❤มาลาริน/ว้าว ! ใกล้วันที่เราจะชนะ...หมอประสิทธิ์ เผยไทยสัญญาณเริ่มดีติดเชื้อคงที่ เชื่อมั่นกลางก.ย.น่าจะคลายล็อกดาวน์



วันที่ 22 สิงหาคม 2564 ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงแนวโน้มการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย และแนวทางผ่อนคลายมาตรการ ว่า ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เห็นตัวเลขขณะนี้อาจดูเหมือนยังไม่ลดลง เพราะผู้ติดเชื้อใหม่ยังแกว่งอยูที่ 1.9-2 หมื่นรายต่อวัน แต่ที่เห็นชัด คือ อัตราการติดเชื้อลดลง ตัวเลขที่จะวิ่งขึ้นมากๆ ไม่เกิดขึ้นมาเกือบ 2 สัปดาห์แล้ว สำหรับตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 300 รายต่อวัน เมื่อสอบถามข้อมูลก็พบว่า เป็นตัวเลขที่รายงานเข้าระบบช้า แต่ตอนนี้เข้าใจว่ามีการเคลียร์ตัวเลขแล้ว ดังนั้น ตอนนี้ผู้เสียชีวิตรายใหม่น่าจะอยู่ที่ 200 กว่าราย ซึ่งถ้าดูวันต่อวัน อาจไม่ชัด ต้องดูตัวเลข 7 วัน แล้ว เฉลี่ยกัน จะเห็นเส้นความชันเริ่มน้อยลงกว่าเดิมใกล้เข้าสู่ระนาบเส้นตรง และเมื่อถึงจุดหนึ่ง กราฟก็จะเริ่มกดหัวลงเป็นขาลง

ศ.นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทำให้กราฟลดลงเกิดจาก 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.การฉีดวัคซีนป้องกัน อย่างเช่นหลายประเทศที่ฉีดมากกว่า ร้อยละ 25 ของจำนวนประชากร จะเริ่มสู่ระยะที่ใกล้จะถึงพีค เมื่อฉีดใกล้ถึงร้อยละ 40-50 ก็จะเริ่มเห็นตัวเลขปรับลง ซึ่งขณะนี้ไทยฉีดวัคซีนแล้วประมาณ ร้อยละ 28 ของจำนวนประชากร ถือว่าทำได้ดี บางวันฉีดสูงถึง 6 แสนโดส ดังนั้น เดือนๆ หนึ่ง น่าจะถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ 15-18 ล้านโดส ก็หวังว่าเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ถึง 15 ล้านโดส หากเกิดขึ้นได้จริง ก็จะเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ทำให้กราฟกดหัวลงเร็วขึ้น แต่ต้องควบคู่กับระบบบริหารจัดการ รวมถึงประชาชนต้องเข้ามารับวัคซีน ทั้งนี้ ยืนยันว่าการฉีดวัคซีนสูตร SA ด้วยเข็มที่1 ซิโนแวค เข็มที่ 2 แอสตร้าเซนเนก้า ห่างกัน 3 สัปดาห์ ให้ประสิทธิผลทางทฤษฎีในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันระดับบี เซลล์ (B Cell) และที เซลล์ (T Cell) ได้สูง และมีประสิทธิผลในห้องปฏิบัติการ (แล็บ) ยืนยัน อย่างไรก็ตาม 2.มาตรการสังคม การปกครอง และ 3.มาตรการบุคคล ก็เป็นส่วนสำคัญในการลดอัตราการแพร่ระบาดของเชื้อ

ทั้งนี้ ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวต่อว่า ถ้าวัคซีนพอ ระบบดี และคนไปฉีดวัคซีน ก็เชื่อว่าหากตัวเลขเป็นไปตามเป้าหมายนี้จริงๆ โอกาสที่จะเริ่มเข้าสู่ขาลงใกล้ๆ นี้ ก็น่าจะเป็นไปได้ เชื่อว่าภายในเดือนกันยายนนี้ จะเห็นตัวเลขการเสียชีวิตลดลง เพราะโมเมนตัมของผู้ป่วยใหม่ที่เข้ามาแล้วต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ออกซิเจนลดลง แต่คนที่ใช้อยู่ก่อน เช่น ที่ รพ.ศิริราช รักษากันเดือนกว่า ดังนั้น ตัวเลขการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น ก็เป็นการย้อนกลับมา อาจไม่ใช่ตัวเลขที่บอกได้ทันที แต่ตัวเลขผู้ป่วยหนัก ผู้ป่วยใหม่ที่มีปอดอักเสบ ใช้เครื่องช่วยหายใจ จะเป็นตัวคาดการณ์ในอนาคต ถ้าตัวเลขน้อยลงเรื่อยๆ คาดการณ์ว่า อัตราสียชีวิตจะน้อยลง และตอนนี้เริ่มเห็นแนวทางจากข้อมูลสะสมรายสัปดาห์ เริ่มเห็นอัตราคงที่ และน่าจะเริ่มมีตัวเลขลงแล้ว แต่อัตราการติดเชื้อใหมจะเห็นช้าไปอีก 2-3 สัปดาห์ หากไม่มีการระบาดคลัสเตอร์ใหญ่ๆ ขึ้นมา ส่วนตัวเชื่อว่าภายในกลางเดือนกันยายนนี้ น่าจะเห็นตัวเลขขาลง ค่อนข้างแน่ หากดูในเวิลด์โดมิเตอร์ ก็เริ่มเห็นว่าลงเล็กน้อย อีก 2-3 สัปดาห์ต่อจากนี้น่าจะเห็นชัด

ศ.นพ.ประสิทธิ์ ยังกล่าวถึงหลักการผ่อนคลายมาตรการ ว่า ต้องดูจากข้อมูลจริง และอัตราคนที่ได้รับการฉีดวัคซีน ส่วนรูปแบบการผ่อนคลายนั้น ทุกประเทศคล้ายกันคือ ไม่ล็อกดาวน์ (Lockdown) ทั้งประเทศอีกแล้ว แต่จะล็อกตามเป้าหมาย (Target Lockdown) จังหวัดไหนทำได้ดี ก็จะผ่อนคลาย แต่มีมาตรการติดตามใกล้ชิด กิจกรรมที่สามารถควบคุมได้ สถานประกอบการ ผู้เข้าใช้บริการต่างร่วมมือ และมีการฉีดวัคซีน

https://siamrath.co.th/n/273749

เพี้ยนสู้สู้ว้าว....วันที่เราจะชนะไปด้วยกัน ใกล้เข้ามาแล้ว...

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ฟ้าหลังฝนงดงามเสมอ รอวันที่ปัญหาทุกอย่างหมดไปครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่