🇹🇭มาลาริน💜วันนี้(7ส.ค.)ป่วย21,838คน รักษาหาย21,108คน เสียชีวิต212คน/76จว.ติดเชื้อ/วัคซีนได้20ล้านโดส/ปาร์ตี้แพร่โควิด

ปูเสื่อโควิดวันนี้ ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 21,838 ราย เสียชีวิตอีก 212 ราย



สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ในไทยวันนี้ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 21,838 ราย แบ่งเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 20,915 ราย และผู้ติดเชื้อในเรือนจำ 923 ราย ยอดติดเชื้อรวมระลอกเมษายน 707,659 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 736,522 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 212 ราย เสียชีวิตสะสม 6,045 ราย หายป่วยเพิ่ม 21,108 ราย ผู้ป่วยกำลังรักษา 213,444 ราย

รายละเอียดผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ จำนวน 21,838 ราย มีดังนี้....👇
1.ผู้ป่วยรายใหม่ จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการฯ 17,160  ราย
2.ค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกในชุมชน 3,751 ราย
3.จากเรือนจำ/ที่ต้องขัง 923 ราย
4.เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้า State Quarantine 4 ราย

https://www.sanook.com/news/8422578/



อมยิ้ม3110 อันดับจังหวัดติดโควิดสูงสุด กทม.ยังทะลุ 4 พันคน - 3 จว.ปริมณฑลพุ่งไม่หยุด
วันเสาร์ ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2564, 13.33 น.



สำหรับอัตราผู้ติดเชื้อวันนี้ พบว่าในกทม.ลดลงเล็กน้อยจากเมื่อวานพุ่งไป 4,700 ราย วันนี้เหลือ 4,221 ราย แต่ที่น่าห่วงคือสมุทรปราการ เมื่อวาน 1,336 ราย วันนี้เพิ่มเป็น 1,428 ราย ส่วนสมุทรสาครก็เช่นกัน เมื่อวาน 1,355 ราย วันนี้เป็น 1,372 ราย โดยเฉพาะชลบุรีพุ่งสูงขึ้นมาก จากเมื่อวาน 1,325 ราย วันนี้มาอยู่อันดับสาม 1,418 ราย และที่น่าตกใจคือ นครปฐมเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากเมื่อวาน 476 ราย วันนี้เป็น 699 ราย

ขณะที่ยอดผู้ป่วยติดเชื้อภายในประเทศรายใหม่ตามรายภาค จำนวน 20,911 ราย มีรายละเอียดดังนี้



https://www.naewna.com/local/593322

ปูเสื่อ20 ล้านโดสแล้ว! อัพเดตล่าสุดยอดฉีดวัคซีนไทย


 
  เมื่อวันที่ 7 ส.ค.64 ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 รายงานข้อมูลการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของไทย ซึ่งตั้งแต่ 28 ก.พ.-6 ส.ค.64 รวมยอดการฉีดสะสมอยู่ที่ 20,280,108 โดส โดยเป็นเข็มที่ 1 ฉีดแล้วจำนวน 15,687,291 ราย เข็มที่ 2 จำนวน 4,406,723 ราย และเข็มที่ 3 ฉีดแล้ว 186,094 ราย

https://siamrath.co.th/n/269156

เพี้ยนแคปเจอร์เป็นเรื่อง! เคสปาร์ตี้วันเกิดริมทะเลจะนะพบติดโควิด-19 แล้ว 5 คน กักตัวปลัด-อส.ชุดจับกุม


 
ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - เผยผลตรวจกลุ่มปาร์ตี้วันเกิดริมทะเลใน อ.จะนะ จ.สงขลา พบมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 5 คน เร่งนำตัวส่ง รพ.สนาม และตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้สัมผัสใกล้ชิด รวมทั้งต้องกักตัวปลัดอำเภอ และ อส.ชุดที่เข้าไปจับกุม 20 คน พนักงานสอบสวนของ สภ.ควนมีด อยู่ในข่ายกลุ่มเสี่ยง 8 นาย

ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอจะนะ ร่วมกับตำรวจ สภ.ควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา บุกทลาย “ปาร์ตี้วันเกิด” ที่ลักลอบจัดขึ้นที่บริเวณริมทะเลวังหนาวบีช หมู่ 7 ต.นาทับ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อช่วง 4 ทุ่มของคืนวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยจับกุมวัยรุ่น และคนหนุ่มสาวได้ จำนวน 61 คน เป็นชาย 43 คน และหญิง 18 คน ในจำนวนนี้มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี รวมอยู่ด้วย 35 คน

