ทุบสถิติอีกครั้ง สุดเศร้า ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 212 ราย ติดเชื้อใหม่ 21,838 ราย
https://www.matichon.co.th/local/news_2871528
ทุบสถิติอีกครั้ง สุดเศร้า ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 212 ราย ติดเชื้อใหม่ 21,838 ราย
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564
รวม 21,838 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 20,915 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 923 ราย
ผู้ป่วยสะสม 707,659 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 21,108 ราย
หายป่วยสะสม 489,586 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 213,444 ราย
เสียชีวิต 212 ราย
ซึ่งถือได้ว่าทุบสถิติสูงสุดของยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
“พิพัฒน์” รับเหตุ ‘แหม่มสวิส’ดับเปลือย กระทบแซนด์บ็อกซ์ ทำประเทศด่างพร้อย
https://www.dailynews.co.th/news/131044
รมว.การท่องเที่ยวฯ ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์นักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ต ทำหนังสือถึงสถานทูตด่วน รับส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เร่งหารือด่วนยกระดับความปลอดภัยเข้มข้นขึ้นอีก กันเกิดเหตุซ้ำ พร้อมเร่งเยียวยา
นาย
พิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ต ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ล่าสุดได้ทำจดหมายแสดงความเสียใจไปที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ซึ่งกรณีนี้ยอมรับว่า ส่งผลต่อภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของไทยต้องด่างพร้อย และกระทบกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แน่นอน ตอนนี้ได้ขอความร่วมมือทุก ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะทางฝ่ายความมั่นคงช่วยกันดูแลความปลอดภัยเข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นในพื้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และขยายผลไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยบ่ายวันนี้ (6 ส.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และภาคเอกชน จะหารือร่วมกัน พร้อมทั้งเร่งสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเร่งเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต โดยมีวงเงินเยียวยาผลกระทบสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมดูแลญาติของผู้เสียชีวิตที่จะเข้ามาประเทศไทย รวมทั้งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สื่อสารทำความเข้าใจ และแสดงความเสียใจต่อสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย
“เหตุการณ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับภาวะปัจจุบัน หลังประเทศไทยเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเป็นโมเดลให้หลาย ๆ ประเทศ ดังนั้นในตอนนี้ทุกหน่วยงานจะร่วมกันรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่เป็นคนเชิญนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ส่วนการดูแลความปลอดภัยใจช่วงจากนี้ กระทรวงจะหารือนายกฯ เพื่อยกเครื่องความปลอดภัยให้สูงขึ้นไปอีก แม้ว่าก่อนจะเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็ได้คุยกันถึงเรื่องการยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไปแล้วก็ตาม”
'แน่งน้อย' ผู้เจอดราม่าฉีดวัคซีนเข็ม 3 ลาออกจากที่ปรึกษาผู้ว่าฯพิษณุโลก
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2871260
‘แน่งน้อย’ ผู้เจอดราม่าฉีดวัคซีนเข็ม 3 ลาออกจากที่ปรึกษาผู้ว่าฯพิษณุโลก
กรณีโลกออนไลน์ในจังหวัดพิษณูโลกออกมาระบุว่ามีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนาย
รณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ไปขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์รับฉีดวัคซีน หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ต่อมานาย
ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล พร้อมสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนาย
รณชัย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกพิจารณาและตรวจสอบกรณีข้อกล่าวหานาง
แน่งน้อย อัศวกิตติกร แทรกแซงการได้รับวัคซีนโควิด-19 ของ จ.พิษณุโลก
จากนั้นนาง
แน่งน้อย อัศวกิตติกร ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องไปขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากทำงานด่านหน้ามาโดยตลอด นำสิ่งของต่างๆ จากการบริจาคมามอบให้กับจุดคัดกรอง หรือโรงพยาบาลสนามมาโดยตลอด ด้วยความเป็นผู้สูงอายุที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนนั้น ตนเองมีคิวที่จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากช่วงแรกๆ ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนน้อย จึงมาช่วยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ด้วยการไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแทนทั้ง 2 เข็ม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นา
งแน่งน้อย อัศวกิตติกร ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เรื่องขอลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ โดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่า
ตามที่ท่านได้แต่งตั้งข้าพเจ้า นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก แต่เนื่องจากปัจจุบันข้าพเจ้ามีภารกิจ ที่มีความจำเป็นต้องออกไปทำในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายแห่ง จึงอาจทำให้ไม่มีเวลาในการทำงานช่วยในนามที่ปรึกษาท่านได้ไม่เต็มที่เท่าที่ความ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอขอบคุณท่านที่ได้มอบความไว้วางใจในการทำงานร่วมกับท่านด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ข้าพเจ้ายังยินดีช่วยงานจังหวัดพิษณุโลกของเราตามเวลาและทุกโอกาสที่มีเวลาทำได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
ลงชื่อ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร
JJNY : เสียชีวิต212 ติดเชื้อ21,838│“พิพัฒน์”รับเหตุ‘แหม่มสวิส’กระทบแซนด์บ็อกซ์│'แน่งน้อย'ลาออก│ไก่ย่างเขาสวนกวางแทบอวสาน
https://www.matichon.co.th/local/news_2871528
ทุบสถิติอีกครั้ง สุดเศร้า ผู้ป่วยโควิดเสียชีวิต 212 ราย ติดเชื้อใหม่ 21,838 ราย
เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันเสาร์ที่ 7 สิงหาคม 2564
รวม 21,838 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 20,915 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 923 ราย
ผู้ป่วยสะสม 707,659 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 21,108 ราย
หายป่วยสะสม 489,586 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 213,444 ราย
เสียชีวิต 212 ราย
ซึ่งถือได้ว่าทุบสถิติสูงสุดของยอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต
“พิพัฒน์” รับเหตุ ‘แหม่มสวิส’ดับเปลือย กระทบแซนด์บ็อกซ์ ทำประเทศด่างพร้อย
https://www.dailynews.co.th/news/131044
รมว.การท่องเที่ยวฯ ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์นักท่องเที่ยวเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ต ทำหนังสือถึงสถานทูตด่วน รับส่งผลต่อภาพลักษณ์ประเทศ และภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เร่งหารือด่วนยกระดับความปลอดภัยเข้มข้นขึ้นอีก กันเกิดเหตุซ้ำ พร้อมเร่งเยียวยา
นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตที่จังหวัดภูเก็ต ว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก ล่าสุดได้ทำจดหมายแสดงความเสียใจไปที่สถานทูตสวิตเซอร์แลนด์แล้ว ซึ่งกรณีนี้ยอมรับว่า ส่งผลต่อภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยวของไทยต้องด่างพร้อย และกระทบกับโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แน่นอน ตอนนี้ได้ขอความร่วมมือทุก ๆ ฝ่าย โดยเฉพาะทางฝ่ายความมั่นคงช่วยกันดูแลความปลอดภัยเข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อนขึ้นในพื้นที่ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ และขยายผลไปยังพื้นที่ท่องเที่ยวอื่น ๆ ด้วย
