JJNY : 4in1 สื่อนอกตีข่าว"หญิงสวิส"│สขร.สั่งป.ป.ช.เปิดบัญชีทรัพย์สิน│ต่างชาติไม่สนลงทุนไทย│ล็อกดาวน์-เคอร์ฟิวถล่มค้าปลีก

สื่อนอกตีข่าว "หญิงสวิส" ถูกฆ่าดับที่ภูเก็ต
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2871073

สื่อนอกตีข่าว “หญิงสวิส” ถูกฆ่าดับที่ภูเก็ต
 
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม สื่อต่างชาติหลายสำนักทั่วโลก ได้นำเสนอข่าวเหตุการเสียชีวิตของนักท่องเที่ยวหญิงสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์วัย 57 ปีที่เดินทางมาท่องเที่ยวภูเก็ต ภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ซึ่งเป็นโครงการที่รัฐบาลไทยทำเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวภูเก็ต โดยพบศพของเธอถูกพบอยู่ที่น้ำตกโตนอ่าวยน ในจังหวัดภูเก็ต
 
ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า พบหญิงชาวสวิตเซอร์แลนด์เสียชีวิตใกล้กับน้ำตกที่เกาะภูเก็ต ประเทศไทย โดยเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า เหยื่อชื่อ Nicole Sauvain-Weisskopf อายุ 57 ปี ถูกพบเป็นศพนอนคว่ำหน้าอยู่ในน้ำและถูกแผ่นผ้าสีดำคลุมไว้ นอกจากนี้ยังพบโทรศัพท์มือถือ กางเกงขาสั้นและรองเท้าผ้าใบอยู่ใกล้เคียง แต่ยังไม่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงรายนี้
 
ในขณะที่สำนักข่าวเอพีรายงานถึงกรณีที่นายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์เพื่อแสดงความเสียใจต่อคดีฆาตกรรมหญิงชาวสวิสที่ภูเก็ตแล้ว และว่าผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ตได้ให้คำมั่นว่าจะมีการสอบสวนและชันสูตรศพโดยทันที
 
ส่วนวอชิงตันโพสต์ได้รายงานเรื่องที่กระทรวงต่างประเทศของสวิตเซอร์แลนด์ระบุในอีเมล์ว่า ทราบเรื่องการเสียชีวิตของ พลเมืองสวิสคนดังกล่าวในจังหวัดภูเก็ตแล้ว และยังไม่ระบุตัวเหยื่ออย่างแน่ชัด ด้านสถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ในกรุงเทพได้ติดต่อกับทางการไทยแล้ว โดยปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมด้วยเหตุผลด้านความเป็นส่วนตัว
 

 
เอาแล้ว! สขร.สั่งป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน ประยุทธ์-วิษณุ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6550645

คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดผยข้อมูลข่าวสาร สั่งป.ป.ช. เปิดบัญชีทรัพย์สิน ประยุทธ์และวิษณุ ยืนยันป.ป.ช.มีอำนาจและหน้าที่โดยตรง
 
วันที่ 6 ส.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (สขร.) รายงานผลการประชุมคณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร สาขาสังคม การบริหาราชการแผ่นดิน และการบังคับใช้กฎหมาย คณะ 3 ครั้งที่ 12/2564 ประชุมทางไกลผ่านระบบอินเทอร์เน็ต
 
ที่ประชุมได้พิจารณา เรื่องที่มีผู้อุทธรณ์ ขอตรวจบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับสูงฝ่ายบริหาร จำนวน 2 ท่าน กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อปี พ.ศ. 2562 แต่สำนักงาน ป.ป.ช. ปฏิเสธการเปิดเผย โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายให้อำนาจคณะกรรมการป.ป.ช. เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ที่ยื่นไว้เป็นหลักฐาน ตามมาตรา 105 วรรคสี่ แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561

คณะกรรมการวินิจฉัยฯ พิจาณาแล้วเห็นว่า แม้บัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองจะยื่นไว้เพื่อเป็นหลักฐานก็ตาม แต่จุดมุ่งหมายสำคัญที่กำหนดให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินก็เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมในการตรวจสอบความโปร่งใสในการบริหารราชการแผ่นดินตามหลักการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
 
ตลอดจนเป็นการป้องกันปัญหาการทุจริตประพฤติมิชอบและการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวดังกล่าวจึงเป็นข้อมูลข่าวสารสาธารณะที่คณะกรรมการป.ป.ช.และสำนักงานป.ป.ช. มีหน้าที่โดยตรงในการเปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ ตามมาตรา 243 (3) ประกอบมาตรา 59 ของรัฐธรรมนูญ 2560
 
