ขออนุญาติแชร์ประสบการณ์พาแฟนไปตรวจหัวใจที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
เนื่องจากแฟนมีอาการเจ็บตรงบริเวณหัวใจเวลาหายใจเข้าออก
เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการ โรงพยาบาลแห่งนี้(ขอไม่เอ่ยชื่อ) ครั้งแรกก็จะมีการลงทะเบียนต่างๆ เช็คประวัติเช็คประกันสุขภาพ
พยาบาลถามกลับว่า เราสะดวกจะพบหมอเลยไหม แฟนตอบได้ (เพราะพยาบาลแจ้งว่านานนึดนึ่งในการตรวจเช๊คประกัน)
พอขึ้นไปชั้นศูนย์หัวใจก็เช็คความดันอะไรเบื้องต้นพบหมอต่างๆ เช๊คคลื่นหัวใจ และมีการตรวจเลือด รอผลคุณหมอแจ้งแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ให้งดออกกำลังกายสักพัก เพราะอาจจะเกิดจากการออกกำลังกายมากเกินไป กล้ามเนื้ออาจจะอักเสบบริเวณที่ใกล้หัวใจ
มาถึงตรวจชำระเงิน เนื่องจากแฟนเรามีประกันที่ไม่มีลิมิตในการรักษา ผู้ป่วยนอก นั่นหมายถึงประกันจ่ายทั้งหมดและเราไม่มีการสำรองจ่าย
แต่แคชแชียร์แจ้งยอดชำระ12,+++และแจ้งว่า คุณต้องจ่ายมัดจำ 5,000 บาท เนื่องจากประกันจ่ายครอบคลุม7500 (ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วก่อนซื้อประกันเราอ่านรายละเอียดมาแล้วไม่มีข้อไหนระบุว่าต้องจ่ายมัดจำ)
และจะมีการตรวจสอบภายหลังว่าวงเงินที่ประกันคุณ ได้เท่าไร (เหมือนประมาณว่าถ้าเช๊คแล้วครอบคลุมทั้งหมดคงคืนให้)
แฟน- ไม่เข้าใจ ในเมื่อตอนที่ด้านล่างเช็คประกันเค้าเช็คและยอมรับประกันยี่ห้อนี้ แต่ไม่เป็นไรรอได้ รอจนกว่าคุณกับประกันจะคุยกันรู้เรื่อง
แคชเชียร์-ใช่ค่ะ แต่เค้าจ่ายครอบคลุม แค่ 7500
แคชเชียร์เลยติดต่อบริษัทประกันอีกรอบ แต่รอบนี้บริษัทประกันขอให้ทางโรงบาลส่งหลักฐานการรักษามาตรวจสอบรายละเอียดการรักษา
ทางแคชเชียร์ส่งไป
แฟนเลยมาอ่านละเอียดต่างๆอยู่ในใบเสร็จที่ได้เช็คหัวใจวันนี้ ซึ่งมันมีอยู่ 2 รายการที่ไม่ได้รับการตรวจเช๊คจริง (อยู่นอกเหนือจากการเช๊คหัวใจของวันนี้)
แฟน-อันนี้คือรายการอะไร
แคชเชียร์-ไม่ทราบค่ะ เดี๋ยวต่อสายพยาบาลให้
แฟนกับพยาบาลได้มีการคุยกันสักพัก ให้พยาบาลอธิบายเป็นข้อๆ ว่ามันคืออะไร
ซึ่งมี 2 ข้อนี้ที่พยาบาลอธิบายไม่ได้ แฟนเลยขอคุยกับคุณหมอ (แต่พยาบาลบอกว่าคุณหมอไม่สะดวกคุยตอนนี้)
รายการทั้ง 2 บวกแล้วยอดประมาณ 4700 บาท
ประมาณ 10 นาทีขณะนั่งรอการตรวจของประกัน มีสายโทรเข้ามาหาแคชเชียร์ พอแคชเชียร์วางสาย
