** แถลงการณ์คณะไวรัสลึกลับ **

แถลงการณ์คณะไวรัสลึกลับ  
 
                                                                                                                                          เขียนที่..รีสอร์ทปอด, ตับ&ไต ปลีกวิเวกนิเวศรม
                                                                                                                                          วัน/เวลา ::  สยองขวัญนิรันดร

กราบเรียนมนุษย์ทรุดโทรมนัส
 
          เหอ.. เหอ.. เมื่อเช้าข้าฯตื่นมาชักรถแก้วอุษาโยค ปรากฏว่าเพลาล้อหักคาแสงพระอรุณสวัสดิ์ สหัส-แสงร่ำไห้เป็นสายรังสีสีโลหิต ดอกอุตพิดที่เคยเหม็นกลายเป็นหอมหึ่งจนผึ้งอัตตามาดอมดม ทุกตัวต่างอุทาน “นรก ชัด ๆ!!” 
         กาตัวหนึ่งหน้าถอดสี ขนร่วงเปลือยเปลืองสกนธ์กายเผยผ่องนวลฉวีสีขาว  หาวเมฆเปื้อนคราบฝุ่นสองจุดห้ามหาประลัยโลกัยภพ สลบอยู่ระหว่างขอบจักรวาลและสรวงสวรรค์ ดาราสั่นอกนิษฐ์ไหวไปสามโลก
         ฤๅนี่คือวิกฤติการณ์ประหารห่าโฉดชั่วสามานย์เดนนรกฉาวโฉ่อย่างพวกเจ้า ??!!

         บังเอิญข้าฯได้แฮกข้อมูลไลน์กลุ่มของสามเทพ คือ เทวทูต, ยมทูต, และกบกะลาแลนด์ จึงขอนำมาเผยแผ่เป็นวิทยามาระสาร ดังนี้...
 
         “สายัณห์เพลาแล้ว ข้ายื่นสารโทรพิมพ์ส่งสักกะเทวาธิราช เจตจำนงลาออกจากงานดูแลปุยเมฆ, หมอกฟ้า, น้ำค้าง และดาราจักร เนื่องด้วยป่วยไข้ประหลาดไม่ทราบที่มาที่ไป...”
         เทวทูตรัฐมนตรีด้านดูแลสิ่งแวดล้อมจักรวาลบ่นให้กับสหายสองหน่อฟัง
 
         “ข้าฯก็ยื่นใบลาออกแล้วเช่นกัน แต่ยมราชไท้ยังไม่ยอมเซ็นอนุมัติให้เลย ช่างบังเอิญซะจริง ๆ...”
          ยมทูตเอ่ยบ้าง หลังไอใส่หน้าสุวานนรกชุดใหญ่แบบฟาสต์เดลิเวอรี่
 
           กบชรากะลาแลนด์ ตัวหนึ่งซึ่งกำลังป่วยด้วยโรคที่อาการคล้ายไข้หวัดใหญ่อดรนทนไม่ไหวกล่าวแทรกบรรยากาศอันวิเวกวังเวง
          “ข้าฯน้อยถูกกักในกะลาแลนด์มาสิบวารอสงไขยแล้ว ไม่ทราบว่าท่านทั้งสองมีเรื่องอันใดไม่สบายใจรึ ?”
          ยมทูตกับเทวทูต พูดเกือบพร้อมกัน
          “เรารู้สึกมีไข้ไม่สบาย...”
 
           เทวทูตยกมือขอกล่าวก่อน 
          “เชิญท่านรัฐมนตรีฯพูด...”   ประหนึ่งประธานสภา, กบกะลาแลนด์เอ่ยอนุญาต
          “เรามีอาการ ไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก อัฏฐะวารที่แล้วโทรจิตสั่งซื้อยาพารามหาวินาศเก็บไว้ในคลังทิพย์จักรวาล เอาออกมาเสวยสองเม็ดมหาธุลี อาการก็ยังเหมือนเดิม เฮ้อ!”
          “ท่านเคยไปเยือนเหนือฟ้านครอู่ฮั่น จีนแดง หรือไม่ขอรับ ?”
          “อ้อ.. เคย เคย เคย เราเคยไปเมื่อสัตมะวารก่อน ”
 
           กบกะลาซึ่งอปโลกน์เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้ความเห็น…
          “เป็นไปได้ว่าอาจได้รับเชื้อไวรัสมฤตยูจากบรรยากาศชั้นเทอร์โมสเฟียร์ ด้วยอากาศเย็นยะเยือกราวหิมะแช่แข็งและประจุไอออนบวก เอื้อเฟื้อต่อประชากรไวรัสสร้างอาณานิคมจุลชีวะพิรามไว้ระหว่างลานอนรรฆเมฆและสายรุ้งวิโรฒนาลัย ไวรัสหุ่นยนต์เหล่านี้พัฒนาสายพันธะอะตอมอาเอ็นเอให้หลุดพ้นวัฏฏะสงสารอกาลิโกโลกียะมาระยะหนึ่งแล้วแต่ยังไม่ถึงขั้นนิรพาน” 
 
