.
บูมนอนหลับอยู่บนเตียง หมอบอกว่าอาการทรงตัว ร่างกายยังไม่ตอบสนองต่อการรักษา แต่ถือว่าปลอดภัยแล้ว
ตอนนี้เนสไม่สบายใจเลย อยากไปเยี่ยมก็ไปไม่ได้ ทำได้แค่ภาวนาขอให้ยายจันทร์อยากไปเยี่ยมบูมบ้าง ถ้าจะขอไปกับย่าของบูมก็ไม่ควร ถ้าจะไปเองก็ไปไม่ถูกอีก และ ถึงไปถูกจะบอกกับพ่อแม่ของบูมว่าอย่างไรล่ะ แค่คิดก็ท้อ รอคอยฟังข่าวจากย่าของบูมที่บ้านแล้วกัน ทว่าตอนนี้ใจจะขาดอยู่รอมร่อ อยากรู่ว่าอาการของบูมเป็นอย่างไรบ้าง
เหมือนสวรรค์มาโปรด ย่าของบูมได้รับข่าวจากพ่อของบูมว่า บูมได้ย้ายเข้ามานอนห้องพักฟื้นแล้ว และ วันนี้จะเข้าไปเยี่ยมบูมด้วย ซึ่งยายจันทร์ขอตามไปเยี่ยมด้วยคน นั่นแปลว่าเธอก็ต้องได้ไป ดีใจจนเนื้อเต้น ดีใจจนน้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วงบูม
เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เมื่อทุกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจึงออกเดินทางไปที่โรงพยาบาล เธอนั่งรถด้วยใจจดจ่อ อยากไปเจอบูม อยากไปถึงให้เร็วที่สุด แม้รู้ว่าปลอดภัยแล้วก็อยากให้เห็นกับตาตนเอง จะได้สบายใจสักที
สักพักรถเคลื่นเข้ามาจอดที่ลาดจอดรถของโรงพยาบาล ทุกคนเปิดประตูลงจากรถพร้อมกัน เนสมองเข้าไปในตัวอาคารของโรงพยาบาล บูมอยู่ทตึกไหน ตอนนี้อยากเจอเต็มทน แล้วทุกคนก็เดินเข้าไปในตัวอาคารของโรงพยาบาล เพื่อไปหาบูม เป็นเวลาที่เนสรอคอยที่สุด
พ่อของบูมเดินออกมารับพวกเธอ มาถึงเธอยกมือไหว้สวัสดีพ่อของบูมที่เดินมารับ เพื่อพาขึ้นตึกไป วันนี้มันควรจะเป็นวันที่เนสมีความสุขสิ เพราะบูมปลอดภัยแล้ว ได้มาเยี่ยมบูมด้วยตัวเองอีก เธอจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเพื่อน ๆ ของบูมไม่มาเยี่ยมในวันเดียวกัน ภาวนาขอให้เป็นเช่นนั้น
ภาวนาขอให้อาร์ไม่มาด้วยคน เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอเองจะทำตัวอย่างไร ถ้าบูมฟื้นขึ้นมาวันนี้จะเป็นอย่างไร บูมจะคุยกับใคร ถ้าบูมคุยกับเธออาร์คงไม่คิดมากเพราะไม่รู้ แต่ สำหรับเธอเองถ้าบูมเลือกสนใจอาร์เธอจะรู้สึกอย่างไร ในใจกลัดกลุ้มขณะเดิน
ในส่วนของอาร์ทราบข่าวของบูมจากโต้งก็เป็นอันกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกัน ถึงว่าทำไมโทรไปไม่ยอมรับสายเลย ไลน์ไปก็ไม่ยอมอ่าน ทำให้อาร์คิดมากร้อนใจ คิดไปไกลต่าง ๆ นานาไปในทางที่ไม่ดีด้วยซ้ำ อาร์อยากไปเยี่ยมบูม ขอแม่เล่าความจริงให้แม่ฟังเรื่องบูม อาร์ขอไปเยี่ยมแม่ก็อนุญาตทันทีไม่ห้ามสักนิด
เพื่อน ๆ ทุกคนตกลงกันว่าจะไปเยี่ยมบูมในวันนี้ อาร์ทำหน้าเศร้ามาตลอดทาง ไม่รู้เลยว่าแฟนตนเองเป็นอะไร ไม่อยากจะคิดว่าถ้าบูมเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ หรือเสียชีวิต ตนเองจะทำอย่างไร วันก่อนก็พึ่งมาส่งกันที่ บขส. วันนี้กลับได้ข่าวไม่ดีซะอย่างนั้น
ต่อไปนี้เธอจะให้เวลากับบูมมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ปล่อยให้บูมต้องรอเธออยู่ฝ่ายเดียว เพราะเธอรู้แล้วว่าการจากลามันไม่เคยเตือนใครก่อนสักครั้ง ครั้งนี้อาจจะดวงดี แต่ถ้าวันนี้บูมไม่รอดเธอจะทำอย่างไร สายตามองออกไปยังท้องนาข้างทาง ต้องกลั้นความรู้สึกเก็บน้ำตาเอาไว้
“อาร์ บูมมันไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อเรานะญาติมันที่ส่งข่าวโต้งก็บอกแล้วว่ามันปลอดภัยแล้ว” เพื่อนผู้หญิงปลอบใจที่เห็นสีหน้าของเธอดูซึม ๆ เธอยิ้มให้บอกว่าไม่เป็นอะไร เธอโอเคที่สุด
………………………………….
