สวัสดีครับเพื่อนๆ ห่างหายจากการรีวิวไปนาน วันนี้ขอหยิบเอาทริปที่เคยไปเมื่อปีก่อนมาเล่าสู่กันฟังครับ
ทริปที่ไปนั้นเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งบอกได้เลยว่า “ไม่เคยอยู่ใน Wish List ที่อยากจะไปเลยจริงๆ”
ด้วยความที่เราเป็นสายชิล กิน ช้อปไปเรื่อยเปื่อย ไม่ไหวที่จะเหนื่อยกับการผจญภัยอะไรสักเท่าไร
แต่เมื่อตกกระไดพลอยโจนมาแล้ว สายชิลอย่างเราก็ต้องปรับตัว!
ตอนนี้เพื่อนๆ รู้ไหม ว่าผมไปประเทศไหน?
และประเทศเพื่อนบ้านที่ผมได้ไปนั้น ก็คือ.อ.... "กัมพูชา" ส่วนเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตก็คือ "เสียมเรียบ" หรือสมัยที่เรียนวิชาสังคมจะเรียกว่า "เสียมราฐ" ดินแดนที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าประวัติศาสตร์ของเขมร หลักฐานชี้ชัดก็คือ ปราสาทต่างๆ ที่มีมากมายในเมืองนี้ ต่างก็ฉายเสน่ห์ ฉายความอลังการงานสร้าง เผยผลงานศิลปะอันวิจิตรที่ยังคงมีให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน นำพานักท่องเที่ยวมากมายมาเที่ยวที่เมืองมรดกโลกแห่งนี้
เอาหล่ะ! ตามไปเที่ยว ตามไปผจญภัย พร้อมถวิลหาความชิลล์ไปด้วยกัน กับ 12 เรื่องราวที่ผมเตรียมมาเล่าในวันนี้ พร้อมแล้วไปกันเล้ยยย
#1 สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ
การเดินทางที่สะดวกก็คือตุ๊กๆ ซึ่งมีทั้งมอเตอร์ไซค์ที่ดัดแปลงเป็น 3 ล้อ หรือแบบตุ๊กๆ เหมือนบ้านเรา วิธีการเรียกก็ไม่ยาก เพราะมักจะมีคนเข้ามาทักนักท่องเที่ยวอย่างเราๆ อีกหนึ่งวิธีที่สะดวก และปลอดภัย ก็คือ "Grab Tuk Tuk" แกร๊บตุ๊กๆ ครับทุกคน อันนี้ก็เซอร์ไพรส์อยู่ ไม่คิดว่าจะมี
การเดินทางเที่ยวปราสาท ผมจ้างรถตุ๊กๆ ไป จะครึ่งวัน หรือเต็มวัน ก็ให้ทางโรงแรมติดต่อให้ เค้าก็จะถามเราว่าจะเที่ยวปราสาทวงใน หรือวงนอก ถ้าวงในก็คือเที่ยวรอบๆ เมือง ซึ่งไม่ไกลมาก แต่ถ้าวงนอกก็จะวิ่งไกลออกไปหน่อย วันแรกที่ผมไปถึงโรงแรม ก็บ่ายโมงแล้ว ก็เลยเลือกที่จะเที่ยววงในก่อน ส่วนวันที่ไปเที่ยวทะเลสาบ และปราสาทไกลๆ ก็จะจ้างรถเก๋งไป ซึ่งราคาอาจจะแพงหน่อย แต่ก็ไม่ร้อน และไม่ต้องเจอฝุ่นตลบเหมือนตอนนั่งตุ๊กๆ
ผมเจอคนขับตุ๊กๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ปร๋อ เราก็สงสัยว่าเค้าเรียนมาจากไหน เค้าบอกว่าเรียนที่วัด มีพระสอนให้ ดีจริง... ก็เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวแหละ ดูออก ภาษาอังกฤษจึงมีความจำเป็นมากๆ