          “อาการไข้ ไอ เจ็บคอ เหนื่อยสังขาร คล้ายข้าฯเลย โอ! นี่หรือว่าข้าฯจะเป็น...”
          “ก่อนหน้านี้เจ้าได้สัมผัสผู้ป่วยโควิดมรณะ รึเปล่า ?”  กบแง้มกะลาถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
          “ฉกวารก่อน ข้าฯ ได้เฆี่ยนตีสัตว์มนุษย์อุบาทว์ซึ่งลักลอบค้าหน้ากากอนามัยให้กองทัพจีนแดงทางออนไลน์ ทางโลกมนุษย์เอาผิดมันไม่ได้เพราะมันเส้นใหญ่โตคับฟ้าจากขอบจักรวาลซ้ายทะลุขอบจักรวาลขวา ขนาดหมายังไม่กล้าสบตา แม้แต่จับได้ว่ามันเคยโพสต์อวดทางวิดีโอ  แต่มันบอกว่าของคนอื่นซะงั้น ตอนที่ข้าฯเอาเหล็กเส้นโลหิตไหลมหากาฬ ฟาดใส่แผ่นหลังสวะโสมมของมัน มันหันหน้าอันแสนทุเรศทวีคุณของมันแล้วตะคอกกักขฬะน้ำลายของมันออกมาเป็นเลขห้าอารบิกสามตัวตกใส่ลิ้นของข้าฯ ข้าบ้วนทิ้งไม่ทัน เผลอเขมือบเข้าไป... เฮ้อ!”
 
        “อืมมม..ดูจากระยะฟักเชื้อแล้วเป็นไปได้”  ท่านเทวทูตเสนอข้อวินิจฉัย
        “พวกเราลองให้ท่านสักกะเทวาธิราชเจ้า ลองใช้เนตรทิพย์ส่องดูปอดพวกเราดีไหม  ว่าสุขสภาพเนื้อปอดด้านในเป็นเยี่ยงไร?”
        “ก็ดีเหมือนกัน”    เหล่าปราณีที่เหลือเห็นด้วย
 
         อัสดงเพลานั้น ท้าวสักกะกำลังเล่นรัมมี่พิศวาสอยู่กับเหล่าจตุรอัปสรสวรรค์นางสนม, ไวชั่วตดไม่ทันหายเหม็น  สามปราณสามวาระสามสังขาร ก็หายตัวแวบมาอยู่ต่อหน้าจอมไท้ทิพย์สรวงเสียแล้ว 
 
          “พวกเจ้ามาหาข้าฯมีประสงค์การย์ใดรึ ?”
          “กราบเท้าท่านสักกะผู้ทรงบารมีบุญญามหิทธิเดช บัดนี้ข้าฯสามสหายมีเรื่องเดือดร้อนรนหฤทัย ใคร่ขอท่านไท้ช่วยคลี่คลายความวิตกจริตให้พวกข้าฯด้วยเทอญ”
          “จงกล่าวแบบไม่ต้องน้ำท่วมทุ่งผักบุ้งโหรงเหรง จงว่ามาให้ตรงประเด็นเถิด”
 