อาร์มาถึงก่อนหน้าเนสชั่วโมงได้ เพราะเดินทางมาใกล้กว่า ทั้งห้าคนเข้าไปในห้องพักฟื้นของบูม อุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตบูมยังอยู่ครบทุกอย่าง อาร์เห็นสภาพบูมที่นอนอยู่บนเตียง พร้อมมีสายอะไรต่อมิอะไรมากมายติดตามตัว ทำให้เกือบเข่าอ่อนล้มลงไปนั่งกับฟื้น เพื่อน ๆ ทุกคนที่เห็นสภาพของบูมนอนอยู่บนเตียง แทบจะทรุดกันทุกคน
“ไอ้บูมรีบฟื้นเร็ว ๆ นะเว้ย กูไม่มีคนให้ลอกการบ้าน นั่งโต๊ะคนเดียวเหงาเข้าใจปะ” แก๊บพูด พร้อมยื่นมือตัวเองไปจับมือบูม เพื่อน ๆ ทุกคนยิ้มกับคำพูดของแก๊บ คนเฮฮาก็สามารถเฮฮาได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ อาร์อยากเข้าไปใกล้ ๆ บูมกว่านี้แต่ก็ไม่กล้า
พ่อของบูมพาทุกคนเดินมายังห้องพักฟื้นของบูม เนสคิดไปตลอดทางขณะที่กำลังเดินอยู่ ถ้าเจออาร์จะทำอย่างไร ตนเองรู้แล้วว่าอาร์ก็ต้องมากับกลุ่มเพื่อนด้วยแน่ ๆ ถ้าจะมาเยี่ยมบูม
เมื่อมัวแต่คิดทำให้เธอเดินสะดุดพื้นต่างระดับ เกือบหน้าคว่ำไถลไปกับพื้น ดีที่แม่ของพี่เอ็มจับพยุงไว้ได้ทัน ก็ทำเอามีเสียงหัวเราะขึ้นมาได้ในกลุ่มญาติ ๆ ที่มาเยี่ยมบูมด้วยกัน จากที่ซีเรียสมาตลอดทาง
“เนสเดินก็ดูทางหน่อย ใจลอยอะไร” โดนยายเอ็ดให้ ที่เดินไม่ดูทางมัวแต่ใจลอยอะไรอยู่ เธอยิ้มแหย ๆ ให้ผู้เป็นยาย
เมื่อทุกคนเดินมาถึงห้องที่บูมรักษาตัวอยู่ เปิดประตูเข้าไปเห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ของบูมกำลังยืนล้อมเตียงคนละข้าง เนสรู้ในทันทีว่าใครคืออาร์ และ ใครเป็นใครบ้าง อาร์ในรูปกับอาร์ตัวจริงไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งห้าคนยกมือไว้พร้อมกัน แต่ไม่ได้แนะนำตัว เหมือนญาติ ๆ จะรู้การมาของทั้งห้าคนจากพ่อของบูมแล้ว
ส่วนอาร์ก็รู้ในทันทีว่าผู้หญิงคนที่พึ่งมาถึงนี่ น่าจะเป็นเนสหลานสาวยายจันทร์ที่บูมพูดถึงอยู่บ่อย ๆ อาร์มองหน้าเนสแต่ไม่ได้พูดอะไร ต่างคนต่างเงียบ เนสทำเป็นไม่สนใจ แต่เมื่อมองเห็นบูมที่หลับอยู่บนเตียงก็ทำเอาแทบควบคุมน้ำตาตนเองไม่อยู่เหมือนกัน ทำไมบูมน่าสงสารได้ขนาดนี้ นอนหลับไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบ้างอยู่ตรงนี้
เนสมองสำรวจบูมทุกกระเบียดนิ้ว และสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่จอแสดงการเต้นของหัวใจ เนสก็เป็นอีกคนที่คิดไปว่าถ้าเส้นที่มันวิ่งเป็นหยัก ๆ แล้วมันเกิดวิ่งเป็นเส้นตรงขึ้นมาจะทำอย่างไร ตนเองจะทำใจได้หรือไม่
พี่เอ็มเดินเข้าไปคุยกับบูม บอกให้บูมรีบตื่นเร็ว ๆ ปู่กับย่าของบูม และ ยายจันทร์ต่างเดินมายืนอยู่ขอบเตียง พูดกับบูมโดยที่บูมไม่รับรู้อะไรนั่นแหละ
ยายจันทร์เอามือลูบผมบูมด้วยความเอ็นดู เหมือนหลานชายคนหนึ่ง ส่วนน้องเบสยืนข้างตาสน เพราะเห็นตามายืนก็ยืนด้วย ตาสนไม่พูดอะไร แค่มายืนดูหน้าหลานหยิบจับผ่าห่มให้เข้าที่ก็แค่นั้นเอง
