ศก.ไทย ใกล้ถอยหลัง ป่วนสาธารณสุขล่ม เปิดประเทศไม่ทันตาม 'ประยุทธ์' ประกาศ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6580751
บัวหลวง ชี้เศรษฐกิจไทย ใกล้เข้าสู่ภาวะถดถอยหลัง โควิด ระลอก 3 ป่วนระบบสาธารณสุขล่ม-ทั้งปีมีนักท่องเที่ยวประมาณแสนคน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” และ “สมุย พลัส โมเดล” ไม่ดึงดูด ไทยเปิดประเทศไม่ได้ทัน พ.ย. ตามที่ “ประยุทธ์” ประกาศ
วันนี้ (24 ส.ค.) นาย
บุรินทร์ อดุลวัฒนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ทีมเศรษฐกิจและกลยุทธ์ และนายธีระภูมิ วุฒิปราโมทย์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ได้ออกบทความคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงใน เว็บไซต์ Bnomics ระบุว่า อีกไม่นานเศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่สภาวะถดถอย แม้โดยไตรมาส 2 ปี 2564 จีดีพีมีการขยายตัว ประมาณ 7.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานต่ำสืบเนื่องจากการล็อคดาวน์ทั่วประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้วและยังคงต่ำกว่าจีดีพีก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ประมาณ 4% หลังจากที่ จีดีพี ประเทศไทยหดตัว 2.6% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564
ส่วน การฟื้นตัวของการส่งออกที่แข็งแกร่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับการขยายตัวของ จีดีพี ในไตรมาสนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศคู่ค้าต่าง ๆ เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ด้วยเหตุนี้การส่งออกสินค้าและบริการของไทยจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่ 27.5% ดีขึ้นจากที่หดตัวไป 10.5% ในไตรมาสที่ 1 ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 31.4% สูงขึ้นจากที่ขยายตัว 1.7% ในไตรมาสก่อน
ด้านการท่องเที่ยวรัฐบาลพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศด้วยโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ สมุย พลัส โมเดล คาดว่าจะทำรายได้ให้กับประเทศได้ไม่มากนัก โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพียงไม่กี่หมื่นคน ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับช่วงก่อนการระบาด ทั้งปีนี้ทางคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยราว 1 แสนคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ 1.2 ล้านคนมาก
ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ที่มีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน รัฐบาลได้ออกมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้งหนึ่งในเดือนกรกฎาคมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนหลายล้านคน ปัจจุบันการล็อคดาวน์พื้นที่ 29 จังหวัดนี้คิดเป็นกว่า 75% ของ จีดีพี ประเทศไทย และครอบคลุมกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ทาง ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนถึงไตรมาสที่ 3 และจะเริ่มมีการผ่อนคลาย ช่วงไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป
แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะให้คำมั่นว่าจะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่มองว่ามีไม่น่าจะเป็นไปได้และคาดว่าไทยจะประสบกับการฟื้นตัวรูปแบบ W-shaped ไม่ใช่การฟื้นตัวแบบ V-shaped เหมือนกับประเทศที่ประสบความสำเร็จในการกระจายวัคซีนเนื่องด้วยระบบสาธารณสุขที่ล่ม อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 เดือนก่อนที่สถานการณ์การแพร่ระบาดจะเริ่มดีขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะยังคงขาดดุลจนกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะถดถอยอีกครั้งโดย จีดีพีในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะหดตัว 3% และ 1.8% ตามลำดับ ทั้งนี้ตัวเลขการคาดการณ์การดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับแนวโน้มความสำเร็จในการแจกจ่ายวัคซีนและระยะเวลาที่ใช้ในการล็อคดาวน์ ส่วนการฟื้นตัวของ GDP จะเป็นไปได้ช้ากว่าประเทศอื่น ที่มีการจัดสรรวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะฟื้นกลับมาแตะระดับก่อนการระบาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2565
สำหรับแนวโน้มปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วดังจะสังเกตได้จากประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป ที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังมีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง เราคาดว่า จีดีพี จะเพิ่มขึ้น 5% โดยมีแรงสนับสนุนหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชน ส่วนด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย โดยมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาราว 2 ล้านคน แต่ก็อาจจะมากกว่านี้ได้ หากแผนการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคาด
ด่วน! พบลูกหลานสายพันธุ์เดลตา ติดเชื้อแล้ว 7 ราย อยู่ในกทม.-ปทุมธานี
https://www.dailynews.co.th/news/194040/
ด่วน พบสายพันธุ์เดลตาย่อยในไทย 4 ตัว มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย ในปทุมธานี-กทม. เป็นลูกหลานสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดในไทย ยังไม่มีข้อมูลดื้อต่อวัคซีน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 11.30 น. นพ.
ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.
วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันแถลงข่าว “
พบสายพันธุ์ย่อยของเดลตาในไทย” โดย นพ.
ศุภกิจ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจเชื้อพบภาพรวมทั่วประเทศ เป็นสายพันธุ์เดลตา 92.9% ส่วน กทม. 97% อย่างไรก็ตามปัจจุบันตรวจพบทุกจังหวัดของประเทศไทย ทั้งนี้ กรมวิทย์ฯ มีการตรวจพันธุกรรมทั้งตัวพบการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ต้องจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่
ด้าน ดร.
วสันต์ กล่าวว่า ทั่วโลกมีการจัดระเบียบสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแต่ละตำแหน่ง ดูการกลายพันธุ์เรื่อยๆ พบว่าเชื้อเดลตากลายพันธุ์หลุดออกมากกว่า 60 ตำแหน่ง จาก 30,000 ตำแหน่ง มีการแพร่ระหว่างคนสู่คนมาก มีสายพันธุ์ย่อยของเดลตาเยอะ AY.1- AY.22 มีการขยายไป 20 สายพันธุ์ย่อย สำหรับข้อมูลเฉพาะประเทศไทย เดลตาพบสายพันธุ์ย่อย AY.4 พบที่จังหวัดปทุมธยานี 4 ราย สายพันธุ์ย่อย AY.6 พบในประเทศไทย แต่ไม่ได้ระบุพื้นที่ที่พบ 1 ราย สายพันธุ์ย่อย AY.10 พบใน กทม. 1 ราย และสายพันธุ์ย่อย AY.12 พบที่ กทม.ย่านพญาไท 1 ราย ทั้งนี้ต้องจับตาว่าจะเพิ่มขึ้นมากหรือไม่ โดยไทยต้องจับตา AY.4 เพราะพบค่อนข้างมาก
เมื่อศึกษาต้นตระกูลของเชื้อกลายพันธุ์ย่อยในไทยว่าเป็นลูกหลานของสายพันธุ์เดลตาที่มีในไทยอยู่แล้ว ทั้งนี้บรรดาสายพันธุ์ย่อย ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ว่าจะดื้อต่อวัคซีนแต่อย่างใด ซึ่งต้องจับตากันต่อไปว่าเชื้อจะมีการกลายพันธุ์หลบวัคซีนหรือไม่ ส่วนเรื่องการส่งผลต่ออาการหรือการรักษานั้น ขอชี้แจงว่าการติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน การรักษายังเหมือนกัน ย้ำว่ายังไม่ใช่สายพันธุ์ไทย.
