ติดเชื้อ "ซิฟิลิส" ถึงแม้ว่าจะ Safe Sex แล้วในระดับนึง - ขออภัยหัวข้อเขียนชื่อผิด
(ขอแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่รู้ผลและรักษา)
เมื่อชีวิตต้องมาเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด และนับจากนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาล
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคม 64 ก่อนที่จะมีการ Lock Down (COVID-19) ผมได้มีอะไรกับผู้หญิงแปลกหน้าแต่ทุกอย่างป้องกันอย่างดีทั้งหมด การป้องกันคือสวมถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่วแน่นอนเพราะเช๊คดูตอนถอด แต่มีการทำออรัลแบบไม่ใส่ถุงและแลกลิ้นกันนิดหน่อย
- เดือนเมษายน 64 ไม่มีอาการใดๆ ไปบริจาคเลือดที่กาชาด - ปกติ
- พฤษภาคม 64 หลังจากเหตุการณ์นั้นมา 2 เดือน กลางเดือนผมมีอาการผื่นแดง ไม่นูน ไม่คันขึ้น ตามแขน ต้นขาสองข้าง และตรงลำตัว แต่ไม่มีขึ้นตรงอวัยวะเพศ ไม่มีไข้ เลยเกิดความไม่สบายใจ จึงไปพบแพทย์หมอสันนิฐานว่าผมอาจจะแพ้สารเคมีอะไรซักอย่าง ไม่น่าใช่วัคซีน COVID ด้วย จึงให้เปลี่ยนสบู่กับครีมอาบน้ำใหม่และติดตามผลทุกอาทิตย์ ระหว่างนั้นผมได้ยา XYZAL 5 mg และยาทาสเตอรอย มารักษา ปรากฎว่าผ่านไป 2 อาทิตย์ อาการผื่นดีขึ้นและเริ่มหาย เลยคิดว่าอาจจะแพ้ครีมอาบน้ำสูตรใหม่เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ตอนเดือนกุมภาพันธ์ด้วย ประกอบกับกินยาแก้แพ้สองอาทิตย์ติดมีอาการข้างเคียงคือมีไข้ต่ำๆ คอแห้ง เจ็บคอ และปวดหูมากกก
- มิถุนายน 64 ประมาณกลางเดือน (เผลอไปใช้สบู่ ที่เราแพ้ล้างมือ ล้างแค่มือเพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร) ผื่นขึ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นจุดสีแดงนูน ขึ้นแค่บริเวณแขนเท่านั้นประมาณ 10 จุดได้ และมีอาการหูซ้ายอักเสบ ได้ยินเสียงน้ำกลิ้งอยู่ในหูกึ๊กๆ บางครั้งได้ยินเสียงจังหว่ะหัวใจเต้นตุ๊บๆในหูด้วย จึงได้ไปพบแพทย์อีกครั้ง หมอบอกว่าหูชั้นนอกไม่ได้อักเสบ รูหูสะอาด น่าจะเกิดจากท่อยูสเตรเชียนอักเสบปรับแรงดันหูไม่ได้ หมอจึงจ่ายยาแก้แพ้และแก้อักเสบมาให้กิน ผมกินได้แค่ 5 วันอาการทุกอย่างก็ดีขึ้นยกเว้นหูยังมีอาการอยู่กินจนยาหมด และได้ซื้อยาแก้อักเสบ Amoxycilln จากร้านขายยามาทานต่อเนื่องอีก 3 วัน อาการหูดีขึ้น
