ย้อนวันวานกับ Yuki Ishikawa เอสและกัปตันทีมชาติญี่ปุ่น

@@ กระทู้นี้สำหรับแฟนคลับยูกินะคะ จะเป็นเรื่องราวที่เล่าถึงชีวิตในวัยเด็กและวัยเรียน ซึ่งในนิตยสาร Next4 และนิตยสารอื่นๆ ได้ลงบทสัมภาษณ์ไว้ ซึ่งบทสัมภาษณ์ใครอยากอ่านต้องเสียเงินซื้อนะ เราแปลมาจากเวบบล็อกแฟนคลับคนญี่ปุ่น และรวบรวมมา ตอนนั้นกระแสดีมาก บางปักษ์คือเกลี้ยงแผง ค่ะ @@






[im

คุณแม่มิโดริเล่าว่า ในบรรดาลูกทั้ง 3 คน คือยูกิที่มีการคลอดบุตรยากที่สุด เขาน้ำหนักเมื่อแรกเกิด 3,270 กรัม ใน รพ ตอนนั้นมีคนมารอคลอดอยู่ 10 คน คุณแม่คลอดโดยธรรมชาติ รู้สึกปวดท้องมาก แต่ก็ไม่ยอมออกสักที



คุณแม่อยู่ รพ ในเดือน ธันวาคม ซึ่งเป็นหน้าหนาวของประเทศญี่ปุ่น และในขณะนั้นหิมะก็กำลังโปรยปรายพอดี ยูกิคลอด 11 ธันวาคม คุณแม่เลยตั้งชื่อว่า Yuki ยูกิ ในภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า หิมะ

“เขาก็ตัวไม่ใหญ่มาก “( แต่ทำไมคลอดยากนะ)
ในบรรดาลูกทั้ง 3 คน เขาเดินช้ากว่าพี่น้อง และมีท่าวิ่งที่แปลกๆ คุณพ่อเป็นนักกีฑามักจะฝึกให้ลูกวิ่งบ่อยๆ บ่อยครั้งที่ล้มแล้วร้องไห้ ก็จะปล่อยให้เขาลุกขึ้นเอง”





“เขาทานนมเก่งมาก และไม่ค่อยร้องไห้ นอกจากตอนที่ฉีดวัคซีนกลับมาเป็นไข้ก็จะงอแงหน่อยๆ”

“ฉันเป็นแม่บ้าน ตอนนั้น นาโอมิ 1 ขวบ และกำลังเดิน ยูกิเพิ่งคลอด ฉันเลี้ยงลูกเอง( ไม่ได้จ้างพี่เลี้ยง) โดยมีคุณแม่(ยาย) มาช่วยเลี้ยงด้วย”

คุณยายจะเห่อหลานชายเป็นพิเศษ (ปู่ย่าตายายคนญี่ปุ่นจะชอบลูกชายและหลานชายมาก” และค่อนข้างจะตามใจ

“ ในวัยเด็กก็จะซนตามประสาเด็กผู้ชายทั่วไป ฉันก็มีดุ และมีตีด้วย “ (ยิ้ม) คุณแม่กล่าว

พ่อแม่คนอื่นอาจจะคาดหวังให้ลูกเก่งด้านวิชาการ “แต่ฉันกับสามีคุยกันอยากผลักดันให้ลูกเล่นกีฬา “

(คุณแม่ที่เป็นอดีตนักบาสเกตบอลก็เคยเล่นวอลเลย์บอลในสมัยเรียน ส่วนคุณพ่อที่เป็นอดีตนักกีฑาก็เคยเล่นฟุตบอลด้วย พ่อแม่ทั้งคู่ชอบกีฬามาก)

“กีฬาจะทำให้เขาเติบโตขึ้น มีวินัยกับตัวเอง และมีสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น” พ่อแม่ของเขาตระหนักในสิ่งนี้ดีเพราะเล่นกีฬามาทั้งชีวิต.