แฉขบวนการเก็บเงินค่าฉีดแอสตราฯ ทั้งที่วัคซีนฟรีแต่กลับต้องเสียเงิน
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6579404
เพจดัง เตือนอย่าทำแบบนี้ หลังชาวเน็ตร้องเรียน ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ฉีดวัคซีน ทั้งที่แอสตราเซนเนกา รัฐบาลจัดหามาให้ฉีดฟรี ก่อนพบไม่ใช่แค่รายเดียวที่โดน
วัคซีนที่มีคุณภาพยังนับเป็นทางออกในภาวะโควิด-19 ระบาดเช่นนี้ โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างเร่งฉีดวัคซีน และรัฐบาลได้จัดหาวัคซีนเพื่อฉีดฟรีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุด เป็นโพสต์ที่ได้รับการแชร์จากเพจ
หมอแล็บแพนด้า โดยระบุถึงประเด็นการฉีดวัคซีน ซึ่งพบว่า มีการร้องเรียนผ่านมาทางเพจ ระบุถึงการที้ต้องเสียเงินเพื่อฉีดวัคซีนทั้งที่วัคซีนดังกล่าวนั้นเป็นวัคซีนฟรี ที่รัฐจัดหามา
โดยโพสต์ร้องเรียนระบุว่า
” มีเรื่องมาแจ้งค่ะ ไม่ทราบว่าทางหมอแล็บทราบเรื่องไหม ตอนนี้มีการจ่ายเงินเพื่อฉีด az (แอสตราเซนเนกา) ด้วยนะคะ พนักงานที่บริษัทต้องจ่ายเงินคนละ 1 พันบาท เพื่อฉีดวัคซีนลงชื่อไปไม่ถึง 5 วัน จะได้ฉีด แต่ช่วยหาข้อมูลเพิ่มไม่ได้จริงๆ เพราะคนที่รับเงินเป็นญาติกับพนักงานที่บริษัท รู้สึกแย่มากแต่ทำอะไรไม่ได้ วัคซีนฟรีแต่ต้องมาเสียเงิน”
ทั้งนี้ พบว่ามีชาวเน็ตได้เข้ามาคอเมนต์ว่าโดนจ่ายเงินเช่นเดียวกัน บางคน 800 บ้าง 1500 บ้าง และบางคนก็บอกว่าตนเองจ่ายไปถึง 2000 บาท ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้
https://www.facebook.com/MTlikesara/posts/390928165723985
JJNY : ศก.ไทย ใกล้ถอยหลัง ป่วนสธ.ล่ม│พบลูกหลานสายพันธุ์เดลตา7ราย│แฉขบวนการเก็บค่าฉีดแอสตราฯ│ตั้งวีระศักดิ์ผู้ว่าฯอ่างทอง
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6580751
วันนี้ (24 ส.ค.) นายบุรินทร์ อดุลวัฒนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ทีมเศรษฐกิจและกลยุทธ์ และนายธีระภูมิ วุฒิปราโมทย์ นักเศรษฐศาสตร์ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด(มหาชน) ได้ออกบทความคาดการณ์เศรษฐกิจไทยลงใน เว็บไซต์ Bnomics ระบุว่า อีกไม่นานเศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่สภาวะถดถอย แม้โดยไตรมาส 2 ปี 2564 จีดีพีมีการขยายตัว ประมาณ 7.5% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากฐานต่ำสืบเนื่องจากการล็อคดาวน์ทั่วประเทศไทยในไตรมาสที่ 2 ปีที่แล้วและยังคงต่ำกว่าจีดีพีก่อนเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 ประมาณ 4% หลังจากที่ จีดีพี ประเทศไทยหดตัว 2.6% ในไตรมาสที่ 1 ปี 2564
ส่วน การฟื้นตัวของการส่งออกที่แข็งแกร่งเป็นตัวขับเคลื่อนหลักสำหรับการขยายตัวของ จีดีพี ในไตรมาสนี้ เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศคู่ค้าต่าง ๆ เริ่มมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น ด้วยเหตุนี้การส่งออกสินค้าและบริการของไทยจึงปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงที่ 27.5% ดีขึ้นจากที่หดตัวไป 10.5% ในไตรมาสที่ 1 ขณะที่การนำเข้าสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น 31.4% สูงขึ้นจากที่ขยายตัว 1.7% ในไตรมาสก่อน