- กรกฎาคม 64 - ต้นเดือนไปบริจาคเลือดที่กาชาด และกลางเดือนกาชาดออกหนังสือแจ้งผลเลือดไม่ชัดเจนสรุปได้ว่า "ในการตรวจเบื้องต้นทางห้องปฏิบัติการพบว่าได้ผลไม่ชัดเจน แต่ผลการตรวจต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบซี และเชื้อเอช ไอ วี ปกติ" จึงเรียนเชิญให้ไปตรวจซ้ำ บลาๆๆ ตอนนั้นกังวลเลยว่าจะเป็นอะไรได้อีก หรือเลือดเราไขมันสูง น้ำตาลเยอะ หรือเม็ดเลือดผิดปกติ ไม่ได้คิดถึงโรคร้ายแรงเลยเพราะหนังสือบอกว่าปกติและเดือนนี้ไม่มีอาการแสดงอะไรเลย
- สิงหาคม 64 - หนังสือจากกาชาดส่งมาถึงบ้าน จึงเดินทางไปตรวจซ้ำ ไปยังห้องตรวจหมายเลข 21 ไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ซักถาม และแจ้งผลบอกว่าพบว่าผลเลือดมีค่าผิดปกติของตัวเลขหนึ่งอยู่ที่ Titer 1:16 เขาให้ทางเลือกอยู๋สองทางคือ 1. เจาะเลือดตรวจซ้ำหรือ 2. ไปคลีนิคนิรนามเพื่อไปตรวจผลให้ชัดเจน เพราะตัวเลขมันแน่นอนว่าเรามีเชื้ออยู่ในเลือด และการบริจาคเลือดของเราจะสิ้นสุดลงเพราะน้องจะบริจาคไม่ได้อีกแล้วถึงแม้ว่าจะรักษาหายแล้วก็ตาม ความรู้สึกตอนนั้นมึนไปหมด ช๊อกไปหมด เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้จึงเดินกลับไปที่รถหาข้อมูลซิฟิลิสว่ามันยังไง รักษายังไง อาการของโรคแบบไหน รักษาแบบไหน โอ้พระเจ้าอาการของโรคมี 4 ระยะ ซึ่งถ้าไล่ timeline ดูคือเราเป็นหมดเลยยกเว้นระยะแรกที่มีแผลริมอ่อนเราไม่ได้เป็น เลยเลือกไม่เจาะตรวจซ้ำ กะว่าจะไปคลีนิคนิรนามเลยเพื่อไปเอาผลยืนยันที่แท้จริง
การรักษา
- คลีนิคนิรนามไปถึงก็เข้าไปลงทะเบียน ตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยมาอะไรแบบนี้ มี LGTBQ, ช ญ เยอะแยะเต็มไปหมด ถือเสียว่าได้มาเปิดโลก จากนั้นก็ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาก่อนค่อยไปเจาะเลือด ก็ทำตามขึ้นตอนไป เรียกตามคิวครับ เหมือนหน่วยงานรัฐ ต้องจ่ายตังก่อนถึงจะไปทำด้านปฏิบัติการทั้งหมด
1.เริ่มต้นด้วย - คุยกับเจ้าหน้าที่ เล่าความจริงให้เขาฟังทั้งหมดครับ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่เรารู้ว่ามีความเสี่ยง และต่อจากนั้นมาก็ LockDown โลกสวยด้วยมือเรา
2. เจาะเลือด - รอผล 1 ชม. ถ้าเจาะตอน 11 โมงก็รอฟังช่วงบ่ายเลย เพราะพักเที่ยงเขาปิดบริการ พอผลออกก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่า
HIV - Negative / Negative (ไม่มีเชื้อซึ่งตรงกับกาชาดก่อนหน้านี้)
Treponemal test RPR - Reactive Titer 1:4 (อันนี้แหละผลของ ซิฟิลิส)