คนขับถาม “Where are you from?” ผมตอบ “Thailand” เค้าก็ถามต่อ “Do you know Sa Bud Tor Mai Ro Raew Na? What does it mean?” ผมสตั๊นไป 3 วิ แล้วให้เค้าพูดอีกรอบ ดูเหมือนเค้าจะพูดว่า "สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ" เราก็ตอบเค้าไปเลยว่า... “I don't know” ไม่รู้จัก!! …. เรื่องจริง! ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเป็นคำพูดของ แม่สิตางค์ บัวทอง … โหหห แม่เค้าโกอินเตอร์แล้วจริงๆ
สำหรับการไปเที่ยวสถานที่สำคัญจะต้องโชว์ตั๋วก่อนเข้าพื้นที่ ซึ่งคนขับจะรู้ดี และเค้าก็จะพาเราไปสถานีขายตั๋ว ซึ่งก็มีให้เลือกว่าจะเที่ยวกี่วัน เราก็จ่ายไป อ้อ! ที่นี่เค้าใช้เงินดอล่าร์สหรัฐกันนะ ใครมาเที่ยวแลกเป็นเงินดอลล่าร์น่าจะดีกว่า
#2 ไต่ขึ้นปราสาท ดูแสงส้ม
เมืองนี้มีหลายปราสาท แต่จะมีปราสาทหนึ่งที่นักท่องเที่ยวนิยมมาจับจองที่นั่ง ปล่อยอารมณ์ดูพระอาทิตย์ตก นั่นก็คือ “พนมบาเค็ง" (Phnom Bakheng) การได้ดูพระอาทิตย์ตกสวยๆ ก็ต้องดูจากมุมสูง ซึ่งเราต้องไต่บันไดชันๆ ขึ้นไป ซึ่งกว่าจะถึงเล่นเอาซะเหงื่อซึมเลย ถ้าถามว่าสูงแค่ไหน? ลองดูจากภาพได้เลยครับ
#3 ปราสาทขวัญใจมหาชน
ถ้าให้จัดอันดับปราสาทที่คนเซล์ฟฟี่ ถ่ายรูปมากที่สุด ต้องยกให้ "ปราสาทตาพรหม" (Prasat Ta Prohm) หรือชื่อเล่นที่นักท่องเที่ยวเรียกกันว่า "ทูมบ์ ไรเดอร์" (Tomb Raider) เพราะที่นี่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องดังกล่าวที่มีแองเจลีน่า โจลี่แสดงนำ เสน่ห์ลึกลับชวนสะพรึงของปราสาทที่ถูกปกคลุมไปด้วยรากไม้นี้ ต้องบอกว่า อะเมซิ่งจริงๆ และไม่ใช่มีแค่จุดเดียว มีอยู่หลายจุดในปราสาทแห่งนี้ และการถ่ายรูปกับรากไม้ใหญ่เหล่านี้ก็ต้องไวยิ่งกว่านักวิ่งเหรียญทอง เพราะคู่แข่งคุณคือนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่โนสน โนแคร์ พร้อมเสียบได้ทุกเมื่อ
ผมว่าชุดสีแดงนี่แหละ แจ่มสุดแล้วเวลาถ่ายรูป
มีอยู่จุดหนึ่ง ที่ผมเห็นคนก้มๆ เงยๆ มองผ่านช่องระเบียง ด้วยความสงสัยก็เลยทำตามบ้าง "อ๋อ นั่นไง! รากไม้ที่ล้อมพระเศียรของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีทางเจอนะเนี่ย (มีใครมองเห็นบ้าง?)
