.
หลังจากวันที่อาร์โดนทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย เพราะความรักที่ลืมไม่ได้ จำต้องร้องไห้ฟูมฟายเสียใจแทบไม่เป็นอันกินอันนอน กลางวันเหม่อลอย กลางคืนนอนร้องไห้ เป็นแบบนี้มานับเดือน ป่านนี้บูมคงมีความสุข ป่านนี้เนสคงคลอดลูกหน้าตาน่ารักน่าชัง ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเจ็บที่หัวใจ
เธอเก็บทุกอย่างที่เป็นของบูม รูปภาพ ข้าวของเครื่องใช้ที่บูมเคยให้ทุกอย่างยังอยู่ครบ เธอหวังว่าสักวันบูมจะกลับมา ทั้งที่ความจริงมันเป็นไปไม่ได้ แต่ หัวใจและความรู้สึกมันสั่งให้เธอหวัง
วันเวลาไม่ได้รักษาทุกสิ่ง แต่การยอมรับความจริงจะช่วยรักษาทุกอย่าง เป็นคำพูดของพิธีกรท่านหนึ่งในรายการทีวี มันทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้
“มันก็จริงของของพี่เนอะ พี่พูดได้นิ พี่ลองมาเป็นหนูสิ พี่ยังจะพูดแบบนี้อยู่มั้ย” เธอต่อว่าพิธีกรรายการทีวีที่ตนเองกำลังดูอยู่ ทว่ามันช่วยได้มาก เธอต้องยอมรับความจริง มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่มีบูมอีกต่อไป
ตอนนี้เธอตัวคนเดียว โสด มันทำให้เธอคิดได้ ทำใจได้ขึ้นมา จากที่เคยโทรหาบูมทุกวันก็เลิกทำ นอนร้องไห้ทุกคืนก็เริ่มทำใจได้ มีบ้างที่ทนความคิดถึงรุมเร้าไม่ไหว ก็ต้องปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา เริ่มนอนหลับสนิทขึ้น นอนเร็วขึ้น สภาพจิตใจตอนนี้โอเคขึ้นมากกว่าเดิม
สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นมามาก มีเพื่อน ๆ คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง พาไปช็อปปิ้ง เที่ยวต่างจังหวัดบ้างตามแต่โอกาสและวันหยุด เธอยังติดต่อกับโต้งปกติ ทุกคนยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ยกเว้นบูม ! ที่ตอนนี้ไม่สามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้
อาร์อยู่ในช่วงฝึกสอน ขณะที่กำลังจะไปฝึกสอนในวันศุกร์สุดสัปดาห์ อาร์ต้องหมดเรี่ยวแรงที่จะดำเนินชีวิตอีกครั้ง เมื่อเพื่อนสนิทส่งการ์ดงานแต่งงานของบูมกับเนสมาให้ดู น้ำตาแห่งความผิดหวังเสียใจหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง อาร์ไม่อยากฝึกสอน ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน อาร์ทรุดนั่งลงกับโต๊ะเครื่องแป้ง ปล่อยน้ำตาไหลเปื้อนเครื่องสำอางบนใบหน้าที่แต่งสวย ๆ เพื่อเตรียมออกไปฝึกสอน
มันจบแล้ว ! มันจบแล้วอาร์เรื่องเธอกับบูม ร้องไห้พูดกับตนเอง เธอควรจะตัดใจได้สักที บูมแต่งงาน มีลูก มีครอบครัวเป็นมั่นเป็นเหมาะ เป็นหลักเป็นฐานเรียบร้อยแล้ว มันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เธอทรุดนั่งลงข้างเตียง มุดหน้าลงกับผ้าห่ม ไม่นานเพื่อนก็มาหาที่ห้องพัก
