เทคนิคเล่าเรื่อง เพื่อทำคอนเทนต์❤️
👉ในยุคสมัยนี้การเล่าเรื่อง และแชร์ไปยังในโลกโชเชียลต่าง ๆ เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยจุดประสงค์คือ การสร้างรายได้หรือการทำคอนเทนต์ให้คนสนใจจากการเล่าเรื่อง แต่จะมีเทคนิคไหน⁉️ ที่ทำให้คนฟังสามารถเข้าถึงและอยากติดตามคุณได้ ต้องทำยังไง แก้ไขจุดไหน มาดูกันครับ…..
💚💚ช่วงนี้กระแสการทำวีดิโอเกี่ยวกับการเล่าเรื่องกำลังมาแรง สิ่งที่คล้าย ๆ กันที่สุดที่ทำให้คนที่ทำเกี่ยวกับการเล่าเรื่องสามารถประสบความสำเร็จ
❤️นั่นก็คือ การเล่าเรื่องโดยใส่ “ความเป็นตัวตนของตัวเองลงไป”❤️
💡💡ดังนั้น วันนี้ผมเลยอยากจะมาพูดถึงเทคนิคการเล่าเรื่อง เพื่อทำคอนเทนต์ของคุณให้น่าสนใจ และน่าติดตามมากขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้ก็ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเขียนแคปชั่นเพื่อเล่ารายละเอียดเรื่องราวของสินค้า หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
👍👍ซึ่งเทคนิคการเล่าเรื่องง่าย ๆ เพื่อทำคอนเทนต์มีดังนี้
✅การเล่าเรื่องจริง : ทุกครั้งที่คุณได้ถ่ายทอดหรือเล่าเรื่องจริงออกมาให้คนได้ฟัง สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ ไม่ว่าคุณจะพูดเรื่องนี้กี่ครั้งคุณก็ยังเล่าได้เหมือนเดิม และคนฟังก็จะรับรู้ได้ว่าคุณจริงใจและจะอินกับสิ่งนั้นได้ง่ายกว่าหรือถึงอารมณ์ได้มากกว่าการที่คุณเล่าเรื่องโกหก
✅อย่าอาย : เพราะการเล่าเรื่องจริง มักเป็นสิ่งไม่ตาย บางคนอาจจะเข้าถึงเรื่องของคุณ ได้มากกว่าการที่คุณปั้นเรื่องขึ้นมาก็ได้ และในยุคปัจจุบันก็มีคนหันมาทำคลิปหรือเล่าในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ก็มีมากมาย เพราะฉะนั้น คุณไม่ต้องอายครับ หากคุณทำดีหรือไม่ดีสักพักคนก็ลืมแล้ว
✅อย่าโกหก : เพราะบางคนอาจจะเล่าเรื่องจริงก็มีแต่ก็อาจจะมีการโกหกผสมเข้าไป ทำให้การเล่าเรื่องครั้งต่อไปของคุณ คุณอาจจะเล่าไม่เหมือนเดิมก็ได้และคนที่ฟังก็จะรับรู้ได้เองว่าเรื่องที่คุณเล่าไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
✅ต้องรู้ว่าคนฟัง : รู้อะไรมาแล้วบ้าง : บางคนอาจลืมคิดไปว่าการเล่าเรื่องควรมีเกริ่นนำที่ไปที่มาก่อน สมมุติว่า คุณได้เล่าเรื่องอะไรไปแล้วซักอย่างนึง และมีการเล่าต่อในตอนต่อไป พอเข้าสู่ตอนใหม่คุณก็พูดเรื่องใหม่โดยไม่ได้บอกที่มาที่ไปของตอนที่แล้ว พอมีคนที่เข้ามาฟังที่เป็นคนใหม่ก็อาจจะงงได้ว่าคุณกำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ ฉะนั้นคุณควรจะต้องรู้ว่าคนฟังเขารู้อะไรมาบ้าง และเรื่องไหนที่คุณจะต้องเกริ่นนำหรือเท้าความให้เหมาะสม และคนฟังก็จะได้รู้ว่าคุณก็สามารถเล่าเรื่องได้ดี