อาร์กับเพื่อน ๆ เริ่มอยากกลับ ไม่คิดว่าญาติ ๆ ของบูมจะมาด้วยวันนี้ด้วย ถ้ารู้ล่วงหน้าคงไม่นัดกันมาในวันนี้แน่ ใจจริงอยากอยู่ด้วยนาน ๆ ทั้งห้าคนยืนอยู่มุมห้องห่างออกมา ปล่อยให้ญาติ ๆ ที่พึ่งมาใหม่เข้าไปหาบูมแทน ทุกคนตัดสินใจว่าจะพากันกลับ
อาร์ยิ้มให้เนสแต่ทำไมเนสไม่ยิ้มตอบเลย เหมือนโกรธอะไรมาอย่างนั้นแหละ พึ่งเจอกันครั้งแรกเอง ทว่าอาร์ไม่สนใจ สายตายังแอบมองเล็ดลอดผ่านช่องว่างการยืนของญาติ ๆ มองไปที่บูมกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง
ทันใดนั้นนิ้วของบูมข้างที่ย่ากุมมือไว้ก็ขยับ ย่าทำหน้าตกใจที่จู่ ๆ มือหลานชายเหมือนจะดึงมืออกจากตัวเอง แล้วบูมก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก็พอจำได้ว่าตัวเองโดนอะไรมา
พอนึกได้ก็ปวดแผลขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่น่านึกออกเลย บูมลืมตาได้อย่างเดียว ขยับและพูดอะไรยังไม่ได้ มองไปรอบ ๆ เตียง เห็นพ่อแม่ ปู่ย่า น้องเบส ยายจันทร์ เนส และญาติ ๆ ที่มาด้วย ทุกคนยืนมุงดูบูมกันหมดเพราะดีใจที่บูมฟื้นแล้ว
กำลังจะทำตายิ้ม ๆ ให้เนส บังเอิญว่าหางตาเหลือบมองผ่านช่องไฟฝั่งที่พ่อแม่ยืน เห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ตัวเอง และ เห็นอาร์ เขาทำอะไรไม่ถูก ตกใจกับสถานการณ์รถไฟชนกัน ซึ่งทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจำใจ หลับตาให้กับความซวยที่บังเกิดขึ้นในวันนี้ และ เขาเห็นสายตาของเนสมองมาอย่างมีคำถาม เขามองสายตานั้นออก ทว่าอีกคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย พ่อของเขาโทรเรียกหมอว่าเขาฟื้นแล้ว
เนสรู้ว่าบูมคิดอะไรอยู่ ว่าแล้วบูมต้องแคร์อาร์ เพราะสังเกตที่บูมชำเลืองมองอาร์ตลอดเวลาโดยที่ไม่สนใจตนเองที่อยู่ข้างเตียงเลยสักนิด คงจะแคร์อาร์มากเลยสินะ ถ้าตนเองเผลอทำให้อาร์รู้ว่าบูมมีใจให้ตนเองเหมือนกัน บูมจะโกรธไหม ถึงโกรธก็ทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ เกิดอาการงอน น้อยใจ ปนหมั่นไส้ขึ้นมาดื้อ ๆ
สักพักหมอที่พ่อโทรตามก็มาตรวจอาการ บูมดีขึ้นมากแล้ว ถอดออกซิเจนออกหมดแล้ว
“ปวดแผลบอกหมอนะครับ” บูมพยักหน้าแทนการตอบ
“แม่” บูมเรียกหาผู้เป็นแม่ทันทีที่ขยับปากพูดได้
“ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” แม่เอามือลูบศีรษะของเขาเบา ๆ แม่กำลังดูความเรียบร้อยอะไรรอบ ๆ เตียงให้กับเขาด้วยความรักและทะนุถนอม
ส่วนเนสเมื่อคิดแบบนั้นก็ขยับตัวเองเข้ามาให้ใกล้ชิดบูมที่สุด ยิ้มให้บูมทำเหมือนไม่เห็นอาร์ ไม่สนใจว่าบูมจะคิดอย่างไร พูดเรื่องราววันที่ไปดูหมอลำด้วยกัน ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ พูดถึงความรู้สึกผิดของตัวเอง พูดให้อาร์รู้ว่าวันนั้นบูมอยู่กับตนเอง เนสพูดไปด้วยความน้อยใจที่บูมเอาแต่มองหาอาร์ที่อยู่ไกล ๆ ทั้งที่ตนเองอยู่ขอบเตียง
