[SR] รีวิว MSI GP 66 LEOPARD พร้อม i7 11800H + RTX 3070 หน้าจอ 240Hz !


 
MSI ยังคงเดินหน้าลุยตลาดเกมมิ่ง และมีการเปลี่ยนแปลงอะไรหลายๆอย่างในปีนี้ทั้งเรื่องของโลโก้ หน้าตาระบบ UI เรียกได้ว่ายกเครื่องใหม่ สวยหรูหรา พรีเมี่ยมมากกว่าเดิม อีกทั้งในเรื่องของสเปก และ ราคา ในหลายๆรุ่นกลับทำได้คุ้มค่า ถูกลง สเปกแน่นขึ้นสวนกระแสเลยทีเดียวต้องบอกว่าทำได้น่าสนใจ ส่วนทางด้าน MSI GP66 LEOPARD ในการใช้งาน intel Gen 11th ตัวนี้บอกเลยว่าสเปกลงตัวขึ้น พร้อมกับการ์ดจอ RTX3070 เช่นเดิม แต่การพัฒนามาใช้งาน Gen11th ส่งผลในเรื่องของคะแนน การใช้งานเยอะกว่าที่คิดบอกเลยว่าลงตัวมากขึ้นครับ
 

 

 
MSI GP66 LEOPARD 11UG 053TH เองนั้นจะมาพร้อมกับการใช้งาน INTEL CORE I7-11800H (2.30 GHz-4.60 GHz) และ ทำงานร่วมกันกับ GRAPHICS NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 Laptop GPU 8GB GDDR6 Up to 1720MHz Boost Clock, 140W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost. ที่รองรับการทำงานเล่นเกมระดับสูงได้สบาย รวมถึง หน้าจอ DISPLAY 15.6″ FHD (1920×1080), 240Hz, IPS-Level และ RAM 16GB DDR4-3200 Memory Type 2 Slots Number of SO-DIMM Slot ที่รองรับสุงสุด 64GB และทางด้านความจุ STORAGE CAPABILITY 1TB  1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen3) 1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen4) และยังคงใช้งาน KEYBOARD Per-Key RGB Backlight Keyboard / Steel Series และเชื่อมต่อไร้สาย Gb LAN (Up to 2.5G) Killer ax Wi-Fi 6E + Bluetooth v5.2 แต่น่าเสียดายว่าไม่มี USB-C และ Thunderbolt มาให้ในตัวเครื่องนี้ครับ ส่วนเรื่องระบายความร้อน Cooler Boost 5 จัดเต็ม และระบบเสียง Hi-res ยังคงใส่เข้ามาให้
ส่วนทางด้านราคา นั้นเปิดมาที่ 67,990 บาทไทย ในสีดำ
 

 

 
UNBOX
 
ตัวกล่องนั้นตามแบบฉบับของค่ายนี้มักจะมีกล่องใหญ่ และกล่องย่อยข้างใน เพราะว่าจะแถมกระเป๋าเป้ใส่เข้ามาให้ครับ ส่วนอุปกรณ์การใช้งานต่างๆที่ให้มาก็พื้นฐานเหมือนกับรุ่นอื่นๆของค่ายครับ แต่รุ่นนี้สเปกโหดทำให้การใช้งานที่ชาร์จ Power Adaptor นั้นใช้งานกำลังสูงมากๆและมีขนาดใหญ่ รวมถึง หนักมากเช่นกันในการใช้งานตัวนี้ครับ
 
- ตัวเครื่อง MSI GP66 LEOPARD 11UG
- กระเป๋าเป้ MSI
- Power Adaptor กำลังไฟ 280W
- คู่มือการใช้งาน
 

