เมื่อชาวยุโรปได้ล่องเรือไปยังโลกใหม่พวกเขาก็ได้พบปะกับคนพื้นเมือง และคนพื้นเมืองเหล่านี้ไม่มีความรู้ว่ามีทวีปยุโรปอยู่เลยหรือแม้กระทั่งวิธีสื่อสารกับชาวยุโรปแต่อย่างที่พวกเรารู้กันว่ามีการติดต่อกันเกิดขึ้นและก็มีสนธิสัญญาการค้าต่างๆระหว่างชนพื้นเมืองกับชาวยุโรปแต่อย่างที่เรารู้ว่าไม่มีล่ามในการแปลภาษาทำให้เกิดคำถาม พวกเขาสนทนากันอย่างไร? นักสำรวจชาวยุโรปคุยกับคนพื้นเมืองยังไง?
ดังนั้น เริ่มต้นเลยการที่อารยธรรมอยู่ใกล้ๆกันก็จะมีผู้คนในแถบชายแดนนั้นๆที่สามารถใช้เป็นล่ามได้เมื่อยุโรปล่าอาณานิคมในแอฟริกาชาวยุโรปมักจะนำผู้คนที่พูดอารบิคได้ไปเป็นล่ามเพราะว่ามีการค้าขายก่อนหน้านั้นหลายร้อยปีแล้วและก็มีอาณาจักรตามริมทะเลที่พูดอารบิค แต่อย่างไรก็ตามสำหรับอาณาจักรที่อยู่ห่างกัน 1 มหาสมุทรนั้นไม่มีคนอยู่แถบชายแดนเลย เพราะฉะนั้นโคลัมบัสสื่อสารกับคนพื้นเมืองที่ Hispaniola อย่างไรในปี ค.ศ. 1492
พวกเขาใช้วิธีการสื่อสารที่ง่ายที่สุด "ภาษาใบ้" เช่นการชี้ไปที่สิ่งนั้นๆแล้วบอกชื่อ หรือทำสิ่งนั้นๆแล้วบอกชื่อ หรือไม่ก็วาดรูปถ้าหากบางอย่างนั้นยากเกินไป
การกระทำเหล่านี้ครอบคลุมสิ่งพื้นฐานเกือบทั้งหมดเช่น บ้าน อาหาร ทอง พระเยซู หรือเรือ แต่ถ้าหากอย่างกว่านี้ก็จำเป็นต้องฝึกล่ามแต่เราก็รู้กันดีว่าการที่จะใช้ภาษาใบ้บอกกับคนพื้นเมืองว่า "พวกคุณอยากขึ้นเรือข้ามมหาสมุทรเป็นแรมเดือนไปสเปนเพื่อไปเรียนภาษาและทำหน้าที่เป็นล่ามในอนาคตไหม" นั้นค่อนข้างยากชาวยุโรปจึงใช้วิธีที่ง่ายกว่านั้น การลักพาตัว แต่ค่อนข้างโชคร้ายคนพื้นเมืองที่โคลัมบัสลักพาตัวนั้นอยู่ได้ไม่นานก็เสียชีวิตเพราะฝีดาษ
แล้วมันเกิดการเปลี่ยนแปลงตอนไหน? ว่ากันเลย หลังจากที่สเปนนั้นคิดวิธีใหม่คือจับตัวชาวพื้นเมืองแล้วกักบริเวณอยู่แค่ที่ของชาวยุโรปที่ตั้งรกรากแล้วสอนภาษาเพื่อป้องกันโรคฝีดาษหรืออีกวิธีที่ค่อนข้างพบได้ยากคือเรือสเปนนั้นอัปปางแล้วลูกเรือถูกคนพื้นเมืองจับไปเป็นทาสแล้วก็ถูกสอนภาษาแล้วใช้เป็นล่ามและเมื่อมีล่ามที่สามารถพูดได้ฉะฉานแล้วที่เหลือก็เป็นแบบเมื่อก่อนแล้วเหมือนการทูตทั่วๆไปและหลังจากในช่วง 40 ปีการสื่อสารระหว่างชาวยุโรปกับคนพื้นเมืองก็เป็นปกติเหมือนทุกๆที่บนโลก
Until next time
WOJAK
ชาวยุโรปสื่อสารกับคนพื้นเมืองอย่างไร
ดังนั้น เริ่มต้นเลยการที่อารยธรรมอยู่ใกล้ๆกันก็จะมีผู้คนในแถบชายแดนนั้นๆที่สามารถใช้เป็นล่ามได้เมื่อยุโรปล่าอาณานิคมในแอฟริกาชาวยุโรปมักจะนำผู้คนที่พูดอารบิคได้ไปเป็นล่ามเพราะว่ามีการค้าขายก่อนหน้านั้นหลายร้อยปีแล้วและก็มีอาณาจักรตามริมทะเลที่พูดอารบิค แต่อย่างไรก็ตามสำหรับอาณาจักรที่อยู่ห่างกัน 1 มหาสมุทรนั้นไม่มีคนอยู่แถบชายแดนเลย เพราะฉะนั้นโคลัมบัสสื่อสารกับคนพื้นเมืองที่ Hispaniola อย่างไรในปี ค.ศ. 1492
พวกเขาใช้วิธีการสื่อสารที่ง่ายที่สุด "ภาษาใบ้" เช่นการชี้ไปที่สิ่งนั้นๆแล้วบอกชื่อ หรือทำสิ่งนั้นๆแล้วบอกชื่อ หรือไม่ก็วาดรูปถ้าหากบางอย่างนั้นยากเกินไป
การกระทำเหล่านี้ครอบคลุมสิ่งพื้นฐานเกือบทั้งหมดเช่น บ้าน อาหาร ทอง พระเยซู หรือเรือ แต่ถ้าหากอย่างกว่านี้ก็จำเป็นต้องฝึกล่ามแต่เราก็รู้กันดีว่าการที่จะใช้ภาษาใบ้บอกกับคนพื้นเมืองว่า "พวกคุณอยากขึ้นเรือข้ามมหาสมุทรเป็นแรมเดือนไปสเปนเพื่อไปเรียนภาษาและทำหน้าที่เป็นล่ามในอนาคตไหม" นั้นค่อนข้างยากชาวยุโรปจึงใช้วิธีที่ง่ายกว่านั้น การลักพาตัว แต่ค่อนข้างโชคร้ายคนพื้นเมืองที่โคลัมบัสลักพาตัวนั้นอยู่ได้ไม่นานก็เสียชีวิตเพราะฝีดาษ
แล้วมันเกิดการเปลี่ยนแปลงตอนไหน? ว่ากันเลย หลังจากที่สเปนนั้นคิดวิธีใหม่คือจับตัวชาวพื้นเมืองแล้วกักบริเวณอยู่แค่ที่ของชาวยุโรปที่ตั้งรกรากแล้วสอนภาษาเพื่อป้องกันโรคฝีดาษหรืออีกวิธีที่ค่อนข้างพบได้ยากคือเรือสเปนนั้นอัปปางแล้วลูกเรือถูกคนพื้นเมืองจับไปเป็นทาสแล้วก็ถูกสอนภาษาแล้วใช้เป็นล่ามและเมื่อมีล่ามที่สามารถพูดได้ฉะฉานแล้วที่เหลือก็เป็นแบบเมื่อก่อนแล้วเหมือนการทูตทั่วๆไปและหลังจากในช่วง 40 ปีการสื่อสารระหว่างชาวยุโรปกับคนพื้นเมืองก็เป็นปกติเหมือนทุกๆที่บนโลก