อาร์แอบมอง แต่ ก็ได้แค่มอง เก็บความสงสัยกับคำพูดของเนส เอาไว้ถามบูมหลังจากหายดีแล้วว่ามันคืออะไร หมายความว่าอย่างไร
“ลูก ๆ เข้ามาคุยกับบูมเร็ว บูมรู้สึกตัวแล้ว” แม่หันมามองกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา จากนั้นทุกคนที่ยืนมุงอยู่ขอบเตียงก็ถอยออกมา ให้อาร์กับเพื่อน ๆ เข้าไปแทน
ทั้งหาคนเดินไปยืนข้างเตียงคนละข้าง โต้งกับแก๊บยืนข้างเดียวกัน ส่วนอาร์กับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนยืนข้างเดียวกัน
“เจ็บมั้ย” อาร์ถามบูมแค่นี้
“อือ” เขาตอบพร้อมพยักหน้าให้
“อาร์จะกลับแล้วนะบูม” เธอกล่าว บูมทำสายตาไม่พอใจ อยากให้อาร์อยู่ด้วยนาน ๆ โดยลืมไปว่าเนสก็อยู่ตรงนี้
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเนส ดูสิอาร์คุยด้วยกลับตอบ ส่วนตนเองคุยด้วยทำไมไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เหมือนกลัวว่าอาร์จะสงสัย ก็อย่างว่านั้นแหละ ผู้หญิงคนนั้นตัวจริง ส่วนตนเองก็แค่คนคั่นเวลาที่มาบ้านหาปู่กับย่าแค่นั้นเอง
เวลานี้บูมไม่สนใจเธอเลย สายตาไม่ชำเลืองมามองเธอเหมือนตอนที่ชำเลืองมองอาร์เลยแม้แต่น้อย มันรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก
“อยู่เป็นเพื่อนบูมสักพักนะลูก ๆ ห้องกว้างแม่ไม่อึดอัดหรอก” แม่ของเขายิ้มและพูดขึ้น จากที่สังเกตสีหน้าและแววตาของลูกชายที่มองเพื่อนผู้หญิงคนนี้
“พวกผมว่าจะกลับพอดีครับ” โต้งพูดและยกนาฬิกาที่ข้อมือมาดู
“อยู่เป็นเพื่อนบูมก่อนนะอาร์ ค่อยกลับบ่าย ๆ ยังมีรถอยู่ กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนค่อยกลับ” แม่เปลี่ยนมาถามอาร์แทน ชี้ตรงเป้าเลย
“ค่ะแม่” อาร์ยิ้มและมองหน้าเพื่อน ๆ ทุกคนพยักหน้าเป็นการตอบตกลง ทีนี้เมื่อเพื่อน ๆ ไม่ได้กลับแล้ว ต้องทำตัวกลมกลืนเสมือนมาด้วยกัน ทั้งห้าคนเข้ากันกับทุกคนได้ดี ยกเว้นอาร์กับเนส ที่อาร์รู้สึกอึดอัด รู้สึกว่าเหมือนเนสไม่ชอบตนเองเลย ทั้งที่พึ่งเคยเจอกันในวันนี้
บูมนอนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวบนเตียง ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามาแค่คนใดคนหนึ่งจะดีกว่านี้ ตนเองแคร์ใครกันแน่ ถ้าให้ต้องเลือกจะเลือกใคร ทำได้แค่นิ่งเอาไว้
ส่วนเนสมองทุกการเคลื่อนไหวของบูมกับอาร์ รู้สึกว่าอาร์จะเป็นต่อ เหมือนว่าแม่ของบูมจะรู้ว่าพวกเขาสองคนเป็นอะไรกัน เนสมาเยี่ยมบูมวันนี้ต้องทำตัวเหมือนเพื่อนกัน แค่คนข้างบ้านกันเท่านั้น มันเจ็บปวด มันทำอะไรไม่ได้
“บูม เรากลับแล้วนะ” อาร์พูดเมื่อดูนาฬิกาจะเที่ยงแล้ว
“อือ” พร้อมส่งสายตาอาวรณ์ให้โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเนสมองอยู่
รักสามเศร้า…บทที่ 11 (รีไรท์)
.
