คือ เมื่อเราเรียนจบ ม.6 ใหม่ๆ ช่วงปิดเทอมจะเข้ามหาลัยเราก็ไปบวชเป็นชีพราหมณ์ 15 วัน (ไม่ได้โกนผม) ต่อมาเมื่อเรามาเรียนมหาลัยได้ จนอยู่ปี 2 เทอม 2 เราก็ไปบวชเป็นแม่ชี (โกนผม) เราจำได้แค่ว่าเราบวชได้ 7 วัน จากนั้นไม่รู้อะไรเลย
ความรู้สึกก่อนที่จะเสียสติ คือ มีอยู่คืนหนึ่งนอนหลับแล้วเป็นเหมือนฝัน เหมือนโดนข่มขืนทางจิต ตัวร้อนไปทั้งตัว แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไม่ไปฉันข้าว เหมือนคุยกับคนที่ข่มขืนทางจิต เหมือนตัวเองส่งกระแสจิตได้ หลังจากนั้นก็ความคุมตัวเองไม่ได้อีกเลย มีความคิดแล่นเข้ามาในหัวไม่หยุด คิดไม่หยุด คิดไม่เป็นเรื่อง คิดเรื่องนี้จบก็คิดเรื่องนั้น คิดไม่หยุดจนปวดหัว แล้วก็ทำตามความคิด ทำผิดจากปกติไป แล้วในคืนต่อมา ไม่รู้ว่าคืนที่เท่าไรจำไม่ได้ จำได้ว่าโยนของลงจากกุฎิหมดเลย แม่ชีที่วัดที่ท่านอยู่ใกล้ๆท่านก็มาดู แต่เราไม่สนเหมือนโดนสั่งให้ทำ ในหัวบอกในกุฎิจะไม่เอาอะไร นอกจากเสื่อ 1 ผืน กับ หมอน 1 ใบ แล้วคืนต่อมาแม่ก็มารับให้กลับบ้าน กลับบ้านแบบ งงๆ เสื้อผ้าที่ขนไป ไม่ได้เอาอะไรกลับมาเลย ทั้งไว้ที่วัดทั้งหมด เพราะเราควบคุมสติไม่ได้ เลยไม่รู้จะทำอะไร กลับมาบ้านแม่ก็เล่าให้ฟังตอนที่สติกลับมาแล้ว แม่บอกว่าเอาเรากลับมาบ้านใหม่ๆน้ำเราก็ไม่ยอมอาบ ทำตัวเหมือนเด็กเกิดใหม่ แม่ต้องอาบน้ำให้ ในสมองเราไม่รู้คิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทางธรรม แล้วที่พีคกว่านั้น คือเราไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน อยู่ 4 วัน 4 คืน สมองมันคิดไม่หยุด คิดตลอดแทบจะนอนไม่ได้ ตอนกลางคืนก็ไม่เดินรอบหมู่บ้าน คือความคิดมันสั่งให้ไป บางทีก็ร้องรำ ทำเพลง ทั้งๆทีแต่ก่อนไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เล่าไม่หมด แต่สิ่งที่เราอย่างรู้ คือ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แทนทีการที่เราไปบวชชีวิตจะดีขึ้นกลับแย่ลง เราป่วยคนเดียวไม่พอ พ่อก็ขับรถชนขาหัก แม่ก็ไปกับชายอื่น ครอบครัวแตกแยก เหมือนครอบครัวเจอแต่เรื่องร้ายๆ ทั้งๆที่แต่ก่อนคนในครอบครัวรักใคร่กันดี เราก็ได้หยุดเรียนไปโดยปริยาย
คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น ใครพอมีความรู้ทางด้านนี้ช่วยบอกที จุดเริ่มต้นเกิดจากเราไปบวช
บวชเป็นแม่ชีแล้วกลายเป็นโรคจิตเวช
ความรู้สึกก่อนที่จะเสียสติ คือ มีอยู่คืนหนึ่งนอนหลับแล้วเป็นเหมือนฝัน เหมือนโดนข่มขืนทางจิต ตัวร้อนไปทั้งตัว แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไม่ไปฉันข้าว เหมือนคุยกับคนที่ข่มขืนทางจิต เหมือนตัวเองส่งกระแสจิตได้ หลังจากนั้นก็ความคุมตัวเองไม่ได้อีกเลย มีความคิดแล่นเข้ามาในหัวไม่หยุด คิดไม่หยุด คิดไม่เป็นเรื่อง คิดเรื่องนี้จบก็คิดเรื่องนั้น คิดไม่หยุดจนปวดหัว แล้วก็ทำตามความคิด ทำผิดจากปกติไป แล้วในคืนต่อมา ไม่รู้ว่าคืนที่เท่าไรจำไม่ได้ จำได้ว่าโยนของลงจากกุฎิหมดเลย แม่ชีที่วัดที่ท่านอยู่ใกล้ๆท่านก็มาดู แต่เราไม่สนเหมือนโดนสั่งให้ทำ ในหัวบอกในกุฎิจะไม่เอาอะไร นอกจากเสื่อ 1 ผืน กับ หมอน 1 ใบ แล้วคืนต่อมาแม่ก็มารับให้กลับบ้าน กลับบ้านแบบ งงๆ เสื้อผ้าที่ขนไป ไม่ได้เอาอะไรกลับมาเลย ทั้งไว้ที่วัดทั้งหมด เพราะเราควบคุมสติไม่ได้ เลยไม่รู้จะทำอะไร กลับมาบ้านแม่ก็เล่าให้ฟังตอนที่สติกลับมาแล้ว แม่บอกว่าเอาเรากลับมาบ้านใหม่ๆน้ำเราก็ไม่ยอมอาบ ทำตัวเหมือนเด็กเกิดใหม่ แม่ต้องอาบน้ำให้ ในสมองเราไม่รู้คิดอะไรฟุ้งซ่านไปหมด ทั้งเรื่องเรียน เรื่องทางธรรม แล้วที่พีคกว่านั้น คือเราไม่ยอมหลับไม่ยอมนอน อยู่ 4 วัน 4 คืน สมองมันคิดไม่หยุด คิดตลอดแทบจะนอนไม่ได้ ตอนกลางคืนก็ไม่เดินรอบหมู่บ้าน คือความคิดมันสั่งให้ไป บางทีก็ร้องรำ ทำเพลง ทั้งๆทีแต่ก่อนไม่เคยทำ และไม่คิดจะทำ มีอีกหลายเหตุการณ์ที่เล่าไม่หมด แต่สิ่งที่เราอย่างรู้ คือ มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา แทนทีการที่เราไปบวชชีวิตจะดีขึ้นกลับแย่ลง เราป่วยคนเดียวไม่พอ พ่อก็ขับรถชนขาหัก แม่ก็ไปกับชายอื่น ครอบครัวแตกแยก เหมือนครอบครัวเจอแต่เรื่องร้ายๆ ทั้งๆที่แต่ก่อนคนในครอบครัวรักใคร่กันดี เราก็ได้หยุดเรียนไปโดยปริยาย
คำถามคือ มันเกิดอะไรขึ้น ใครพอมีความรู้ทางด้านนี้ช่วยบอกที จุดเริ่มต้นเกิดจากเราไปบวช