 
DESIGN
 
งานออกแบบนั้นยังคงเหมือนกับรุ่นก่อนหน้าในตัว Gen10 นั้นเองแต่ครั้งนี้ปกติแล้วรุ่นนี้จะไม่ได้มีไฟข้างหน้าอยู่แล้วนะจะไม่เหมือนตระกูล Raider ทำให้มันไม่ได้หวือหวามากนัก แต่จะเน้นไปที่สเปกการใช้งาน การออกแบบเรียบๆสีดำล้วนแบบนี้ก็เหมาะแก่การพกพาไปทำงานทั่วไปได้ ไม่ดูสายเกมมิ่งมากเกินไปอีกทั้งในเรื่องของน้ำหนักและขนาดนั้นก็ทำได้ดี หนา 23.4มม. และ มีน้ำหนักประมาณ 2.38 กิโลกรัมเท่านั้น ถือว่ายังอยู่ในระดับที่พกพาไปไหนได้ ในระดับตัวเครื่อง 15.6นิ้ว ส่วนความหนาก็กำลังดีแต่จะไม่ได้เน้นบางมากแบบตระกูลเกมมิ่งบางๆพวกนั้นเพราะตัวนี้จะเน้นเรื่องของประสิทธิภาพการทำงาน และระบบระบายความร้อนมากกว่า อีกทั้งยังช่วยในพื้นที่การระบายได้ดีขึ้น
 

 

 

 
ในรุ่นนี้งานออกแบบต่างๆนั้นจะคล้ายๆกับ GP66 หรือแอบไปคล้ายกับรุ่นพี่ GE76 Raider ด้วยเช่นในเรื่องของฝาหลังและเส้นสายตรงช่องระบายอากาศรวมถึงวัสดุต่างๆพรีเมี่ยมไม่ต่างกัน แต่ตัวโลโก้จะไม่ได้เป็นการยิง 3 มิตินูนแบบของ GE76 นั้นเองครับ ด้านในนั้นจะเป็นสีดำด้านนั้นเอง เรียกได้ว่าตัดกันได้อย่างลงตัว และพื้นผิวสัมผัสบอกเลยว่าทำได้น่าสนใจเนียนและดูมีคุณภาพสูง ทางด้านฝาหลังนั้นเราจะเห็นว่าการขึ้นโลโก้ทำได้สวย แต่น่าเสียดายว่าไม่มีแสงสีอะไรในด้านหลังตรงโลโก้เลยแม้แต่น้อย และหน้าจอนั้นรองรับการกางได้ 145 องศา และฝาหลังนั้นเป็นสีดำด้าน แต่จะเล่นกับแสงได้เช่นกันแต่ข้อเสียมันก็จะดูดติดรอยนิ้วมือได้ง่ายมากๆ ยิ่งเป็นแบบด้านและเป็นสีดำเข้ม
 

 

 

 
ขอบหน้าจอนั้นถือว่ากลางๆอาจจะไม่ได้บางมากนักในส่วนข้างบน แต่ก็ปกติในเรื่องของบรรดา Gaming ที่ไม่ได้เน้นมากนัก ถือว่าบางขึ้นกว่าแต่ก่อนเรื่อยๆครับ ส่วนกล้องหน้าพร้อมกับไมค์ยังคงใส่เข้ามาให้ในขอบด้านบน งานออกแบบขอบหน้าจอ และหน้าจอเป็นแบบด้านทั้งหมดดูเนียนตาสวยงามเป็นชิ้นเดียวกันได้ดี ไม่มีขอบยางอะไรเด่นๆขึ้นมา ทำให้ดูสวยดูพรีเมี่ยมมากขึ้นส่วนโลโก้ MSI เปลี่ยนใหม่ทั้งหมดแล้ว ใช้งานโลโก้ใหม่ แต่ที่ชอบคือการใช้งานวัสดุแบบด้านเรียบๆจนบางมุมนั้นคล้ายกับเป็นพื้นผิวเดียวกับทางหน้าจอเลย ส่วนโลโก้ก็ทำให้ตัวเครื่องดูทันสมัยขึ้น
 

 

 

 
ในแง่ของการพับหน้าจอต่างๆนั้นตัวนี้รองรับการกางได้ 145 องศา อาจจะไม่ได้กว้างมากนัก แต่ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปแล้ว เพราะว่าจะเน้นในเรื่องของความแข็งแรงเป็นหลักมากกว่า ตัวดูดลมเข้าออกนั้นจะเน้นๆด้านหลังทำให้ต้องมีช่องระบายขนาดใหญ่เสริมเข้ามามากขึ้น ทั้งข้างซ้ายขวา และด้านหลังรวมถึงด้านใต้เครื่องเช่นกัน ข้อพับต่างๆนั้นซ่อนในด้านหน้าได้เนียนและสวย รวมถึงการเปิดปิดเองนั้น สามารถดึงขึ้นมือเดียวได้แบบสบายๆ และการออกแบบด้านนอกจะมีคล้ายกับ เส้นสายที่เสริมเข้ามาส่วนข้อพับทำให้ดูมีอะไรมากขึ้น ดูดุดันกว่าแบบเรียบๆ
 

 

 

 
ในงานออกแบบด้านหน้านั้นเราจะเห็นว่าเรียบๆไม่ได้มีลำโพงในด้านหน้า แต่ยังคงอิงการออกแบบคีย์บอร์ดแบบเจนใหม่ ซึ่งทั้งหมดนี้จะยังคงเป็นแบบเดิมกับ Gen10 ก่อนหน้านะครับ รวมถึงปุ่มเปิดปิดในด้านมุมขวา และเมื่อมามองด้านฐานเครื่องนั้นจะเห็นว่ามีงานออกแบบเล็กๆน้อย ช่องระบายอากาศก็ให้มาเพียงพอต่อการดูดลมเข้า และมียางรองให้มาพร้อมใช้งานทั้งหมดเส้นสายเรียบๆไม่ได้มีการเล่นรูปทรงรังผึ้งอะไร และตัวน็อตเองนั้นใช้ขนาดเดียวกันหมด
 

 

 

 
เมื่อเปิดฝาหลังขึ้นมานั้นเราจะเห็นว่างานการจัดวางข้างในเองนั้นทำได้ดีเลยทีเดียว มาพร้อมกับ ฮีทไปป์ขนาดใหญ่ 6 เส้น และพัดลมแยกซ้าย/ขวา พร้อมกับดูดอากาศ ปล่อยลมได้ทั้ง ซ้าย/ขวา รวมถึงในด้านหลัง 2 ช่องเน้นๆเลยทีเดียว ส่วน RAM นั้นให้มาที่ 16GB ( 8GB x 2 Dual Channel )  และรองรับ  SSD M.2 NVMe PCIe ทั้งหมด 2 ช่อง ซึ่งให้มาแล้ว 1 แบบ 1TB และมีแผ่นกราไฟท์ระบายความร้อน ซิลิโคนมาให้ทั้งหมดในการปิด RAM – SSD เรียกได้ว่ารองรับการระบายความร้อนเน้นๆเลยทีเดียวพร้อมกับแบตขนาดใหญ่ที่ 65Whr
 

 
SPEC
 
- INTEL CORE I7-11800H (2.30 GHz-4.60 GHz)
- Windows 10 Home
- DISPLAY 15.6″ FHD (1920×1080), 240Hz, IPS-Level 15.6″
- CHIPSET Intel® HM570
- GRAPHICS NVIDIA® GeForce RTX™ 3070 Laptop GPU 8GB GDDR6 Up to 1720MHz Boost Clock, 140W Maximum Graphics Power with Dynamic Boost.
- MEMORY 16GB DDR4-3200 Memory Type 2 Slots Number of SO-DIMM Slot Max 64GB Max Capacity
- STORAGE CAPABILITY 1TB  1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen3) 1x M.2 SSD slot (NVMe PCIe Gen4)
- WEBCAM HD type (30fps@720p)
- KEYBOARD Per-Key RGB Backlight Keyboard / Steel Series
- COMMUNICATION Gb LAN (Up to 2.5G) Killer ax Wi-Fi 6E + Bluetooth v5.2
- AUDIO JACK 1x Mic-in/Headphone-out Combo Jack I/O PORTS 1x RJ45 1x (8K @ 60Hz / 4K @ 120Hz) HDMI 1x Mini-DisplayPort 3x Type-A USB3.2 Gen1
- BATTERY 65 Battery (Whr)
- AC ADAPTER 280W adapter
- DIMENSION (WXDXH) 358 x 267 x 23.4 mm
- WEIGHT (W/ BATTERY) 2.38 kg
- COLOR Core Black
 

