⚫️⚪️⚫️⚪️
โดนพิษโควิดจนโดนถอดออกจากโรงฉายไปเลย สำหรับหนังเรื่องนี้ที่อุตส่าห์วางตัวคนพากย์เสียงเวอร์ชั่นไทยที่น่าจะลงตัวมากๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ดูในโรงหนังกันซะแล้ว เสียดายแทน แต่ก็จะถูกฉายใน Disney+ Hotstar แทน ซึ่งก็ต้องไปลุ้นกันอีกทีว่าผลตอบรับจะดีแค่ไหน แต่ผมหาดูตามช่องทางที่มันสามารถหาดูได้ แต่คงบอกไม่ได้ว่ายังไง ต้องบอกว่านอกจากหนังจะสนุกเกินคาดแล้ว ยังได้เห็น Emma Stone แผลงฤทธิ์กันแบบเต็มๆ
⚫️⚪️⚫️⚪️
เรื่องราวของความขบถในช่วงแรกเริ่มของหนึ่งในตัวร้ายชื่อกระฉ่อนจาก 101 Dalmatians “ครูเอลล่า” เรื่องที่เกิดขึ้นในลอนดอนปี 1970 ระว่างการปฏิวัติแฟชั่นสไตล์พังค์ร็อค นักต้มตุ๋นวัยรุ่นชื่อ “เอสเตลล่า” หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองผ่านการออกแบบของเธอ เธอรวมกลุ่มกับคู่หูจอมโจรที่ชื่นชอบความวายป่วงของเธอ ร่วมมือกันเพื่อหาเลี้ยงชีพของพวกเขาบนถนนแห่งลอนดอน วันหนึ่ง ประกายแฟชั่นของเอสเตลล่าได้ไปเข้าตา บารอนเนส วอน เฮลล์แมน ตำนานแฟชั่นสุดชิคและเลิศหรูที่สุดในวงการ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก่อให้เกิดเรื่องราวที่จะพลิกโฉมเอสเตลล่า ให้เปิดรับด้านมืดอันร้ายกาจของเธอและกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผู้เกรี้ยวกราดและเต็มไปด้วยความอาฆาต "ครูเอลล่า เดอ วิล"
⚫️⚪️⚫️⚪️
เรื่องนี้เป็นภาคขยายที่จะมาพูดถึงเรื่องราวของ ครูเอลล่า เดอ วิล จาก "101 Dalmatians" ดีไซน์เนอร์ผู้พิสมัยในขนสัตว์ และพร้อมจะเติมเต็มตู้เสื้อผ้าของเธอด้วยคอลเลกชั่นใหม่กับเสื้อโค้ทลายสุนัขดัลเมเชี่ยนที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการแบบแปลกๆ ของเด็กผูหญิงคนหนึ่งก่อนจะมาเป็นวายร้ายตัวแสบ ซึ่งหนังเล่าเรื่องของ ครูเอลล่า ได้ค่อนข้างละเอียดยิบ
⚫️⚪️⚫️⚪️
ความละเอียดยิบของหนังนี่แหละสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครตัวนี้ค่อนข้างเยอะมาก หนังบอกถึงมุมมอง และเหตุการณ์ที่พลิกผันให้ ขบฏสังคม คนหนึ่งลุกขึนมาเฉิดฉายในวงการแฟชั่นเทียบเคียงกับเจ้าแม่แฟชั่นที่มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้ว และก็ยังสร้างน้ำหนักเหตุผลให้เป็นแรงดึงดูดที่จะโค่นล้มเจ้าแม่แฟชั่นคนเก่าให้จมดินอีกด้วย
⚫️⚪️⚫️⚪️
ถ้าบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังของ Fashionista โดยเฉพาะก็คงจะพูได้ไม่เต็มปาก เพราะถึงแม้หนังจะเป็นแนวสู้รบปรบมือกันด้วยแฟชั่น แต่หนังก็มีปมที่ให้หนังเอามาขยี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ จนกลายเป็นความเข้มข้ม แถมยังมีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง ยิ่งทำให้ออกมาเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแบบสุดๆ
⚫️⚪️⚫️⚪️
ถ้าบอกว่าใน "101 และ 102 Dalmatians" บท "Cruella" ของ "Glenn Close" คือที่สุดของหนังแล้ว ต้องบอกว่าในเวอร์ชั่นของ "Emma Stone" ก็คือที่สุดเช่นกัน เผลอๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะด้วยเวอร์ชั่นของ "Glenn Close" นั้นออกจะดูเป็นหนังที่สร้างมาเพื่อเป็นหนังครอบครัว หรือหนังที่จับกลุ่มคนดูอายุน้อยเป็นหลัก แต่เวอร์ชั่นของ "Emma Stone" นั้นออกจะ Realistic, โตเป็นผู้ใหญ่ และดาร์คกว่ามากพอสมควร ซึ่งมันคือความแตกต่างที่เรียกคนดูในวัยที่โตขึ้นได้แน่นอน
⚫️⚪️⚫️⚪️
ส่วนตัวผมชอบนะ สำหรับเวอร์ชั่นนี้ ชอบมากกว่าเวอร์ชั่นเก่า เพราะผมไม่ค่อยอินกับหนังแนวเด็กๆ อยู่แล้ว เรื่องนี้ออกเรียลๆ และดาร์คๆ หน่อย แถม Emma Stone ยังแสดงได้อย่างสุดยอด ทั้งมีความน่ารัก ความเผ็ช ความเปรี้ยว และความแสบในตัวเอง โดยเฉพาะฉากเปิดตัว Cruella ในชุดสีแดงสด เรียกว่าทุกอย่างลงตัวมากๆ ก็ต้องลองดูกันครับว่า ไม่ได้ฉายโรง แต่ฉายใน Disney+ Hotstar จะมี Feedback ดีแค่ไหน
ถ้าชอบรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Cruella - การแย่งชิงความเป็นเจ้าแห่งวงการแฟชั่นของสองตัวแม่ Emma Stone คือที่สุด
⚫️⚪️⚫️⚪️
โดนพิษโควิดจนโดนถอดออกจากโรงฉายไปเลย สำหรับหนังเรื่องนี้ที่อุตส่าห์วางตัวคนพากย์เสียงเวอร์ชั่นไทยที่น่าจะลงตัวมากๆ แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ดูในโรงหนังกันซะแล้ว เสียดายแทน แต่ก็จะถูกฉายใน Disney+ Hotstar แทน ซึ่งก็ต้องไปลุ้นกันอีกทีว่าผลตอบรับจะดีแค่ไหน แต่ผมหาดูตามช่องทางที่มันสามารถหาดูได้ แต่คงบอกไม่ได้ว่ายังไง ต้องบอกว่านอกจากหนังจะสนุกเกินคาดแล้ว ยังได้เห็น Emma Stone แผลงฤทธิ์กันแบบเต็มๆ
⚫️⚪️⚫️⚪️
เรื่องราวของความขบถในช่วงแรกเริ่มของหนึ่งในตัวร้ายชื่อกระฉ่อนจาก 101 Dalmatians “ครูเอลล่า” เรื่องที่เกิดขึ้นในลอนดอนปี 1970 ระว่างการปฏิวัติแฟชั่นสไตล์พังค์ร็อค นักต้มตุ๋นวัยรุ่นชื่อ “เอสเตลล่า” หญิงสาวผู้ชาญฉลาดและมีความคิดสร้างสรรค์ มุ่งมั่นที่จะสร้างชื่อให้กับตัวเองผ่านการออกแบบของเธอ เธอรวมกลุ่มกับคู่หูจอมโจรที่ชื่นชอบความวายป่วงของเธอ ร่วมมือกันเพื่อหาเลี้ยงชีพของพวกเขาบนถนนแห่งลอนดอน วันหนึ่ง ประกายแฟชั่นของเอสเตลล่าได้ไปเข้าตา บารอนเนส วอน เฮลล์แมน ตำนานแฟชั่นสุดชิคและเลิศหรูที่สุดในวงการ แต่ความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ก่อให้เกิดเรื่องราวที่จะพลิกโฉมเอสเตลล่า ให้เปิดรับด้านมืดอันร้ายกาจของเธอและกลายเป็นเจ้าแม่แฟชั่นผู้เกรี้ยวกราดและเต็มไปด้วยความอาฆาต "ครูเอลล่า เดอ วิล"