“อาร์เห็นหรือยัง เขามีความสุขกันแค่ไหน แต่ดูอาร์สิร้องไห้ฟูมฟาย เศร้า ทำตัวโทรม มันเห็นมั้ย มันสนใจมั้ย ก็ไม่” เพื่อนสนิทพูดขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรักในตอนนี้ มีคาบน้ำตาเต็มหน้า เครื่องสำอางเลอะหน้าตาไปหมดเนื่องจากเป็นเพราะอาร์ร้องไห้เมื่อสักครู่
“อาร์รู้ อาร์คิดได้ แต่อาร์ทำไม่ได้”
“ต้องทำได้ ! ต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำตัวให้มีค่าให้มันเสียดาย และต้องหาแฟนคนใหม่ได้ดีกว่ามัน” เพื่อนสนิทพูดออกมาเพราะความโกรธ ความแค้นที่ยังไม่ลืมสิ่งที่บูมทำกับอาร์ได้ลงคอ “อาร์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองนะ จะมาเศร้าแบบนี้ไม่ได้ เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเขาไปดีมีชัยขนาดไหน ตัวเองก็ควรจะเป็นคนใหม่ได้สักที”
พอเพื่อนพูดมาแบบนั้น อาร์ก็พยักหน้ารับคำ เลิกร้องไห้ แต่งตัวใหม่ ทั้งสองคนก็พากันไปช็อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้าให้หนำใจ ให้อาร์สบายใจ ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้
หลังจากวันที่ได้รู้ว่าบูมแต่งงาน อาร์เริ่มทำใจได้มากขึ้นอีก เริ่มยอมรับความเป็นจริงขึ้นมาอีก ทำใจให้สบาย ไม่ร้องไห้อีกต่อไป เก็บทุกอย่างที่เป็นของบูมเผาทิ้งให้หมด
อาร์ฝึกสอนจบโชคดีที่เป็นคนหัวดีมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้สอบบรรจุผ่านตั้งแต่รอบแรก พ่อแม่ญาติพี่น้องของเธอภูมิใจมาก จัดงานบายศรีสู่ขวัญให้ ขึ้นป้ายที่บ้านอย่างใหญ่โตต้อนรับครูอาร์ จ้างนักดนตรีมาเลี้ยงฉลอง ผู้คนในหมู่บ้านต่างแสดงความยินดีด้วย
เธอได้พบกับเพื่อนบรรจุใหม่พร้อมกันหลายคน หนึ่งในนั้นมีผู้ชายหนึ่งคน ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเธอเป็นพิเศษ
หน้าตาอาจไม่หล่อเท่าบูม แต่เขานิสัยดี เอาใจ และที่สำคัญเสมอต้นเสมอปลาย อาร์ไม่เคยเชื่อใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูด เพราะเคยผ่านมาแล้ว คำพูดที่สวยหรูแบบนี้ ทำผิดหวังแทบเอาตัวไม่รอดมาแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยท้อ เอ็มไม่เคยท้อถอยที่จะจีบอาร์ เอ็มทราบเรื่องของอาร์มาพอสมควร ทั้งจากอาร์เคยเล่าให้ฟัง ทั้งจากเพื่อนสนิทด้วย
“เราเข้าใจอาร์นะ เราขอแค่โอกาส เราไม่บังคับอาร์ให้ยอมรับรักเรา เราขอแค่โอกาสจากอาร์ให้เราได้พิสูจน์ตัวเองว่าเรารักอาร์จริง ๆ และไม่เป็นเหมือนผู้ชายที่อาร์เคยผ่านมาแน่นอน” เอ็มพูดกับอาร์ เขาคิดแบบนี้จริง ๆ เอ็มรู้สึกถูกชะตากับอาร์ตั้งแต่แรกเห็น
“เราว่าเอ็มอย่าพยายามเลย เราไม่อยากผิดหวังอีก เราเข็ดแล้วเอ็ม” อาร์ซึ่งก็พูดไปตามความรู้สึกของตนเองเหมือนกัน เข็ดแล้วจริง ๆ พึ่งจะผ่านมันมาได้ ยังไม่อยากกับไปพบเจอฝันร้ายอีก
เอ็มยิ้ม ยื่นมือไปจับมืออาร์มากุมไว้ “แค่อาร์ให้โอกาสเอ็มก็พอ อาร์พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกว่ารักเอ็มนะ แล้วเอ็มจะให้พ่อกับแม่ไปสู่ขอ จะอีกกี่สิบปีเอ็มก็จะรอ”
