(สัตว์ตัวเล็กที่กล้าหาญตัวหนึ่งมีความสามารถพิเศษในการเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อม ช่วยเติมเต็มระบบนิเวศของแม่น้ำ แม้ในทะเลทราย)
ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาในทะเลทรายทางยูทาห์ตะวันออก ไม่มีต้นไม้ให้ร่มเงาใด ๆ มีเพียงพุ่มไม้เตี้ยๆเพียงชนิดเดียวที่เกาะติดกับพื้นดินแห้งแล้ง และมีฝุ่นมาก ในขณะที่ริมหน้าผาสูงชันก็ปราศจากสิ่งมีชีวิต แต่ในความลึกของหุบเขาที่อยู่ด้านล่างของภูเขาหินทรายในทะเลทราย จะเห็นโอเอซิสอันเขียวชอุ่ม เบ่งบานด้วยพืชพันธุ์เขียวขจีจากแม่น้ำที่คดเคี้ยวผ่านหินแม้ในที่ที่ร้อนที่สุด และหากอดทนนานพอ จะเห็นบีเว่อร์ สถาปนิกผู้ออกแบบภูมิทัศน์ของพื้นที่ชุ่มน้ำที่เฟื่องฟูนี้ กำลังตีกันกลางทะเลทราย
ในพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดของยูทาห์แห่งนี้มีแม่น้ำ Price และ San Rafael ไหลผ่าน ทั้งสองเป็นสาขาของแม่น้ำ Green แม่น้ำเหล่านี้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของสัตว์ป่า พืชพรรณริมฝั่ง ประชากรปลาพื้นเมืองที่ใกล้สูญพันธุ์ และปศุสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทราย และบีเว่อร์ซึ่งกำเนิดในแม่น้ำทั้งสองสายดังกล่าวมีอิทธิพลอย่างกว้างขวางต่อแหล่งน้ำเหล่านี้ เนื่องจากพวกมันมีความสามารถในการสร้างเขื่อนที่กักเก็บน้ำไว้บนภูมิประเทศแห้งแล้งได้
บีเว่อร์ (Beavers) ได้รับการขนานนามว่าเป็นวิศวกรด้านระบบนิเวศของธรรมชาติ และเป็น "keystone" ของสายพันธุ์ที่มีความพยายามในการสร้างเขื่อนที่นำไปสู่ การเพิ่มขึ้นของประชากรปลา การดักจับคาร์บอนผ่านบ่อตื้นใหม่ เพิ่มความต้านทานไฟป่า และเป็นที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับสัตว์อื่น ๆโดยเขื่อนบีเวอร์หนึ่งแห่งสามารถปรับปรุงสภาพความเป็นอยู่ของฝูงปลา แมลง พืช นก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่อาศัยอยู่ในและรอบแม่น้ำ โดยบีเวอร์เหล่านี้ส่วนหนึ่ง
ถูกนำมาโดย Emma Doden
บีเว่อร์ได้รับการวิวัฒนาการมาอย่างดีสำหรับสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ
โดยมีขนหนากันน้ำ หางแบนที่ทำหน้าที่เป็นหางเสือ รูจมูกและหูที่ปิดได้ รวมถึงมีเยื่อตาโปร่งใส
บีเว่อร์ที่โตเต็มวัยถูกปล่อยลงแม่น้ำในทะเลทรายยูทาห์ หลังจากที่พวกมันได้รับการติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณวิทยุ
และป้าย PIT ไว้ที่หางแล้ว เพื่อให้นักวิจัยสามารถใช้ telemetry วิทยุติดตามการเคลื่อนไหว
ในทางกลับกัน บีเว่อร์อาจทำให้เกิดความขัดแย้งกับมนุษย์ เมื่อเขื่อนของพวกมันเป็นอันตรายต่อโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนและท่อระบายน้ำ บีเว่อร์ที่ก่อความรำคาญเหล่านี้มักจะถูกกำจัดออกไปเพื่อบรรเทาสถานการณ์
ย้อนไปในปี 2019 และ 2020 Emma Doden นักศึกษาปริญญาโทด้านนิเวศวิทยา ในภารกิจ Department of Wildland Resources ของวิทยาลัยทรัพยากรธรรมชาติ Quinney College of Natural Resources ที่ศูนย์นิเวศวิทยา USU (Utah State University) กำลังทำการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจพลวัตของบีเว่อร์ที่ถูกย้ายไปยังแม่น้ำในทะเลทรายเพื่อจุดประสงค์ในการฟื้นฟู และเปรียบเทียบกับบีเวอร์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