ด้านการท่องเที่ยวรัฐบาลพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในประเทศด้วยโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และ สมุย พลัส โมเดล คาดว่าจะทำรายได้ให้กับประเทศได้ไม่มากนัก โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมเป็นต้นมามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพียงไม่กี่หมื่นคน ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับช่วงก่อนการระบาด ทั้งปีนี้ทางคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศไทยราว 1 แสนคน ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยที่ 1.2 ล้านคนมาก
ขณะนี้ประเทศไทยกำลังเผชิญกับการระบาดระลอกที่ 3 ที่มีผู้ป่วยใหม่เฉลี่ยกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน รัฐบาลได้ออกมาตรการล็อคดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้งหนึ่งในเดือนกรกฎาคมส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของผู้คนจำนวนหลายล้านคน ปัจจุบันการล็อคดาวน์พื้นที่ 29 จังหวัดนี้คิดเป็นกว่า 75% ของ จีดีพี ประเทศไทย และครอบคลุมกว่า 40% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ทาง ซึ่งมาตรการดังกล่าวจะยังคงมีผลบังคับใช้ไปจนถึงไตรมาสที่ 3 และจะเริ่มมีการผ่อนคลาย ช่วงไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป
แม้ว่านายกรัฐมนตรีจะให้คำมั่นว่าจะเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบช่วงเดือนพฤศจิกายน แต่มองว่ามีไม่น่าจะเป็นไปได้และคาดว่าไทยจะประสบกับการฟื้นตัวรูปแบบ W-shaped ไม่ใช่การฟื้นตัวแบบ V-shaped เหมือนกับประเทศที่ประสบความสำเร็จในการกระจายวัคซีนเนื่องด้วยระบบสาธารณสุขที่ล่ม อาจจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 – 3 เดือนก่อนที่สถานการณ์การแพร่ระบาดจะเริ่มดีขึ้น ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยจะยังคงขาดดุลจนกว่าการท่องเที่ยวจะกลับมาฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ
ประเทศไทยจะเข้าสู่สภาวะถดถอยอีกครั้งโดย จีดีพีในไตรมาสที่ 3 และ 4 จะหดตัว 3% และ 1.8% ตามลำดับ ทั้งนี้ตัวเลขการคาดการณ์การดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับแนวโน้มความสำเร็จในการแจกจ่ายวัคซีนและระยะเวลาที่ใช้ในการล็อคดาวน์ ส่วนการฟื้นตัวของ GDP จะเป็นไปได้ช้ากว่าประเทศอื่น ที่มีการจัดสรรวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะฟื้นกลับมาแตะระดับก่อนการระบาดในช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2565
สำหรับแนวโน้มปี 2565 คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วดังจะสังเกตได้จากประเทศต่างๆ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร และยุโรป ที่ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแกร่งหลังมีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง เราคาดว่า จีดีพี จะเพิ่มขึ้น 5% โดยมีแรงสนับสนุนหลักมาจากการบริโภคภาคเอกชน ส่วนด้านการท่องเที่ยวจะฟื้นตัวเพียงเล็กน้อย โดยมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเดินทางเข้ามาราว 2 ล้านคน แต่ก็อาจจะมากกว่านี้ได้ หากแผนการฉีดวัคซีนประสบความสำเร็จได้ดีกว่าคาด
ด่วน! พบลูกหลานสายพันธุ์เดลตา ติดเชื้อแล้ว 7 ราย อยู่ในกทม.-ปทุมธานี
https://www.dailynews.co.th/news/194040/
ด่วน พบสายพันธุ์เดลตาย่อยในไทย 4 ตัว มีผู้ติดเชื้อ 7 ราย ในปทุมธานี-กทม. เป็นลูกหลานสายพันธุ์เดลตาที่ระบาดในไทย ยังไม่มีข้อมูลดื้อต่อวัคซีน
