BRIEF: ไทยฟื้นตัวจากโควิด-19 ช้าที่สุด Nikkei จัดอันดับดัชนีการฟื้นตัวจากโควิด-19 ไทยได้อันดับสุดท้ายจาก 120 ประเทศทั่วโลก
.
จากประเทศที่ได้รับคำชื่นชมว่าสามารถรับมือกับโรคระบาดได้ดีที่สุด สู่การเป็นอันดับสุดท้ายในดัชนีการจัดอันดับประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 สำนักข่าว Nikkei Asia จัดอันดับประเทศที่สามารถฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีที่สุด ปรากฏว่าไทยอยู่อันดับท้ายสุดร่วมกับเวียดนาม ถือเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากโรคระบาดช้าที่สุด
.
Nikkei COVID-19 Recovery Index จากสำนักข่าว Nikkei Asia จัดอันดับประเทศต่างๆ กว่า 120 ประเทศ เพื่อหาว่าประเทศไหนประสบความสำเร็จในการรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 โดยปัจจัยที่นำมาประกอบการจัดอันดับก็มี 3 ปัจจัย ได้แก่ วิธีการควบคุมและจัดการกับการติดเชื้อ การฉีดวัคซีน และความคล่องตัวในการเดินทาง
.
ประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ แสดงให้เห็นว่า ประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ ใกล้ฟื้นตัวจากโควิด-19 แล้วจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยลงเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร อัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในเกณฑ์ดี และการปรับลดมาตรการควบคุมโควิด-19 ต่างๆ ให้น้อยลง
.
ประเทศที่ได้คำแนนนำมาเป็น 3 อันดับแรกคือ จีน 74.0 คะแนน อันดับที่ 2 คือ นิวซีแลนด์ 69.5 คะแนน และฮังการี 69.00 คะแนน ขณะที่ประเทศไทยได้คะแนนรวมไปทั้งหมด 22 คะแนน รั้งอันดับ 120 ซึ่งเป็นอันดับท้ายสุดร่วมกับประเทศเวียดนาม
.
ในการจัดอันดับเมื่อเดือนกรกฎาคม ไทยอยู่อันดับที่ 118 ได้คะแนนรวม 26.0 คะแนน นั่นหมายความว่าในสายตาชาวโลก ประเทศไทยยังมีแนวโน้มจะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียที่สถานการณ์ค่อนข้างรุงแรง แต่ในเดือนนี้กลับได้คะแนนสูงกว่าไทย โดยครองอันดับ 114 ด้วยคะแนน 30.0 คะแนน
.
หากพิจารณาจากเกณฑ์การให้คะแนนที่กล่าวถึงข้างต้น หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากไทยจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับท้ายๆ เพราะไทยยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้นทุกวันโดยไม่มีแนวโน้มจะลดลงอย่างยั่งยืน
.
ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ยังทำได้ไม่ดีนัก โดยขณะนี้มีประชาชนที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เพียง 22.93% ขณะที่เข็มที่ 2 มีเพียง 6.46% เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ครบ 75% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
.
ในส่วนของปัจจัยที่ 3 คือความคล่องตัวในการเดินทาง อย่างที่เห็นว่าประเทศไทยเริ่มมีการปรับเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อจำกัดการเดินทางของผู้คน รวมถึงการเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อที่ไทยทำคะแนนได้ไม่ดีนักในการวัดดัชนีครั้งนี้
.
.
อ้างอิงจาก
https://asia.nikkei.com/.../Japan-slips-to-83rd-in-Nikkei...
https://asia.nikkei.com/.../Nikkei-COVID-19-Recovery-Index
#Brief #TheMATTER
ไทยฟื้นตัวจากโควิด-19 ช้าที่สุด Nikkei จัดอันดับดัชนีการฟื้นตัวจากโควิด-19 ไทยได้อันดับสุดท้ายจาก 120 ประเทศทั่วโลก
BRIEF: ไทยฟื้นตัวจากโควิด-19 ช้าที่สุด Nikkei จัดอันดับดัชนีการฟื้นตัวจากโควิด-19 ไทยได้อันดับสุดท้ายจาก 120 ประเทศทั่วโลก
.
