คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 19
ผมรอให้ผ่านไป 72 ชม หลังจากตั้งกระทู้แล้วค่อยมาตอบทีเดียว จะได้ไม่ต้องมานั่งตอบทีละกระทู้นะครับ
1. กระทู้ต้นเรื่องดังกล่าวมีคนคอมเมนท์ 140 กว่า ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ มีคนเอาไปลงใน FB มีคนกดไลค์ 9.8 พัน มีคนเข้าไปเมนท์อีก 1000 กว่าครั้ง แชร์ออกไปอีก 310 ครั้ง ( https://www.facebook.com/pantipded/posts/6442677475772568 ) โดย 99% จะเป็นการคล้อยตามคนแต่งเรื่องและให้ความเห็นเรื่องการปฎิเสธหรือไม่ก็ตำหนิ ผจก ในกระทู้ว่าแย่มาก เห็นแก่ตัว มนุษย์ป้า ฯลฯ มันน่าแปลกใจหรือไม่ที่คนส่วนใหญ่ไม่กังขาใน integrity ของกระทู้นั้น ทั้งๆ ที่ถ้าอ่านอย่างพิจารณาแบบไม่ต้องลึกซึ้งมากก็น่าจะเห็นความผิดปกติแล้ว
2. ผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างอะไรที่กับที่เราเรียน calculus แต่จบมาแล้วมีคนจำนวนน้อยมากที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน การมานั่งแยกแยะกระทู้ดังกล่าวช่วยให้ผมได้ฝึกสมอง ได้ฝึกการเชื่อมโยงเรื่องราว ผมว่าดีกว่าอ่านผ่านๆ แล้วเออออตามโดยที่ไม่สงสัยอะไรเลย
3. ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงเรื่องการใช้เวลา ผมอยากบอกว่าถ้ามีเหตุการณ์อื่น ธุรการงานอื่นที่สำคัญกว่า ผมไม่เคยทอดทิ้ง ผมรับผิดชอบหน้าที่การงานผมสมบูรณ์แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง ผมไม่ได้อุทิศเวลาทั้งหมดที่มีมานั่งเขียนกระทู้นี้ ผมใช้เวลาว่างที่ผมมี นั่งจิบกาแฟแล้วค่อยๆ เรียบเรียงทีละข้อแล้วยกประเด็นขึ้นมาเป็นกระทู้ใหม่ เพลินดีไม่ต่างกับการต่อ jigsaw วันละชิ้นสองชิ้นจนสมบูรณ์ครับ
4. ในสังคมปัจจุบันมี fake news เยอะแยะมากแล้ว ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสุขภาพ กินอันนั้นแล้วจะหาย ทำอย่างนี้แล้วจะสุขภาพจะดีขึ้น ฯลฯ ผมแค่จะบอกว่ากระทู้ต้นเรื่องก็คือ fake news รูปแบบหนึ่ง ผมแค่แยกแยะให้เห็นเท่านั้นเองว่า fake อย่างไร ผมไม่ใช่หน่วยต่อต้าน fake news แต่ผมแค่ชอบพิสูจน์สิ่งที่ผมเห็นว่ามันเป็น red flag
5. ผมได้อะไรจากเรื่องนี้ - อย่างแรก ผมเป็นคนที่เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วจะไม่อยู่เฉย จะทำเท่าที่สามารถทำได้ อย่าที่สอง ผมสนุกกับการจับโป๊ะครับ แต่เรื่องนี้ผมยังยินดีรับฟังเจ้าของต้นเรื่องถ้าเขาสามารถอธิบายได้หมด หรือบอกได้ชัดเจนว่ามีอะไรที่ผมเข้าใจผิด ผมก็ยินดีรับฟัง
ผมยินดีจะตอบความเห็นเพิ่มเติมนะครับ แต่คงไม่ได้มาไล่ตอบแบบความเห็นต่อความเห็น อาจจะมาสรุปทีเดียวภายหลัง
1. กระทู้ต้นเรื่องดังกล่าวมีคนคอมเมนท์ 140 กว่า ขึ้นเป็นกระทู้แนะนำ มีคนเอาไปลงใน FB มีคนกดไลค์ 9.8 พัน มีคนเข้าไปเมนท์อีก 1000 กว่าครั้ง แชร์ออกไปอีก 310 ครั้ง ( https://www.facebook.com/pantipded/posts/6442677475772568 ) โดย 99% จะเป็นการคล้อยตามคนแต่งเรื่องและให้ความเห็นเรื่องการปฎิเสธหรือไม่ก็ตำหนิ ผจก ในกระทู้ว่าแย่มาก เห็นแก่ตัว มนุษย์ป้า ฯลฯ มันน่าแปลกใจหรือไม่ที่คนส่วนใหญ่ไม่กังขาใน integrity ของกระทู้นั้น ทั้งๆ ที่ถ้าอ่านอย่างพิจารณาแบบไม่ต้องลึกซึ้งมากก็น่าจะเห็นความผิดปกติแล้ว
