ที่ไม่ได้ดูหนังดีๆ และสนุกๆแบบนี้ ในโรง คือต้องฟินมากแน่ๆ 
เตรียมรอดูภาค 2 ได้เลย มาแน่ๆ



ปล. หลังจากที่ดูทั้ง 2 เวอร์ชั่นแล้ว แนะนำให้ดูSoundtrackนะ พากย์ไทย เสียงคริส หอวัง คือไม่ได้จริงๆ ยอมรับนะ ว่าเสียงมีความแหบๆ และคล้ายเสียงเอมม่า สโตน อยู่พอสมควร แอบคิดว่า คริส ต้องทำออกมาได้ดีแน่ๆ แต่พอหลังจากที่ได้ดู ไม่ผ่าน เหมือนดารา นักร้อง หลายๆคนที่ผ่านมา ไม่รอดเกือบทุกราย พังมาก จนแทบวันนี้เวลาดูหนังค่ายดิสนี่ย์ ยอมรับว่าเป็นสาวกค่ายนี้ เพราะดูทุกเรื่อง แต่ถ้าเรื่องไหนที่เอาดารานักร้องมาพากย์ หลังๆมา ขอบายเลย เจ็บมาเยอะ 55+

ด้วยความที่ ตัวละครอื่น เป็นนักพากย์มืออาชีพอยู่แล้ว แต่ตัวละครหลัก คือนักพากย์ใหม่ ที่จะเป็นดารานักร้องเกือบทั้งนั้น เรื่องนี้ เสียงคริส คือแบบ ส่วนตัวคิดว่า มันโดดจากตัวละครอื่นเยอะมาก แปลกๆ ไม่เข้าพวกเลย ตอนเห็นตัวอย่างพากย์ไทย คิดว่าจ้อจี้ มาตัดเสียงแปะเฉยๆ ดูไม่เนียน และไม่เข้ากับหนังเลย แต่พอดูหนังของจริงเลย เหมือนตัวอย่างเดะ อารมณ์ อรรถรส คือส่งไม่ถึงตัวละคร ไม่เข้าเลย เหมือนอ่านหนังสือนิทาน

ส่วนตัวถึงแม้ชอบดูพากย์ไทย แต่เลือกที่ะดูSoundtrackมากกว่า เพราะได้อารมณ์ และไม่เสียอรรถรส พากย์ไทยของดิสนี่ย์ คือหลังๆมา ตัวเอก ที่เอาดารานักร้องมาพากย์ คือไม่ได้เลยสักคน ที่รอด ส่วนตัวคิดว่า มีแค่แก้ม หนูนา และญาญ่า ที่ดูเหมือนมืออาชีพ ขึ้นมาหน่อย ส่วน ใบเฟิร์น หญิง รฐา คริส บลาๆๆ ควรพักนะ ไม่ไหวจริงๆ 

เอาจริงๆ ดิสนี่ย์ควรเลิกเอาดารานักร้องมาพากย์ไทยได้แล้ว ควรที่จะเอานักพากย์มืออาชีพมาดีกว่า ถ้าเสียงพากย์ดี โดยเฉพาะตัวหลัง จะทำให้หนังดูมีอรรถรส ขึ้นมาเยอะเลย