เที่ยวเกาหลี 8 วัน "คุณหมอคะขอใบรับรองแพทย์หน่อยค่ะ หนูต้องไปใจมันสั่งมา" : ขาล้าทราเว่ล

สวัสดีค่ะห่างหายไปนาน ในสถานการณ์ Covid รอบที่ล้านของไทยอย่างนี้ เราต้องไป "เที่ยวทิพย์" ที่เกาหลีกันซะหน่อย พร้อมแล้วตามมาจ้า
ดาวย้อนไปเดือนมีนา 2019 หลังจากเราเตรียมแพลนเที่ยวอย่างหนักหน่วง คุณแฟนก็ป่วยก่อนวันเดินทาง!!! ตรวจพบว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ B อาการค่อนข้างหนัก โอ๊ววว สองจิตสองใจเราจะทำไงดี จะยกเลิกหรือลุย ถึงขนาดว่าคุณพ่อบอกให้ยกเลิกไม่ต้องไป เกิดเป็นอะไรที่นั่นจะเรื่องใหญ่ และใช่ค่ะ ส้มโอกับคุณแฟนก็ยังไปอยู่ดี โดยเล่าให้คุณหมอฟังว่าจะเดินทาง ให้คุณหมอเขียนใบรับรองแพทย์สำหรับยาที่พกไปให้ด้วย แล้วก็ทำประกันการเดินทางเพิ่ม ไปค่ะ ไปลำบากกัน..
ยักษ์คู่เดือนมีนาจัดเป็นหน้าหนาวนะคะ ที่เจอคืออากาศอยู่ที่ 4-15 องศา มาดูกันว่าเราไปทรมานร่างกายที่ไหนบ้าง จากรูปแผนที่ประเทศเกาหลีใต้ เราจะไปลงสนามบินอินชอนแล้วเข้า Seoul ตามลูกศรสีแดง - ลงใต้ไป GyeongJu สีเขียว - ต่อด้วย Daegu สีน้ำเงิน คิดแล้วก็งงมากคือกูไปทำไมเนี่ย!
(ออกตัวก่อนว่ามันก็ผ่านมานาน ข้อมูลต่างๆลืมไปเยอะแล้วอาจจะให้ข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน ตกหล่นตรงไหนสามารถมาเสริมกันได้นะคะ ไปจ้า)
นั่งเครื่องโลวคอสประสาคนโลวบัดเจ็ท หลังแข็งตั้งฉาก เข่าชนเบาะอยู่ 1 คืน ก็ถึงค่ะ ต่อแถวเข้า ตม. ปรากฏว่าผ่านปกติไม่มีเรื่องน่าระทึกอันใด ไปถึงสิ่งแรกที่ต้องทำคือซื้อไอ้บัตรนั่นแล้วก็เติมตังใส่มันซะ! จากสนามบินเข้าโซล คนอื่นเค้านั่งรถไฟ AREX กัน เรานั่งรถเมล์ค่ะ กำพืดคนจนนี่มันลืมยากจริงๆ ปรากฏว่า รถเมล์แพงกว่า นั่งรถไฟเถอะ 555+ แต่ๆๆ นั่งรถเมล์ได้ดูบรรยากาศนะจ้ะ เข้าเมืองปุ๊บก็มี sms alert เข้ามือถือทุกคนทันที เป็นภาษาเกาเราอ่านไม่ออกหรอก แต่เข้าใจว่าเตือนเรื่องสภาพอากาศว่ามีฝุ่นเยอะ
moonstarก่อนอื่นเราไปที่พักก่อน ส้มโอจองที่พักไว้ชื่อ Seoul dalbit guesthouse ย่านจงโน เป็นเกสเฮ้าส์ถูกๆค่ะ ห้องจิ๋วเดียว แต่ภาพรวมก็โอเคอยู่ได้สบายๆ เดินทางสะดวก และที่สำคัญ ปากซอยมีลูกชิ้นปลาอร่อยที่สุด!!! วางของแล้วออกไปเดินเล่นสำรวจกัน
ในห้องมีแค่นี้ เล็กแค่นี้จริงๆ จิ๋วหลิว
ร้านนี้ค่ะที่ว่าอร่อย ลูกชิ้นปลาจุ่มน้ำซุปนั่นล่ะเค้าเรียก "ออมุก" อร่อยมาก รักป้า ขอป้าแต่งงาน ทริปนี้กินออมุกหลายร้าน ร้านนี้อร่อยสุด
เดินสำรวจแถวนั้นแบบไม่ได้ทำการบ้านมา ดันเจอจุดที่เป็นที่นิยมทั้งนั้นเลย!