แจ้งแฟนให้เซ็นเอกสารใบนึ่ง ใบยินยอมอะไรสักอย่าง(เป็นภาษาอังกฤษ ) แฟนอ่านแล้ว แจ้งว่าไม่เซ็น
แคชเชียร์เลยเอาใบเสร็จว่างๆในใบเสร็จไม่มีรายละเอียดของการรักษาวันนี้(แปลกมาก) บอกให้แฟนเซ็น แฟนไม่ได้เซ็นและตอบกลับว่าคุณทำแบบนี้ไม่ได้มันผิดกฎหมาย
แคชเชียร์ - โอเคงั้น ขอเบอร์โทร และชื่อ ถ้าหากประกันไม่จ่ายคุณต้องกลับมาจ่ายเองที่โรงพยาบาลน่ะค่ะ (รู้สึกผิดปกติไหมคะปล่อยให้กลับบ้านทั้งๆที่เรายังไม่เซ็นอะไรเลย)
เราและแฟนมองหน้ากัน และให้ชื่อกับเบอร์โทรไป
เลยกลับบ้าน ประมาณ 1 ชมหลัง ทางโรงบาลโทรมาแจ้งว่า ประกันครอบคลุมทั้งหมด โดยที่บิลค่ารักษาอยู่ที่ 8,+++ และให้เรากลับไปเซ็นใบเสร็จอันใหม่
สรุปคือ
ประกันไม่อยากจ่ายเนื่องจากโรงบาล OVER Charge ค่ารักษาเกินจริง(จุดนี้เราเข้าใจประกันเพราะได้คุยกับบริษัทประกันหลังจากกลับมาบ้าน)
แต่หลายๆคนคิดว่าจะสนใจทำไมเพราะยังไงๆ ค่ารักษาเราไม่ได้ออกเอง ประกันเป็นฝ่ายจ่ายให้ทั้งหมด
เราเข้าใจในความคิดนี้ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องเหมือนเรารู้อยู่แล้วว่าเค้ากำลังทำสิ่งปิด แต่เราจะไม่ทำให้มันมันถูกต้องมันก็ยังไงอยู่
เราไม่อยากสนับสนุนหรือเมินเฉยกับเหตุการณ์แบบนี้
ขอบคุณที่อ่านจนจบน่ะค่ะ
โรงพยาบาลเอกชนเดี๋ยวนี้ทำกันแบบนี้แล้วหรอคะ ผิดหวังเล็กๆ
เนื่องจากแฟนมีอาการเจ็บตรงบริเวณหัวใจเวลาหายใจเข้าออก
เป็นครั้งแรกที่ใช้บริการ โรงพยาบาลแห่งนี้(ขอไม่เอ่ยชื่อ) ครั้งแรกก็จะมีการลงทะเบียนต่างๆ เช็คประวัติเช็คประกันสุขภาพ
พยาบาลถามกลับว่า เราสะดวกจะพบหมอเลยไหม แฟนตอบได้ (เพราะพยาบาลแจ้งว่านานนึดนึ่งในการตรวจเช๊คประกัน)
พอขึ้นไปชั้นศูนย์หัวใจก็เช็คความดันอะไรเบื้องต้นพบหมอต่างๆ เช๊คคลื่นหัวใจ และมีการตรวจเลือด รอผลคุณหมอแจ้งแล้วไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ให้งดออกกำลังกายสักพัก เพราะอาจจะเกิดจากการออกกำลังกายมากเกินไป กล้ามเนื้ออาจจะอักเสบบริเวณที่ใกล้หัวใจ
มาถึงตรวจชำระเงิน เนื่องจากแฟนเรามีประกันที่ไม่มีลิมิตในการรักษา ผู้ป่วยนอก นั่นหมายถึงประกันจ่ายทั้งหมดและเราไม่มีการสำรองจ่าย
แต่แคชแชียร์แจ้งยอดชำระ12,+++และแจ้งว่า คุณต้องจ่ายมัดจำ 5,000 บาท เนื่องจากประกันจ่ายครอบคลุม7500 (ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วก่อนซื้อประกันเราอ่านรายละเอียดมาแล้วไม่มีข้อไหนระบุว่าต้องจ่ายมัดจำ)