จากประเทศที่ได้รับคำชื่นชมว่าสามารถรับมือกับโรคระบาดได้ดีที่สุด สู่การเป็นอันดับสุดท้ายในดัชนีการจัดอันดับประเทศที่ฟื้นตัวจากโควิด-19 สำนักข่าว Nikkei Asia จัดอันดับประเทศที่สามารถฟื้นตัวจากโควิด-19 ได้ดีที่สุด ปรากฏว่าไทยอยู่อันดับท้ายสุดร่วมกับเวียดนาม ถือเป็นประเทศที่ฟื้นตัวจากโรคระบาดช้าที่สุด
.
Nikkei COVID-19 Recovery Index จากสำนักข่าว Nikkei Asia จัดอันดับประเทศต่างๆ กว่า 120 ประเทศ เพื่อหาว่าประเทศไหนประสบความสำเร็จในการรับมือกับโรคระบาดโควิด-19 โดยปัจจัยที่นำมาประกอบการจัดอันดับก็มี 3 ปัจจัย ได้แก่ วิธีการควบคุมและจัดการกับการติดเชื้อ การฉีดวัคซีน และความคล่องตัวในการเดินทาง
.
ประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆ แสดงให้เห็นว่า ประเทศหรือภูมิภาคนั้นๆ ใกล้ฟื้นตัวจากโควิด-19 แล้วจากจำนวนผู้ติดเชื้อที่น้อยลงเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร อัตราการฉีดวัคซีนที่อยู่ในเกณฑ์ดี และการปรับลดมาตรการควบคุมโควิด-19 ต่างๆ ให้น้อยลง
.
ประเทศที่ได้คำแนนนำมาเป็น 3 อันดับแรกคือ จีน 74.0 คะแนน อันดับที่ 2 คือ นิวซีแลนด์ 69.5 คะแนน และฮังการี 69.00 คะแนน ขณะที่ประเทศไทยได้คะแนนรวมไปทั้งหมด 22 คะแนน รั้งอันดับ 120 ซึ่งเป็นอันดับท้ายสุดร่วมกับประเทศเวียดนาม
.
ในการจัดอันดับเมื่อเดือนกรกฎาคม ไทยอยู่อันดับที่ 118 ได้คะแนนรวม 26.0 คะแนน นั่นหมายความว่าในสายตาชาวโลก ประเทศไทยยังมีแนวโน้มจะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตได้ไม่ดีพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างอินโดนีเซียที่สถานการณ์ค่อนข้างรุงแรง แต่ในเดือนนี้กลับได้คะแนนสูงกว่าไทย โดยครองอันดับ 114 ด้วยคะแนน 30.0 คะแนน
.
หากพิจารณาจากเกณฑ์การให้คะแนนที่กล่าวถึงข้างต้น หลายคนมองว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจหากไทยจะถูกจัดให้อยู่ในอันดับท้ายๆ เพราะไทยยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มมากขึ้นทุกวันโดยไม่มีแนวโน้มจะลดลงอย่างยั่งยืน
.
ขณะที่การฉีดวัคซีนก็ยังทำได้ไม่ดีนัก โดยขณะนี้มีประชาชนที่ได้ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 เพียง 22.93% ขณะที่เข็มที่ 2 มีเพียง 6.46% เท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลเป้าหมายที่จะฉีดวัคซีนให้ครบ 75% เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันหมู่
.
ในส่วนของปัจจัยที่ 3 คือความคล่องตัวในการเดินทาง อย่างที่เห็นว่าประเทศไทยเริ่มมีการปรับเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อจำกัดการเดินทางของผู้คน รวมถึงการเดินทางข้ามจังหวัด ซึ่งน่าจะเป็นอีกหนึ่งข้อที่ไทยทำคะแนนได้ไม่ดีนักในการวัดดัชนีครั้งนี้
.
.
อ้างอิงจาก
https://asia.nikkei.com/.../Japan-slips-to-83rd-in-Nikkei...
https://asia.nikkei.com/.../Nikkei-COVID-19-Recovery-Index
#Brief #TheMATTER