บีเวอร์ส่วนใหญ่ได้รับการเคลื่อนย้ายจากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐยูทาห์ USU Beaver Rehabilitation and Relocation Center และการทำให้ประชากร
บีเวอร์เหล่านี้เจริญเติบโตในภูมิประเทศทะเลทรายของยูทาห์เป็นงานที่ท้าทายอย่างมากสำหรับ Doden เนื่องจากระบบนิเวศของแม่น้ำส่วนใหญ่ที่นี่เสื่อมโทรมลง Doden และนักวิจัยอีกหลายคนจึงมีความตั้งใจที่จะนำพวกมันมายังดินแดนแห้งแล้งและขาดแคลนน้ำรุนแรงนี้ โดยเป้าหมายหลักคือ
การฟื้นฟูปริมาณและคุณภาพน้ำในภาคตะวันออกของยูทาห์ เพื่อให้ทางน้ำสามารถรักษาสัตว์ป่านานาพันธุ์ พืชริมฝั่งแม่น้ำ และปลาที่ใกล้สูญพันธุ์
แม่น้ำที่ยิ่งใหญ่ของยูทาห์ San Rafael สาขาหนึ่งของแม่น้ำ Green ที่ไหลผ่านส่วนที่แห้งแล้งที่สุดของยูทาห์
เป็นหนึ่งในแม่น้ำแห่งการผจญภัย ทั้งการพายเรือคายัคในน้ำที่สงบ การล่องแก่งอย่างเข้มข้นเนื่องจากหิมะละลายในแม่น้ำ
และที่ตั้งแคมป์ริมแม่น้ำ San Rafael Bridge Campground
Castor canadensis เป็นสายพันธุ์บีเว่อร์ที่ Doden ใช้ มันเป็นสายพันธุ์ที่แพร่หลายทั่วโลกตั้งแต่สกอตแลนด์ไปถึงสเปน ซีเรียไปยังรัสเซีย และแคนาดาไปยังเม็กซิโก โดยการค้าขายขนสัตว์ในช่วงทศวรรษที่ 1500 - 1800 พบว่าสัตว์เหล่านี้ถูกล่าจนเกือบจะสูญพันธุ์ แต่การฟื้นตัวของการวิจัยและการล็อบบี้โดยนักอนุรักษ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงได้เห็นตัวเลขของพวกมันเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูมิภาคนี้เลวร้ายลงเนื่องจากการเสื่อมโทรมของแม่น้ำ ซึ่งเกิดจากการชลประทาน มลพิษ และการจัดการที่ผิดพลาด ผลของสิ่งเหล่านี้มีส่วนสำคัญต่อแรงผลักดันของ Doden เพื่อนำบีเว่อร์มายังยูทาห์ โดยมุ่งเน้นไปที่แม่น้ำสองสายคือ Price และ San Rafael ที่ไหลผ่านพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดทางตะวันออก
Doden นั้นเชี่ยวชาญในการฟื้นฟูแม่น้ำแบบ passive desert river หมายความว่าไม่มีการดัดแปลงภูมิทัศน์โดยฝีมือมนุษย์ ซึ่งเป็นการฟื้นฟูที่ตรงจุดที่สุด อย่างไรก็ตาม การแนะนำเขื่อนเทียมของบีเวอร์หรือที่เรียกว่า "dam analogues" ยังต้องได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของรัฐยูทาห์ด้วยแม้ว่าระบบแม่น้ำที่นี่มีบีเว่อร์อยู่แล้ว แต่จำนวนประชากรของพวกมันจะลดลงอย่างมากจากการค้าขนสัตว์ในอเมริกาเหนือ แต่ Doden เชื่อว่าระบบแม่น้ำสามารถรองรับบีเว่อร์ได้มากขึ้นหากนำพวกมันมาเสริม
เขื่อนบีเวอร์ที่สร้างโดยบีเวอร์ที่อาศัยอยู่ในแม่น้ำ Price หลังจากที่ Doden ปล่อยพวกมันในระหว่างการศึกษา
เขื่อนช่วยกักเก็บน้ำบนภูมิประเทศทะเลทราย ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อประชากรปลาพื้นเมืองและสัตว์ใกล้สูญพันธุ์
Cr.Courtesy & © Emma Doden, Photogrphr
การทดลองครั้งแรกของ Doden คือในเดือนพฤษภาคม 2019 ตามด้วยครั้งที่สองในปี 2020 โดยรวมแล้วเธอได้ย้ายสัตว์ 47 ตัวจากสัตว์ที่ก่อความรำคาญทั่วทั้งรัฐไปอาศัยอยู่ใกล้กับบีเวอร์ที่มีอยู่แล้วเก้าตัว การเดินทางครั้งนี้ทำให้บีเว่อร์อ่อนแอต่อผู้ล่า เนื่องจากพวกมันไม่มีโพรงใต้ดินหรือที่พักสำหรับการป้องกัน โดยในช่วงฤดูภาคสนามปี 2019 บีเว่อร์ 3 ใน 8 ตัวที่นำมาปล่อยถูกนักล่าจับไป