สองคนยิ้มให้กัน เธอยังไม่อยากเปิดใจรับใครเข้ามา เธอยังกลัว กลัวว่าจะเจอแบบที่เคยเจอมาแล้ว กว่าเธอจะก้าวผ่านวันเวลาที่แสนทรมาน โหดร้ายนั่นมาได้ มันไม่ใช่ง่าย ๆ เธอเข็ดแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองซะทีเดียว เปิดโอกาสให้เอ็มได้พิสูจน์ตัวเอง ว่ารักเธอจริง หรือพูดเพื่ออยากได้เธอ
วันเวลาผ่านไปเกือบหกปี คุณครูทุกคนที่โรงเรียนรู้กันหมดว่าเอ็มรักอาร์ คิดว่าสองคนเป็นแฟนกัน แต่หารู้ไม่ว่าอาร์ยังไม่รับรักเอ็มเลยด้วยซ้ำ พ่อแม่ของเธอก็ชอบเอ็ม สนับสนุนอยากให้แต่งงานกัน ส่วนพ่อแม่ของเอ็มก็เตรียมพร้อมแล้วทุกอย่าง แค่อาร์เอ่ยปากให้ไปสู่ขอ
เอ็มพิสูจน์ให้อาร์รู้ว่าตนเองจริงจังและจริงใจแค่ไหน เสมอต้นเสมอปลาย เคยทำตัวแบบไหนในวันแรก ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น นี่ก็จะเข้าปีที่หกแล้ว อาร์ยังไม่รับรักเลย แต่จะอีกกี่ปีเอ็มก็ไม่ยอมแพ้ ผู้หญิงคนนี้แหละคือคนของใจ คือแม่ของลูก
เมื่อรู้ตัวว่ามีอาร์ก็ไม่อยากจะมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย อาร์เป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ สวย เรียบง่าย พูดจาไพเราะ ยิ้มสวย ทำไมผู้ชายคนเก่าถึงทิ้งของมีค่าแบบนี้ไปได้นะ แต่ก็ดีแล้วที่ทิ้งอาร์มาให้เขา เอ็มไม่เคยคิดจะล่วงเกินอาร์สักครั้ง ถ้าอาร์ยังไม่พร้อมที่จะให้
“เอ็มจะไปคนเดียวได้ยังไง อาร์ต้องไปเป็นเพื่อนแฟนอาร์สิถึงจะถูก”
“อะ อะไรนะ อาร์พูดว่าไงนะเมื่อกี้ แฟนเหรอ !” เอ็มพูดด้วยความตกใจ เขาไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม
“อื้อ อาร์บอกว่าอาร์จะปล่อยคนที่อาร์รักไปคนเดียวได้ยังไง อาร์ต้องไปเป็นเพื่อนสิ”
“อาร์ ! อาร์ยอมรับเอ็มแล้วใช่มั้ย เอ็มได้เป็นแฟนของอาร์แล้วใช่มั้ย เย้ ๆ” เอ็มกระโดดโลดเต้นที่โรงจอดรถของโรงเรียน ไม่อายนักเรียนบางส่วนที่ยังไม่กลับบ้านเลยสักนิด ทั้งครูบางคนที่นั่งอยู่บ้านพักครูมองมายังสองคน
“เอ็มพอแล้ว อายนักเรียนนะ”
“ก็เอ็มดีใจนิ เดี๋ยวแป๊บนึงนะมีอะไรจะให้” จากนั้นเอ็มก็เปิดประตูก้มควานหาหาอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมา เปิดกล่องออกเป็นแหวนเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวยงามมาก หยิบออกมาสวมให้อาร์ เอ็มซื้อไว้นานแล้ว หวังว่าสักวันจะได้นำมันออกมาสวมให้เจ้าของอย่างอาร์ สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง
อาร์ตกใจผสมดีใจตั้งตัวไม่ทัน น้ำตาแห่งความตื้นตันใจไหลออกมาอีกครั้ง ไม่คิดว่าคนซื่อ ๆ แบบตนเองจะมีคนรักที่จริงใจ
“อะไรเอ็ม”
“เอ็มขอหมั้นไว้ก่อนนะ อาร์พร้อมเมื่อไหร่เอ็มจะจัดขบวนขันหมากไปหาที่บ้าน”
“บ้า ! อายครูที่บ้านพักกับนักเรียนบ้างเถอะ” อาร์เช็ดน้ำตาหลังจากเอ็มสวมแหวนให้ มีเสียงโหแซวจากเพื่อนครูรุ่นพี่บ้านพัก และ นักเรียนที่บางกลุ่มที่ยังไม่กลับบ้าน