“ตอนประถม นาโอมิมาเล่นวอลเลย์บอลและอยู่ชมรมวอลเลย์บอลของรร และสโมสรใกล้บ้านด้วย”

“ส่วนยูกิเขาเล่นเบสบอล และมีเล่นฟุตบอลด้วยเนื่องจากอิทธิพลของเพื่อนๆตอนนั่นเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 “

ตอนแรกฉันก็ถามเขาว่า (ยูกิ) "อยากเล่นวอลเล่ย์บอลไหม" เขาก็ตอบไปว่า "ไม่อยาก ชอบฟุตบอลและเบสบอลมากกว่า”

จากนั้นเมื่อเขาอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เขาเดินตามพี่สาวไปสโมสรและเริ่มเล่นวอลเลย์บอลแล้วรู้สึกชอบมาก และศาสตราจารย์คิงามิ (ครูที่โรงเรียนประถมศึกษายาฮากิ มินามิในขณะนั้น) สอนพื้นฐานวอลเลย์บอลให้เขา สี่เดือนหลังจากนั้นเขาเริ่มเล่นวอลเลย์บอลและหลงรักอย่างจัง เขาได้ขึ้นเป็นผู้เล่นสำรองในการแข่งขันระดับชาติ และครูบอกว่ายูกิมี "ความรู้สึกดีมาก มีความสุขมาก” คุณแม่ยูกิกล่าวกับผู้สื่อข่าว

หลังจากที่ได้มาเล่นวอลเลย์บอลเขาก็มุ่งมั่นอยู่กับมันอย่างเต็มที่



@@@@@@

นี่คือบทสัมภาษณ์ของยูกิ ตอนวัย 19 ปี

หลังจากเข้าเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาเริ่มตระหนักถึงอาหารของตัวเองมากขึ้นและกินผักสดทุกวัน และจะสวมผ้ากันเปื้อนทุกครั้งเมื่อรับประทานอาหาร

“ผมชอบกินผักสลัดกับน้ำสลัดใส่ผักชีฝรั่งด้วยเหมือนกัน “(หัวเราะ)

เขาเตรียมน้ำส้ม น้ำผัก และนมไว้ในตู้เย็นเสมอและดื่มเมื่อต้องการ

“ผมไม่ชอบกินเค้กเป็นขนม และเมื่อพี่สาวซื้อเค้กมาให้ ผมก็จะบ่นเธอว่า "ซื้อมาให้ทำไม นี่ไม่ใช่สิ่งที่ฉันชอบ" (หัวเราะ)

“ผมทานอังโคโระโมจิและโดรายากิด้วยในบางครั้ง ถ้าเป็นของหวานผมชอบทานชูครีม”

เกี่ยวกับมื้ออาหาร หลายคนสงสัยว่า คุณมักจะกินอะไรเป็นพิเศษ?

“ผมทานทุกอย่างที่แม่ทำ ยกเว้นอาหารที่ใส่มะเขือเทศผมจะไม่ยอมทาน



คุณมีพี่น้อง 3 คน ความสัมพันธ์เป็นอย่างไรมีทะเลาะกันบ้างไหม?

“ผมมีพี่สาวที่ห่างกันปีเดียว เราไม่ค่อยทะเลาะกันครับ ค่อนข้างสนิทกันมาก เพราะตอนเด็กๆเล่นวอลเลย์บอลด้วยกันตลอดเราเข้ากันได้ดี”

“ส่วนน้องสาวก็เคยมีแกล้งน้องบ้าง แต่น้องสาวก็ไม่เคยโต้เถียงกับผมเลยครับ” เขาห่างกับน้องสาว 5 ปี มายู อืชิกาว่า ปัจจุบันเล่นวอลเลย์บอลในโรงเรียน





“ตอนเธอราวๆ 7-8 ขวบ (มายู) เธอจะติดตามผมกับพี่สาวไปเล่นวอลเลย์บอลที่สโมสรประจำ เธอชอบวอลเลย์บอลมาก ผมใช้ให้เธอช่วยผมทำงาน ผมบอกมาช่วยพี่หน่อยไม่งั้นพี่ไม่พาไปสโมสรด้วยนะ เธอก็ช่วยผมทำงานอย่างตั้งใจเลยครับ คงกลัวว่าจะไม่พาไปเล่นวอลเลย์บอลด้วย” (หัวเราะ)

“แล้วผมก็โดนแม่ดุว่างานของตัวเองควรทำเอง อย่ามาใช้น้อง”

“มีครั้งนึงเธอดูการ์ตูนกับคุณยายในห้องนั่งเล่นแล้วเผลอหลับไป ผมกับพีสาวเห็นว่าเธอหลับก็ไม่ได้ปลุก เราก็เลยไปสโมสรกัน 2 คน หลังจากเล่นเสร็จกลับมาบ้าน เธอร้องไห้ใหญ่เลยครับ ว่าทำไมไม่ปลุกและพาเธอไปด้วย”

