คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ จากการจากไปของคุณแม่น้อง ช่วงนี้คงต้องใช้เวลาพอสมควรเลยครับ กับการทำจิตใจ คิดซะว่าท่านได้ไปดีแล้ว ไม่ต้องมาทรมานกับโรคร้ายอีกนะครับ
จริงๆมันก็เป็นกฎแห่งกรรมแห่งการกระทำนั่นล่ะครับ จริงอยู่ว่าร่างกายนี้เราได้มาจากพ่อจากแม่ แต่ถ้าเราไม่ดูแลร่างกายนี้ให้ดี เช่น ด้วยการดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง เราก็จะอยู่ดีมีสุขได้ อยากให้น้องพอหายทุกข์หายโศกฯแล้ว ลองทบทวนและคิดดู ว่าทำไมคนเราสมัยนี้ถึงได้ป่วยเป็นโรคพวกนี้กันเยอะมากๆ เพราะอะไร และอะไรคือสาเหตุต้นตอ ไม่ว่าจะความดันฯ เบาหวานฯ หัวใจ เส้นเลือดหัวใจ สมอง มะเร็ง อื่นๆในกลุ่ม NCDs นั้น และก็มักจบที่ไต จริงๆส่วนใหญ่เลย ก็มาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ผ่านมาในอดีตนั่นเองครับ เพียงแต่เราไม่รู้ตัวกันเอง ว่าที่กำลังกิน กำลังมีความสุขกับการกินอาหารอร่อยๆ อาหารแปรรูป อาหารผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ แป้ง น้ำตาล ข้าว ขัดสี ไขมันพืชแปรรูป ไขมันทรานส์ ต่างๆในยุคอาหารยุคนี้ และการกินบ่อยๆ กินมากกว่า 3 มื้อ กินจุบกินจิบ มันกำลังค่อยๆทำร้ายร่างกายนี้ไปเรื่อยๆ สะสมไปหลายๆปีนั่นเองครับ อยากให้น้องดูไว้ และศึกษาหาความรู้มากๆ น้องอยากจะเป็นแบบคุณแม่ อยากทรมานในรูปแบบนั้นหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้ว เราแก้และรักษาโรคพวกนี้ได้ โดยไม่ต้องไปหาหมอ หรือกินยาอะไรเลยด้วย แค่ปรับอาหารการกินที่เรากินอยู่ทุกๆวันนี่แหล่ะครับ แต่พวกเราๆไม่รู้กันเอง และก็ไม่ค่อยหรือไม่เคยมีใครแนะนำการกินที่ควรจะกินที่เหมาะสมกับร่างกายมนุษย์เรานี้ครับ แม้แต่เรื่องจำนวนมื้อที่กิน พระโคตมพุทธเจ้า ท่านก็เคยได้บอกไว้ว่าการทานอาหารเพียงมื้อเดียวนั้นดีอย่างไร ไม่ว่าสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ พละกำลังต่างๆ อื่นๆก็ดี แต่เรายุคสมัยนี้ กับกินกันมากกว่า3มื้อ เพราะคำโฆษณาชวนเชื่อ สื่อต่างๆ ที่ปลูกฝังยัดเยียดโภชนาการแบบนี้ มาตั้งแต่เด็ก.....ตอนนี้ ก็คงต้องมาดูคนในครอบครัว คนที่ใกล้ชิดมิตรสหาย ญาติพี่น้อง ที่ยังมีชีวิตอยู่กันดีกว่าครับ ว่าเราจะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายนี้ ให้ดีมีสุขได้อย่างไร...จากคำกล่าวที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" ผมว่าคำนี้ ยังคงเป็นคำที่ใช้ได้ตลอดไปจริงๆ ...ขอแสดงความเสียใจกับน้องอีกครั้งครับ
