ขอเกริ่นนะครับ แฟนผมเพิ่งเสียไป เพราะลิ่มเลือดอุดตันในสมองเส้นเลือดดำ ตัวเขามีโรคประจำตัว 3 อย่างที่รู้ตอนคบคือ
เนื้องอกในมดลูก กับ เกล็ดเลือดจาง ความดันต่ำ

ตั้งแต่เริ่มคบกัน เขาได้บอกกับผมเรื่องโรคประจำตัว ซึ่งทำให้ผมเป็นห่วงเขามาก เขาเคยเล่าว่านั่งขัดผิวอยู่แล้วจะวูบเอา ซึ่งทำให้ผมอยากพาเขาไปตรวจสุขภาพมากๆ ผมขยั้นขยอเขา เพราะเป็นห่วง เขาก็พยายามบ่ายเบี่ยงเพราะกลัวจะเจอโรคอื่นๆ ผมก็บอกเขาว่างั้นกลางปีไปนะ พอจะกลางปี เขาได้ทำงานที่ใหม่ ผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ไปตรวจสุขภาพกัน เขาก็บอกรอของบริษัทก็ได้ ไม่ต้องเสียตัง ผมก็ยังไม่สบายใจ งั้นก็แก้ไขในสิ่งที่ปัจจุบันที่รู้ก่อน

ผมพาเขาไปหาหมอหลายรอบมาก ในเรื่องเกล็ดเลือดต่ำ จนมาสามารถแก้ไขได้ และเกล็ดเลือดปกติ ในส่วนของเนื้องอกเขาไม่ได้ฟอลโลอัพเป็นปี ตั้งแต่ก่อนคบกับผม ผมจึงพาไปฟอลโลวอัพเรื่อยๆ จนอัลตร้าซาวน์ได้รู้ว่า มันขนาดใหญ่ขึ้นแค่นิดเดียว เราดีใจกันมาก รวมถึงเรื่องเกล็ดเลือดด้วย

ไม่เคยมีวันไหนที่แฟนผมไป โรงพยาบาลเอง เพราะผมจะเป็นห่วงสุขภาพเขาเสมอ

เขาจะมีอาการเลือด ปจด. ออกเยอะผิดปกติ เรื่อยๆ หมอให้กินยาคุมกำเนิด เพื่อไม่ให้เนื้องอกใหญ่ขึ้น รวมถึงปรับฮอร์โมน

เรื่องที่ผมไม่ทราบคือ เขาจะมีอาการ ปวดหัว แต่ไม่บ่อย และไม่แสดงออกว่าปวดมากแค่ไหน ซึ่งผมไม่สามารถรับรู้ได้ ก็จะแนะนำให้กินยา เพราะไม่รู้ว่าที่เขาปวด มันมาจากอะไร เขาจะบอกผมว่า ปวดหัว สงสัยนอนน้อย บางทีผมก็คิดว่าเขาจ้องคอมนานไปเพราะ WFH

อยู่มาวันนึงเขาปวดหัวมากๆ หายใจไม่ออก ไม่มีแรง รวมถึงอาเจียน และตอนนั้นผมเพิ่งเสร็จงานจึงรีบขับรถไปหา ใช้เวลาไม่ถึง ชั่วโมง และพาเขาไป โรงพยาบาล และเข้าห้องฉุกเฉิน

ผมรีบลงจากรถ มานั่งรอหน้าห้อง และเดินเข้าไปเอามือถือไปให้ เห็นเขานั่งอยู่กับพยาบาลสามคน ผมจึงไม่รบกวน ผมนั่งดูเวลามันใกล้จะเคอร์ฟิว ผมจึงสั่งอาหารมารอ ถ้ากลับห้องจะได้กินด้วยกัน  รวมถึงผมไลน์บอกเขาว่า ถ้าไม่ไหว แอดมิตไปนะครับ 
หลังจากนั้นประมาณชั่วโมง พยาบาลเข็นแฟนผมมาตรงที่จ่ายยา แฟนผมบอกว่าขอใบรับรองแพทย์ให้ด้วย ผมจึงไปขอ เขาสรุปว่า ติดเชื้อในทางเดินอาหาร 
ผมจึงสบายใจไปส่วนนึง แต่เขาก็ยังไม่มีแรง ผมก็พยุงเขาขึ้นรถกลับห้อง ถึงห้องเขาเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ และขอนอน ผมถามเขาว่าเช็ดตัวมั้ย เขาบอกไม่เอา จะนอน