3. ส่งตัวเข้าพบแพทย์ - เจ้าหน้าที่ก็จะส่งเคสเราไปต่อเพื่อไปคุยกับแพทย์และแนวทางรักษา จากนั้นไปคุยกับหมอครับ เล่าให้หมอฟัง หมอตรวจร่องรอยผื่นดูนิดหน่อย และแจ้งว่าน่าจะเข้าระยะที่ 3 ค่า Titer 1:4 ต่ำไม่อยู่ในระยะแพร่เชื้อแต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่ามันลดลงจาก 1:16 ที่กาชาดเลือดตรวจพบเพราะอะไร แต่ไม่ต้องตกใจเพราะมันสามารถหายขาดได้ถ้าได้รับวิธีการรักษาที่ถูกต้องและไม่ไปติดเชื้อมาซ้ำอีก จากนั้นหมอแจ้งแนวทางการรักษาให้ฉีดยา 3 ครั้ง 3 อาทิตย์ติดต่อกัน หากฉีดไม่ตรงเวลานัดให้เริ่มนับ 1 ใหม่ และหลังจากฉีดเข็มสุดท้ายอีกสามเดือนให้มาตรวจเลือดดูผล
4. รับยา - จากนั้นก็ไปดำเนินการชำระเงินค่ายาและรับยาเพื่อไปฉีดยาที่ห้องฉีดยา
5. ฉีดยา - จากนั้นไปห้องฉีดยา ก็จะมีเจ้าหน้าที่ฉีดยาให้เราครับ ฉีดที่สะโพกซ้ายและขวาทั้งหมด 2 เข็ม ยาที่ฉีดมันหนืดด้วย เจ้าหน้าที่ผสมยาชาให้เรียบร้อย ความรู้สึกก็ปวดอยู่ครับ แต่พยายามไม่เกร็งกล้ามเนื้อก้น เพราะเดียวยาจะไม่เข้ากระแสเลือด อยู่ดูอาการ 30 นาที และกลับบ้านครับ คืนนั้นง่วงและเพลียมากไข้ขึ้นต่ำๆ ตัวลุมๆ และรู้สึกคันยิกๆ ตรงบริเวณ แขน ขา เท้า มือ หลายครั้ง พอวันที่ 2 อาการก็ดีขึ้นครับ ส่วนเข็มที่2 เข็มสามและผลหลังจากนั้นจะมา Update ให้อีกครั้ง ครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 504 บาท ครับ
Update เพิ่ม ตอนนี้ฉีดเข็มครั้งที่ 2 -3 เรียบร้อยแล้ว มีอาการคือปวดบริเวณที่ฉีด น่าจะเป็นอาการปกติหลังฉีดยา และผมไม่มีอาการแพ้ใดๆ แต่รู้สึกคันยุบยิบหลังจากฉีดได้ 4-5 วัน บริเวณ ฝ่าเท้า น่อง รู้สึกเหมือนเชื้อหนีตาย (คิดไปเองนะ) รอตรวจเลือดอีกทีปลายเดือนพฤษจิกายน คราฟฟ ระหว่างนี้หมอให้คำแนะนำว่า ใส่ถุง ทุกครั้ง งดออรัล เบิร์น หรือช่วยตัวเองไป
ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 304 บาท ครับ
-- ความรู้สึกและสภาพจิตใจ ณ ตอนนี้ คือรู้สึกผิดกับตัวเองมากที่ได้ทำสิ่งที่โง่ๆและใช้ชีวิตที่ประมาทลงไป และรู้สึกผิดต่อคนรอบข้างและครอบครัวมาก รวมถึงคนที่เรารักด้วย เสียโอกาสในการทำสิ่งดีๆในการบริจาคเลือดไปตลอดชีวิต ถึงรักษาหายก็ไม่มีรู้ว่ามันจะมีผลเลือดติดตัวอย่างไร อันนี้ต้องให้คนที่เคยหายแล้วมาแชร์ประสบการณ์ —
ผมหวังว่าเรื่องนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ใครหลายๆคนที่รักสนุกถึงแม้ว่าเราจะป้องกันดีแค่ไหนก็ตามถ้าเสี่ยงมันก็มีโอกาสติดเชื้อได้ครับ ถุงยางอาจจะปลอดภัย แต่การออรัลแบบไม่สวมถุงนี้แหละคือความเสี่ยง หรือหากใครมีประสบการณ์การรักษาหายแล้วมาแชร์ด้วยก็ได้ได้ครับ