จริงๆมันก็เป็นกฎแห่งกรรมแห่งการกระทำนั่นล่ะครับ จริงอยู่ว่าร่างกายนี้เราได้มาจากพ่อจากแม่ แต่ถ้าเราไม่ดูแลร่างกายนี้ให้ดี เช่น ด้วยการดูแลสุขภาพ ทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายบ้าง เราก็จะอยู่ดีมีสุขได้ อยากให้น้องพอหายทุกข์หายโศกฯแล้ว ลองทบทวนและคิดดู ว่าทำไมคนเราสมัยนี้ถึงได้ป่วยเป็นโรคพวกนี้กันเยอะมากๆ เพราะอะไร และอะไรคือสาเหตุต้นตอ ไม่ว่าจะความดันฯ เบาหวานฯ หัวใจ เส้นเลือดหัวใจ สมอง มะเร็ง อื่นๆในกลุ่ม NCDs นั้น และก็มักจบที่ไต จริงๆส่วนใหญ่เลย ก็มาจากพฤติกรรมการกินอาหารที่ผ่านมาในอดีตนั่นเองครับ เพียงแต่เราไม่รู้ตัวกันเอง ว่าที่กำลังกิน กำลังมีความสุขกับการกินอาหารอร่อยๆ อาหารแปรรูป อาหารผ่านกระบวนการอุตสาหกรรมอาหารต่างๆ แป้ง น้ำตาล ข้าว ขัดสี ไขมันพืชแปรรูป ไขมันทรานส์ ต่างๆในยุคอาหารยุคนี้ และการกินบ่อยๆ กินมากกว่า 3 มื้อ กินจุบกินจิบ มันกำลังค่อยๆทำร้ายร่างกายนี้ไปเรื่อยๆ สะสมไปหลายๆปีนั่นเองครับ อยากให้น้องดูไว้ และศึกษาหาความรู้มากๆ น้องอยากจะเป็นแบบคุณแม่ อยากทรมานในรูปแบบนั้นหรือไม่ ซึ่งจริงๆแล้ว เราแก้และรักษาโรคพวกนี้ได้ โดยไม่ต้องไปหาหมอ หรือกินยาอะไรเลยด้วย แค่ปรับอาหารการกินที่เรากินอยู่ทุกๆวันนี่แหล่ะครับ แต่พวกเราๆไม่รู้กันเอง และก็ไม่ค่อยหรือไม่เคยมีใครแนะนำการกินที่ควรจะกินที่เหมาะสมกับร่างกายมนุษย์เรานี้ครับ แม้แต่เรื่องจำนวนมื้อที่กิน พระโคตมพุทธเจ้า ท่านก็เคยได้บอกไว้ว่าการทานอาหารเพียงมื้อเดียวนั้นดีอย่างไร ไม่ว่าสุขภาพ โรคภัยไข้เจ็บต่างๆ พละกำลังต่างๆ อื่นๆก็ดี แต่เรายุคสมัยนี้ กับกินกันมากกว่า3มื้อ เพราะคำโฆษณาชวนเชื่อ สื่อต่างๆ ที่ปลูกฝังยัดเยียดโภชนาการแบบนี้ มาตั้งแต่เด็ก.....ตอนนี้ ก็คงต้องมาดูคนในครอบครัว คนที่ใกล้ชิดมิตรสหาย ญาติพี่น้อง ที่ยังมีชีวิตอยู่กันดีกว่าครับ ว่าเราจะดูแลรักษาสุขภาพร่างกายนี้ ให้ดีมีสุขได้อย่างไร...จากคำกล่าวที่ว่า "อโรคยา ปรมาลาภา การไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ" ผมว่าคำนี้ ยังคงเป็นคำที่ใช้ได้ตลอดไปจริงๆ ...ขอแสดงความเสียใจกับน้องอีกครั้งครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอความเห็นหน่อยค่ะ สงสารแม่มากแม่ต้องทรมานแค่ไหน😭