⚫️⚪️⚫️⚪️
เรื่องนี้เป็นภาคขยายที่จะมาพูดถึงเรื่องราวของ ครูเอลล่า เดอ วิล จาก "101 Dalmatians" ดีไซน์เนอร์ผู้พิสมัยในขนสัตว์ และพร้อมจะเติมเต็มตู้เสื้อผ้าของเธอด้วยคอลเลกชั่นใหม่กับเสื้อโค้ทลายสุนัขดัลเมเชี่ยนที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นการบอกเล่าถึงประวัติความเป็นมาและวิวัฒนาการแบบแปลกๆ ของเด็กผูหญิงคนหนึ่งก่อนจะมาเป็นวายร้ายตัวแสบ ซึ่งหนังเล่าเรื่องของ ครูเอลล่า ได้ค่อนข้างละเอียดยิบ
⚫️⚪️⚫️⚪️
ความละเอียดยิบของหนังนี่แหละสร้างเสน่ห์ให้กับตัวละครตัวนี้ค่อนข้างเยอะมาก หนังบอกถึงมุมมอง และเหตุการณ์ที่พลิกผันให้ ขบฏสังคม คนหนึ่งลุกขึนมาเฉิดฉายในวงการแฟชั่นเทียบเคียงกับเจ้าแม่แฟชั่นที่มีชื่อเสียงอยู่ก่อนแล้ว และก็ยังสร้างน้ำหนักเหตุผลให้เป็นแรงดึงดูดที่จะโค่นล้มเจ้าแม่แฟชั่นคนเก่าให้จมดินอีกด้วย
⚫️⚪️⚫️⚪️
ถ้าบอกว่าเรื่องนี้เป็นหนังของ Fashionista โดยเฉพาะก็คงจะพูได้ไม่เต็มปาก เพราะถึงแม้หนังจะเป็นแนวสู้รบปรบมือกันด้วยแฟชั่น แต่หนังก็มีปมที่ให้หนังเอามาขยี้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ จนกลายเป็นความเข้มข้ม แถมยังมีจุดหักมุมที่คาดไม่ถึง ยิ่งทำให้ออกมาเปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันแบบสุดๆ
⚫️⚪️⚫️⚪️
ถ้าบอกว่าใน "101 และ 102 Dalmatians" บท "Cruella" ของ "Glenn Close" คือที่สุดของหนังแล้ว ต้องบอกว่าในเวอร์ชั่นของ "Emma Stone" ก็คือที่สุดเช่นกัน เผลอๆ จะดีกว่าด้วยซ้ำ เพราะด้วยเวอร์ชั่นของ "Glenn Close" นั้นออกจะดูเป็นหนังที่สร้างมาเพื่อเป็นหนังครอบครัว หรือหนังที่จับกลุ่มคนดูอายุน้อยเป็นหลัก แต่เวอร์ชั่นของ "Emma Stone" นั้นออกจะ Realistic, โตเป็นผู้ใหญ่ และดาร์คกว่ามากพอสมควร ซึ่งมันคือความแตกต่างที่เรียกคนดูในวัยที่โตขึ้นได้แน่นอน
⚫️⚪️⚫️⚪️
ส่วนตัวผมชอบนะ สำหรับเวอร์ชั่นนี้ ชอบมากกว่าเวอร์ชั่นเก่า เพราะผมไม่ค่อยอินกับหนังแนวเด็กๆ อยู่แล้ว เรื่องนี้ออกเรียลๆ และดาร์คๆ หน่อย แถม Emma Stone ยังแสดงได้อย่างสุดยอด ทั้งมีความน่ารัก ความเผ็ช ความเปรี้ยว และความแสบในตัวเอง โดยเฉพาะฉากเปิดตัว Cruella ในชุดสีแดงสด เรียกว่าทุกอย่างลงตัวมากๆ ก็ต้องลองดูกันครับว่า ไม่ได้ฉายโรง แต่ฉายใน Disney+ Hotstar จะมี Feedback ดีแค่ไหน
ถ้าชอบรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้