ผมนั่งดูอาการเขาประมาณ 3 ชั่วโมง และเขาก็ตื่นมาตอนประมาณห้าทุ่ม เขาขอกินยา ผมจึงชงเกลือแร่ และ ถามเขาว่าจะกินข้าวมั้ย เขาบอกไม่กิน
เขาบอกขอกินยา ผมจึงนำพาราไปให้เขา เพราะมันเบา แต่เขาบอก ขอกิน Ibuprofen เพราะมันไม่ไหว ผมจึงไม่เกี่ยงเขา และก็เตือนเขาว่า กินยาคุมหรือยังวันนี้ เขาบอกยัง หยิบให้หน่อย ผมก็ไปนำมาให้เขา เขาจะกินเอง เพราะเดี๋ยวไม่ตรงตามลูกศร

หลังจากกินยา ผมก็อาบน้ำขึ้นไปนอนกับเขา เขาพูดกับผมว่า รักจังเลย ถ้าไม่มีผมเขาตายแน่เลยวันนี้ ผมก็ดีใจมาก และก็คุยกับเขาไปหลายๆเรื่อง
รวมถึงอาหารเป็นพิษ ผมเคยเป็นแต่ไม่ปวดหัวนะ ผมก็ยัง งงๆ นอนคุยกันซักพัก เขาก็บอกว่า เธอยังไม่ได้นอนเลยนี่ทำงานมา นอนได้แล้ว
ผมจึงบอกรักเขาและนอน

ตื่นเช้ามา เขาปวดหัวอาการยังไม่ดีขึ้น เขาจึงขอกิน Avocado กับขนม จากนั้นกินยา ผมก็ไปเตรียมให้เขา 
พอนอนต่อซักพัก เขามีอาการปวดหัว หายใจไม่ออก ชักเกร็ง คราวนี้ไม่สามารถสื่อสารกันได้เลย จึงรีบอุ้มเขาพาเขาไป โรงพยาบาลเดิม 

พยาบาลคนเดิมถามว่า ทำไมอาการหนักกว่าเดิมละ ผมก็ไม่ทราบเหมือนกัน

จนได้ CT SCAN จึงได้รู้ว่ามีลิ่มเลือดอุดตันในเส้นเลือดดำที่สมอง และก็นั่นแหละครับ เขาก็จากไป หลังจากนอนโรงพยาบาลได้ 6 วัน

หมอวินิจฉัยผลเลือดว่าเป็น Antiphospholipid Antibody Syndrome ผมได้นำโรคนี้ไปค้นจึงพบว่า

ประชากรไม่ถึง 1 percent บนโลก เป็นโรคนี้
โรคนี้ทำให้มีโอกาสเป็นลิ่มเลือด
ไม่ควรกิน Avocado
ไม่ควรกินยาคุมกำเนิด
ไม่ควรกิน Ibuprofen 

ซึ่งทั้งหมดนั้น เขาได้กินทั้งหมดเลย จึงอาจทำให้เขาอาการสาหัสมากๆ 

ผมจึงรู้สึกผิดมากๆ ว่าทำไมผมต้องการที่จะดูแลผู้หญิงคนนึงให้ดีที่สุดของผม แต่สิ่งที่ผมทำ มันเหมือนผมไปฆ่าเขาเลยครับ 

ทั้งๆที่ผมพยายามดูแลสุขภาพของเขามาตลอด ไม่ว่าโรคอะไรของเขา แต่พอเจอเรื่องแบบนี้ โลกผมมันมืดมน มันไม่อยากอยู่อีกต่อไป 

เพราะสิ่งที่พยายามมาทั้งหมด สุดท้ายเขาก็เสียชีวิต และเหมือนผมเป็นส่วนนึงที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ 

ผมอยากรู้ว่าเพื่อนๆมองว่ายังไงกันครับ กับการปฏิบัติของผมคนนี้ เพื่อให้ผู้หญิงคนนึง ที่รักมาก   

ผมฆ่าแฟนผมหรือเปล่า