ลานไฟๆดอกไม้ที่ดิชั้นไม่ได้สนใจ ก็เดินผ่านเฉยเลย
คลองชองกเยชอน ก็ผ่านอีก น้ำเย็นเจี๊ยบ!
มิวเซี่ยมที่เค้าจัดแฟชั่นวีคก็เจออีก
เดินเล่นชมเมือง อากาศเย็นมีความสุขมากกก
ถ่ายรูปข้ามถนนแบบ เผลอๆ
สายไฟม้วนๆเค้าก็มีนะ
หาของกินกัน
แวะร้านนึง ไม่รู้หรอกว่าขายอะไร ชี้ๆเอาหน้าร้าน ปรากฎว่าเป็นไส้ ผัดพริก จานใหญ่มาก ข้าวห่อสาหร่าย มีซุปกับผักดองมาให้ คุยกับคนขายว่าจานมันใหญ่เนอะน่าจะมีแบบจานเล็กด้วย เขาก็แนะนำนั่นนี่คุยกันนิดหน่อยพอให้ฟังไม่รู้เรื่อง สรุป ชอบไส้ผัดพริกจานนี้ อร่อยแซ่บ แต่กินได้นิดเดียวเหลือทิ้ง เพราะคุณแฟนป่วยกินไม่ลงค่ะ 555+ กินเสร็จเข้าบ้านนอนเจอกันวันที่ 2 จ้า
มีแวะร้านนี้ด้วย อยากลองไอ้ไม้ๆมุมซ้ายของรูป เหมือนชีสชุบแป้งทอด คือพูดกับป้าทุกโทนเสียงแล้ว ชีส ชี๊ส ชี๋ส ชีสสส ป้าก็ยังไม่เข้าใจ สรุป เกาหลีต้องออกเสียงชีสสึ! นะคะ โอ๊ยยย
ทากวันที่ 2 วันนี้เราจะไปวังกัน
ห้องนั่งเล่นที่เกสเฮ้าส์ มีตู้เย็นพร้อมคอนเฟลค นม ขนมให้กินนิดหน่อย
ออกแต่เช้าอากาศหนาวมากกก ลมแรงมากกก วิ่งกลับขึ้นห้องไปใส่ฮีทเทค พอสายๆก็ถอดจ้ะ ร้อน
เดินทางด้วยรถไฟใต้ดิน ศึกษาแผนที่นิดนึงนะ
หมู่บ้านบุกชอนฮันอก นิยมใส่ชุดฮันบกมาถ่ายรูปกัน
กลอนแปลกดีนะ
แวะกินกาแฟร้านนี้ ม่ายอร่อย
เริ่มเที่ยงเหมือนคนทำงานเค้าออกมาหาของกินกัน
ดูที่จอดรถ
หาข้าวกินหน่อย
โอเคนะรสชาติพอได้ ราคาน่ารัก จานใหญ่กินไม่หมดเช่นเคย เอาเมนูมาฝากค่ะ
ท้องอิ่มแล้วก็ไปต่อ ส้มโอไปหลายวังนะคะจะลงรวมๆเลยเพราะจำไม่ได้ พระราชวังชังด็อกกุง พระราชวังชังกย็อง พระราชวังคยองบกกุง
จ๊ะเอ๋!
ยามเย็นรอบๆวัง
ต่อใน Comment นะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่