ล่าสุด วันนี้ (7 ส.ค.) ผลการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ของผู้ที่ร่วมวงปาร์ตี้ทั้ง 61 คน ชุดแรกมีผลตรวจยืนยันออกมาแล้ว โดยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 คน เป็นชาย 3 คน และหญิงอีก 2 คน มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่หมู่ 3 ต.ตลิ่งชัน อ.จะนะ 1 คน หมู่ 3 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน หมู่ 4 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน หมู่ 13 ต.นาทับ อ.จะนะ 1 คน และหมู่ 1 ต.สทิ้งหม้อ อ.สิงหนคร 1 คน และทางสาธารณสุขอำเภอจะนะ ได้เตรียมนำตัวทั้ง 5 คน เข้ารักษาที่โรงพยาบาลสนามเป็นการด่วน โดยจะเร่งตรวจสอบไทม์ไลน์ของทั้ง 5 คน และนำผู้ใกล้ชิดมาตรวจหาเชื้อ ก่อนนำเข้าสู่กระบวนการกักตัวเพื่อสังเกตอาการต่อไป ส่วนที่เหลืออีก 56 คน เจ้าหน้าที่จะตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซ้ำอีกครั้งในรอบที่ 2 เพื่อให้แน่ชัดว่ามีติดเชื้อเพิ่มเติมอีกหรือไม่

อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มผู้ติดเชื้อโควิด-19 ทั้ง 5 คนนั้นน่าจะติดเชื้อมาก่อนที่จะเข้าร่วมปาร์ตี้วันเกิดในคืนเกิดเหตุแล้ว และสิ่งที่น่าเป็นห่วง คืออาจจะนำเชื้อไปแพร่ให้กลุ่มคนที่ร่วมปาร์ตี้ด้วย

ในส่วนของเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ขณะนี้ได้มีการกักตัวปลัดอำเภอ และ อส.อำเภอจะนะ ชุดที่เข้าไปจับกุมประมาณ 20 คน และเตรียมตรวจหาเชื้อในวันจันทร์นี้ ส่วนตำรวจ สภ.ควนมีด มีกลุ่มเสี่ยงที่เป็นพนักสอบสวนประมาณ 8 นาย ซึ่งทำหน้าที่สอบปากคำกลุ่มผู้ร่วมงานปาร์ตี้ทั้ง 61 คน จะตรวจสอบอีกว่าใครเป็นผู้สอบสวนคนที่ติดเชื้อทั้ง 5 คน แต่ในระหว่างการสอบสวน พนักงานสอบสวนทุกนายทำตามขั้นตอนป้องกันโควิด-19 อย่างรัดกุม ทั้งเว้นระยะห่าง และสวมใส่หน้ากากอนามัย

https://mgronline.com/south/detail/9640000077469

นานาเรียนวันนี้ป่วยเกินรักษาหายไป 730คน  กรุงเทพฯลดลง  ไปเพิ่มในจังหวัดที่มีแรงงาน  

อย่างที่บอกไว้ค่ะ ประเทศไทยมีแรงงานทั้งไทยและต่างด้าวมาก มีความเป็นอยู่ที่สัมผัสกันใกล้ชิด  ติดเชื้อกันง่าย  มีเพื่อนบ้านที่ติดเชื้อรอบบ้าน การหลบหนีเข้าเมืองปีงกันได้ไม่100% มีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่เชื้อให้กันและกัน

เดลต้า เป็นเชื้อโควิดที่แรง สามารถแพร่จากคนเดียวไปอีกหลายคนอย่างรวดเร็ว  หากไม่ปฏิบัติอย่างระมัดระวัง เช่น มีปาร์ตี้สังสรรค์  ก็จะติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว แพร่ไปในครอบครอบคนที่เกี่ยวข้องได้ง่าย

ดังนั้น จึงต้องช่วยกันระมัดระวังตัวเอง อย่าไปแพร่เชื้อหรือไปรับเชื้อมาให้ตัวเองและครอบครัว 

ดูแลตัวเองด้วยนะคะ...เพี้ยนสู้สู้

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 20
กระทรวงสาธารณสุข แถลงสถานการณ์โควิด-19 ประจำวันที่ 7 สิงหาคม 2564 เวลา 11.30 น.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ณ กระทรวงสาธารณสุข
วันที่ 7 สิงหาคม  2564


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รวมสไลด์แถลงสถานการณ์โควิด-19 จาก ศบค.
วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/381446370140360


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"อว. เผยฉีดวัคซีนของไทย ณ วันที่ 5 สิงหาคม ฉีดวัคซีนแล้ว 18,981,703 โดส และทั่วโลกแล้ว 4,276 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง ส่วนอาเซียนฉีดแล้วทุกประเทศ รวมกันกว่า 169.55 ล้านโดส โดยจังหวัดของไทยที่ฉีดมากที่สุด คือ ภูเก็ต โดยฉีดวัคซีนเข็มแรกกว่า 75.5%”