ประกอบกับประกาศคณะกรรมการป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์ ขั้นตอน และวิธีการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน 2561 ข้อ 7 กำหนดว่า ภายหลังจากพ้นกำหนดระยะเวลาการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน หากมีการร้องขอเป็นหนังสือเพื่อขอตรวจดูบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ให้สำนักงานป.ป.ช. ที่ครอบครองดูแลเอกสารดังกล่าวจัดให้ผู้ร้องขอเข้าตรวจดูสำเนาบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินได้ แต่มิให้คัดถ่ายสำเนาเอกสาร ดังนั้น ข้อมูลข่าวสารดังกล่าวเปิดเผยให้ผู้อุทธรณ์เข้าตรวจดูได้ตามคำร้องขอ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บุคคลที่ถูกขอให้เปิดเผยข้อมูลคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ส่วนคณะกรรมการที่พิจารณาเรื่องดังกล่าว ประกอบด้วย พล.อ.กฤษณะ บวรรัตนารักษ์ ประธานการประชุม พล.ต.ต.ประสิทธิ์ เฉลิมวุฒิศักดิ์ นายพีระศักดิ์ ศรีรุ่งสุขจินดา และนายธนกฤต วรธนัชชากุล เป็นต้น
 


บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีไทย เผยสายตาต่างชาติไม่สนใจลงทุนในไทย สะท้อนตัวเลข FDI อยู่ในระดับต่ำ
https://www.matichon.co.th/economy/news_2870887

บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบีไทย เผยสายตาต่างชาติไม่สนใจลงทุนในไทย สะท้อนตัวเลข FDI อยู่ในระดับต่ำ
 
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม นายเกษม พันธ์รัตนมาลา, CFA กรรมการ และหัวหน้าฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า การระบาดของโควิดที่จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันทำสถิติใหม่ไม่หยุด ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทย นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิอย่างต่อเนื่องไปแล้วกว่า 9 หมื่นล้านบาท YTD (year-to-date) และถ้ารวมกับปีก่อน เป็นการเทขายรวม 2.6 แสนล้านบาทแล้ว ต้องมีการควบคุมจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ให้ได้ นักลงทุนต่างชาติถึงจะกลับมาซื้อหุ้นมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นเอเชียอื่นๆ ต่างชาติก็มีการขายหนักมากเช่นกัน ยกเว้นอินเดียที่เมื่อตัวเลขคนติดเชื้อลดจาก 4 แสนคนต่อวันเหลือ 2 แสนคนต่อวัน ทำให้ต่างชาติกลับเข้ามา และเมื่อลดเหลือ 3-4 หมื่นคน ส่งผลให้ต่างชาติซื้อเยอะขึ้น
 
นักลงทุนไทยมองหาโอกาสลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านตลอดเวลา จากตัวเลข Thailand Direct Investment (TDI) คนไทยไปลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2559 แม้ปีก่อนจะเผชิญโควิด แต่ตัวเลขยังคงโตต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ส่วนใหญ่ไปลงทุนในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม และอินโดนีเซีย ส่วนผลตอบแทนจากการไปลงทุนอาจต้องรอ 3-5 ปี หากธุรกิจเติบโต แข่งขันได้ เงินลงทุนจะกลับเข้ามาในประเทศ ส่งผลให้เศรษฐกิจไทยแข็งแรงขึ้น
 
ขณะที่นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยโดยตรง หรือ Foreign Direct Investment (FDI) กลับน้อยกว่าเงินที่คนไทยนำไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน มองย้อนกลับไปก่อนมีโควิด ตัวเลข FDI ไม่ได้สูงมาตั้งแต่ปี 2559 เรื่อยมาถึงตอนนี้ โดยในปี 2563 ติดลบถึง 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องมาจากการขายกิจการของกลุ่มเทสโก้ประเทศอังกฤษให้กับบริษัทในประเทศไทย
 
นายเกษม กล่าวว่า ตลาดการลงทุนในประเทศไทย ไม่น่าสนใจในสายตาต่างชาติอีกต่อไป เพราะไม่ค่อยมีบริษัทที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ที่ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมใหม่เกี่ยวกับเทคโนโลยี สินค้าไฮเทค สมาร์ทโฟน รถ EV ซึ่งต้องมีเงินทุนใหม่ๆ มารองรับ โครงสร้างพื้นฐานของไทยเองมีปัญหา เช่น เรื่องคน เรื่องการศึกษา ค่าแรงสูงเมื่อเทียบกับทักษะที่ไม่มากพอ รวมถึงระบบโลจิสติกส์ที่ไม่เอื้อ ทำให้ประเทศไทยขาดความน่าสนใจในการลงทุน แม้แต่นักลงทุนไทยยังไปลงทุนเพื่อนบ้านแทน
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่