คนฟังได้อะไร : ซึ่งอาจจะแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ
🌟1.) ด้านอารมณ์ อาจจะแบ่งออกเป็น ความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งคนฟังก็ต้องใช้สติ
🌟และส่วนที่ 2.) เหตุผล หลัก ๆ ก็คือความรู้ เช่น ผมมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจออนไลน์และผมได้เล่าเรื่องนี้ให้คุณติดตาม และคุณก็สามารถนำเรื่องจริงที่ผมเล่าไปใช้ได้จริง เพราะฉะนั้นคนฟังต้องได้รับอย่างใดอย่างหนึ่ง จากสิ่งที่คุณจะสื่อหรือเล่าเรื่องออกมา
💡💡ดังนั้น หากคุณมีไอเดียหรือประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งคุณสามารถเล่าหรือแชร์ประสบการณ์ได้จากสิ่งที่คุณเจอ เพราะถ้าหากมันคือความจริงและเป็นสิ่งที่แปลกใหม่คนก็จะเริ่มอินและเข้าใจง่ายมากขึ้นและเมื่อคุณสามารถทำได้ครบทั้ง 5 ข้อนี้ ผมเชื่อว่าคุณสามารถมีผู้ติดตามและอยากจะฟังเรื่องที่อยากจะเล่าอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างครับ ดูไม่ยากเลยใช่ไหม❓❓ในเริ่มแรกคุณอาจจะติดขัด บ้าง แต่ถ้าคุณได้ทำบ่อย ๆ คุณก็จะสามารถผ่านมันไปได้ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะประสบความสำเร็จจากการที่คุณเล่าเรื่องก็เป็นได้ หรือถ้าใครมีไอเดียในการเล่าเรื่อง การทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ สามารถมาพูดคุยหรือคอมเมนต์ได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 😊😊😊
===========
วรัทภพ รชตนามวงษ์
เทคนิคเล่าเรื่อง เพื่อทำคอนเทนต์❤️
👉ในยุคสมัยนี้การเล่าเรื่อง และแชร์ไปยังในโลกโชเชียลต่าง ๆ เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น โดยจุดประสงค์คือ การสร้างรายได้หรือการทำคอนเทนต์ให้คนสนใจจากการเล่าเรื่อง แต่จะมีเทคนิคไหน⁉️ ที่ทำให้คนฟังสามารถเข้าถึงและอยากติดตามคุณได้ ต้องทำยังไง แก้ไขจุดไหน มาดูกันครับ…..
💚💚ช่วงนี้กระแสการทำวีดิโอเกี่ยวกับการเล่าเรื่องกำลังมาแรง สิ่งที่คล้าย ๆ กันที่สุดที่ทำให้คนที่ทำเกี่ยวกับการเล่าเรื่องสามารถประสบความสำเร็จ
❤️นั่นก็คือ การเล่าเรื่องโดยใส่ “ความเป็นตัวตนของตัวเองลงไป”❤️
💡💡ดังนั้น วันนี้ผมเลยอยากจะมาพูดถึงเทคนิคการเล่าเรื่อง เพื่อทำคอนเทนต์ของคุณให้น่าสนใจ และน่าติดตามมากขึ้น ซึ่งเทคนิคนี้ก็ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการเขียนแคปชั่นเพื่อเล่ารายละเอียดเรื่องราวของสินค้า หรือผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อีกด้วย
👍👍ซึ่งเทคนิคการเล่าเรื่องง่าย ๆ เพื่อทำคอนเทนต์มีดังนี้