(5 สิงหาคม 2564) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เผยข้อมูลสถิติการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วโลกแล้ว 4,276 ล้านโดส ใน 201 ประเทศ/เขตปกครอง โดยขณะนี้อัตราการฉีดล่าสุดรวมกันทั่วโลกที่ 42.7 ล้านโดสต่อวัน และมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่สหรัฐอเมริกามีจำนวนการฉีดวัคซีนสูงที่สุดที่ 348 ล้านโดส โดยมีชาวอเมริกันกว่า 165 ล้านคนได้รับวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว"

ด้านอาเซียนขณะนี้ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 แล้ว มียอดรวมกันที่ประมาณ 169.55 ล้านโดส โดยสิงคโปร์ฉีดวัคซีนในสัดส่วนประชากรมากที่สุดในภูมิภาค (73.5% ของประชากร) ในขณะที่อินโดนีเซียฉีดวัคซีนในจำนวนมากที่สุดที่ 71.04 ล้านโดส สำหรับประเทศไทยข้อมูล ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564 ได้ฉีดวัคซีนแล้วกว่า 18,981,703 โดส โดยฉีดให้กับประชาชนในพื้นที่เสี่ยงมากที่สุดในสัดส่วนกว่า 53.33%

ในการฉีดวัคซีน จำนวน 4,276 ล้านโดสนี้ อว. ขอรายงานสถิติที่สำคัญ คือ

1) ข้อมูลการฉีดวัคซีนล่าสุดของประเทศไทย ณ วันที่ 5 สิงหาคม 2564
จำนวนการฉีดวัคซีนสะสม 18,981,703 คน ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น
-เข็มแรก 14,783,001 โดส (22.3% ของประชากร)
-เข็มสอง 4,178,702 โดส (6.3% ของประชากร)

2) จำนวนวัคซีนตั้งแต่ 28 ก.พ.- 5 ส.ค. 64 พบว่า ประเทศไทยฉีดวัคซีนแล้ว 18,981,703 โดส (อัตราการฉีดล่าสุดเฉลี่ย 3 วันย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 7 มิ.ย. 64 ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนวาระแห่งชาติ 338,625 โดส/วัน ประกอบด้วย
วัคซีน Sinopharm
- เข็มที่ 1 989,285  โดส
- เข็มที่ 2 266,949 โดส
วัคซีน AstraZeneca
- เข็มที่ 1 7,991,619 โดส
- เข็มที่ 2 488,201 โดส
วัคซีน Sinovac
- เข็มที่ 1 5,802,097 โดส
- เข็มที่ 2 3,423,552 โดส

3) การฉีดวัคซีนโควิด-19 แยกตามกลุ่มเป้าหมาย
- บุคลากรการแพทย์/สาธารณสุข เข็มที่1 115.2% เข็มที่2 99.6%
- อสม เข็มที่1 49.5% เข็มที่2 22.3%
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป เข็มที่1 24.6% เข็มที่2 1.6%
- ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เข็มที่1 30% เข็มที่1 5.2%
- เจ้าหน้าที่ด่านหน้า เข็มที่1 47.5% เข็มที่2 28.3%
- ประชาชนทั่วไป เข็มที่1 27.6% เข็มที่2 7.8%
รวม เข็มที่1 29.6% เข็มที่2 8.4%

4) จังหวัดที่ฉีดวัคซีน เข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 แบ่งเป็น 2 ชุดข้อมูล
กรุงเทพฯ และปริมณฑล เข็มที่1 48.6% เข็มที่2 11.3% ประกอบด้วย
- กรุงเทพฯ เข็มที่1 67.8% เข็มที่2 14.7%
- สมุทรสาคร เข็มที่1 29.3% เข็มที่2 13.1%
- นนทบุรี เข็มที่1 32.2% เข็มที่2 10.9%
- สมุทรปราการ เข็มที่1 32.1% เข็มที่2 5.8%
- ปทุมธานี เข็มที่1 25.5% เข็มที่2 5.9%
- นครปฐม เข็มที่1 16.4% เข็มที่2 3.4%

จังหวัดอื่น ๆ 71 จังหวัด เข็มที่1 13.2% เข็มที่2 4.1%
- ภูเก็ต เข็มที่1 75.5% เข็มที่2 59.5%
- ระนอง เข็มที่1 39.6% เข็มที่2 12.4%
- สุราษฎร์ธานี เข็มที่1 20.6% เข็มที่2 8.4%
    - เกาะสมุย เข็มที่1 38.5% เข็มที่2 10.4%
    - เกาะเต่า เข็มที่1 20.7% เข็มที่2 5.9%
    - เกาะพะงัน เข็มที่1 31% เข็มที่2 4%