“ไม่ได้บ้านะ เอ็มพูดจริง เอ็มรักอาร์พร้อมจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปกับอาร์นะ”
“เฮ้ย ! น้องอาร์ยอมแต่งงานกับครูเอ็มเถอะ หลายปีแล้วนะ ครูเอ็มจะขาดใจตายแล้วนั่น ฮา ” เสียงแซวจากครูรุ่นพี่ตะโกนมาหาสองคน ทั้งสองหันไปมองพร้อมหัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย ตอนนี้เริ่มรู้สึกอายขึ้นมาทันที
“ปะอาร์เรารีบไปกันเถอะ อายอ่ะ” และสองคนก็นั่งรถออกไปทำธุระข้างนอก
....………………………
สมรส สมรัก
อาร์&เอ็ม
ป้ายติดที่ซุ้มประตูทางเข้าตัวบ้านอย่างสวยงาม มีแขกมาร่วมงานมากมาย เพื่อน ๆ มาร่วมงานแสดงความยินดีกับอาร์ ต่างพากันถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ลงอวดคนในโซเชียล มีผู้คนมาถูกใจมากมาย อวยพรแสดงความยินดีด้วย
“ยินดีด้วยนะครับ” รูปโพร์ไฟล์เป็นรูปเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก แต่ชื่อเป็นชื่อผู้ชาย ชื่อและนามสกุลคุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อรูปที่โต้งถ่ายลง ติดแฮชแท็กเพื่อนทุกคน ทำให้ทุกคนต่างเห็นข้อความนั้น
“อีโต้ง !เพื่อนมืงมาแสดงความคิดเห็น ไปตอบเพื่อนมืงซิ!” เพื่อนผู้หญิงพูดขึ้นเมื่อเห็นชื่อและนามสกุลที่รู้จักดีเข้ามาคอมเมนต์ใต้รูป
“ปล่อยมันไป” โต้งพูด ตนเองยังติดต่อบูมเสมอมา
“ชน ๆ แก้วหน่อย ฉลองความรักดี ๆ ให้กับเพื่อนเรา เอ้าชน เฮ้ ฮา ” แก๊บเบี่ยงเบนประเด็น ไม่อยากให้ทุกคนพูดถึงเพื่อนคนนี้ อีกอย่างเป็นงานมงคล งานดี ๆ ไม่ต้องพูดถึงคนชั่ว ๆ ไม่อยากให้อาร์คิดมาก ไม่นานเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็มาแจมกับเพื่อน ๆ
…………………………….
“เหมือนแม่สักคนก็ได้นะลูก” อาร์กำลังใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับลูกคนที่สอง หลังคลอดออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่กี่วัน
“ลูกพ่อมันก็ต้องเหมือนพ่อสิเนอะลูกเนอะ ฮา” เอ็มหัวเราะชอบใจ คนแรกหน้าเหมือนตนแล้ว คนที่สองยังมีเคล้าโครงหน้าเหมือนกับตนเองอีก ขณะเดียวกันมือก็ไกวเปลลูกคนโตที่พึ่งเกิดมาได้เพียงปีเดียว
สองคนช่วยกันเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข สี่คนพ่อแม่ลูก แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับอาร์ ไม่คิดว่าจะพาตนเองผ่านมาได้หลังจากวันนั้น วันที่อาร์ไม่มีค่าอะไร มามีความสุขในชีวิตมากที่สุดในวันนี้ โชคดีที่ไม่คิดทำร้ายตัวเอง
อาร์รู้สึกขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อยู่เคียงข้างไม่ทิ้งไปไหน ขอบคุณพ่อแม่ที่คอยให้กำลังใจให้ก้าวผ่านมาได้ และ ขอบคุณบูมที่ให้บทเรียนอันมีค่าและราคาแพงที่สุดสำหรับตนเอง
...... จบบริบูรณ์…..
รักสามเศร้า… บทที่ 22 (จบบริบูรณ์)
.
หลังจากวันที่อาร์โดนทิ้งแบบไม่มีเยื่อใย เพราะความรักที่ลืมไม่ได้ จำต้องร้องไห้ฟูมฟายเสียใจแทบไม่เป็นอันกินอันนอน กลางวันเหม่อลอย กลางคืนนอนร้องไห้ เป็นแบบนี้มานับเดือน ป่านนี้บูมคงมีความสุข ป่านนี้เนสคงคลอดลูกหน้าตาน่ารักน่าชัง ยิ่งคิดมันก็ยิ่งเจ็บที่หัวใจ
เธอเก็บทุกอย่างที่เป็นของบูม รูปภาพ ข้าวของเครื่องใช้ที่บูมเคยให้ทุกอย่างยังอยู่ครบ เธอหวังว่าสักวันบูมจะกลับมา ทั้งที่ความจริงมันเป็นไปไม่ได้ แต่ หัวใจและความรู้สึกมันสั่งให้เธอหวัง
วันเวลาไม่ได้รักษาทุกสิ่ง แต่การยอมรับความจริงจะช่วยรักษาทุกอย่าง เป็นคำพูดของพิธีกรท่านหนึ่งในรายการทีวี มันทำให้เธอฉุกคิดขึ้นมาได้
“มันก็จริงของของพี่เนอะ พี่พูดได้นิ พี่ลองมาเป็นหนูสิ พี่ยังจะพูดแบบนี้อยู่มั้ย” เธอต่อว่าพิธีกรรายการทีวีที่ตนเองกำลังดูอยู่ ทว่ามันช่วยได้มาก เธอต้องยอมรับความจริง มันไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่มีบูมอีกต่อไป
ตอนนี้เธอตัวคนเดียว โสด มันทำให้เธอคิดได้ ทำใจได้ขึ้นมา จากที่เคยโทรหาบูมทุกวันก็เลิกทำ นอนร้องไห้ทุกคืนก็เริ่มทำใจได้ มีบ้างที่ทนความคิดถึงรุมเร้าไม่ไหว ก็ต้องปล่อยให้น้ำตามันไหลออกมา เริ่มนอนหลับสนิทขึ้น นอนเร็วขึ้น สภาพจิตใจตอนนี้โอเคขึ้นมากกว่าเดิม
สภาพจิตใจของเธอดีขึ้นมามาก มีเพื่อน ๆ คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง พาไปช็อปปิ้ง เที่ยวต่างจังหวัดบ้างตามแต่โอกาสและวันหยุด เธอยังติดต่อกับโต้งปกติ ทุกคนยังเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม ยกเว้นบูม ! ที่ตอนนี้ไม่สามารถกลับมาเป็นเพื่อนกันได้
อาร์อยู่ในช่วงฝึกสอน ขณะที่กำลังจะไปฝึกสอนในวันศุกร์สุดสัปดาห์ อาร์ต้องหมดเรี่ยวแรงที่จะดำเนินชีวิตอีกครั้ง เมื่อเพื่อนสนิทส่งการ์ดงานแต่งงานของบูมกับเนสมาให้ดู น้ำตาแห่งความผิดหวังเสียใจหลั่งไหลออกมาอีกครั้ง อาร์ไม่อยากฝึกสอน ไม่อยากทำอะไรอีกแล้ว ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะเดิน อาร์ทรุดนั่งลงกับโต๊ะเครื่องแป้ง ปล่อยน้ำตาไหลเปื้อนเครื่องสำอางบนใบหน้าที่แต่งสวย ๆ เพื่อเตรียมออกไปฝึกสอน
มันจบแล้ว ! มันจบแล้วอาร์เรื่องเธอกับบูม ร้องไห้พูดกับตนเอง เธอควรจะตัดใจได้สักที บูมแต่งงาน มีลูก มีครอบครัวเป็นมั่นเป็นเหมาะ เป็นหลักเป็นฐานเรียบร้อยแล้ว มันเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เธอทรุดนั่งลงข้างเตียง มุดหน้าลงกับผ้าห่ม ไม่นานเพื่อนก็มาหาที่ห้องพัก