ติดเชื้อ ฟิซิลิส ถึงแม้ว่าจะ Safe Sex แล้ว (ขอแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่รู้ผลและรักษา)
(ขอแชร์ประสบการณ์ตั้งแต่รู้ผลและรักษา)
เมื่อชีวิตต้องมาเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด และนับจากนี้จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาล
เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อกลางเดือนมีนาคม 64 ก่อนที่จะมีการ Lock Down (COVID-19) ผมได้มีอะไรกับผู้หญิงแปลกหน้าแต่ทุกอย่างป้องกันอย่างดีทั้งหมด การป้องกันคือสวมถุงยางอนามัยไม่มีการแตกรั่วแน่นอนเพราะเช๊คดูตอนถอด แต่มีการทำออรัลแบบไม่ใส่ถุงและแลกลิ้นกันนิดหน่อย
- เดือนเมษายน 64 ไม่มีอาการใดๆ ไปบริจาคเลือดที่กาชาด - ปกติ
- พฤษภาคม 64 หลังจากเหตุการณ์นั้นมา 2 เดือน กลางเดือนผมมีอาการผื่นแดง ไม่นูน ไม่คันขึ้น ตามแขน ต้นขาสองข้าง และตรงลำตัว แต่ไม่มีขึ้นตรงอวัยวะเพศ ไม่มีไข้ เลยเกิดความไม่สบายใจ จึงไปพบแพทย์หมอสันนิฐานว่าผมอาจจะแพ้สารเคมีอะไรซักอย่าง ไม่น่าใช่วัคซีน COVID ด้วย จึงให้เปลี่ยนสบู่กับครีมอาบน้ำใหม่และติดตามผลทุกอาทิตย์ ระหว่างนั้นผมได้ยา XYZAL 5 mg และยาทาสเตอรอย มารักษา ปรากฎว่าผ่านไป 2 อาทิตย์ อาการผื่นดีขึ้นและเริ่มหาย เลยคิดว่าอาจจะแพ้ครีมอาบน้ำสูตรใหม่เนื่องจากเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ตอนเดือนกุมภาพันธ์ด้วย ประกอบกับกินยาแก้แพ้สองอาทิตย์ติดมีอาการข้างเคียงคือมีไข้ต่ำๆ คอแห้ง เจ็บคอ และปวดหูมากกก
- มิถุนายน 64 ประมาณกลางเดือน (เผลอไปใช้สบู่ ที่เราแพ้ล้างมือ ล้างแค่มือเพราะคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร) ผื่นขึ้นอีกรอบ คราวนี้เป็นจุดสีแดงนูน ขึ้นแค่บริเวณแขนเท่านั้นประมาณ 10 จุดได้ และมีอาการหูซ้ายอักเสบ ได้ยินเสียงน้ำกลิ้งอยู่ในหูกึ๊กๆ บางครั้งได้ยินเสียงจังหว่ะหัวใจเต้นตุ๊บๆในหูด้วย จึงได้ไปพบแพทย์อีกครั้ง หมอบอกว่าหูชั้นนอกไม่ได้อักเสบ รูหูสะอาด น่าจะเกิดจากท่อยูสเตรเชียนอักเสบปรับแรงดันหูไม่ได้ หมอจึงจ่ายยาแก้แพ้และแก้อักเสบมาให้กิน ผมกินได้แค่ 5 วันอาการทุกอย่างก็ดีขึ้นยกเว้นหูยังมีอาการอยู่กินจนยาหมด และได้ซื้อยาแก้อักเสบ Amoxycilln จากร้านขายยามาทานต่อเนื่องอีก 3 วัน อาการหูดีขึ้น
