สวัสดีครับสำหรับผู้ที่สนใจกระทู้นี้หรือพัดหลงผีผลักมาก็อย่าพึ่งรีบออกไปไหนจะมาเล่าประสบการณ์ "ขลิบ" เฉยๆไม่ได้น่ากลัวหรือหรือผิดศิลข้อไหนแน่นอน สำหรับ ผช ที่สนใจขลิบน้องชายหรือสาวสอง LGBTQ ที่สนใจในเรื่องนี้ไม่ควรพลาด เนื่องจากขลิบมาได้ซักพักแล้วแต่ไม่ได้ออกมาเขียนหรือเล่าประสบการณ์อะไรมาเพราะเดี๋ยวหาว่ารู้ไม่จริงเลยรักษาตัวมาซักพักเพื่อเก็บประสบการณ์เก็บเวลซักแปบเพื่อมาเล่าได้ 

---ผมที่สนใจการขลิบมาตั้งแต่ที่รู้ว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการรูดน้องชายออกมาได้แต่ไม่ปกติ งงละสิ คือรูดลงได้ปกติแต่ติดเส้นสองสลึงที่รั้งไว้ระหว่างหัวกับโคนนะครับ ผช น่าจะรู้จัก พอรูดลงมาสุดเส้นสองสลึงของผมมันรั้งระหว่างหนังที่รูดทำให้หัวน้องชายมันงุ้มลงตามเส้นสองสลึงทำให้หัวไม่ตั้งแบบปกตินั้นเป็นเหตุทำให้ผมเริ่มศึกษาการขลิบ แต่ถ้าของใครรูดแล้วไม่เป็นอะไรไม่ติดไม่รั้งอะไรก็ดีแล้วครับ แต่อย่าพึ่งออก กท. ไปนะนั่งอ่านกันก่อน ศึกษามามากกว่า 4 ปี หลายคนสงสัยว่าศึกษาอะไรนานขนาดนั้น จะบอกว่าไม่มีเงินค่าทำแค่นั้นแหละครับและเรียนอยู่ด้วย ศึกษามาตั้งแต่เว็บ sarika ยังไม่ปิด (เว็บสำหรับให้ข้อมูลทางการแพทย์เกี่ยวกับการขลิบล้วนๆ) ใครรู้จักจะรู้ว่าเป็นเว็บที่มีการรีวิวน้องชายและการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับน้องชายมากที่สุดในโลก5555จนโดนปิดเสียดายมาก เพราะมีกระทู้ให้ความรู้และประสบการณ์เยอะมากตั้งแต่วิธีการดูแลหลังการทำมาแล้วกินอาหารยังไงประเภทไหนใช้ยาอะไรบอกหมด
ข้อดีของการขลิบ (ก๊อบมารู้นะว่าคิดอยู่เอาน่า)
  ดูแลรักษาทำความสะอาดได้ง่าย  
  ลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็งองคชาต
  ลดความเสี่ยงการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะในเด็กเล็ก
  ลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือ HIV
  สามารถป้องกันภาวะหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตีบตัน

----พูดมาเยอะละมาเข้าเรื่องเลยผมจะไม่เล่าว่าติดต่อคลินิกยังไงทำใจยังไงนะครับถ้าอยากทำจริงๆจะรู้เองว่าต้องทำยังไง ผมจะเริ่มที่คลินิกเลยแล้วกันผมทำที่ จิรเวชคลินิกกาบางกะปิ ผมเดินทางมาคลินิกด้วยรถโดยสารเพราะผมไม่มีรถส่วนตัวใน กทม. ผมโชคดีได้ทำงานที่ กทม. เลยได้มาขลิบตามที่ได้ศึกษาคลินิกที่มีอยู่ในใจในลิสที่ๆอยากทำ ใครมีรถส่วนตัวก็เอามาได้นะครับแต่ผมไม่รู้ที่จอดของคลินิก แต่งตัวให้สบายที่สุดคิดว่ามาเที่ยวทะเลก็ได้ ไม่ต้องหล่อเท่หรือแน่นหนาอะไรเพราะจะเป็นปัญหาหลังทำ ไม่ต้องตัดโกนขนก็ได้หมอบอกเพราะหมดเป็น ผช ทั้งหมอและผู้ช่วย แต่ที่อื่นอาจจะให้โกนก่อนมา แต่ตามมารยาททางสังคมจะไปหาหมอทั้งทีก็เลยเล็มจัดระเบียบทรงผมให้อยู่ในทรงหน่อยซักรองหวี ก่อนไปอาบน้ำอาบผ้าให้สะอาดด้วยนะ เจอหน้าหมอปุ๊บหมอถามมาทำไร ก็บอกมาขลิบตามที่นัดไว้ไปเฉยๆไม่ต้องอายนะครับ หมอไม่ตกใจหลอกไม่ได้มาตัดน้องชายออกซะหน่อย หมอก็จะเก็บประวัติเราทั้ง นน. สส. ทั่วไปและการแพ้ยาเรื่องนี้สำคัญใครแพ้อะไรก็บอกหมอให้ครบใครมีโรคประจำตัวอะไรก็บอกไปหมอจะได้จัดยาได้ถูก ผู้ช่วยก็จะให้ไปพบหมอในห้องถามอาการเป็นอะไรทำไมอยากทำตามทั่วไปก็บอกไป ไม่เป็นอะไรเลยแล้วอยากขลิบก็บอกได้ หมอก็จะอธิบายการขลิบตั้งแต่ขั้นตอนอะไรให้ฟังยันตอนดูแลรักษาอาการเบื้องต้นตามภาษาหมอที่จะต้องบอกก่อนทำการผ่าตัดหรือศัลยกรรมต่างๆเพื่อให้ผู้เข้ารับเข้าใจขั้นตอนของหมอและยินยอมคำแนะนำจากหมอด้วย พอคุยกันเสร็จหมอก็จะให้กินยาพารา 1 เม็ดเพื่อลดอาการปวดหลังทำเสร็จ ต้องกินก่อนนะจะได้ออกฤทธิ์ได้ทัน กินหลังทำทรมานแน่นอนกว่ายาจะออกฤทธิ์ และผู้ช่วยจะอัญเชิญเราขึ้นเเขียงห้องผ่าตัด พร้อมกับเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงสะดอไม่ใส่ กกน. นอนจัดท่าบนเตียงขาหยั่ง ใส่ยังไม่ถึง5นาที ผู้ช่วยถกกางเกงลง ทำความสะอาดน้องชายเราก่อน ทายาฆ่าเชื้อทั้งน้องชายแล้วก็นั่งรอตากแอร์เย็นๆรอหมอมา หมอมาก็มาดูว่าหน้าตาเป็นยังไงต้องไปท่าไหนถึงจะดีพอหมอเช็คเท่านั้นแหละบอกเราว่าเส้นสองสลึงเรายาวกว่าปกติ คนปกติยาว1ซม. ของเราล่อไป1เหมือนกัน 1นิ้วตาลุกเลยถามหมอแล้วจะเป็นไรไหม หมอบอกก็แผลเย็บก็แค่ยาวขึ้นทำนานขึ้นนิดหน่อย อันนี้เราไม่รู้จริงๆ ดูภายนอกเราก็เห็นมันก็ไม่เกิน1ซม. แต่มันยังอยู่ตรงโคนอีก หมอก็เริ่มบรรเลงฉีดยาชาบล็อคจุด เห็นหลายคนบอกเจ็บมาก ผมบอกเลยสบายกว่าฉีดยาชาหมอฟันแน่นอน แถบไม่รู้สึก ฉีดเสร็จหมอจะนวดให้ยาชาออกฤทธฺ์หมอจะเช็คว่าชาจริงป่าวถ้ายังรู้สึกบอกหมอได้หมอจะเพิ่มให้จะเอาจนไม่รู้สึกถึงจะเริ่ม พอเริ่มปุ๊บสิ่แรกที่รู้สึกเลือดไหลลงง้ามก้น 555 ตอนหมอทำเราจะเล่นโทรศัพท์หรือคุยกับหมอก็ได้นะครับสบายๆจะประชุมหรืออบรมก็ได้ จะพาเพื่อพาแฟนมาเป็นกำลังใจก็ได้หมอบอกขอแค่ไม่รบกวนหมอตอนทำ คุยกับหมอก็สนุกดีคุยตั้งแต่ศึกษาหาที่ทำ,ขั้นตอนการขลิบ,ขนาดการขลิบ บอกก็บอกให้ทุกอย่างตั้งแต่ข้อดีข้อเสียแต่ละแบบเพราะหมอทำมาหมดแล้วแต่หมอเลือกทำเฉพาะแบบธรรมดาเพราะหมอบอกว่าแบบนี้ดีที่สุดและสวยที่สุดแล้ว คุยกันไปกันมาทำมาหากินอะไรอยู่ไหนถึงมาทำที่นี่ คุยกันคนที่เคยมาทำมีทั้งเด็กยันแก่ สาวสองก็มี แต่เรื่องที่ตลกสุดที่คุยกันเรื่องคนมีของมีอาจารย์ แนะนำว่าไปบอกครูบาอาจารย์ก่อนมาทำด้วยว่าอย่างของขึ้น หมอไม่มีคาถาเอาลงนะครับ ระหว่างทำยาชาอาจจะหมดฤทธิ์ได้ถ้ารู้สึกให้บอกหมอ พอทำเสร็จหมอจะพันแผลให้แล้วให้นอนพักที่เตียงแบบปกติเนื่องจากอาจจะมีอาการมึนหัวจากยาชาได้ประมาณ1ชม. ถึงจะให้ลงมาจ่ายค่าทำแล้วกลับบ้านได้ หมอจะนัดเช็คอาการวันถัดไป(ต้องมาห้ามขาดนะครับ) เพราะหมอจะสอนวิธีทำแผลแบบถูกต้องและล้างแผลให้และก็จะเช็คอาการว่าทุกอย่างโอเคพร้อมดูแลเองต่อได้ พอพ้น2วันแรกแล้วหมอถึงจะให้กลับไปทำแผลเองต่อที่บ้านหรือล้างแผลที่คลินิกใกล้บ้านแทนหรือกลับมาล้างแผลที่คลินิกของหมอเองก็ได้แล้วแต่สะดวก ต่อไปจะเป็นการอัพเดทแผลเป็นอาทิตย์ให้ฟัง โดยปัจจุบันจะครบ 4 อาทิตที่ทำมา