บูมนอนหลับอยู่บนเตียง หมอบอกว่าอาการทรงตัว ร่างกายยังไม่ตอบสนองต่อการรักษา แต่ถือว่าปลอดภัยแล้ว
ตอนนี้เนสไม่สบายใจเลย อยากไปเยี่ยมก็ไปไม่ได้ ทำได้แค่ภาวนาขอให้ยายจันทร์อยากไปเยี่ยมบูมบ้าง ถ้าจะขอไปกับย่าของบูมก็ไม่ควร ถ้าจะไปเองก็ไปไม่ถูกอีก และ ถึงไปถูกจะบอกกับพ่อแม่ของบูมว่าอย่างไรล่ะ แค่คิดก็ท้อ รอคอยฟังข่าวจากย่าของบูมที่บ้านแล้วกัน ทว่าตอนนี้ใจจะขาดอยู่รอมร่อ อยากรู่ว่าอาการของบูมเป็นอย่างไรบ้าง
เหมือนสวรรค์มาโปรด ย่าของบูมได้รับข่าวจากพ่อของบูมว่า บูมได้ย้ายเข้ามานอนห้องพักฟื้นแล้ว และ วันนี้จะเข้าไปเยี่ยมบูมด้วย ซึ่งยายจันทร์ขอตามไปเยี่ยมด้วยคน นั่นแปลว่าเธอก็ต้องได้ไป ดีใจจนเนื้อเต้น ดีใจจนน้ำตาไหลด้วยความเป็นห่วงบูม
เธอรีบอาบน้ำแต่งตัวให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เมื่อทุกคนแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยจึงออกเดินทางไปที่โรงพยาบาล เธอนั่งรถด้วยใจจดจ่อ อยากไปเจอบูม อยากไปถึงให้เร็วที่สุด แม้รู้ว่าปลอดภัยแล้วก็อยากให้เห็นกับตาตนเอง จะได้สบายใจสักที
สักพักรถเคลื่นเข้ามาจอดที่ลาดจอดรถของโรงพยาบาล ทุกคนเปิดประตูลงจากรถพร้อมกัน เนสมองเข้าไปในตัวอาคารของโรงพยาบาล บูมอยู่ทตึกไหน ตอนนี้อยากเจอเต็มทน แล้วทุกคนก็เดินเข้าไปในตัวอาคารของโรงพยาบาล เพื่อไปหาบูม เป็นเวลาที่เนสรอคอยที่สุด
พ่อของบูมเดินออกมารับพวกเธอ มาถึงเธอยกมือไหว้สวัสดีพ่อของบูมที่เดินมารับ เพื่อพาขึ้นตึกไป วันนี้มันควรจะเป็นวันที่เนสมีความสุขสิ เพราะบูมปลอดภัยแล้ว ได้มาเยี่ยมบูมด้วยตัวเองอีก เธอจะมีความสุขมากกว่านี้ถ้าเพื่อน ๆ ของบูมไม่มาเยี่ยมในวันเดียวกัน ภาวนาขอให้เป็นเช่นนั้น
ภาวนาขอให้อาร์ไม่มาด้วยคน เพราะเธอไม่รู้ว่าเธอเองจะทำตัวอย่างไร ถ้าบูมฟื้นขึ้นมาวันนี้จะเป็นอย่างไร บูมจะคุยกับใคร ถ้าบูมคุยกับเธออาร์คงไม่คิดมากเพราะไม่รู้ แต่ สำหรับเธอเองถ้าบูมเลือกสนใจอาร์เธอจะรู้สึกอย่างไร ในใจกลัดกลุ้มขณะเดิน
ในส่วนของอาร์ทราบข่าวของบูมจากโต้งก็เป็นอันกินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกัน ถึงว่าทำไมโทรไปไม่ยอมรับสายเลย ไลน์ไปก็ไม่ยอมอ่าน ทำให้อาร์คิดมากร้อนใจ คิดไปไกลต่าง ๆ นานาไปในทางที่ไม่ดีด้วยซ้ำ อาร์อยากไปเยี่ยมบูม ขอแม่เล่าความจริงให้แม่ฟังเรื่องบูม อาร์ขอไปเยี่ยมแม่ก็อนุญาตทันทีไม่ห้ามสักนิด
เพื่อน ๆ ทุกคนตกลงกันว่าจะไปเยี่ยมบูมในวันนี้ อาร์ทำหน้าเศร้ามาตลอดทาง ไม่รู้เลยว่าแฟนตนเองเป็นอะไร ไม่อยากจะคิดว่าถ้าบูมเป็นอะไรขึ้นมาจริง ๆ หรือเสียชีวิต ตนเองจะทำอย่างไร วันก่อนก็พึ่งมาส่งกันที่ บขส. วันนี้กลับได้ข่าวไม่ดีซะอย่างนั้น
ต่อไปนี้เธอจะให้เวลากับบูมมากขึ้นกว่าเดิม ไม่ปล่อยให้บูมต้องรอเธออยู่ฝ่ายเดียว เพราะเธอรู้แล้วว่าการจากลามันไม่เคยเตือนใครก่อนสักครั้ง ครั้งนี้อาจจะดวงดี แต่ถ้าวันนี้บูมไม่รอดเธอจะทำอย่างไร สายตามองออกไปยังท้องนาข้างทาง ต้องกลั้นความรู้สึกเก็บน้ำตาเอาไว้
“อาร์ บูมมันไม่เป็นอะไรหรอก เชื่อเรานะญาติมันที่ส่งข่าวโต้งก็บอกแล้วว่ามันปลอดภัยแล้ว” เพื่อนผู้หญิงปลอบใจที่เห็นสีหน้าของเธอดูซึม ๆ เธอยิ้มให้บอกว่าไม่เป็นอะไร เธอโอเคที่สุด
………………………………….