#4 สวยงามตามท้องเรื่อง
“บันทายศรี” (Banteay Srei) หรือ "บันเตียไสร" ในภาษาเขมร ถูกจัดให้เป็นปราสาทที่สวยงามที่สุด เพราะมีความชัดเจนในเรื่องลวดลายศิลปะที่ยังปรากฏให้เห็นจนถึงปัจจุบัน จะด้วยที่ตัวหินมีความคงทน ไม่ได้ถูกกัดเซาะจากแรงลม หรือแรงฝนตามกาลเวลา จึงทำให้เราได้เห็นความงามตามแบบต้นฉบับ ปราสาทนี้สร้างในคริสต์ศตรรษที่ 10 หรือประมาณ พ.ศ. 1510 โดยพราหมณ์ยัชญวราหะ จุดเด่นของที่นี่อยู่ที่ซุ้มประตูทางเข้าที่สลักรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณที่มีความละเอียดละออสวยงาม
ปราสาทแห่งนี้มีขนาดไม่ใหญ่ เดินวนแป๊บเดียวก็ครบรอบแล้ว อารมณ์เหมือนดูศิลปะกลางแจ้ง ความละเอียดคมชัดของลวดลายบนหินทรายสีชมพูถือว่าสุดมากจริงๆ ยากที่เอาปราสาทอื่นๆ มาเปรียบเทียบ
#5 สวรรค์โปรด เจอญาติที่คุ้นเคย
เที่ยวผจญภัยมาเหนื่อยๆ การได้นั่งพักห้องแอร์ จิบเครื่องดื่มเย็นๆ เหมือนเป็นการฟื้นฟูร่างกายให้กลับมาสดชื่นอีกครั้ง นับว่าโชคดีเหมือนเจอญาติที่คุ้นเคย อย่างสตาร์บัคส์ กับโคอิเตะ (KOI) ต้องบอกว่าเซอร์ไพร์สผมมาก ไม่คิดว่าจะมาเจอที่กัมพูชา ผมเคยไปเที่ยวฮานอย เมืองหลวงของเวียดนามยังไม่มีเลย นี่ยังไม่รวมฟาสต์ฟู๊ด และร้านอาหารที่เราคุ้นเคยอย่าง Domino Pizza, Pizza Company, AKA นอกจากนี้ยังมีโรงหนังด้วยนะทุกคนนน เห็นว่ากำลังฉายเรื่องไดอารี่ตุ๊ดซี่อยู่ ตอนพากษ์ภาษาเขมร คงบันเทิงน่าดู ทั้งหมดนี้อยู่ที่ห้าง The Heritage Walk
#6 บายน กับคนคุ้นเคย
"ปราสาทบายน" (Bayon) โดดเด่นด้วยปรางค์ที่มีรูปสลักหน้ายิ้มหันทั้ง 4 ทิศ หรืออาจจะมี 3 ทิศ หรือ 2 ทิศแล้วแต่มุม รวมทั้งหมด 49 ยอด แต่ปัจจุบันเหลืออยู่ 39 ยอด ปราสาทนี้สร้างขึ้นราวปลายศตวรรษที่ 12 หรือต้นศตวรรษที่ 13 ในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ตั้งอยู่ใจกลางของนครธม หรือมีชื่อเรียกอื่นว่า อังกอร์ธม (Angkor Thom) เมืองหลวงสุดท้ายของอาณาจักรขะแมร์
ผมจำได้ว่าตอนที่ถ่ายรูปอยู่ จู่ๆ ก็มีสายเข้ามา เบอร์ที่คุ้นเคย “แม่” ตกใจ! เพราะแอบมาโดยไม่บอก ต้องรับสาย เดี๋ยวเป็นเรื่อง “ไปนี่ไม่กลัวโควิดเลยใช่ไหม?” แม่ถาม “เหมือนยังไม่มีข่าวคนติดโควิดนะที่นี่ แต่ก็ใส่แมสก์กันไว้ตลอด” ยิ่งคุยนาน ยิ่งงานเข้า “แม่...ตอนนี้โรมมิ่งสัญญาณอยู่ แพง เดี๋ยวค่อยคุยอีกทีนะ” แล้วก็จบบทสนทนาไปอย่างรวดเร็ว
#7 จะไปกับแสงสี
ถ้าถามคนที่นี่ว่าจะไปเดินซื้อของได้ที่ไหน เค้าจะบอกว่า “ผับสตรีท” (Pub Street) ตอนแรกก็งงๆ ว่าจะซื้อของทำไมให้ไปผับ ผมเรียกว่าเป็นย่านแล้วกัน เพราะตลาด ร้านค้า ร้านอาหาร และผับอยู่ใกล้ๆ กัน ตกกลางคืนนักท่องเที่ยวมักจะมาสังสรรค์กินดื่มกันที่นี่ ตอนไปครั้งแรก ตื่นตาตื่นใจมาก ดูใหญ่กว่าถนนข้าวสารบ้านเราอีก จะนั่งดื่มเบาๆ คุยกับเพื่อน หรือจะเคลื่อนที่โยกย้ายส่ายสบัดก็เลือกกันตามสะดวก ผมแวะเข้าร้าน “มิสหว่อง” (Miss Wong) เพราะเห็นคะแนนรีวิวดีใน Trip Advisor ร้านนี้จะแอบๆ หน่อยอยู่ในตรอก ได้อารมณ์เหมือนบาร์ลับ
สำหรับใครที่ไม่ชอบแสงสี มีตัวเลือกคือไนท์มาร์เก็ต อยู่ไม่ไกลจาก Pub Street ขายของพวกของที่ระลึก งานคราฟท์ต่างๆ แต่ละร้านขายของคล้ายๆ กันนะผมว่า เหมือนเดจาวู คุ้นๆ เหมือนเพิ่งเห็นผ่านไปนะเมื่อกี้นี้
[CR] ตามไปเที่ยว(ทิพย์) >> ไปชิลๆ ที่ประเทศเพื่อนบ้านกัน
ทริปที่ไปนั้นเป็นประเทศเพื่อนบ้านของเรา ซึ่งบอกได้เลยว่า “ไม่เคยอยู่ใน Wish List ที่อยากจะไปเลยจริงๆ”
ด้วยความที่เราเป็นสายชิล กิน ช้อปไปเรื่อยเปื่อย ไม่ไหวที่จะเหนื่อยกับการผจญภัยอะไรสักเท่าไร
แต่เมื่อตกกระไดพลอยโจนมาแล้ว สายชิลอย่างเราก็ต้องปรับตัว!
ตอนนี้เพื่อนๆ รู้ไหม ว่าผมไปประเทศไหน?
และประเทศเพื่อนบ้านที่ผมได้ไปนั้น ก็คือ.อ.... "กัมพูชา" ส่วนเมืองท่องเที่ยวยอดฮิตก็คือ "เสียมเรียบ" หรือสมัยที่เรียนวิชาสังคมจะเรียกว่า "เสียมราฐ" ดินแดนที่เคยมีความเจริญรุ่งเรืองในหน้าประวัติศาสตร์ของเขมร หลักฐานชี้ชัดก็คือ ปราสาทต่างๆ ที่มีมากมายในเมืองนี้ ต่างก็ฉายเสน่ห์ ฉายความอลังการงานสร้าง เผยผลงานศิลปะอันวิจิตรที่ยังคงมีให้เห็นมาจนถึงปัจจุบัน นำพานักท่องเที่ยวมากมายมาเที่ยวที่เมืองมรดกโลกแห่งนี้
เอาหล่ะ! ตามไปเที่ยว ตามไปผจญภัย พร้อมถวิลหาความชิลล์ไปด้วยกัน กับ 12 เรื่องราวที่ผมเตรียมมาเล่าในวันนี้ พร้อมแล้วไปกันเล้ยยย
การเดินทางเที่ยวปราสาท ผมจ้างรถตุ๊กๆ ไป จะครึ่งวัน หรือเต็มวัน ก็ให้ทางโรงแรมติดต่อให้ เค้าก็จะถามเราว่าจะเที่ยวปราสาทวงใน หรือวงนอก ถ้าวงในก็คือเที่ยวรอบๆ เมือง ซึ่งไม่ไกลมาก แต่ถ้าวงนอกก็จะวิ่งไกลออกไปหน่อย วันแรกที่ผมไปถึงโรงแรม ก็บ่ายโมงแล้ว ก็เลยเลือกที่จะเที่ยววงในก่อน ส่วนวันที่ไปเที่ยวทะเลสาบ และปราสาทไกลๆ ก็จะจ้างรถเก๋งไป ซึ่งราคาอาจจะแพงหน่อย แต่ก็ไม่ร้อน และไม่ต้องเจอฝุ่นตลบเหมือนตอนนั่งตุ๊กๆ
ผมเจอคนขับตุ๊กๆ ที่พูดภาษาอังกฤษได้ปร๋อ เราก็สงสัยว่าเค้าเรียนมาจากไหน เค้าบอกว่าเรียนที่วัด มีพระสอนให้ ดีจริง... ก็เพราะเป็นเมืองท่องเที่ยวแหละ ดูออก ภาษาอังกฤษจึงมีความจำเป็นมากๆ
คนขับถาม “Where are you from?” ผมตอบ “Thailand” เค้าก็ถามต่อ “Do you know Sa Bud Tor Mai Ro Raew Na? What does it mean?” ผมสตั๊นไป 3 วิ แล้วให้เค้าพูดอีกรอบ ดูเหมือนเค้าจะพูดว่า "สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ" เราก็ตอบเค้าไปเลยว่า... “I don't know” ไม่รู้จัก!! …. เรื่องจริง! ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังว่าเป็นคำพูดของ แม่สิตางค์ บัวทอง … โหหห แม่เค้าโกอินเตอร์แล้วจริงๆ
สำหรับการไปเที่ยวสถานที่สำคัญจะต้องโชว์ตั๋วก่อนเข้าพื้นที่ ซึ่งคนขับจะรู้ดี และเค้าก็จะพาเราไปสถานีขายตั๋ว ซึ่งก็มีให้เลือกว่าจะเที่ยวกี่วัน เราก็จ่ายไป อ้อ! ที่นี่เค้าใช้เงินดอล่าร์สหรัฐกันนะ ใครมาเที่ยวแลกเป็นเงินดอลล่าร์น่าจะดีกว่า
ผมว่าชุดสีแดงนี่แหละ แจ่มสุดแล้วเวลาถ่ายรูป
มีอยู่จุดหนึ่ง ที่ผมเห็นคนก้มๆ เงยๆ มองผ่านช่องระเบียง ด้วยความสงสัยก็เลยทำตามบ้าง "อ๋อ นั่นไง! รากไม้ที่ล้อมพระเศียรของพระพุทธเจ้า ถ้าไม่สังเกตดีๆ ก็ไม่มีทางเจอนะเนี่ย (มีใครมองเห็นบ้าง?)
ผมจำได้ว่าตอนที่ถ่ายรูปอยู่ จู่ๆ ก็มีสายเข้ามา เบอร์ที่คุ้นเคย “แม่” ตกใจ! เพราะแอบมาโดยไม่บอก ต้องรับสาย เดี๋ยวเป็นเรื่อง “ไปนี่ไม่กลัวโควิดเลยใช่ไหม?” แม่ถาม “เหมือนยังไม่มีข่าวคนติดโควิดนะที่นี่ แต่ก็ใส่แมสก์กันไว้ตลอด” ยิ่งคุยนาน ยิ่งงานเข้า “แม่...ตอนนี้โรมมิ่งสัญญาณอยู่ แพง เดี๋ยวค่อยคุยอีกทีนะ” แล้วก็จบบทสนทนาไปอย่างรวดเร็ว
สำหรับใครที่ไม่ชอบแสงสี มีตัวเลือกคือไนท์มาร์เก็ต อยู่ไม่ไกลจาก Pub Street ขายของพวกของที่ระลึก งานคราฟท์ต่างๆ แต่ละร้านขายของคล้ายๆ กันนะผมว่า เหมือนเดจาวู คุ้นๆ เหมือนเพิ่งเห็นผ่านไปนะเมื่อกี้นี้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น