“อาร์เห็นหรือยัง เขามีความสุขกันแค่ไหน แต่ดูอาร์สิร้องไห้ฟูมฟาย เศร้า ทำตัวโทรม มันเห็นมั้ย มันสนใจมั้ย ก็ไม่” เพื่อนสนิทพูดขึ้นเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรักในตอนนี้ มีคาบน้ำตาเต็มหน้า เครื่องสำอางเลอะหน้าตาไปหมดเนื่องจากเป็นเพราะอาร์ร้องไห้เมื่อสักครู่
“อาร์รู้ อาร์คิดได้ แต่อาร์ทำไม่ได้”
“ต้องทำได้ ! ต้องเปลี่ยนตัวเอง ทำตัวให้มีค่าให้มันเสียดาย และต้องหาแฟนคนใหม่ได้ดีกว่ามัน” เพื่อนสนิทพูดออกมาเพราะความโกรธ ความแค้นที่ยังไม่ลืมสิ่งที่บูมทำกับอาร์ได้ลงคอ “อาร์ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเองนะ จะมาเศร้าแบบนี้ไม่ได้ เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเขาไปดีมีชัยขนาดไหน ตัวเองก็ควรจะเป็นคนใหม่ได้สักที”
พอเพื่อนพูดมาแบบนั้น อาร์ก็พยักหน้ารับคำ เลิกร้องไห้ แต่งตัวใหม่ ทั้งสองคนก็พากันไปช็อปปิ้ง ซื้อเสื้อผ้าให้หนำใจ ให้อาร์สบายใจ ลืมเรื่องราวที่เกิดขึ้นวันนี้
หลังจากวันที่ได้รู้ว่าบูมแต่งงาน อาร์เริ่มทำใจได้มากขึ้นอีก เริ่มยอมรับความเป็นจริงขึ้นมาอีก ทำใจให้สบาย ไม่ร้องไห้อีกต่อไป เก็บทุกอย่างที่เป็นของบูมเผาทิ้งให้หมด
อาร์ฝึกสอนจบโชคดีที่เป็นคนหัวดีมาแต่ไหนแต่ไร ทำให้สอบบรรจุผ่านตั้งแต่รอบแรก พ่อแม่ญาติพี่น้องของเธอภูมิใจมาก จัดงานบายศรีสู่ขวัญให้ ขึ้นป้ายที่บ้านอย่างใหญ่โตต้อนรับครูอาร์ จ้างนักดนตรีมาเลี้ยงฉลอง ผู้คนในหมู่บ้านต่างแสดงความยินดีด้วย
เธอได้พบกับเพื่อนบรรจุใหม่พร้อมกันหลายคน หนึ่งในนั้นมีผู้ชายหนึ่งคน ดูเหมือนว่าเขาจะสนใจเธอเป็นพิเศษ
หน้าตาอาจไม่หล่อเท่าบูม แต่เขานิสัยดี เอาใจ และที่สำคัญเสมอต้นเสมอปลาย อาร์ไม่เคยเชื่อใจในสิ่งที่ผู้ชายคนนี้พูด เพราะเคยผ่านมาแล้ว คำพูดที่สวยหรูแบบนี้ ทำผิดหวังแทบเอาตัวไม่รอดมาแล้ว แต่ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยท้อ เอ็มไม่เคยท้อถอยที่จะจีบอาร์ เอ็มทราบเรื่องของอาร์มาพอสมควร ทั้งจากอาร์เคยเล่าให้ฟัง ทั้งจากเพื่อนสนิทด้วย
“เราเข้าใจอาร์นะ เราขอแค่โอกาส เราไม่บังคับอาร์ให้ยอมรับรักเรา เราขอแค่โอกาสจากอาร์ให้เราได้พิสูจน์ตัวเองว่าเรารักอาร์จริง ๆ และไม่เป็นเหมือนผู้ชายที่อาร์เคยผ่านมาแน่นอน” เอ็มพูดกับอาร์ เขาคิดแบบนี้จริง ๆ เอ็มรู้สึกถูกชะตากับอาร์ตั้งแต่แรกเห็น
“เราว่าเอ็มอย่าพยายามเลย เราไม่อยากผิดหวังอีก เราเข็ดแล้วเอ็ม” อาร์ซึ่งก็พูดไปตามความรู้สึกของตนเองเหมือนกัน เข็ดแล้วจริง ๆ พึ่งจะผ่านมันมาได้ ยังไม่อยากกับไปพบเจอฝันร้ายอีก
เอ็มยิ้ม ยื่นมือไปจับมืออาร์มากุมไว้ “แค่อาร์ให้โอกาสเอ็มก็พอ อาร์พร้อมเมื่อไหร่ค่อยบอกว่ารักเอ็มนะ แล้วเอ็มจะให้พ่อกับแม่ไปสู่ขอ จะอีกกี่สิบปีเอ็มก็จะรอ”