2. ผมรู้สึกว่ามันไม่ต่างอะไรที่กับที่เราเรียน calculus แต่จบมาแล้วมีคนจำนวนน้อยมากที่ได้ใช้ในชีวิตประจำวัน การมานั่งแยกแยะกระทู้ดังกล่าวช่วยให้ผมได้ฝึกสมอง ได้ฝึกการเชื่อมโยงเรื่องราว ผมว่าดีกว่าอ่านผ่านๆ แล้วเออออตามโดยที่ไม่สงสัยอะไรเลย
3. ขอบคุณท่านที่เป็นห่วงเรื่องการใช้เวลา ผมอยากบอกว่าถ้ามีเหตุการณ์อื่น ธุรการงานอื่นที่สำคัญกว่า ผมไม่เคยทอดทิ้ง ผมรับผิดชอบหน้าที่การงานผมสมบูรณ์แบบไม่มีขาดตกบกพร่อง ผมไม่ได้อุทิศเวลาทั้งหมดที่มีมานั่งเขียนกระทู้นี้ ผมใช้เวลาว่างที่ผมมี นั่งจิบกาแฟแล้วค่อยๆ เรียบเรียงทีละข้อแล้วยกประเด็นขึ้นมาเป็นกระทู้ใหม่ เพลินดีไม่ต่างกับการต่อ jigsaw วันละชิ้นสองชิ้นจนสมบูรณ์ครับ
4. ในสังคมปัจจุบันมี fake news เยอะแยะมากแล้ว ทั้งเรื่องการเมือง เรื่องเศรษฐกิจ เรื่องสุขภาพ กินอันนั้นแล้วจะหาย ทำอย่างนี้แล้วจะสุขภาพจะดีขึ้น ฯลฯ ผมแค่จะบอกว่ากระทู้ต้นเรื่องก็คือ fake news รูปแบบหนึ่ง ผมแค่แยกแยะให้เห็นเท่านั้นเองว่า fake อย่างไร ผมไม่ใช่หน่วยต่อต้าน fake news แต่ผมแค่ชอบพิสูจน์สิ่งที่ผมเห็นว่ามันเป็น red flag
5. ผมได้อะไรจากเรื่องนี้ - อย่างแรก ผมเป็นคนที่เห็นอะไรที่ไม่ถูกต้องแล้วจะไม่อยู่เฉย จะทำเท่าที่สามารถทำได้ อย่าที่สอง ผมสนุกกับการจับโป๊ะครับ แต่เรื่องนี้ผมยังยินดีรับฟังเจ้าของต้นเรื่องถ้าเขาสามารถอธิบายได้หมด หรือบอกได้ชัดเจนว่ามีอะไรที่ผมเข้าใจผิด ผมก็ยินดีรับฟัง
ผมยินดีจะตอบความเห็นเพิ่มเติมนะครับ แต่คงไม่ได้มาไล่ตอบแบบความเห็นต่อความเห็น อาจจะมาสรุปทีเดียวภายหลัง
แสดงความคิดเห็น
เพิ่งซื้อรถแต่พี่ที่ทำงานขอติดรถกลับบ้านทุกวัน : เรื่องจริงหรือนิยาย??
ตอนแรกที่ผมอ่านถ้าไม่คิดอะไรมากก็คงมีอารมณ์ร่วมไปกับ จขกท นั้นและคล้ายๆ กับสมาชิกหลายท่านที่เข้ามาให้ความเห็น
แต่ถ้าลองอ่านอย่างพิจารณา ผมว่ามันมีอะไรแปลกๆ ที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง รวมถึงการตอบคำถามของ จขกท นั้นที่ผมว่าขัดแย้งกันเกินกว่าจะเป็นไปได้ และพอผมถามลงไปในรายละเอียดก็ไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด และหลังๆ กลายเป็นว่ามาตำหนิที่ผมดันไปถามอีกต่างหาก
ผมเลยคิดว่าอยากขอยกเรื่องดังกล่าวมาตั้งกระทู้ใหม่ เพื่อรับฟังความเห็นของสมาชิกท่านอื่นและรวมถึง จขกท นั้นหากยินดีเข้ามาชี้แจงด้วย
ผมขอแยกแต่ละประเด็นลงไปในแต่ละความเห็น เพื่อที่ว่าหากสมาชิกท่านใดมีความเห็นต่อประเด็นใด จะได้ให้ความเห็นตรงไปที่ประเด็นนั้นเลย
ผมขอออกตัวก่อนว่าผมไม่รู้จัก จขกท นั้นเป็นการส่วนตัวหรือมีเรื่องโกรธเคืองมาก่อนแต่อย่างใด การตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากจะบอกว่าเรื่องที่ จขกท นั้นเล่ามาไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง