💚มาลาริน/เรื่องดีมากค่ะ...เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เดินทางมาแล้ว/ทูตสหรัฐฯประจำUNปลื้มไทย จัดสรรฉีดวัคซีนรวดเร็ว

เพี้ยนปักหมุดหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย เดินทางมาถึงไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่ง
เผยแพร่: 11 ส.ค. 2564 11:04   ปรับปรุง: 11 ส.ค. 2564 11:04   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สถานเอกเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย แถลง (11 ส.ค.) ว่า หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ได้เดินทางมาถึงไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่ง
ช่วงเย็นวันที่ 10 สิงหาคม นายหาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำราชอาณาจักรไทยคนใหม่ได้เดินทางถึงประเทศไทยเพื่อเข้ารับตำแหน่ง

ท่านทูตหาน ได้กล่าวความรู้สึกว่า ประเทศจีนกับประเทศไทยเป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีสัมพันธไมตรีอันยาวนาน ปัจจุบันนี้ โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาดในทั่วโลก จีนกับไทยและประชาชนของทั้งสองประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจและคอยช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ซึ่งได้สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพอันวิเศษที่เป็น "จีนไทยครอบครัวเดียวกัน" และจิตวิญญาณอันยิ่งใหญ่สำหรับประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันของมวลมนุษยชาติ ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 100 ปีในการก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์จีน ประเทศจีนได้ประสบความสำเร็จในการสร้างสังคมกินดีอยู่ดีอย่างถ้วนหน้า กำลังมุ่งสู่เป้าหมายในการสร้างประเทศสังคมนิยมสมัยใหม่ที่แข็งแกร่งอย่างรอบด้านด้วยความเชื่อมั่นอย่างเต็มตัว

ประเทศไทยกำลังรวมไทยสร้างชาติ ผลักดันยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ในช่วงเวลาที่ความสัมพันธ์จีน-ไทยกำลังพัฒนาก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว ผมได้รับคำสั่งให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย รู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงและเป็นภารกิจอันสำคัญยิ่ง และยินดีที่จะร่วมกับเพื่อนๆ ทั้งหลายจากวงการต่าง ๆ ของประเทศไทย ผลักดันความร่วมมือในการต่อสู้กับโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นมิตรในปริมณฑลต่าง ๆ และยกระดับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้านระหว่างจีน-ไทยให้ขึ้นไปสู่ขั้นใหม่



https://mgronline.com/china/detail/9640000078739

นานาเยี่ยมทูตสหรัฐฯประจำUNปลื้มไทย จัดสรรฉีดวัคซีนไฟเซอร์อย่างรวดเร็ว
วันพุธ ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 14.32 น.



วันพุธที่  11 สิงหาคม 2564 เวลา 11.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ (H.E. Mrs. Linda Thomas-Greenfield) เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ประจำสหประชาชาติ (Ambassador and Permanent Representative of the United States of America to the United  Nations) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เนื่องในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของกระทรวงการต่างประเทศ โดยภายหลังการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยสาระสำคัญ ดังนี้
          
ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อสถานการณ์ในเมียนมา ซึ่งทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องถึงการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่เมียนมา ซึ่งนายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไทยในฐานะประเทศเพื่อนบ้านได้ติดตามสถานการณ์มาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ไทยพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับประชาคมระหว่างประเทศ และสหรัฐฯ เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน พร้อมยืนยันว่าไทยยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ผู้หนีภัยจากประเทศเพื่อนบ้านและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว ถือเป็นความช่วยเหลือตามหลักการด้านมนุษยธรรมที่ไทยให้ความสำคัญและยึดมั่นเสมอมา โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ขอบคุณรัฐบาลไทยและเชื่อมั่นในการดำเนินการของไทย ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการระดมความช่วยเหลือด้านมนุษยชน และด้านสาธารณสุขที่จำเป็นสำหรับประชาชนเมียนมา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและดำเนินการร่วมกันต่อไป
          
นอกจากนี้ จากประเด็นสถานการณ์โควิด – 19 เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ ได้กล่าวถึง สถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อทั่วโลกว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ทุกฝ่ายเผชิญกับความยากลำบากความร่วมมือกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวถึงโอกาสที่ได้เห็นการดำเนินการของไทยในการฉีดวัคซีนและปกป้องประชาชนด้วยวัคซีนไฟเซอร์ที่สหรัฐฯ ได้มอบให้ ชื่นชมรัฐบาลไทยที่ได้จัดสรรวัคซีนอย่างรวดเร็ว และเหมาะสม ซึ่งจะเป็นส่วนสนับสนุนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไทย โดยนายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ สำหรับความร่วมมือและการสนับสนุนที่ให้แก่ไทยในการรับมือกับโควิด-19 โดยเฉพาะการบริจาควัคซีนกว่า 1.5 ล้านโดส สะท้อนให้เห็นถึงมิตรภาพของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน รวมถึงพื้นฐานความร่วมมือด้านสาธารณสุขที่แนบแน่นและเป็นประโยชน์ร่วมกัน ซึ่งเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ จะมอบวัคซีนเพิ่มเติมให้ไทยอีก 1 ล้านโดสเร็วๆ นี้ และจะมอบความช่วยเหลือมูลค่า 5 ล้านเหรียญสหรัฐ ให้กับไทยเพื่อสนับสนุนการต่อสู้กับโรคโควิด - 19 ในประเทศไทย

ตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายได้หารือในประเด็นการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งทั้งไทยและสหรัฐฯ ให้ความสำคัญ โดยเอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนให้ความสำคัญกับความตกลงปารีส (Paris Agreement) นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าสิ่งแวดล้อมเป็นประเด็นสำคัญของรัฐบาลไทย โดยไทยมีนโยบายลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutrality) ภายในปี ค.ศ. 2065 - 2070 และให้การสนับสนุนการลงทุนด้านโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio – Circular – Green Economy Model) ซึ่งยินดีหากเอกชนสหรัฐฯ สนใจลงทุนในประเทศไทย

https://www.banmuang.co.th/news/politic/245800

เพี้ยนดีออกลุงตู่เป็นนายกฯประเทศไทยที่ชาติยิ่งใหญ่ในโลกนี้ให้ความเชื่อมั่น การมาผูกมิตรกับไทย เขาต้องยอมรับผู้นำ 

ลุงตู่เป็นผู้นำที่ยืดอกได้อย่างภาคภูมิ  

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่