✅การเล่าเรื่องจริง : ทุกครั้งที่คุณได้ถ่ายทอดหรือเล่าเรื่องจริงออกมาให้คนได้ฟัง สิ่งที่คุณจะได้รับก็คือ ไม่ว่าคุณจะพูดเรื่องนี้กี่ครั้งคุณก็ยังเล่าได้เหมือนเดิม และคนฟังก็จะรับรู้ได้ว่าคุณจริงใจและจะอินกับสิ่งนั้นได้ง่ายกว่าหรือถึงอารมณ์ได้มากกว่าการที่คุณเล่าเรื่องโกหก
✅อย่าอาย : เพราะการเล่าเรื่องจริง มักเป็นสิ่งไม่ตาย บางคนอาจจะเข้าถึงเรื่องของคุณ ได้มากกว่าการที่คุณปั้นเรื่องขึ้นมาก็ได้ และในยุคปัจจุบันก็มีคนหันมาทำคลิปหรือเล่าในช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ก็มีมากมาย เพราะฉะนั้น คุณไม่ต้องอายครับ หากคุณทำดีหรือไม่ดีสักพักคนก็ลืมแล้ว
✅อย่าโกหก : เพราะบางคนอาจจะเล่าเรื่องจริงก็มีแต่ก็อาจจะมีการโกหกผสมเข้าไป ทำให้การเล่าเรื่องครั้งต่อไปของคุณ คุณอาจจะเล่าไม่เหมือนเดิมก็ได้และคนที่ฟังก็จะรับรู้ได้เองว่าเรื่องที่คุณเล่าไม่ใช่ความจริงทั้งหมด
✅ต้องรู้ว่าคนฟัง : รู้อะไรมาแล้วบ้าง : บางคนอาจลืมคิดไปว่าการเล่าเรื่องควรมีเกริ่นนำที่ไปที่มาก่อน สมมุติว่า คุณได้เล่าเรื่องอะไรไปแล้วซักอย่างนึง และมีการเล่าต่อในตอนต่อไป พอเข้าสู่ตอนใหม่คุณก็พูดเรื่องใหม่โดยไม่ได้บอกที่มาที่ไปของตอนที่แล้ว พอมีคนที่เข้ามาฟังที่เป็นคนใหม่ก็อาจจะงงได้ว่าคุณกำลังเล่าเรื่องอะไรอยู่ ฉะนั้นคุณควรจะต้องรู้ว่าคนฟังเขารู้อะไรมาบ้าง และเรื่องไหนที่คุณจะต้องเกริ่นนำหรือเท้าความให้เหมาะสม และคนฟังก็จะได้รู้ว่าคุณก็สามารถเล่าเรื่องได้ดี
คนฟังได้อะไร : ซึ่งอาจจะแบ่งออกได้เป็น 2 ส่วน คือ
🌟1.) ด้านอารมณ์ อาจจะแบ่งออกเป็น ความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง ซึ่งคนฟังก็ต้องใช้สติ
🌟และส่วนที่ 2.) เหตุผล หลัก ๆ ก็คือความรู้ เช่น ผมมีประสบการณ์ในการทำธุรกิจออนไลน์และผมได้เล่าเรื่องนี้ให้คุณติดตาม และคุณก็สามารถนำเรื่องจริงที่ผมเล่าไปใช้ได้จริง เพราะฉะนั้นคนฟังต้องได้รับอย่างใดอย่างหนึ่ง จากสิ่งที่คุณจะสื่อหรือเล่าเรื่องออกมา
💡💡ดังนั้น หากคุณมีไอเดียหรือประสบความสำเร็จในเรื่องใดเรื่องหนึ่งคุณสามารถเล่าหรือแชร์ประสบการณ์ได้จากสิ่งที่คุณเจอ เพราะถ้าหากมันคือความจริงและเป็นสิ่งที่แปลกใหม่คนก็จะเริ่มอินและเข้าใจง่ายมากขึ้นและเมื่อคุณสามารถทำได้ครบทั้ง 5 ข้อนี้ ผมเชื่อว่าคุณสามารถมีผู้ติดตามและอยากจะฟังเรื่องที่อยากจะเล่าอย่างแน่นอน
เป็นอย่างไรบ้างครับ ดูไม่ยากเลยใช่ไหม❓❓ในเริ่มแรกคุณอาจจะติดขัด บ้าง แต่ถ้าคุณได้ทำบ่อย ๆ คุณก็จะสามารถผ่านมันไปได้ ไม่แน่ว่าคุณอาจจะประสบความสำเร็จจากการที่คุณเล่าเรื่องก็เป็นได้ หรือถ้าใครมีไอเดียในการเล่าเรื่อง การทำคอนเทนต์ใหม่ ๆ สามารถมาพูดคุยหรือคอมเมนต์ได้ตามด้านล่างนี้เลยนะครับ 😊😊😊
===========
วรัทภพ รชตนามวงษ์