อาร์มาถึงก่อนหน้าเนสชั่วโมงได้ เพราะเดินทางมาใกล้กว่า ทั้งห้าคนเข้าไปในห้องพักฟื้นของบูม อุปกรณ์ที่ช่วยชีวิตบูมยังอยู่ครบทุกอย่าง อาร์เห็นสภาพบูมที่นอนอยู่บนเตียง พร้อมมีสายอะไรต่อมิอะไรมากมายติดตามตัว ทำให้เกือบเข่าอ่อนล้มลงไปนั่งกับฟื้น เพื่อน ๆ ทุกคนที่เห็นสภาพของบูมนอนอยู่บนเตียง แทบจะทรุดกันทุกคน
“ไอ้บูมรีบฟื้นเร็ว ๆ นะเว้ย กูไม่มีคนให้ลอกการบ้าน นั่งโต๊ะคนเดียวเหงาเข้าใจปะ” แก๊บพูด พร้อมยื่นมือตัวเองไปจับมือบูม เพื่อน ๆ ทุกคนยิ้มกับคำพูดของแก๊บ คนเฮฮาก็สามารถเฮฮาได้ทุกสถานการณ์จริง ๆ อาร์อยากเข้าไปใกล้ ๆ บูมกว่านี้แต่ก็ไม่กล้า
พ่อของบูมพาทุกคนเดินมายังห้องพักฟื้นของบูม เนสคิดไปตลอดทางขณะที่กำลังเดินอยู่ ถ้าเจออาร์จะทำอย่างไร ตนเองรู้แล้วว่าอาร์ก็ต้องมากับกลุ่มเพื่อนด้วยแน่ ๆ ถ้าจะมาเยี่ยมบูม
เมื่อมัวแต่คิดทำให้เธอเดินสะดุดพื้นต่างระดับ เกือบหน้าคว่ำไถลไปกับพื้น ดีที่แม่ของพี่เอ็มจับพยุงไว้ได้ทัน ก็ทำเอามีเสียงหัวเราะขึ้นมาได้ในกลุ่มญาติ ๆ ที่มาเยี่ยมบูมด้วยกัน จากที่ซีเรียสมาตลอดทาง
“เนสเดินก็ดูทางหน่อย ใจลอยอะไร” โดนยายเอ็ดให้ ที่เดินไม่ดูทางมัวแต่ใจลอยอะไรอยู่ เธอยิ้มแหย ๆ ให้ผู้เป็นยาย
เมื่อทุกคนเดินมาถึงห้องที่บูมรักษาตัวอยู่ เปิดประตูเข้าไปเห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ของบูมกำลังยืนล้อมเตียงคนละข้าง เนสรู้ในทันทีว่าใครคืออาร์ และ ใครเป็นใครบ้าง อาร์ในรูปกับอาร์ตัวจริงไม่ได้ต่างกันมาก ทั้งห้าคนยกมือไว้พร้อมกัน แต่ไม่ได้แนะนำตัว เหมือนญาติ ๆ จะรู้การมาของทั้งห้าคนจากพ่อของบูมแล้ว
ส่วนอาร์ก็รู้ในทันทีว่าผู้หญิงคนที่พึ่งมาถึงนี่ น่าจะเป็นเนสหลานสาวยายจันทร์ที่บูมพูดถึงอยู่บ่อย ๆ อาร์มองหน้าเนสแต่ไม่ได้พูดอะไร ต่างคนต่างเงียบ เนสทำเป็นไม่สนใจ แต่เมื่อมองเห็นบูมที่หลับอยู่บนเตียงก็ทำเอาแทบควบคุมน้ำตาตนเองไม่อยู่เหมือนกัน ทำไมบูมน่าสงสารได้ขนาดนี้ นอนหลับไม่รู้ตัวเลยว่ามีใครบ้างอยู่ตรงนี้
เนสมองสำรวจบูมทุกกระเบียดนิ้ว และสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่จอแสดงการเต้นของหัวใจ เนสก็เป็นอีกคนที่คิดไปว่าถ้าเส้นที่มันวิ่งเป็นหยัก ๆ แล้วมันเกิดวิ่งเป็นเส้นตรงขึ้นมาจะทำอย่างไร ตนเองจะทำใจได้หรือไม่
พี่เอ็มเดินเข้าไปคุยกับบูม บอกให้บูมรีบตื่นเร็ว ๆ ปู่กับย่าของบูม และ ยายจันทร์ต่างเดินมายืนอยู่ขอบเตียง พูดกับบูมโดยที่บูมไม่รับรู้อะไรนั่นแหละ
ยายจันทร์เอามือลูบผมบูมด้วยความเอ็นดู เหมือนหลานชายคนหนึ่ง ส่วนน้องเบสยืนข้างตาสน เพราะเห็นตามายืนก็ยืนด้วย ตาสนไม่พูดอะไร แค่มายืนดูหน้าหลานหยิบจับผ่าห่มให้เข้าที่ก็แค่นั้นเอง