Week 1
-แผลเรียกได้ว่าถ้าใครไม่เคยเป็นแผลสดบ่อยๆอาจจะจิตตกก็ได้ ก็ไม่ขนาดนั้น ก็จะปวดหน่อยหมอจะให้ยาพาราและยาแก้อักแสบมากินทุกๆ4-6 ชม.ตามจำนวนที่หมอให้มาไม่ต้องกินเพิ่ม(หมอบอกก็เชื่อหมอ) เวลาทำแผลก็เจ็บๆหน่อยพอทนได้ช่วงนี้เวลาทำแผลจะมีเลือดไหลอยู่ หมอบอกว่าน้องชายเราจะมีเลือดไหลเวียนตลอดไม่ต้องกลัวว่าจะพันแผลแน่นไปหมอบอกให้พันแน่นๆก็จัดไปตามหมอสั่ง ผ้าก็อตมันมีลิมิตตอนพันอยู่แล้วมันไม่ใช่หนังยางมัดแกงทำให้เลือดตีบได้ แต่ขอให้พันแน่นๆไว้หมอบอกว่าที่เราเจ็บเพราะเราพันไม่แน่นแล้วมันจะบวมถ้าบวมมันจะเจ็บ ก็ไม่ใช่พันเป็นไส้กรอกอีสานเป็นเม็ดๆ ขนาดนั้น ผมทำแผลวันเว้นวันตามผู้ช่วยบอกเพื่อลดการเปิดปิดแผลบ่อยช่วงแรก(แต่หมอคนที่ทำบอกให้ทำแผลทุกวัน) ผมก็จะอัพเดทน้องชายกับหมอตลอดทุกครั้งที่ทำแผลผ่านทางแชท พูดง่ายๆถ่ายน้องชายส่งให้หมอ(ดูโรคจิตป่ะละ)แต่เพื่ออาการของน้องชายที่ดีควรอัพเดทกับหมอ หมอจะได้รู้ว่าแผลเราเป็นยังไงบ้างไม่ผิดปกติไม่ฉีกขาดก่อนกำหนด เป็นอะไรก็บอกหมอหมอจะให้คำแนะนำได้ สรุปแผลอาทิตแรก ดูเยินๆหน่อยยังไม่เข้าที่เข้าทาง ห้ามโดนน้ำเด็ดขาดห้ามมีความชื่น ถ้ามีจะได้ทำแผลใหม่หรือถ้าไม่มากไปก็เอาไดร์เป่าผมเป่าให้แห้ง **เวลาแข็งตัวโครตเจ็บบอกไว้ก่อน ยิ่งตอนกลางคืนตอนนอนกับตอนเช้าตื่นมาเจ็บแผลก่อนตลอด