- กรกฎาคม 64 - ต้นเดือนไปบริจาคเลือดที่กาชาด และกลางเดือนกาชาดออกหนังสือแจ้งผลเลือดไม่ชัดเจนสรุปได้ว่า "ในการตรวจเบื้องต้นทางห้องปฏิบัติการพบว่าได้ผลไม่ชัดเจน แต่ผลการตรวจต่อเชื้อไวรัสตับอักเสบบี เชื้อไวรัสตับอักเสบซี และเชื้อเอช ไอ วี ปกติ" จึงเรียนเชิญให้ไปตรวจซ้ำ บลาๆๆ ตอนนั้นกังวลเลยว่าจะเป็นอะไรได้อีก หรือเลือดเราไขมันสูง น้ำตาลเยอะ หรือเม็ดเลือดผิดปกติ ไม่ได้คิดถึงโรคร้ายแรงเลยเพราะหนังสือบอกว่าปกติและเดือนนี้ไม่มีอาการแสดงอะไรเลย
- สิงหาคม 64 - หนังสือจากกาชาดส่งมาถึงบ้าน จึงเดินทางไปตรวจซ้ำ ไปยังห้องตรวจหมายเลข 21 ไปถึงเจ้าหน้าที่ก็ซักถาม และแจ้งผลบอกว่าพบว่าผลเลือดมีค่าผิดปกติของตัวเลขหนึ่งอยู่ที่ Titer 1:16 เขาให้ทางเลือกอยู๋สองทางคือ 1. เจาะเลือดตรวจซ้ำหรือ 2. ไปคลีนิคนิรนามเพื่อไปตรวจผลให้ชัดเจน เพราะตัวเลขมันแน่นอนว่าเรามีเชื้ออยู่ในเลือด และการบริจาคเลือดของเราจะสิ้นสุดลงเพราะน้องจะบริจาคไม่ได้อีกแล้วถึงแม้ว่าจะรักษาหายแล้วก็ตาม ความรู้สึกตอนนั้นมึนไปหมด ช๊อกไปหมด เหมือนโลกหยุดหมุนไปชั่วขณะ พอตั้งสติได้จึงเดินกลับไปที่รถหาข้อมูลซิฟิลิสว่ามันยังไง รักษายังไง อาการของโรคแบบไหน รักษาแบบไหน โอ้พระเจ้าอาการของโรคมี 4 ระยะ ซึ่งถ้าไล่ timeline ดูคือเราเป็นหมดเลยยกเว้นระยะแรกที่มีแผลริมอ่อนเราไม่ได้เป็น เลยเลือกไม่เจาะตรวจซ้ำ กะว่าจะไปคลีนิคนิรนามเลยเพื่อไปเอาผลยืนยันที่แท้จริง
การรักษา
- คลีนิคนิรนามไปถึงก็เข้าไปลงทะเบียน ตื่นเต้นมาก เพราะไม่เคยมาอะไรแบบนี้ มี LGTBQ, ช ญ เยอะแยะเต็มไปหมด ถือเสียว่าได้มาเปิดโลก จากนั้นก็ขอคุยกับเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาก่อนค่อยไปเจาะเลือด ก็ทำตามขึ้นตอนไป เรียกตามคิวครับ เหมือนหน่วยงานรัฐ ต้องจ่ายตังก่อนถึงจะไปทำด้านปฏิบัติการทั้งหมด
1.เริ่มต้นด้วย - คุยกับเจ้าหน้าที่ เล่าความจริงให้เขาฟังทั้งหมดครับ ตั้งแต่เดือนมีนาคมที่เรารู้ว่ามีความเสี่ยง และต่อจากนั้นมาก็ LockDown โลกสวยด้วยมือเรา
2. เจาะเลือด - รอผล 1 ชม. ถ้าเจาะตอน 11 โมงก็รอฟังช่วงบ่ายเลย เพราะพักเที่ยงเขาปิดบริการ พอผลออกก็ไปคุยกับเจ้าหน้าที่ ปรากฎว่า
HIV - Negative / Negative (ไม่มีเชื้อซึ่งตรงกับกาชาดก่อนหน้านี้)
Treponemal test RPR - Reactive Titer 1:4 (อันนี้แหละผลของ ซิฟิลิส)