อาร์กับเพื่อน ๆ เริ่มอยากกลับ ไม่คิดว่าญาติ ๆ ของบูมจะมาด้วยวันนี้ด้วย ถ้ารู้ล่วงหน้าคงไม่นัดกันมาในวันนี้แน่ ใจจริงอยากอยู่ด้วยนาน ๆ ทั้งห้าคนยืนอยู่มุมห้องห่างออกมา ปล่อยให้ญาติ ๆ ที่พึ่งมาใหม่เข้าไปหาบูมแทน ทุกคนตัดสินใจว่าจะพากันกลับ
อาร์ยิ้มให้เนสแต่ทำไมเนสไม่ยิ้มตอบเลย เหมือนโกรธอะไรมาอย่างนั้นแหละ พึ่งเจอกันครั้งแรกเอง ทว่าอาร์ไม่สนใจ สายตายังแอบมองเล็ดลอดผ่านช่องว่างการยืนของญาติ ๆ มองไปที่บูมกำลังนอนอยู่บนเตียงด้วยความเป็นห่วง
ทันใดนั้นนิ้วของบูมข้างที่ย่ากุมมือไว้ก็ขยับ ย่าทำหน้าตกใจที่จู่ ๆ มือหลานชายเหมือนจะดึงมืออกจากตัวเอง แล้วบูมก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ก็พอจำได้ว่าตัวเองโดนอะไรมา
พอนึกได้ก็ปวดแผลขึ้นมาดื้อ ๆ ไม่น่านึกออกเลย บูมลืมตาได้อย่างเดียว ขยับและพูดอะไรยังไม่ได้ มองไปรอบ ๆ เตียง เห็นพ่อแม่ ปู่ย่า น้องเบส ยายจันทร์ เนส และญาติ ๆ ที่มาด้วย ทุกคนยืนมุงดูบูมกันหมดเพราะดีใจที่บูมฟื้นแล้ว
กำลังจะทำตายิ้ม ๆ ให้เนส บังเอิญว่าหางตาเหลือบมองผ่านช่องไฟฝั่งที่พ่อแม่ยืน เห็นกลุ่มเพื่อน ๆ ตัวเอง และ เห็นอาร์ เขาทำอะไรไม่ถูก ตกใจกับสถานการณ์รถไฟชนกัน ซึ่งทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากจำใจ หลับตาให้กับความซวยที่บังเกิดขึ้นในวันนี้ และ เขาเห็นสายตาของเนสมองมาอย่างมีคำถาม เขามองสายตานั้นออก ทว่าอีกคนไม่รู้เรื่องอะไรเลย พ่อของเขาโทรเรียกหมอว่าเขาฟื้นแล้ว
เนสรู้ว่าบูมคิดอะไรอยู่ ว่าแล้วบูมต้องแคร์อาร์ เพราะสังเกตที่บูมชำเลืองมองอาร์ตลอดเวลาโดยที่ไม่สนใจตนเองที่อยู่ข้างเตียงเลยสักนิด คงจะแคร์อาร์มากเลยสินะ ถ้าตนเองเผลอทำให้อาร์รู้ว่าบูมมีใจให้ตนเองเหมือนกัน บูมจะโกรธไหม ถึงโกรธก็ทำอะไรไม่ได้ตอนนี้ เกิดอาการงอน น้อยใจ ปนหมั่นไส้ขึ้นมาดื้อ ๆ
สักพักหมอที่พ่อโทรตามก็มาตรวจอาการ บูมดีขึ้นมากแล้ว ถอดออกซิเจนออกหมดแล้ว
“ปวดแผลบอกหมอนะครับ” บูมพยักหน้าแทนการตอบ
“แม่” บูมเรียกหาผู้เป็นแม่ทันทีที่ขยับปากพูดได้
“ขวัญเอ้ยขวัญมานะลูก” แม่เอามือลูบศีรษะของเขาเบา ๆ แม่กำลังดูความเรียบร้อยอะไรรอบ ๆ เตียงให้กับเขาด้วยความรักและทะนุถนอม
ส่วนเนสเมื่อคิดแบบนั้นก็ขยับตัวเองเข้ามาให้ใกล้ชิดบูมที่สุด ยิ้มให้บูมทำเหมือนไม่เห็นอาร์ ไม่สนใจว่าบูมจะคิดอย่างไร พูดเรื่องราววันที่ไปดูหมอลำด้วยกัน ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ พูดถึงความรู้สึกผิดของตัวเอง พูดให้อาร์รู้ว่าวันนั้นบูมอยู่กับตนเอง เนสพูดไปด้วยความน้อยใจที่บูมเอาแต่มองหาอาร์ที่อยู่ไกล ๆ ทั้งที่ตนเองอยู่ขอบเตียง