Week2
-อาการเริ่มดีแต่ไหมก็ยังไม่ละลายดีเท่าไหร่มีอาการปวดน้อยลงกว่าอาทิตแรก จะปวดแค่ไหมที่เย็บมันเป็นไหมละลายส่วนที่อยู่ด้านนอกมันแข็งเวลาโดนผ้ากอตพันอัดเข้าไปมันก็เจ็บหน่อยนะครับ ทำแผลง่ายกว่าอาทิตแรกเลือดไหลน้อยลงแผลเริ่มปิด คราบน้ำเหลืองไม่ต้องไปเช็ดมันออกนะครับหมอบอกเป็นน้ำเหืองดีจะช่วยออกมาสมานแผลให้เราให้ทายาเบตาดีทับไปแค่นั้นเช็ดทำความสะอาดแค่พวกคราบ smegma หรือขี้เปียกและก็คราบเลือดก็พอ สรุปอาทิตนี้เริ่มสบายอาการปวดเริ่มหมดไป ถ้าไหมหลุดออกมาตามผ้ากอตไม่ต้องตกใจมันหมดหน้าที่ของมันแล้วแต่ถ้ามันยังไม่หมดหน้าที่แต่มันติดผ้ากอตละเอาน้ำเกลือชุบสำลีไปแต่ที่ระหว่างผ้ากอตกับไหมให้มันหลุดออกจากกันนะครับเทคนิคช่วย อาทิตนี้จะมีไหมหลุดเยอะหน่อย **ตอนแข็งตัวเจ็บน้อยลงหลับสบายขึ้น

Week3
-อาทิตแห่งความหวังไหมละลายจะเริ่มหมดอาทิตนี้ไม่มีอาการเจ็บปวดอะไรเลยเหมือนน้องชายปกติแค่ยังมีแผลที่ยังแห้งไม่ดีและตกสะเก็ดแค่นั้น แต่ยังทำแผลเหมือนเดิมเพื่อลดอาการปวดบวมจากแผลที่ยังไม่ลงตัว และแผลที่สวยงาม ไม่มีอาการปวดจากการแข็งตัวเลยไม่ว่าระหว่างวันหรือตอนตื่นนอน น้องดูหล่อเท่ขึ้นดูสดใสกว่าทิตแรกนึกว่าผ่านสงครามมา มั่นเช็ดทำความสะอาดหัวน้องบ่อยๆนะครับตั้งแต่อาทิตแรก-ปัจจุบัน ช่วงแรกนี่หัวแห้งอย่างกับปากแห้งเลยตกสะเก็ดลอกเป็นแผ่นๆ  พูดถึงปากแห้งไม่ใช่ไปเอาลิปมันมาทาหัวน้องนะไม่ได้นะ อาทิตนี้อยู่สบายๆไป

Week4
-วันนี้นั้นเองที่ปล่อยกระทู้นี้ออกไปอาจจะเข้ามาอัพเดทแผลน้องว่าเป็นยังไงแต่ก็คงไม่ต่างจากอาทิตที่3หรอก หลังจากอาทิตนี้จะเหลือแค่ตกสะเก็ดให้หมดแค่นั้นเอง

-ผมจะมาอธิบายเรื่องภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวกับแผลให้ทุกคนรับรู้ เรื่องการทำความสะอาดร่างกาย หมอบอกให้เราไม่ต้องอาบน้ำ1อาทิตเพื่อป้องกันความอับชื้นที่เกิดขึ้นได้ เราก็เลยใช้ทิชชูเปียกซื้อมาก่อนไปทำเลยรู้แล้วว่าไม่น่าจะได้อาบน้ำบริเวณส่วนนั้นแน่ๆ แต่ไม่คิดว่าจะทั้งร่างขนาดนั้น ล้างหน้าแปรงฟันปกติสระผมได้ ส่วนร่างกายใครจะเอาผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดก็ได้หรือบู๊หน่อยก็เปิดน้ำก๊อกเอาน้ำลูบๆบริเวณร่างกายไม่ใช้ย้อยลงไปหาน้องเราสบู่ฟอกได้ตั้งแต่ขาลงไปส่วนแขน,หน้าอก,คอ,หลัง,ท้องแต่เวลาล้างออกเอามือล้างน้ำรูดเอาสบู่ออกอย่าให้เปียกมากทำให้หมดทั้งตัว จะทำได้ก็ปาไปอาทิต2 ส่วนบริเวณน้องเราผมเอาทิชชูเปียกเช็ดเอาให้สะอาด มีหลายคนที่ผมอ่านเจอบอกเอาแรปอาหารมาพันน้องชายแล้วอาบได้สุดท้ายเปียกเหมือนเดิม เอาเรื่องนี้ไปบอกหมอตอนทำหมดก็บอกไม่แนะนำน้ำมันผ่านง่าย อีกอย่างน้องไม่ใช่จานชามจะได้แข็งจนแรปไม่ให้น้ำหรืออากาศเข้าไปได้น้องอ่อน หมอบอกรอแผลหายดีก่อนตกสะเก็ดออกให้หมดแล้วค่อยอาบทนๆหน่อยนี้ผมไม่ได้อาบน้ำเป็นจริงเป็นจังมาก็จะเกือบเดือนแล้วแต่ก็ทำแบบขั้นตอนด้านบนมาตลอดเลยสบายใจหน่อย