          “พวกข้าฯล้วนป่วยไม่สบายด้วยโรคประหลาด หวาดหวั่นว่าจะเป็นไข้โควิด19 จึงขอท่านผู้มีพระเนตรทิพย์จงช่วยแผ่รังสีชไมเนตร ชม้ายมายังปอดพวกข้าฯหน่อยเถิด ว่าอณูเนื้อปอดแต่ละปราณนั้นสภาพเป็นเยี่ยงไร?”
            “เอาล่ะ ข้าฯจะลองส่องดู” 
           สิ้นพระสุรเสียงนีรนาท พระองค์ทรงส่องเนตรทิพย์ฉายฉัพพรรณรังสีมายังหน้าอกสามสหาย บันดลให้มีอันร้อนผะผ่าวพะพร้อยถึงเส้นเลือดฝอยวิญญาณภิยโยอลังการปานรุ้งลออมิติสวรรค์
           “อุเหม่! ปอดพวกเจ้าสามท่าน มีบางสิ่งบางอย่างผิดปกติ”
           “คืออันใด พะย่ะค่ะ ?”   กบกะลาถาม
           “ในถุงลมมีน้ำขัง เนื้อปอดพรุนคล้ายรังผึ้งแตกรัง มีฝูงอณูชีวิตบางอย่างคล้ายกองทัพหุ่นยนต์กระจิริด เคลื่อนพยู่ห์ทัพโจมตีเมืองถุงลมอันฟอนเฟะของพวกเจ้าอย่างตะกละตะกรามหิวกระโหยสุดอัประมาณ คล้ายซอมบี้ที่ไม่ได้สูบเลือดเหยื่อมาแรมร้อยศตวรรษ”
           “โอ.. มายพระเจ้า !!”   สามสหายอุทานเกือบพร้อม ๆ กัน หากจะหวิดคิวเสียงก็แค่กระผีกองคุลีจมูกมดตะนอย
           “ไม่นะ ฮือ ฮือ...โฮ...โฮ... ข้าฯแค่เสพแมลงตัวหนึ่งซึ่งรอดพ้นจากการล่าของค้างคาวมกุฎแดงแห่งถ้ำอู่ฮั่น จีนแดงแล้วเล็ดรอดกายาเข้ามาใต้กะลาแลนด์ของข้าฯ นึกไม่ถึงว่าเจ้าแมลงน้อยนั้นจะเป็นพาหะ?”
           “ไม่น่าใช่...”      เทวทูตว่า 
           “น่าจะอย่างอื่นมากกว่า เจ้าอยู่แต่ในโลกกะโหลกกะลาอันโสมม วัน ๆ เอาแต่ชี้นิ้วกราดด่าปรับทัศนคติเค้าไปมั่วซั่ว จะไปติดเชื้อจากใดได้”
           “นั่นน่ะสิ”    ยมทูตกล่าว   “เจ้าลองนึกย้อนดี ๆ ดูซิ ว่าภายในสองสัปดาห์ก่อน เจ้าแอบไปที่ไหนมารึเปล่า?”
           “อย่างข้าฯสงสัยจะติดจาก น้ำลายสัตว์อมนุษย์โกงกินหน้ากากอนามัยล้านเปอร์เซ็นต์ เป็นต้น”
           “ข้าฯนึกไม่ออกจริง ๆ ท่านท้าวสักกะโปรดชี้แนะข้าน้อยกบกะลาด้วยเถิด...”
           “เอาล่ะ เอาล่ะ ก่อนอื่นข้าฯขอร้องให้พวกท่านล้างมือและใส่หน้ากากสุขอนามัยภิรมย์ก่อน  ก่อนที่ข้าจะนั่งฌานในดูย้อนเหตุการณ์ทั้งหมด” 
 
            สักชั่วสามสิบสองรอบหายใจของจอมสุรราชไอศูรย์ ทันใดนั้น พระองค์ทรงลืมพระเนตรแล้วทอดพระเนตรทิพย์มาโปรดยังเจ้ากบในกะลาแลนด์ ทรงตรัสว่า...
           “ดูกร... เจ้ามัณฑุกน้อย เหตุที่เจ้าป่วยนั้นเนื่องจากเจ้าไวรัสนั้นได้กลายพันธุกรรมเป็นวิญญาณหุ่นพยนต์สังหารหมายเลขอสงไขยจุดศูนย์ศูนย์ พร้อมที่จะล่องลอยตามสายลมระบาดทุกทิศทางทุกหัวระแหง วารนั้นเจ้าไปประชุมสภากบเลือกนายที่สภาสามานยะรัฐ จริง ๆ ไม่มีใครป่วยดอก แต่มีคนหมั่นไส้ท่านปล่อยเชื้อทางอากาศวิปโยคโซกสะบัดซัดฝูงเชื้อมฤตยูมาแบบจัดเต็มชนิดที่หลบไม่พ้น เป็นกันทั้งสภามารหายนะกะลาแลนด์ แม้แต่อีและไอ้ปากปลาร้าขาประจำนั้นก็หลบไม่พ้นทุกขเวทนาในกาลครั้งนี้ จึ่งขอให้ท่านรีบพบแพทย์กรุณาเมตตาธรรมเพื่อเยียวยารักษาโดยด่วนทั้งสามปราณ ฉะนี้หนอ...”
 
          “อนึ่ง โรคระบาดครานี้ ข้าไม่คิดว่ามันคือวิกฤต แต่ตรงกันข้าม มันคือโอกาสที่จะได้ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง พัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเจ้าให้แข็งแรงต่อต้านสัจธรรมชีวิตดีขึ้นกว่าเดิม ผู้ใดอ่อนแอย่อมแพ้พ่ายไป ธรรมชาติจะคัดสรรพันธุกรรมที่แข็งแรงอดทนต่อสภาพแวดล้อมอันเลวร้ายเท่านั้น...”
 
          นั่น คือ ข้อความอันสวยงามหอมเหม็นบริสุทธิ์ที่ข้าฯได้รับ จึงอยากแชร์ต่อให้เศษสวะอย่างพวกเจ้าได้ลองลิ้มอรรถรสดู เหอ.. เหอ.. ไปละ!  จึ่งขอมรณะสวัสดิ์ทุกท่านที่พยายามอ่านมวลอักขระเย้ยหยันอย่างทรมานอาดูรประการฉะนี้...
 
                                                                                                                                                             จาก... @R_WUSOVIRUSMAN
                                                                                                                                                             โทรจิตติดต่อ ... หลังไมค์กัลปาวสาน 



๏ บุญบาปหายนะล้วน               กรรมดล
ดีชั่วอยู่กับตน                          ตลอดไซร้
ฤๅเชื้อโรคพิกล                     มหากาพย์
ปัดเป่าว่างเปล่าไร้                    เปลี่ยวร้างพรางสูญ ๛
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่