อาร์แอบมอง แต่ ก็ได้แค่มอง เก็บความสงสัยกับคำพูดของเนส เอาไว้ถามบูมหลังจากหายดีแล้วว่ามันคืออะไร หมายความว่าอย่างไร
“ลูก ๆ เข้ามาคุยกับบูมเร็ว บูมรู้สึกตัวแล้ว” แม่หันมามองกลุ่มเพื่อน ๆ ของเขา จากนั้นทุกคนที่ยืนมุงอยู่ขอบเตียงก็ถอยออกมา ให้อาร์กับเพื่อน ๆ เข้าไปแทน
ทั้งหาคนเดินไปยืนข้างเตียงคนละข้าง โต้งกับแก๊บยืนข้างเดียวกัน ส่วนอาร์กับเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนยืนข้างเดียวกัน
“เจ็บมั้ย” อาร์ถามบูมแค่นี้
“อือ” เขาตอบพร้อมพยักหน้าให้
“อาร์จะกลับแล้วนะบูม” เธอกล่าว บูมทำสายตาไม่พอใจ อยากให้อาร์อยู่ด้วยนาน ๆ โดยลืมไปว่าเนสก็อยู่ตรงนี้
ทุกอย่างอยู่ในสายตาของเนส ดูสิอาร์คุยด้วยกลับตอบ ส่วนตนเองคุยด้วยทำไมไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย เหมือนกลัวว่าอาร์จะสงสัย ก็อย่างว่านั้นแหละ ผู้หญิงคนนั้นตัวจริง ส่วนตนเองก็แค่คนคั่นเวลาที่มาบ้านหาปู่กับย่าแค่นั้นเอง
เวลานี้บูมไม่สนใจเธอเลย สายตาไม่ชำเลืองมามองเธอเหมือนตอนที่ชำเลืองมองอาร์เลยแม้แต่น้อย มันรู้สึกน้อยใจอย่างบอกไม่ถูก
“อยู่เป็นเพื่อนบูมสักพักนะลูก ๆ ห้องกว้างแม่ไม่อึดอัดหรอก” แม่ของเขายิ้มและพูดขึ้น จากที่สังเกตสีหน้าและแววตาของลูกชายที่มองเพื่อนผู้หญิงคนนี้
“พวกผมว่าจะกลับพอดีครับ” โต้งพูดและยกนาฬิกาที่ข้อมือมาดู
“อยู่เป็นเพื่อนบูมก่อนนะอาร์ ค่อยกลับบ่าย ๆ ยังมีรถอยู่ กินข้าวเที่ยงด้วยกันก่อนค่อยกลับ” แม่เปลี่ยนมาถามอาร์แทน ชี้ตรงเป้าเลย
“ค่ะแม่” อาร์ยิ้มและมองหน้าเพื่อน ๆ ทุกคนพยักหน้าเป็นการตอบตกลง ทีนี้เมื่อเพื่อน ๆ ไม่ได้กลับแล้ว ต้องทำตัวกลมกลืนเสมือนมาด้วยกัน ทั้งห้าคนเข้ากันกับทุกคนได้ดี ยกเว้นอาร์กับเนส ที่อาร์รู้สึกอึดอัด รู้สึกว่าเหมือนเนสไม่ชอบตนเองเลย ทั้งที่พึ่งเคยเจอกันในวันนี้
บูมนอนอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัวบนเตียง ทำอะไรไม่ได้ ถ้ามาแค่คนใดคนหนึ่งจะดีกว่านี้ ตนเองแคร์ใครกันแน่ ถ้าให้ต้องเลือกจะเลือกใคร ทำได้แค่นิ่งเอาไว้
ส่วนเนสมองทุกการเคลื่อนไหวของบูมกับอาร์ รู้สึกว่าอาร์จะเป็นต่อ เหมือนว่าแม่ของบูมจะรู้ว่าพวกเขาสองคนเป็นอะไรกัน เนสมาเยี่ยมบูมวันนี้ต้องทำตัวเหมือนเพื่อนกัน แค่คนข้างบ้านกันเท่านั้น มันเจ็บปวด มันทำอะไรไม่ได้
“บูม เรากลับแล้วนะ” อาร์พูดเมื่อดูนาฬิกาจะเที่ยงแล้ว
“อือ” พร้อมส่งสายตาอาวรณ์ให้โดยที่ไม่รู้ตัวว่าเนสมองอยู่