จนถึงตอนนี้สิ่งที่ Doden และทีมของเธอเห็นคือ การสร้างเขื่อนในพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอหวังว่า หากบีเว่อร์อยู่ได้ อิทธิพลของพวกมันจะแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง เพราะเขื่อนบีเวอร์เพียงแห่งเดียวสามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำได้เช่นเดียวกับทำหน้าที่เป็นตัวตัดไฟสำหรับพื้นที่โดยรอบ ซึ่งในปี 2020 อเมริกาเหนือนกำลังเผชิญกับการต่อสู้อันดุเดือดกับไฟป่า ซึ่งโหมกระหน่ำไปทั่วฝั่งตะวันตกของอเมริการวมถึงในยูทาห์ ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ 8.8 ล้านเอเคอร์ (3.6 ล้านเฮกตาร์) และอาจเลวร้ายยิ่งกว่าในปีนี้
นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า บีเวอร์สามารถให้กุญแจสำคัญในการฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำและลดความเสี่ยงจากไฟป่า ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วของ Emily Fairfax พบว่าพื้นที่ที่มีเขื่อนบีเวอร์อยู่นั้นสามารถเอาชีวิตรอดจากไฟป่าได้ดีกว่าพื้นที่ที่ไม่มีบีเวอร์
ที่ตั้งแคมป์ริมทะเลสาบ
และเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำในแม่น้ำจากการตัดถอนของมนุษย์ ทำให้แม่น้ำสาขาหลายแห่งของแม่น้ำ Green และแม่น้ำ Colorado สูญเสียต้นไม้ ดังนั้น ทีมวิจัยได้เสนอให้สร้างโครงสร้างคล้ายเขื่อนจากเสารั้วไม้ เพื่อเพิ่มโอกาสรอดของบีเว่อร์และโอกาสที่บีเว่อร์จะอยู่ในตำแหน่งนั้นตลอดไป แต่ต้องได้รับการอนุมัติจาก NEPA ก่อนโครงสร้างจึงจะถูกสร้างขึ้นได้
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ศึกษามีเขื่อนบีเวอร์ 15 แห่ง และเขื่อนใหม่ 5 แห่งถูกสร้างขึ้นระหว่างการศึกษาระหว่างเดือนมิถุนายน 2019 ถึงกันยายน 2020 เขื่อนใหม่ 2 แห่งสร้างขึ้นในเขตที่อยู่อาศัย ขณะที่อีก 3 แห่งสร้างขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ทราบจำนวนประชากร ก่อนการศึกษาบีเว่อร์จะถูกย้ายมาที่ไซต์นี้ แต่จากภาพถ่ายของกล้องส่องทางไกล เป็นไปได้ว่าเขื่อนทั้งสามถูกสร้างขึ้นโดยบีเว่อร์ที่ตั้งอาณานิคมตามธรรมชาติในพื้นที่
การโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อการฟื้นฟูนั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามันมีความสำเร็จที่ผันแปร แต่ยังคงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมผลเสียที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นวิธีการบรรเทาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับบีเวอร์ ทั้งยังช่วยการอนุรักษ์สัตว์ป่า และส่งเสริมทัศนคติของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับสัตว์ป่า
สำหรับพื้นที่สาธารณะทางตะวันออกของยูทาห์ (Eastern Utah) เป็นพื้นที่ที่ครอบคลุมโดย PLI มีความหลากหลายที่น่าทึ่งของพื้นที่ที่โดดเด่นที่สุด
ในโลกสำหรับนักปีนเขา นักปั่นจักรยานเสือภูเขา นักพายเรือ และนักนันทนาการกลางแจ้งอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ส่วนพื้นที่ที่จะได้รับผลจาก PLI อื่นๆ ได้แก่ พื้นที่ปีนเขา Indian Creek ที่มีชื่อเสียงระดับโลก, San Rafael Swell ในส่วนของแม่น้ำ Dolores, Green และ Colorado และการปั่นจักรยานเสือภูเขาทางเดียวอันเป็นสัญลักษณ์รอบพื้นที่ Moab area