“หลังจากนั้น เธอก็ไม่ยอมนอนกลางวันอีกเลย “ หัวเราะ ยูกิพูดถึงน้องสาวคนเล็ก

“พ่อแม่ผมทำงานนอกบ้านทั้งคู่ เราทั้ง 3 พี่น้องเวลาอยู่บ้านจะช่วยเหลือตนเอง และพยายามทำอะไรหลายๆอย่างด้วยตัวเอง ครั้งหนึงเมื่อผมกลับมาจากค่ายฝึกอบรมการคัดเลือกระดับมัธยมศึกษาตอนต้นของญี่ปุ่นใช้พลังงานไปกับกล้ามเนื้อหน้าท้อง ผมเจ็บหลังจากการแข่งขันระดับชาติของโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น 3 กลับมาถึงบ้านนอนซมอยู่บนโซฟา ต้องดูแลตัวเอง ประคมร้อน”

@@@@@@

หน้านี่จะพูดถึงรูปร่างของยูกิ

- ทรงผม -
“ผมไม่ค่อยใสใจเป็นพิเศษ ผมใช้แว็กซ์เมื่ออยู่ในโรงเรียนมัธยม”

・ ส่วนสูง:

“ปัจจุบัน 191 ซม. หลังจากฤดูใบไม้ผลิ มันก็เติบโตขึ้นเล็กน้อย ผมต้องการ 193 หรือ 194 ผมว่า 195 ถ้าได้ก็ดีนะ “ หัวเราะ

・ สายตา .

“ตอนเด็กๆผมชอบอ่านการ์ตูนแน่นอนทำให้สายตามีปัญหาผมสวมคอนแทคเลนส์ขนาดกลาง 2 หรือขนาดกลาง 3 ถึง 2 สัปดาห์ และสวมทุกครั้งที่ลงสนาม มีบางครั้งที่คอนแทคหลุดระหว่างแข่งจนต้องพกสำรองใส่กระเป๋าไว้ด้วย หากอยู่นอกสนามผมจะสวมใส่แว่นตา”

・ เสียง:

“มีคนทักผมว่า มีเสียงสูง บางครั้งก็มีเสียงเล็กแหลม ผมพยายามเปลี่ยนเสียงขอตัวเองในโรงเรียนมัธยม ..ผมคิดว่ามันยังคงสูงกว่า “ (พูดแบบน่ารัก)

・ ความยืดหยุ่นของร่างกาย ...

“ผมคิดว่าร่างกายของผมอ่อนโค้งเพราผมยืดตัวเป็นเวลานาน แขนของผมยาวถึงปลายนิ้วผมคิดว่ามันมีขนาดที่พอเหมาะ”



@@@@@@

พูดถึงความฮอตชีวิตในรั้วรรมัธยม

ในทุกๆปีวันวาเลนไทน์ หนุ่มมัธยมในญี่ปุ่น จะเฝ้ารอว่า มีสาวคนไหนแอบเอา ดอกกุหลาบ ของขวัญ ช็อคโกแลต การ์ดบอกรัก มาใส่ไว้ใน กระเป๋า ล็อคเกอร์ ใต้โต๊ะ ของหนุ่มๆบ้าง

สำหรับยูกิ เขาฮอตมากในหมู่สาวๆ รร มัธยมเซย์โจวันวาเลนไทน์ สาวๆจะแห่เอาของขวัญ ตุ๊กตา ช็อกโกแลต กุหลาบ มาให้ต่อหน้า ไม่มีแอบ บางคนก็มาสารภาพรัก ขอเป็นแฟน ขอไลน์ขอเบอร์โทร

“ผมได้ของขวัญจากสาวเยอะครับ บางคนให้ช๊อคโกแลต คุกกี้ ขนม ซึ่งตามหลักโภชนาการนักกีฬาจะทานของหวานมากไม่ได้ แต่ผมก็รับไว้ครับ” (มีความใส่ใจความรู้สึกสาวๆมากเลยพ่อคุณ)

“บางครั้งผมก็บอกพวกเธอตรงๆว่า ขอเอาขนมไปแบ่งให้เพื่อนๆ และไปแจกให้กับรุ่นน้องๆได้ไหม”

(สาวบางคนนี่ลงทุนไปเรียนทำขนม เรียนทำคุ๊กกี้ เพื่อเขาเลย ของขวัญหลายอย่างก็เป็น DIY ที่สาวๆตั้งใจมามอบให้ บางคนก็บอก ต้องทานให้หมดนะคะ นี่ทำเองกับมือเลย)

(ยูกิคงคิดในใจ ตายๆ เยอะขนาดนี้ ตรูจะทานหมดได้ไง ฮ่าๆ)

เพราะได้รับของขวัญเยอะมากๆในวันวาเลนไทน์เลยต้องให้คุณพ่อขับรถมารับเพื่อขนของกลับบ้าน

พูดถึงการให้กระดุมสาวหลังจบมัธยม
ดูเหมือนว่าเขาไม่ได้ให้กระดุมกับสาวคนไหนเลย

มีสาวมาขอกระดุมหลังจบการศึกษาของคุณเยอะไหม?
  