และจะมีการตรวจสอบภายหลังว่าวงเงินที่ประกันคุณ ได้เท่าไร (เหมือนประมาณว่าถ้าเช๊คแล้วครอบคลุมทั้งหมดคงคืนให้)
แฟน- ไม่เข้าใจ ในเมื่อตอนที่ด้านล่างเช็คประกันเค้าเช็คและยอมรับประกันยี่ห้อนี้ แต่ไม่เป็นไรรอได้ รอจนกว่าคุณกับประกันจะคุยกันรู้เรื่อง
แคชเชียร์-ใช่ค่ะ แต่เค้าจ่ายครอบคลุม แค่ 7500
แคชเชียร์เลยติดต่อบริษัทประกันอีกรอบ แต่รอบนี้บริษัทประกันขอให้ทางโรงบาลส่งหลักฐานการรักษามาตรวจสอบรายละเอียดการรักษา
ทางแคชเชียร์ส่งไป
แฟนเลยมาอ่านละเอียดต่างๆอยู่ในใบเสร็จที่ได้เช็คหัวใจวันนี้ ซึ่งมันมีอยู่ 2 รายการที่ไม่ได้รับการตรวจเช๊คจริง (อยู่นอกเหนือจากการเช๊คหัวใจของวันนี้)
แฟน-อันนี้คือรายการอะไร
แคชเชียร์-ไม่ทราบค่ะ เดี๋ยวต่อสายพยาบาลให้
แฟนกับพยาบาลได้มีการคุยกันสักพัก ให้พยาบาลอธิบายเป็นข้อๆ ว่ามันคืออะไร
ซึ่งมี 2 ข้อนี้ที่พยาบาลอธิบายไม่ได้ แฟนเลยขอคุยกับคุณหมอ (แต่พยาบาลบอกว่าคุณหมอไม่สะดวกคุยตอนนี้)
รายการทั้ง 2 บวกแล้วยอดประมาณ 4700 บาท
ประมาณ 10 นาทีขณะนั่งรอการตรวจของประกัน มีสายโทรเข้ามาหาแคชเชียร์ พอแคชเชียร์วางสาย
แจ้งแฟนให้เซ็นเอกสารใบนึ่ง ใบยินยอมอะไรสักอย่าง(เป็นภาษาอังกฤษ ) แฟนอ่านแล้ว แจ้งว่าไม่เซ็น
แคชเชียร์เลยเอาใบเสร็จว่างๆในใบเสร็จไม่มีรายละเอียดของการรักษาวันนี้(แปลกมาก) บอกให้แฟนเซ็น แฟนไม่ได้เซ็นและตอบกลับว่าคุณทำแบบนี้ไม่ได้มันผิดกฎหมาย
แคชเชียร์ - โอเคงั้น ขอเบอร์โทร และชื่อ ถ้าหากประกันไม่จ่ายคุณต้องกลับมาจ่ายเองที่โรงพยาบาลน่ะค่ะ (รู้สึกผิดปกติไหมคะปล่อยให้กลับบ้านทั้งๆที่เรายังไม่เซ็นอะไรเลย)
เราและแฟนมองหน้ากัน และให้ชื่อกับเบอร์โทรไป
เลยกลับบ้าน ประมาณ 1 ชมหลัง ทางโรงบาลโทรมาแจ้งว่า ประกันครอบคลุมทั้งหมด โดยที่บิลค่ารักษาอยู่ที่ 8,+++ และให้เรากลับไปเซ็นใบเสร็จอันใหม่
สรุปคือ
ประกันไม่อยากจ่ายเนื่องจากโรงบาล OVER Charge ค่ารักษาเกินจริง(จุดนี้เราเข้าใจประกันเพราะได้คุยกับบริษัทประกันหลังจากกลับมาบ้าน)
แต่หลายๆคนคิดว่าจะสนใจทำไมเพราะยังไงๆ ค่ารักษาเราไม่ได้ออกเอง ประกันเป็นฝ่ายจ่ายให้ทั้งหมด
เราเข้าใจในความคิดนี้ แต่เรารู้สึกว่ามันไม่ถูกต้องเหมือนเรารู้อยู่แล้วว่าเค้ากำลังทำสิ่งปิด แต่เราจะไม่ทำให้มันมันถูกต้องมันก็ยังไงอยู่
เราไม่อยากสนับสนุนหรือเมินเฉยกับเหตุการณ์แบบนี้
ขอบคุณที่อ่านจนจบน่ะค่ะ