 
PERFORMANCE
 
ในรุ่นนี้ใช้งาน CPU i7-11800H 10nm ,2.30GHz, 16 MB L3 Cache, up to 4.60 GHz 8 Core/16 Thread ส่วนการ์ดจอ นั้นยังคงใช้งานของ NVIDIA GeForce RTX 3070  มาพร้อมกับ 8GB GDDR6 VRAM และ ทางด้าน Ram ให้มา 16GB DDR4 bus 3200 พร้อมรองรับ Dual Channel ส่วน SSD 1 TB PCIe® Gen3 SSD M.2 ให้มาเรียบร้อย 1 ช่อง รองรับอีก 1 แถวเพิ่มเติม และมากับ Windows 10 พร้อมใช้งาน ในรุ่นนี้ถือว่าสเปกนั้นทำได้ดีพร้อมใช้งานเลยทีเดียวครับและการ์ดจอก็แรงสะใจเอาเรื่อง
 

 
PC MARK
 
คะแนนไปได้ค่อนข้างสูงมากๆแน่นอนว่าตัว i7 Gen11 ก็ถือว่าแรงพอสมควร ไปได้ 5947 คะแนน เยอะกว่า Gen10 1000 คะแนน จริงๆพวกระดับราคานี้การใช้งานทั่วไปทำงานคงไม่ต้องกังวลตอบโจทย์ทำงาน ทั่วไปแทบจะทุกรูปแบบ ไม่ต้องห่วงเลยแหละ ตั้งแต่ Word ไปยังตัดต่อ เรนเดอร์ 3 มิติ งานเขียนงานวาดแปลนบ้านทุกอย่าง  รองรับได้สบายด้วยความแรงทั้งหมดถือว่าชิลๆ และดีกว่าตัว i7 Gen10 อยู่ด้วยในคะแนนส่วนนี้ ส่วนในการทดสอบนั้นเป็นอุณหภูมิปกติ เช่นเดิมไม่ได้เปิดแอร์ แต่ถ้าเปิดแอร์นั้นจะได้คะแนนประมาณ  7,600 คะแนนครับ
 

 

 

 
3D MARK
 
ทำคะแนนเรียกได้ว่าสูงในการทดสอบทั้ง 5 แบบนะครับ ตัว TIMESPY EXTREAM ที่เน้นไปเจาะกลุ่มคอมพิวเตอร์ระดับท็อป เกมมิ่ง ทำคะแนนได้ 4963 ถือว่าดี  PORT ROYAL ในการทดสอบ RAY TRACING นั้นได้ไป 6212 คะแนน ต้องบอกว่าผ่านการทดสอบใช้งานระดับสูงๆของ 3D Mark สบายๆ ส่วนในเรื่องความร้อน แอดมินทดสอบต่อเนื่อง 4 แบบทำความร้อนไปได้ 85 CPU GPU 80 นะครับ ส่วนเจ้าตัว FIRE STRIKE EXTREAM ทำไปได้ 12787 และ FIRE STRIKE ULTRA 6823  คะแนน ถือว่าแรงสมกับ RTX 3070 เลยนั้นเอง คะแนนสูงกว่ารุ่นก่อนเยอะ ถ้าเน้นในเรื่องของการใช้งานเล่นเกม หรือว่าหน่วยประมวลผลต่างๆนั้นถือว่ารองรับได้สบายขึ้นเยอะ
 
ชื่อสินค้า:   MSI GP 66 LEOPARD
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้ามาใช้รีวิวฟรี โดยต้องคืนสินค้าให้เจ้าของสินค้า
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่