“ผู้หญิงหลายคนครับ ขอกระดุมจากผม แต่ผมก็ปฏิเสธทุกคน “ (หัวเราะ)

ผมบอกว่า  "ขอโทษด้วยครับ ผมให้ไม่ได้เพราะได้สัญญาว่าจะมอบเครื่องแบบให้ลูกพี่ลูกน้องของผมที่กำลังจะเข้าเรียนมัธยมปลายเซโจแห่งเดียวกัน”

“สาวๆน่าจะเข้าใจนะครับ เพราะชุดนักเรียนในญี่ปุ่นราคาสูงมาก “

“หลังจากนั้นพวกเธอก็ขอถ่ายรูป และขอลายเซ็น ครับ” หัวเราะ

คุณไปช้อปปิ้งบ่อยไหม?

“ผมไม่ค่อยมีเวลาไปช๊อปปิ้ง ครับ
แต่ในบางครั้ง Abercrombie Fitch ในกินซ่าจะเชิญผม ล่าสุดเพิ่งไปซื้อแว่นตาและหมวกมาสำหรับว่ายน้ำ”

ขอถามเกี่ยวกับความรักได้ไหม ? ตอนนี้คุณยังโสด

ยูกิ : ครับ ( หัวเราะ)

คุณต้องการแต่งงานตอนอายุเท่าไหร่?

ยูกิ : ราวๆ 20 ปลายๆ ครับ

ชอบผู้หญิงแบบไหน?

ยูกิ: ชอบผญที่มีอายุมากกว่าครับ

ทรงผมแบบไหนที่คุณชอบ ?

ยูกิ: ผมยาวก็ได้ หรือผมสั้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม

ต้องการผญมีความสูงสักเท่าไหร่?

ยูกิ: ไม่ได้คิดตรงจุดนี้ ยังไงก็ได้ครับ

แฟชั่นของผญที่คุณชื่นชอบ ?

ยูกิ : ชอบผญใส่กางเกงมากกว่ากระโปรงครับ คิดว่าคล่องตัวดี

ถ้าคุณมีแฟน คุณจะมีกิจกรรมเดทกับแฟนอย่างไร ?

ยูกิ : ผมอยากไปพาเธอไปเดทที่สวนสนุกมากกว่าดู DVD ในห้อง ครับ

@@@@@@

รูปหุ่นเสมือนจริงของยูกิ อิชิกาว่า ที่เปิดให้ชมการแสดงที่มาดามทุซโซ่ และเปิดให้แฟนๆของอิชิกาว่าได้ร่วมถ่ายรูปด้วย

หุ่นตัวนี้ ลงทุน ประมาณ 20 ล้านเยน

เขาเป็นคนเลือกท่ายืนและท่าไฮไฟว้ด้วยตัวเอง

“ผมอยากให้แฟนๆได้สัมผัสความสูงของผมอย่างใกล้ชิดครับ และท่าไฮไฟล้มันคือการแสดงถึงพลังที่เข้มแข็งด้วย”

“ผมใช้เวลา 2-3 ชม ในการวัดตัว ถ่ายรูป และอยู่กับท่าเดิมนี้ เป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่และสนุกครับ”

หลังจากที่หุ่นสร้างเสร็จ เขาก็รู้สึกตกใจมาก เหมือนกันมากจริงๆ

“เนื่องจากผมไม่เคยเห็นตัวเองต่อหน้ามาก่อนก็รู้สึกแปลกใจนิดหน่อยว่า ตัวเองสูงขนาดนี้เลยเหรอ และยังมีเรียวนิ้วที่ยาว แขน ขา ที่ยาวด้วย”

ความรู้สึกของเขาก็ดีใจที่มีหุ่นของเขาอยู่ร่วมในมาดามทุซโซ่ ซึ่งมีนักกีฬาดังๆหลายคนของญี่ปุ่นร่วมแสดงอยู่ในนี้ด้วย