สองคนยิ้มให้กัน เธอยังไม่อยากเปิดใจรับใครเข้ามา เธอยังกลัว กลัวว่าจะเจอแบบที่เคยเจอมาแล้ว กว่าเธอจะก้าวผ่านวันเวลาที่แสนทรมาน โหดร้ายนั่นมาได้ มันไม่ใช่ง่าย ๆ เธอเข็ดแล้ว แต่เธอก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองซะทีเดียว เปิดโอกาสให้เอ็มได้พิสูจน์ตัวเอง ว่ารักเธอจริง หรือพูดเพื่ออยากได้เธอ
วันเวลาผ่านไปเกือบหกปี คุณครูทุกคนที่โรงเรียนรู้กันหมดว่าเอ็มรักอาร์ คิดว่าสองคนเป็นแฟนกัน แต่หารู้ไม่ว่าอาร์ยังไม่รับรักเอ็มเลยด้วยซ้ำ พ่อแม่ของเธอก็ชอบเอ็ม สนับสนุนอยากให้แต่งงานกัน ส่วนพ่อแม่ของเอ็มก็เตรียมพร้อมแล้วทุกอย่าง แค่อาร์เอ่ยปากให้ไปสู่ขอ
เอ็มพิสูจน์ให้อาร์รู้ว่าตนเองจริงจังและจริงใจแค่ไหน เสมอต้นเสมอปลาย เคยทำตัวแบบไหนในวันแรก ตอนนี้ก็ยังเป็นแบบนั้น นี่ก็จะเข้าปีที่หกแล้ว อาร์ยังไม่รับรักเลย แต่จะอีกกี่ปีเอ็มก็ไม่ยอมแพ้ ผู้หญิงคนนี้แหละคือคนของใจ คือแม่ของลูก
เมื่อรู้ตัวว่ามีอาร์ก็ไม่อยากจะมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย อาร์เป็นผู้หญิงมีเสน่ห์ สวย เรียบง่าย พูดจาไพเราะ ยิ้มสวย ทำไมผู้ชายคนเก่าถึงทิ้งของมีค่าแบบนี้ไปได้นะ แต่ก็ดีแล้วที่ทิ้งอาร์มาให้เขา เอ็มไม่เคยคิดจะล่วงเกินอาร์สักครั้ง ถ้าอาร์ยังไม่พร้อมที่จะให้
“เอ็มจะไปคนเดียวได้ยังไง อาร์ต้องไปเป็นเพื่อนแฟนอาร์สิถึงจะถูก”
“อะ อะไรนะ อาร์พูดว่าไงนะเมื่อกี้ แฟนเหรอ !” เอ็มพูดด้วยความตกใจ เขาไม่ได้หูฟาดไปใช่ไหม
“อื้อ อาร์บอกว่าอาร์จะปล่อยคนที่อาร์รักไปคนเดียวได้ยังไง อาร์ต้องไปเป็นเพื่อนสิ”
“อาร์ ! อาร์ยอมรับเอ็มแล้วใช่มั้ย เอ็มได้เป็นแฟนของอาร์แล้วใช่มั้ย เย้ ๆ” เอ็มกระโดดโลดเต้นที่โรงจอดรถของโรงเรียน ไม่อายนักเรียนบางส่วนที่ยังไม่กลับบ้านเลยสักนิด ทั้งครูบางคนที่นั่งอยู่บ้านพักครูมองมายังสองคน
“เอ็มพอแล้ว อายนักเรียนนะ”
“ก็เอ็มดีใจนิ เดี๋ยวแป๊บนึงนะมีอะไรจะให้” จากนั้นเอ็มก็เปิดประตูก้มควานหาหาอะไรอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเงยหน้าขึ้นหยิบกล่องกำมะหยี่สีแดงขึ้นมา เปิดกล่องออกเป็นแหวนเพชรเม็ดเล็ก ๆ สวยงามมาก หยิบออกมาสวมให้อาร์ เอ็มซื้อไว้นานแล้ว หวังว่าสักวันจะได้นำมันออกมาสวมให้เจ้าของอย่างอาร์ สุดท้ายวันนี้ก็มาถึง
อาร์ตกใจผสมดีใจตั้งตัวไม่ทัน น้ำตาแห่งความตื้นตันใจไหลออกมาอีกครั้ง ไม่คิดว่าคนซื่อ ๆ แบบตนเองจะมีคนรักที่จริงใจ
“อะไรเอ็ม”
“เอ็มขอหมั้นไว้ก่อนนะ อาร์พร้อมเมื่อไหร่เอ็มจะจัดขบวนขันหมากไปหาที่บ้าน”