3. ส่งตัวเข้าพบแพทย์ - เจ้าหน้าที่ก็จะส่งเคสเราไปต่อเพื่อไปคุยกับแพทย์และแนวทางรักษา จากนั้นไปคุยกับหมอครับ เล่าให้หมอฟัง หมอตรวจร่องรอยผื่นดูนิดหน่อย และแจ้งว่าน่าจะเข้าระยะที่ 3 ค่า Titer 1:4 ต่ำไม่อยู่ในระยะแพร่เชื้อแต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่ามันลดลงจาก 1:16 ที่กาชาดเลือดตรวจพบเพราะอะไร แต่ไม่ต้องตกใจเพราะมันสามารถหายขาดได้ถ้าได้รับวิธีการรักษาที่ถูกต้องและไม่ไปติดเชื้อมาซ้ำอีก จากนั้นหมอแจ้งแนวทางการรักษาให้ฉีดยา 3 ครั้ง 3 อาทิตย์ติดต่อกัน หากฉีดไม่ตรงเวลานัดให้เริ่มนับ 1 ใหม่ และหลังจากฉีดเข็มสุดท้ายอีกสามเดือนให้มาตรวจเลือดดูผล
4. รับยา - จากนั้นก็ไปดำเนินการชำระเงินค่ายาและรับยาเพื่อไปฉีดยาที่ห้องฉีดยา
5. ฉีดยา - จากนั้นไปห้องฉีดยา ก็จะมีเจ้าหน้าที่ฉีดยาให้เราครับ ฉีดที่สะโพกซ้ายและขวาทั้งหมด 2 เข็ม ยาที่ฉีดมันหนืดด้วย เจ้าหน้าที่ผสมยาชาให้เรียบร้อย ความรู้สึกก็ปวดอยู่ครับ แต่พยายามไม่เกร็งกล้ามเนื้อก้น เพราะเดียวยาจะไม่เข้ากระแสเลือด อยู่ดูอาการ 30 นาที และกลับบ้านครับ คืนนั้นง่วงและเพลียมากไข้ขึ้นต่ำๆ ตัวลุมๆ และรู้สึกคันยิกๆ ตรงบริเวณ แขน ขา เท้า มือ หลายครั้ง พอวันที่ 2 อาการก็ดีขึ้นครับ ส่วนเข็มที่2 เข็มสามและผลหลังจากนั้นจะมา Update ให้อีกครั้ง ครับ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 504 บาท ครับ
Update เพิ่ม ตอนนี้ฉีดเข็มครั้งที่ 2 -3 เรียบร้อยแล้ว มีอาการคือปวดบริเวณที่ฉีด น่าจะเป็นอาการปกติหลังฉีดยา และผมไม่มีอาการแพ้ใดๆ แต่รู้สึกคันยุบยิบหลังจากฉีดได้ 4-5 วัน บริเวณ ฝ่าเท้า น่อง รู้สึกเหมือนเชื้อหนีตาย (คิดไปเองนะ) รอตรวจเลือดอีกทีปลายเดือนพฤษจิกายน คราฟฟ ระหว่างนี้หมอให้คำแนะนำว่า ใส่ถุง ทุกครั้ง งดออรัล เบิร์น หรือช่วยตัวเองไป
ค่าใช้จ่ายต่อครั้ง 304 บาท ครับ
-- ความรู้สึกและสภาพจิตใจ ณ ตอนนี้ คือรู้สึกผิดกับตัวเองมากที่ได้ทำสิ่งที่โง่ๆและใช้ชีวิตที่ประมาทลงไป และรู้สึกผิดต่อคนรอบข้างและครอบครัวมาก รวมถึงคนที่เรารักด้วย เสียโอกาสในการทำสิ่งดีๆในการบริจาคเลือดไปตลอดชีวิต ถึงรักษาหายก็ไม่มีรู้ว่ามันจะมีผลเลือดติดตัวอย่างไร อันนี้ต้องให้คนที่เคยหายแล้วมาแชร์ประสบการณ์ —
ผมหวังว่าเรื่องนี้คงจะเป็นอุทาหรณ์ให้แก่ใครหลายๆคนที่รักสนุกถึงแม้ว่าเราจะป้องกันดีแค่ไหนก็ตามถ้าเสี่ยงมันก็มีโอกาสติดเชื้อได้ครับ ถุงยางอาจจะปลอดภัย แต่การออรัลแบบไม่สวมถุงนี้แหละคือความเสี่ยง หรือหากใครมีประสบการณ์การรักษาหายแล้วมาแชร์ด้วยก็ได้ได้ครับ