Indian Creek / Cr.ภาพ: Jason Keith
การค้าขายขนสัตว์ที่เติบโตจากศตวรรษที่ 16 - 19
ได้ทำลายประชากรบีเวอร์ซึ่งไม่เคยฟื้นตัวเต็มที่หลังจากการล่าลดลง (Cr.Getty Images)
(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
การฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำในทะเลทราย Utah ด้วย " Beaver "
ทั้งนี้ ปัญหาการขาดแคลนน้ำในภูมิภาคนี้เลวร้ายลงเนื่องจากการเสื่อมโทรมของแม่น้ำ ซึ่งเกิดจากการชลประทาน มลพิษ และการจัดการที่ผิดพลาด ผลของสิ่งเหล่านี้มีส่วนสำคัญต่อแรงผลักดันของ Doden เพื่อนำบีเว่อร์มายังยูทาห์ โดยมุ่งเน้นไปที่แม่น้ำสองสายคือ Price และ San Rafael ที่ไหลผ่านพื้นที่ที่แห้งแล้งที่สุดทางตะวันออก
Cr.Courtesy & © Emma Doden, Photogrphr
จนถึงตอนนี้สิ่งที่ Doden และทีมของเธอเห็นคือ การสร้างเขื่อนในพื้นที่ที่ไม่เคยมีมาก่อน เธอหวังว่า หากบีเว่อร์อยู่ได้ อิทธิพลของพวกมันจะแผ่ขยายออกไปในวงกว้าง เพราะเขื่อนบีเวอร์เพียงแห่งเดียวสามารถปรับปรุงคุณภาพน้ำได้เช่นเดียวกับทำหน้าที่เป็นตัวตัดไฟสำหรับพื้นที่โดยรอบ ซึ่งในปี 2020 อเมริกาเหนือนกำลังเผชิญกับการต่อสู้อันดุเดือดกับไฟป่า ซึ่งโหมกระหน่ำไปทั่วฝั่งตะวันตกของอเมริการวมถึงในยูทาห์ ซึ่งเผาผลาญพื้นที่ 8.8 ล้านเอเคอร์ (3.6 ล้านเฮกตาร์) และอาจเลวร้ายยิ่งกว่าในปีนี้
นักวิทยาศาสตร์บางคนเชื่อว่า บีเวอร์สามารถให้กุญแจสำคัญในการฟื้นฟูแหล่งต้นน้ำและลดความเสี่ยงจากไฟป่า ในบทความที่ตีพิมพ์เมื่อปีที่แล้วของ Emily Fairfax พบว่าพื้นที่ที่มีเขื่อนบีเวอร์อยู่นั้นสามารถเอาชีวิตรอดจากไฟป่าได้ดีกว่าพื้นที่ที่ไม่มีบีเวอร์
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ศึกษามีเขื่อนบีเวอร์ 15 แห่ง และเขื่อนใหม่ 5 แห่งถูกสร้างขึ้นระหว่างการศึกษาระหว่างเดือนมิถุนายน 2019 ถึงกันยายน 2020 เขื่อนใหม่ 2 แห่งสร้างขึ้นในเขตที่อยู่อาศัย ขณะที่อีก 3 แห่งสร้างขึ้นในพื้นที่ที่ไม่ทราบจำนวนประชากร ก่อนการศึกษาบีเว่อร์จะถูกย้ายมาที่ไซต์นี้ แต่จากภาพถ่ายของกล้องส่องทางไกล เป็นไปได้ว่าเขื่อนทั้งสามถูกสร้างขึ้นโดยบีเว่อร์ที่ตั้งอาณานิคมตามธรรมชาติในพื้นที่
การโยกย้ายถิ่นฐานเพื่อการฟื้นฟูนั้น นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่ามันมีความสำเร็จที่ผันแปร แต่ยังคงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการควบคุมผลเสียที่ร้ายแรง ซึ่งเป็นวิธีการบรรเทาความขัดแย้งระหว่างมนุษย์กับบีเวอร์ ทั้งยังช่วยการอนุรักษ์สัตว์ป่า และส่งเสริมทัศนคติของการอยู่ร่วมกันของมนุษย์กับสัตว์ป่า
สำหรับพื้นที่สาธารณะทางตะวันออกของยูทาห์ (Eastern Utah) เป็นพื้นที่ที่ครอบคลุมโดย PLI มีความหลากหลายที่น่าทึ่งของพื้นที่ที่โดดเด่นที่สุด
ในโลกสำหรับนักปีนเขา นักปั่นจักรยานเสือภูเขา นักพายเรือ และนักนันทนาการกลางแจ้งอื่นๆ อีกนับไม่ถ้วน ส่วนพื้นที่ที่จะได้รับผลจาก PLI อื่นๆ ได้แก่ พื้นที่ปีนเขา Indian Creek ที่มีชื่อเสียงระดับโลก, San Rafael Swell ในส่วนของแม่น้ำ Dolores, Green และ Colorado และการปั่นจักรยานเสือภูเขาทางเดียวอันเป็นสัญลักษณ์รอบพื้นที่ Moab area