ทั้งนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้รายงานเรื่องนี้ให้กับนายกรัฐมนตรีทราบแล้ว โดยบ่ายวันนี้ (6 ส.ค.) กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และภาคเอกชน จะหารือร่วมกัน พร้อมทั้งเร่งสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป ซึ่งเรื่องนี้ ทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติจะลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ขณะเดียวกันกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะเร่งเยียวยาญาติผู้เสียชีวิต โดยมีวงเงินเยียวยาผลกระทบสูงสุด 1 ล้านบาท พร้อมดูแลญาติของผู้เสียชีวิตที่จะเข้ามาประเทศไทย รวมทั้งให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สื่อสารทำความเข้าใจ และแสดงความเสียใจต่อสถานการณ์ในต่างประเทศด้วย
“เหตุการณ์นี้ไม่ควรจะเกิดขึ้นกับภาวะปัจจุบัน หลังประเทศไทยเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเป็นโมเดลให้หลาย ๆ ประเทศ ดังนั้นในตอนนี้ทุกหน่วยงานจะร่วมกันรับผิดชอบ โดยเฉพาะกระทรวงการท่องเที่ยวฯ ที่เป็นคนเชิญนักท่องเที่ยวเข้ามาในประเทศ ส่วนการดูแลความปลอดภัยใจช่วงจากนี้ กระทรวงจะหารือนายกฯ เพื่อยกเครื่องความปลอดภัยให้สูงขึ้นไปอีก แม้ว่าก่อนจะเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ก็ได้คุยกันถึงเรื่องการยกระดับดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวไปแล้วก็ตาม”
'แน่งน้อย' ผู้เจอดราม่าฉีดวัคซีนเข็ม 3 ลาออกจากที่ปรึกษาผู้ว่าฯพิษณุโลก
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2871260
‘แน่งน้อย’ ผู้เจอดราม่าฉีดวัคซีนเข็ม 3 ลาออกจากที่ปรึกษาผู้ว่าฯพิษณุโลก
กรณีโลกออนไลน์ในจังหวัดพิษณูโลกออกมาระบุว่ามีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของนายรณชัย จิตรวิเศษ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก ไปขอให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เข็มที่ 3 โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ศูนย์รับฉีดวัคซีน หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม อ.เมือง จ.พิษณุโลก
ต่อมานาย ปดิพัทธ์ สันติภาดา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิษณุโลก เขต 1 พรรคก้าวไกล พร้อมสมาชิกพรรคจำนวนหนึ่ง เดินทางไปยื่นหนังสือถึงนายรณชัย ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลกพิจารณาและตรวจสอบกรณีข้อกล่าวหานางแน่งน้อย อัศวกิตติกร แทรกแซงการได้รับวัคซีนโควิด-19 ของ จ.พิษณุโลก
จากนั้นนางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องไปขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 เนื่องจากทำงานด่านหน้ามาโดยตลอด นำสิ่งของต่างๆ จากการบริจาคมามอบให้กับจุดคัดกรอง หรือโรงพยาบาลสนามมาโดยตลอด ด้วยความเป็นผู้สูงอายุที่ผ่านมาการฉีดวัคซีนนั้น ตนเองมีคิวที่จะฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากช่วงแรกๆ ประชาชนออกมาฉีดวัคซีนน้อย จึงมาช่วยรณรงค์ให้ประชาชนหันมาฉีดวัคซีนให้มากขึ้น ด้วยการไปฉีดวัคซีนซิโนแวคแทนทั้ง 2 เข็ม
ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร ได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เรื่องขอลาออกจากการเป็นที่ปรึกษาผู้ว่าฯ โดยหนังสือดังกล่าวมีข้อความว่า
ตามที่ท่านได้แต่งตั้งข้าพเจ้า นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร เป็นที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก แต่เนื่องจากปัจจุบันข้าพเจ้ามีภารกิจ ที่มีความจำเป็นต้องออกไปทำในพื้นที่ต่างจังหวัดหลายแห่ง จึงอาจทำให้ไม่มีเวลาในการทำงานช่วยในนามที่ปรึกษาท่านได้ไม่เต็มที่เท่าที่ความ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ขอขอบคุณท่านที่ได้มอบความไว้วางใจในการทำงานร่วมกับท่านด้วยดีตลอดมา ทั้งนี้ข้าพเจ้ายังยินดีช่วยงานจังหวัดพิษณุโลกของเราตามเวลาและทุกโอกาสที่มีเวลาทำได้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
ลงชื่อ นางแน่งน้อย อัศวกิตติกร