เมื่อวันที่ 24 ส.ค. เวลา 11.30 น. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมด้วย ศ.เกียรติคุณ ดร.วสันต์ จันทราทิตย์ หัวหน้าศูนย์จีโนมทางการแพทย์ คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกันแถลงข่าว “พบสายพันธุ์ย่อยของเดลตาในไทย” โดย นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการตรวจเชื้อพบภาพรวมทั่วประเทศ เป็นสายพันธุ์เดลตา 92.9% ส่วน กทม. 97% อย่างไรก็ตามปัจจุบันตรวจพบทุกจังหวัดของประเทศไทย ทั้งนี้ กรมวิทย์ฯ มีการตรวจพันธุกรรมทั้งตัวพบการเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ต้องจับตาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรหรือไม่
ด้าน ดร.วสันต์ กล่าวว่า ทั่วโลกมีการจัดระเบียบสายพันธุ์ของเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีการศึกษาวิวัฒนาการของไวรัสเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแต่ละตำแหน่ง ดูการกลายพันธุ์เรื่อยๆ พบว่าเชื้อเดลตากลายพันธุ์หลุดออกมากกว่า 60 ตำแหน่ง จาก 30,000 ตำแหน่ง มีการแพร่ระหว่างคนสู่คนมาก มีสายพันธุ์ย่อยของเดลตาเยอะ AY.1- AY.22 มีการขยายไป 20 สายพันธุ์ย่อย สำหรับข้อมูลเฉพาะประเทศไทย เดลตาพบสายพันธุ์ย่อย AY.4 พบที่จังหวัดปทุมธยานี 4 ราย สายพันธุ์ย่อย AY.6 พบในประเทศไทย แต่ไม่ได้ระบุพื้นที่ที่พบ 1 ราย สายพันธุ์ย่อย AY.10 พบใน กทม. 1 ราย และสายพันธุ์ย่อย AY.12 พบที่ กทม.ย่านพญาไท 1 ราย ทั้งนี้ต้องจับตาว่าจะเพิ่มขึ้นมากหรือไม่ โดยไทยต้องจับตา AY.4 เพราะพบค่อนข้างมาก
เมื่อศึกษาต้นตระกูลของเชื้อกลายพันธุ์ย่อยในไทยว่าเป็นลูกหลานของสายพันธุ์เดลตาที่มีในไทยอยู่แล้ว ทั้งนี้บรรดาสายพันธุ์ย่อย ยังไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ ว่าจะดื้อต่อวัคซีนแต่อย่างใด ซึ่งต้องจับตากันต่อไปว่าเชื้อจะมีการกลายพันธุ์หลบวัคซีนหรือไม่ ส่วนเรื่องการส่งผลต่ออาการหรือการรักษานั้น ขอชี้แจงว่าการติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ไหน การรักษายังเหมือนกัน ย้ำว่ายังไม่ใช่สายพันธุ์ไทย.
แฉขบวนการเก็บเงินค่าฉีดแอสตราฯ ทั้งที่วัคซีนฟรีแต่กลับต้องเสียเงิน
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6579404
เพจดัง เตือนอย่าทำแบบนี้ หลังชาวเน็ตร้องเรียน ต้องจ่ายเงินเพื่อให้ได้ฉีดวัคซีน ทั้งที่แอสตราเซนเนกา รัฐบาลจัดหามาให้ฉีดฟรี ก่อนพบไม่ใช่แค่รายเดียวที่โดน
วัคซีนที่มีคุณภาพยังนับเป็นทางออกในภาวะโควิด-19 ระบาดเช่นนี้ โดยประเทศไทยอยู่ระหว่างเร่งฉีดวัคซีน และรัฐบาลได้จัดหาวัคซีนเพื่อฉีดฟรีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ล่าสุด เป็นโพสต์ที่ได้รับการแชร์จากเพจ หมอแล็บแพนด้า โดยระบุถึงประเด็นการฉีดวัคซีน ซึ่งพบว่า มีการร้องเรียนผ่านมาทางเพจ ระบุถึงการที้ต้องเสียเงินเพื่อฉีดวัคซีนทั้งที่วัคซีนดังกล่าวนั้นเป็นวัคซีนฟรี ที่รัฐจัดหามา
โดยโพสต์ร้องเรียนระบุว่า ” มีเรื่องมาแจ้งค่ะ ไม่ทราบว่าทางหมอแล็บทราบเรื่องไหม ตอนนี้มีการจ่ายเงินเพื่อฉีด az (แอสตราเซนเนกา) ด้วยนะคะ พนักงานที่บริษัทต้องจ่ายเงินคนละ 1 พันบาท เพื่อฉีดวัคซีนลงชื่อไปไม่ถึง 5 วัน จะได้ฉีด แต่ช่วยหาข้อมูลเพิ่มไม่ได้จริงๆ เพราะคนที่รับเงินเป็นญาติกับพนักงานที่บริษัท รู้สึกแย่มากแต่ทำอะไรไม่ได้ วัคซีนฟรีแต่ต้องมาเสียเงิน”
ทั้งนี้ พบว่ามีชาวเน็ตได้เข้ามาคอเมนต์ว่าโดนจ่ายเงินเช่นเดียวกัน บางคน 800 บ้าง 1500 บ้าง และบางคนก็บอกว่าตนเองจ่ายไปถึง 2000 บาท ซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในขณะนี้
https://www.facebook.com/MTlikesara/posts/390928165723985