5) ในภูมิภาคอาเซียน ได้ฉีดวัคซีนแล้วครบ 10 ประเทศ รวมจำนวน 160,750,689 โดส ได้แก่
1. อินโดนีเซีย จำนวน 71,044,502 โดส (17.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
2. มาเลเซีย จำนวน 22,646,561 โดส (45.7%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, AstraZeneca และ Sinovac
3. ฟิลิปปินส์ จำนวน 22,488,705 โดส (11%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinovac, Pfizer, Sputnik V, Moderna และ AstraZeneca  
4. ไทย จำนวน 18,981,703 โดส (22.3%* ของประชากร)  ฉีดวัคซีนของ Sinovac, AstraZeneca และ Sinopharm
5. กัมพูชา จำนวน 12,915,097 โดส (45.6%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, AstraZeneca และ Sinovac
6. สิงคโปร์ จำนวน 7,891,408 โดส (73.5%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Pfizer, Moderna และ Sinovac
7. เวียดนาม จำนวน 7,553,318 โดส (6.9%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
8. พม่า จำนวน 3,500,000 โดส (N/A* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
9. ลาว จำนวน 2,376,172 โดส (17.3%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ Sinopharm, Sputnik V และ AstraZeneca
10. บรูไน จำนวน 177,638 โดส (32.2%* ของประชากร) ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca และ Sinopharm
* คำนวณจากจำนวนฉีด/จำนวนประชากร/2 เหมือนกันทุกประเทศ

6) จำนวนการฉีดวัคซีนแยกตามภูมิภาค
1. เอเชียและตะวันออกกลาง 65.85%
2. อเมริกาเหนือ 11.76%
3. ยุโรป 14.04%
4. ลาตินอเมริกาและแคริบเบียน 6.36%
5. แอฟริกา 1.62%
6. โอเชียเนีย 0.37%

7) ประเทศที่ฉีดวัคซีนแล้วมากที่สุด 4 ประเทศลำดับแรกที่ฉีดวัคซีนมากกว่า 100 ล้านโดส รวมกันเกือบ 70% ของปริมาณการฉีดวัคซีนทั่วโลก
1. จีน จำนวน 1,708.36 ล้านโดส (61% ของจำนวนการฉีดทั่วโลก)
2. อินเดีย จำนวน 488.94 ล้านโดส (17.9%)
3. สหรัฐอเมริกา จำนวน 348.1 ล้านโดส (54.4%)
4. บราซิล จำนวน 145.56 ล้านโดส (35.6%)

8) ประเทศที่ฉีดวัคซีนครอบคลุมประชากรมากที่สุด มี 10 ประเทศที่ฉีดวัคซีนให้กับประชากรอย่างน้อย 25% แล้ว ได้แก่ (เฉพาะประเทศที่มีประชากรมากกว่า 500,000 คน)
1. มัลดีฟส์ (80.6% ของประชากร) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinopharm)
2. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (78.8%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaleya)  
3. บาห์เรน (78.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech, Sinopharm และ Gamaley)
4. สิงคโปร์ (69.1%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech Moderna และ Sinovac)
5. กาตาร์ (69%) (ฉีดวัคซีนของ Pfizer/BioNTech และ Moderna)
5. อุรุกวัย (68.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)
7. ชิลี (67.2%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford, CanSino, Pfizer/BioNTech และ Sinovac)      
8. แคนาดา (66.4%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)    
9. เดนมาร์ก (64.9%) (ฉีดวัคซีนของ  Moderna, Pfizer/BioNTech และ J&J)  
10. ภูฏาน (64.7%) (ฉีดวัคซีนของ AstraZeneca/Oxford Moderna และ Pfizer/BioNTech)

แหล่งข้อมูล Bloomberg Vaccine Tracker, กระทรวงสาธารณสุข
ประมวลข้อมูลโดย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
https://www.facebook.com/nrctofficial/posts/4036899333102275


จำนวนการได้รับวัคซีนสะสม (28 ก.พ. - 6 ส.ค. 2564)
รวม 20,280,108 โดส ใน 77 จังหวัด

ภาพรวมยอดฉีดวัคซีน วันที่ 6 สิงหาคม 2564
ยอดฉีดทั่วประเทศ 647,571 โดส

เข็มที่ 1 : 507,015 ราย
เข็มที่ 2 : 129,652 ราย
เข็มที่ 3 : 10,904 ราย

----------------------------

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 15,687,291 ราย
(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนทั้งหมด)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 4,406,723 ราย
(จำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์)

จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 186,094 ราย
https://www.facebook.com/informationcovid19/posts/381435233474807
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่