-เรื่องการกินใครบอกห้ามกินโปรตีนไก่ไข่นมตอนเป็นแผล ผิดนะครับตีให้หูตาแตกเลยนะใครอยากรู้ไปค้นหาความรู้ได้เลยไม่อธิบายมันยาว การกินโปรตีนช่วยในเรื่องเสริมสร้างกล้ามเนื้อทั้งเก่าและใหม่ให้แข็งแรงยิ่งดีกับแผลที่กำลังใหม่เลย แต่ก็ควรครบสารอาหาร5หมู่ตามปกติ ส่วนอาหารเริมอันนี้ข้อมูลจากผู้รู้ใน sarika  ที่เคยอ่านมา แนะนำกินวิตามิน C และน้ำใบบัวบกลดอาการช้ำในลดปวดได้เป็นอย่างดี แต่ผมไม่มีทั้ง2อย่าง แต่ผมมีแคปซูลใบบัวบกแทนซึ่งไม่ต้องไปทนกับรสชาติน้ำใบบัวบกสำหรับคนไม่ชอบทาน(ผมแแหละ) วิตามิน C จำไม่ได้ว่าช่วยอะไร ก็เลยไม่กินง่ายๆเลย ที่กล่าวเรื่องกินมาแต่แรกช่วยได้มากจะที่ลองมาแผลไม่นูนเวอร์อย่างที่คนบอกกินไก่ไข่ตอนเป็นแผล มันคือแผลเป็นปกติดีๆเลย และปวดน้อยลงตอนทาใบบัวบกตั้งแต่ที่ลองกินมา กินน้ำเยอะๆก็ช่วยเหมือนกันเท่าที่อ่านมาน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสมานแผลด้วย
อยากรู้ราคาละซี้ แจกแจงราคาก็ 6200 รวมตัดเส้นสองสลึงและค่ายา + ชุดทำแผลและทำแผลวันที่2 360 จบที่คลินิกนี้ 6560 ชุดทำแผลจะอยู่ได้อาทิตเดียวก็อย่าลืมไปหาร้านขายยาซื้อเพิ่มได้นะครับ ***อ้างอิง ราคาอาจจะขึ้นลงตามสภาวะเศรษฐกิจโปรดอย่าเอาราคานี้ไปเปรียบเทียบกับที่คุณจ่าย

***ขอเสริมอีกนิด ถ้าให้ดีอย่างน้อยควรว่างหลังทำอย่างน้อยซัก3วันนะครับ อันที่จริงทำแล้วก็เดินแบบคนปกติได้ทำอะไรได้เหมือนเดิมนั้นแหละแต่อยากให้อยู่เฉยๆเป็นเหมือนคนหยอดน้ำข้าวต้ม แผลจะได้หายไวขึ้น ช่วงโควิทนี้ใครได้ WFH หรือเรียนออนไลน์อยู่ ก็แนะนำให้ไปทำเลยอย่างน้อยได้อยู่บ้านไม่ต้องออกไปผจญภัยอะไร III จะออกไปประท้วงก็รักษาร่างกายกันด้วยมีกระจับใส่ประคองด้วยเดี๋ยวน้องไม่หล่อถ้าโดนกระสุนยาง เรื่องน้องก็ต้องหล่อเรื่องชาติก็ต้องสู้  ชาติ ศาสนา ประชาชน และการขลิบควรพูดได้เป็นเรื่องปกติของ ผช ไม่ใช่เรื่องมาแอบคุยหรือแอบมาทำกัน