เที่ยวประจวบคีรีขันธ์ # แวะชมโบสถ์ไม้ตาลหลังเดียวในโลก วัดอ่างสุวรรณ และตำนานหงษ์ยักษ์ที่คนขับรถลงใต้ต้องเห็น



หลังจากเดินขึ้นเขาดินสอ จ.ชุมพร ไปแค้มป์ชมวิว ดูเหยี่ยวแล้ว 
https://ppantip.com/topic/40913887

ขากลับแวะเที่ยวระหว่างทาง วัดอ่างสุวรรณ หรือวัดหนองหอย แวะชมโบสถ์ไม้ตาลหลังเดียวในโลก





พิกัด googlemap





*** ผมมีแต่รูปซึ่งถ่ายนานแล้ว ส่วนข้อมูลตัวอักษรนำมาจากบทความต่างๆ โดยรูปผมจะแทรกไปกับบทความด้วย 

หากเป็นโบสถ์ไม้สักหรือไม้ตะเคียนคงไม่น่าแปลกใจเท่าใดนัก เพราะเป็นไม้ที่มักนำมาสร้างบ้านเรือนกันเป็นปกติ แต่สำหรับไม้ตาลที่มีลำต้นสูงผอมเพรียว แถมเนื้อไม้ยังมีเสี้ยนเยอะด้วยนั้น ยังไม่เคยเห็นใครนำมาสร้างโบสถ์ หรือแม้แต่สร้างบ้านก็เห็นไม่บ่อยนัก แต่แท้จริงแล้วต้นตาลเป็นไม้เนื้อแข็งสามารถนำมาสร้างบ้านหรือทำเฟอร์นิเจอร์ได้สวยงามเช่นกัน

ข้อมูลจาก
https://mgronline.com/travel/detail/9560000067638

----------------------------------------------------
ข้อมูลวัดจาก
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=cherrystone&group=172

"ไม้ตาล" คือไม้จากต้นตาล ที่ไม่ค่อยจะมีใครเคยเห็นเอามาสร้างบ้าน แต่โดยมาก
มักทำเป็นข้าวของเครื่องใช้ ที่เห็นคุ้นตาน่าจะเป็นทัพพีตักข้าว ที่เขี่ยบุหรี่ กล่องใส่ของกระจุกกระจิก
เพราะความที่เป็นไม้มีลายสวย แต่คราวนี้ มีไม้ตาลทำเป็นโบสถ์หลังใหญ่ๆ ทั้งหลัง ใครผ่านลงไป
ภาคใต้ เลยอ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ลงไป จะเห็นป้ายข้างทางเชิญชวนให้คนไปเที่ยวชม
อุโบสถไม้ตาล หนึ่งเดียวในโลก

อุโบสถไม้ตาล ที่ว่านี้ อยู่วัดอ่างสุวรรณ (หนองหอย) จริงๆ ชื่อนี้
ก็ทำเอาบางคนสับสนได้ถ้าไปแปลคำว่าสุวรรณที่แปลว่า "ทอง" เพราะบนถนนเพชรเกษม
ก่อนถึงทางแยกเข้าบ้านหนองหอย (ถ้าไปจากกรุงเทพฯ) ก็มี "วัดอ่างทอง"

จากคำบอกเล่า วัดอ่างสุวรรณ (หนองหอย) มี "หลวงพ่อเฉลิม สุรโข"
ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส จนกระทั่งท่านมรณภาพลง จึงกลายเป็นวัดร้างไปช่วงหนึ่ง ประมาณปี
2521 ชาวบ้านได้นิมนต์ พระอาจารย์สมพงษ์ อัคคปัญโญ หรือ พระครูผาสุกวิหารการ
ให้มาเป็นเจ้าอาวาส ซึ่งท่านเป็นนักพัฒนาด้านสังคม

พระครูผาสุกวิหารการ เปิดเผยว่า หลังจากเป็นเจ้าอาวาสได้อธิษฐาน
ไว้ว่า จะขอสร้าง "อุโบสถไม้ตาล" ไว้ที่วัดนี้หนึ่งหลัง หลังจากนั้นได้ออกหาต้นตาลจากชาวบ้าน
ในหมู่บ้านต่างๆ มาเริ่มสร้างอุโบสถ โดยไม้ตาลที่นำมาสร้างจะต้องเป็นตาลที่มีอายุไม่ต่ำกว่า
70-100 ปี เพื่อความแข็งแรงทนทาน ตัวอุโบสถใช้ไม้ตาลทั้งหลังกว้าง 8 เมตร ยาว 29 เมตร
สูง 16 เมตร มีเพียงคานล่าง และไม้เครื่องบนเท่านั้น ที่ใช้ไม้ตะเคียน เพราะต้องรับน้ำหนัก
มากๆ รอบๆ โบสถ์รวมถึงด้านหน้า ใช้ไม้ตาลแกะสล้กลวดลาย ตกแต่งสวยงาม
พื้นไม้ในอุโบสถก็เป็นไม้ตาล ที่ให้ลายเส้นสวยงามในตัว










อุโบสถไม้ตาลหลังนี้ ดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2547 ข่าวว่า
แรกเริ่มก็ไม่ค่อยมีใครเห็นด้วย แต่ท่านพระครูก็เดินหน้าทำไปด้วยตัวท่านเอง ใช้ไม้ตาลไปกว่า
10,000 ต้น จนวันนี้ตัวอุโบสถเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งบริเวณโดยรอบ
ก่อนที่วัดจะมีงานใหญ่ ช่วง 10-20 เมษายน 2556 เป็นงานปิดทองฝังลูกนิมิตนั่นเอง

** ลวดลายการแกะสลักไม้ด้านหน้าก่อนเข้าภายในที่ต้องใช้ความพยายามมาก แกะเป็นส่วนๆแล้วนำมาประกอบ














อุโบสถไม้ตาลก็เปิดให้พุทธศาสนิกชน ได้เข้าไปสวด ไปไหว้พระ
กันแล้ว ซึ่งด้านในมีพระพุทธรูปหลวงปู่ไทร เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ปางวันทา ซึ่งแกะสลักจากไม้
ไทร มีอายุกว่า 200 ปีมาแล้ว แต่ที่มาที่ไปยังไม่ใครทราบแน่ชัด แต่พระพุทธรูปหลวงปู่ไทร
ก็เป็นที่เคารพบูชา กราบไหว้ของชาวบ้านหนองหอยและละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก








ส่วนพระประธานเป็น พระพุทธชินราช หน้าตักกว้าง 2 เมตร มีองค์เทพหลังพระประธาน
สวมสร้อยสังวาลใช้ประดับด้วยพลอยขาว สวยงาม












***หลังองค์พระประธานเป็นลวดลายฝาผนัง ที่ไม่มีภาพวาด แต่จะเป็นงานไม้ตาลแกะสลักแทน






*** โดยที่ผนังทั้งสองข้างเรียบไม่มีลายแกะสลักหรือภาพวาดใดๆ บนเพดานก็เรียบเช่นกัน ประดับแค่โคมไฟ 

พระครูผาสุกวิหารการ ยังมีความรู้ความชำนาญในทางแพทย์แผนโบราณ
โดยได้เล่าเรียนศึกษาเรื่องการรักษาโรคต่างๆ โดยเฉพาะพวกที่ถูกพิษงู ไปไม่ถึงหมอ
ก็รอดตายมาหลายรายถ้าถึงมือพระครู และยังรักษาคนที่กระดูกแตกและหักได้จนมีชื่อเสียงโด่งดัง
จึงเป็นเรื่องปกติที่ทุกวันจะมีญาติโยมเดินทางมาเข้ารับการรักษาแบบสมุนไพรที่วัดไม่ขาดสาย

การเดินทางไปวัดอ่างสุวรรณ ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ไปตามถนนเพชรเกษม
ถึงหลัก กม.ที่ 376-377 เลี้ยวขวาช่วงยูเทิร์นหนองหอย
และวิ่งตามถนนลาดยางเข้าไปประมาณ 5 กิโลเมตร