น้ำท่วมปอด/มารู้ที่หลังพึ่งเป็นไต เราจะพยามยามอธิบายให้เข้าใจง่ายๆนะคะ
1.แม่กินไม่ได้(อยากกินแต่กินไม่ได้)กินไม่ลงประมาณนี้นะคะ
2.กลางคืนนอนไม่หลับ แต่กลางวันหลับบ้าง
3.ร้องกรี้ดกลางคืนบ่อย เพราะ เมือยตามตัวมากๆจ้างหมอนวดเกือบทุกวันถึงกับจ้างมานวดตลอดทั้งคืนมานอนที่บ้านค่ะ
แม่เราไปดูดวง หาหมอคลินิกที่ว่าดีไปหมด เสียเงินเป็นหมื่น
4.แม่ไปคลินิกไปฉีดยาแก้ปวดครั้งละเกือบพันบ่อยมาก
5.แม่ไม่ค่อยกินยาที่หมอสั่งเลยค่ะ
หลังจากนั้นแม่เราปวดเข่ามากจนเดินไม่ไหว ต้องพยุงเลยค่ะ ไปฉีดยาที่คลินิกเหมือนเดิม
หมอบอกเป็นแผลที่เข่า(แผลนิดเดียว)แล้วแผลติดเชื้อ แม่เราน้ำท่วมปอดขาบวมน้ำ
หลังจากนั้นวันเดียวแม่เดินไม่ได้เลยค่ะเหมือนผู้ป่วยติดเตียงเลยค่ะใส่แพมเพิสด้วย แม่พลัดจากเตียงที่สูงไม่มากแต่พลัดมาคงเจ็บมากค่ะ แม่เราอ้วนแต่พอเป็นเบาหวานน้ำหนักลงเยอะมากจนใครๆก็ทัก
พลัดมาแม่เจ็บมือมากค่ะผ่านไปมือเริ่มบวมและมีแผลน้ำๆเหมือนโดนน้ำร้อนลวก เป็นเยอะขึ้นน่าจะเพราะโดนน้ำจากอาบน้ำ เวลาอาบน้ำจะมีคนช่วย3-5คนแบกไปอาบเลยค่ะเดินไม่ได้ แค่จิ้มแม่ก็เจ็บลำบากมากตอนใส่แพมเพิสพลิกตัวไม่ได้ค่ะเจ็บ ขาก็บวม
หน้าก็เริ่มบวมเพราะนอนอย่างเดียวเริ่มมีแผลช้ำตามตัวเพราะนอนฝั่งเดียวคล้ายๆแผลกดทับ ถ้านั่งหน้าจะไม่บวมมากนะคะ ก่อนไปรพ.แม่นั่งได้ค่ะต้องช่วยพยุงนั่งนะคะ รถรพ.มารับแล้วก็ส่งไปรพ.อีกแห่ง
***หมอบอกแม่ติดเชื้อในกระแสเลือด
ผ่าตัดแขนที่บวมนะคะ การผ่าตัดต้องใส่ท่อช่วยหายใจ(แม่บอกไม่ใส่นะคะ)
มีเปอร์เซ็นต์รอด50/50
ไม่ผ่าตัด ไม่รอดค่ะ
เลือกที่จะผ่าตัดต้องเลือกเปอร์เซ็นต์ที่จะรอดอยู่แล้วพี่สาวและพ่อเป็นคนเซ็น ผ่าตัดแขนคือเฉียนหนังด้านบนออกหมดถึงกระดูกเลยเหลือแค่เนื้อแขนด้านล่างแม่ต้องเจ็บทรมานแค่ไหน😭 เจาะคอเจาะขาเอาน้ำเหลืองออก
ใส่ท่อหายใจ หมอบอกไม่รอดค่ะพากลับบ้านผ้าพันแม่เต็มหมดแม่พูดไม่ได้ล่ะไม่ได้ร่ำลากันเลย ถอดท่อเสร็จแม่ก็ไปเลยค่ะตาเหลือกด้วยคงเจ็บปวดทรมานมากสงสารแม่สุดๆ😭
ถ้าแม่ไม่ไปรพ.วันนั้นคงจากไป แต่ช้ากว่านี้พูดได้กับญาติพี่น้อง พิมพ์ทั้งน้ำตา
สงสารแม่จับใจ แม่จะทรมานแค่ไหน😭
แต่คงไม่โทษหมอ เขาคงเลือกวิธีที่ดีที่สุดให้คนป่วยแล้ว
คนในครอบครัวคงเลือกเปอร์เซ็นต์ที่จะรอด
ไม่ผ่าตัดคือไม่รอดแน่นอนค่ะแต่จะอยู่ได้นานกว่าที่ต้องผ่าตัดใส่ท่อพูดไม่ได้แบบนี้มั้ยคะ😭😭