“บ้า ! อายครูที่บ้านพักกับนักเรียนบ้างเถอะ” อาร์เช็ดน้ำตาหลังจากเอ็มสวมแหวนให้ มีเสียงโหแซวจากเพื่อนครูรุ่นพี่บ้านพัก และ นักเรียนที่บางกลุ่มที่ยังไม่กลับบ้าน
“ไม่ได้บ้านะ เอ็มพูดจริง เอ็มรักอาร์พร้อมจะสร้างครอบครัวที่อบอุ่นไปกับอาร์นะ”
“เฮ้ย ! น้องอาร์ยอมแต่งงานกับครูเอ็มเถอะ หลายปีแล้วนะ ครูเอ็มจะขาดใจตายแล้วนั่น ฮา ” เสียงแซวจากครูรุ่นพี่ตะโกนมาหาสองคน ทั้งสองหันไปมองพร้อมหัวเราะออกมาด้วยความเขินอาย ตอนนี้เริ่มรู้สึกอายขึ้นมาทันที
“ปะอาร์เรารีบไปกันเถอะ อายอ่ะ” และสองคนก็นั่งรถออกไปทำธุระข้างนอก
....………………………
สมรส สมรัก
อาร์&เอ็ม
ป้ายติดที่ซุ้มประตูทางเข้าตัวบ้านอย่างสวยงาม มีแขกมาร่วมงานมากมาย เพื่อน ๆ มาร่วมงานแสดงความยินดีกับอาร์ ต่างพากันถ่ายรูปคู่กับเจ้าบ่าวเจ้าสาว ลงอวดคนในโซเชียล มีผู้คนมาถูกใจมากมาย อวยพรแสดงความยินดีด้วย
“ยินดีด้วยนะครับ” รูปโพร์ไฟล์เป็นรูปเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก แต่ชื่อเป็นชื่อผู้ชาย ชื่อและนามสกุลคุ้นหูคุ้นตาเป็นอย่างดี เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อรูปที่โต้งถ่ายลง ติดแฮชแท็กเพื่อนทุกคน ทำให้ทุกคนต่างเห็นข้อความนั้น
“อีโต้ง !เพื่อนมืงมาแสดงความคิดเห็น ไปตอบเพื่อนมืงซิ!” เพื่อนผู้หญิงพูดขึ้นเมื่อเห็นชื่อและนามสกุลที่รู้จักดีเข้ามาคอมเมนต์ใต้รูป
“ปล่อยมันไป” โต้งพูด ตนเองยังติดต่อบูมเสมอมา
“ชน ๆ แก้วหน่อย ฉลองความรักดี ๆ ให้กับเพื่อนเรา เอ้าชน เฮ้ ฮา ” แก๊บเบี่ยงเบนประเด็น ไม่อยากให้ทุกคนพูดถึงเพื่อนคนนี้ อีกอย่างเป็นงานมงคล งานดี ๆ ไม่ต้องพูดถึงคนชั่ว ๆ ไม่อยากให้อาร์คิดมาก ไม่นานเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็มาแจมกับเพื่อน ๆ
…………………………….
“เหมือนแม่สักคนก็ได้นะลูก” อาร์กำลังใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปให้กับลูกคนที่สอง หลังคลอดออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่กี่วัน
“ลูกพ่อมันก็ต้องเหมือนพ่อสิเนอะลูกเนอะ ฮา” เอ็มหัวเราะชอบใจ คนแรกหน้าเหมือนตนแล้ว คนที่สองยังมีเคล้าโครงหน้าเหมือนกับตนเองอีก ขณะเดียวกันมือก็ไกวเปลลูกคนโตที่พึ่งเกิดมาได้เพียงปีเดียว
สองคนช่วยกันเลี้ยงลูกอย่างมีความสุข สี่คนพ่อแม่ลูก แค่นี้ก็มีความสุขแล้วสำหรับอาร์ ไม่คิดว่าจะพาตนเองผ่านมาได้หลังจากวันนั้น วันที่อาร์ไม่มีค่าอะไร มามีความสุขในชีวิตมากที่สุดในวันนี้ โชคดีที่ไม่คิดทำร้ายตัวเอง
อาร์รู้สึกขอบคุณเพื่อน ๆ ที่อยู่เคียงข้างไม่ทิ้งไปไหน ขอบคุณพ่อแม่ที่คอยให้กำลังใจให้ก้าวผ่านมาได้ และ ขอบคุณบูมที่ให้บทเรียนอันมีค่าและราคาแพงที่สุดสำหรับตนเอง
...... จบบริบูรณ์…..