“ผมอยากให้หุ่นของผมเข้าเรียนแทนผมได้จังเลย ส่วนวอลเลย์บอลไม่ต้องเล่นแทนนะ ผมเล่นเองได้ ฮ่าฮ่าฮ่า”

ตอนนั้นยูกิเรียนที่ มหาวิทยาลัยชูโอ คณะนิติศาสตร์



@@@@@@

ในงานจิตอาสา ว่างเว้นจากการทำงานรับใช้ชาติ

ยูกิ อิชิกาวะไปเยี่ยมประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักทางตะวันตกของญี่ปุ่น

เขากล่าวว่า "ผมหวังว่าผมจะมีพลังและกล้าหาญในครั้งนี้ เพราะผมได้รับการสนับสนุนตลอดด้วยดีเสมอมา"

กิจกรรมที่ทำคือ เล่นวอลเลย์บอลด้วยกัน เซ็นลายเซ็น ถ่ายรูปที่ระลึก และตอบคำถาม ร่วมพูดคุย เล่นเกมส์กับเด็กๆ

“ผมมีความสุขมากที่ได้มาทำกิจกรรมนี้ การได้เห็นเด็กๆมีรอยยิ้ม มีพลังด้านบวก และมีเป้าหมายเป็นสิ่งดี ผมอยากให้พวกเขาก้าวผ่านความยากลำบากนี้ไปให้ได้ครับ “

ขอให้ความรู้สึกของอิชิกาวะเป็นพลังให้กับใครๆหลายคนด้วย


@@@@@@
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 16
ในนิตยสารเล่มนึง พูดถึงยูกิไว้ว่า เขาเป็นลูกชายคนกลางที่เข้ากับคนอื่นได้ดี มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี ร่าเริงแจ่มใส และยิ้มเก่งมาก เพื่อนๆก็รัก และชื่นชมในตัวเขา









ไม่แน่ใจว่าเล่มนี้หรือป่าว (ถ้าจำผิดก็ขออภัย)

ในขณะเดียวกัน เขาก็เป็นเด็กหนุ่มที่มีอารมณ์อ่อนไหว ร้องไห้ ออกสื่อบ่อยด้วย

ตอนจบรายการ Haruko ก็กอดคอร้องไห้กับโค้ช เมื่อโค้ชได้กล่าวกับเขาว่า

“ขอบคุณนายมากนะ นายทำได้ดีจริงๆ ขอบคุณที่ทำงานหนัก ขอบคุณที่นายพยายามอย่างเต็มที่นายเป็นนักฬาที่ยอดเยี่ยมมาก นายจะต้องเจอสิ่งดีๆในอนาคตที่รอนายอยู่ข้างหน้าแน่นอน “

หลังจากนั้น ยูกิก็ร้องไห้ แบบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่



ตอนเสร็จภารกิจที่อิตาลี พี่ๆ โค้ช ผจก สโมสรในทีม ก็จัดงานอวยพรเลี้ยงอำลาส่ง หลายคนเอ็นดูเขา มาสวมกอด อวยพร  เขาก็หลั่งน้ำตา ร้องไห้ (เขาเพิ่ง 19 ย่าง 20) นะตอนนั้น


แมตท์สุดท้ายที่รุ่นพี่ Sekita เซตเตอร์ประจำทีม ของมหาวิทยาลัย ชูโอ เรียนจบ ยูกิก็ร้องไห้หนักมาก






ยูกิ กล่าวว่า “ผมจะไม่ได้เล่นกับพี่ในสนามแล้วใช่ไหม ทำไมเวลามันผ่านไปเร็วจัง “ พร้อมกับร้องไห้หนัก เอาผ้าปิดหน้า

เซกิตะ พูดว่า “ เอ้ย นายอย่าร้องสิ เดี๋ยวพี่ก็ร้องตามหรอก “ ก็เลยพากันร้องไห้ คนอื่นๆก็ร้องตามๆกัน

(มีคลิบในยูทูปนะคะ)

และแมตท์สุดท้ายที่เขาเล่นให้กับมหาลัย ก่อนจะเดินทางไปเล่นลีกที่อิตาลี เขาก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ รู้สึกใจหาย ที่ไม่ได้เล่นกับเพื่อนๆอีกแล้ว ต่างคนต่างแยกย้ายไปตามทางของตัวเอง

(ซึ่งคุณแม่ มิโดริ ที่นั่งในสนาม กล้องมีแพนไป ก็ร้องไห้และเช็ดน้ำตาตามลูก ส่วนคุณพ่อได้แต่ยิ้ม )





แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่