เพราะถูกกำหนด แทรกแซง มาตั้งแต่แรกแล้ว โดยใครสักคน เพื่อผลประโยชน์บางอย่าง
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่อง เชื้อชาติ หรือ ภูมิอากาศ มีผลต่อการพัฒนา
เคยๆคิดนะ ว่าทำไมประเทศไทยถึงยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่
ประเทศอื่น เค้าไปถึงไหนกันแล้ว ต่อพอมาดูในแผนที่ ก็พบว่า ประเทศที่อยู่ละติจูด ใกล้เคียงกับไทย ก็ไม่มีประเทศไหน เป็นประเทศพัฒนาสักประเทศ หรือ ประเทศใดๆก็ตามที่อยู่ในเขตร้อน มีทรัพยากรธรรมสมบูณร์ก้มักจะ
ถูกกด ให้จนตลอดไป
กรณีตัวอย่าง
ภูมิภาตละตินอเมริกา คือ ตัวอย่างของการถูกกดให้จน โดยประเทศมหาอำนาจ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประเทศใด ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อ ทำให้เป็นแค่สถานที่สำหรับส่งออกวัตถุดิบราคาถูก เช่น ถั่วเหลือง กล้วยหอม แร่ดิบ คือ ประเทศเหล่านี้ไม่เคยที่ได้พัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองได้เลย ซึ่งถ้าใครรู้จักคำว่า banana republic ซึ่งมีความหมายว่า ประเทศที่ส่งออกสินค้าเป็นวัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิด มีการเมืองที่อ่อนแอ เพราะถูกแทรกแซงจากประเทศอื่น ก็มี
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ถ้าไม่นับสิงค์โปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไรให้ใครมาสนใจ ) ก็ถูกกดให้จน โดยประเทศมหาอำนาจ เพื่อเอาทรัพยากร และบีบให้เป็นแค่ประเทศรับจ้างผลิตในปัจจุบัน ไหนจะช่วงสงครามเย็น ที่มีแต่มาก่อสงคราม ประเทศไทยก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือแลกกับ เศษเงินค่าตี karee ของ GI เล็กน้อย โดยที่ไม่ได้พัฒนาอุตสาหกรรมใดๆในระยะยาว เพราะเค้าไม่ต้องการให้เราเป็นแบบนั้น ผิดกับเกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น
จากข้อข้างต้น จะบอกว่าไทย เป็น banana republic ในช่วงนั้นก็ได้ คือ มีสินค้าส่งออกเพียงไม่กี่อย่าง เช่น ไม้สัก ข้าว และถูกอเมริกาแทรกแซงการเมือง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
หรือแม้แต่เวียดนาม ที่หลายคนบอกว่าจะแซงไทย ก็ไม่พ้นที่จะถูกใช้เป็นแค่เพียงประเทศรับจ้างผลิต
ประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ส่วนตัวเชื่อว่า เราถูกประเทศรวยกว่า กดดันไม่ให้พัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง ดูอย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ เขาแทบไม่เคยถ่ายทอดเทคโนโลยีใดๆให้เรา ตลอด 40-50 ปีที่มาใช้เป็นฐานผลิต เพื่อที่จะได้ คอยป้อนทรัพยากรและแรงงานราคาถูกให้แก่ประเทศร่ำรวยเท่านั้น
สรุป : ประเทศมหาอำนาจ ใช้พลังอุตสาหกรรมของตน เข้าไปทำลายเศรษฐกิจในประเทศโลกที่ 3 เพื่อบีบบังคับ ให้พึ่งพาสินค้า และ การลงทุนจาก ตนเพียงเท่านั้น ไม่คิดที่จะให้ยืนด้วยลำแข้งตนเองได้
หรือ กรณีสุดท้าย คือ จีน ถูกกดให้จนเหมือนกัน แต่ติดตรงที่ว่า เขามีประชากรเยอะ อำนาจต่อรองสูง รวมไปถึงใช้วิธีลอกเลียนแบบ ที่ไม่มีประเทศอื่นทำกัน ซึ่งข้อสุดท้าย คือ จุดเปลี่ยนที่ทำให้จีน ขึ้นมาปีกกล้าขาแข็งใส่พวกมหาอำนาจเก่าได้
ทฤษฎีสมคบคิด : โลกนี้ จะมีแค่เพียงยุโรป อเมริกาเหนือ และ เอเชียตะวันออกเท่านั้น ที่จะสามารถเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วได้
ส่วนตัวไม่เชื่อเรื่อง เชื้อชาติ หรือ ภูมิอากาศ มีผลต่อการพัฒนา
เคยๆคิดนะ ว่าทำไมประเทศไทยถึงยังเป็นประเทศกำลังพัฒนาอยู่ ประเทศอื่น เค้าไปถึงไหนกันแล้ว ต่อพอมาดูในแผนที่ ก็พบว่า ประเทศที่อยู่ละติจูด ใกล้เคียงกับไทย ก็ไม่มีประเทศไหน เป็นประเทศพัฒนาสักประเทศ หรือ ประเทศใดๆก็ตามที่อยู่ในเขตร้อน มีทรัพยากรธรรมสมบูณร์ก้มักจะ ถูกกด ให้จนตลอดไป
กรณีตัวอย่าง
ภูมิภาตละตินอเมริกา คือ ตัวอย่างของการถูกกดให้จน โดยประเทศมหาอำนาจ ซึ่งไม่ต้องบอกก็รู้ว่าประเทศใด ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อ ทำให้เป็นแค่สถานที่สำหรับส่งออกวัตถุดิบราคาถูก เช่น ถั่วเหลือง กล้วยหอม แร่ดิบ คือ ประเทศเหล่านี้ไม่เคยที่ได้พัฒนาอุตสาหกรรมของตัวเองได้เลย ซึ่งถ้าใครรู้จักคำว่า banana republic ซึ่งมีความหมายว่า ประเทศที่ส่งออกสินค้าเป็นวัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิด มีการเมืองที่อ่อนแอ เพราะถูกแทรกแซงจากประเทศอื่น ก็มี
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ถ้าไม่นับสิงค์โปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรอะไรให้ใครมาสนใจ ) ก็ถูกกดให้จน โดยประเทศมหาอำนาจ เพื่อเอาทรัพยากร และบีบให้เป็นแค่ประเทศรับจ้างผลิตในปัจจุบัน ไหนจะช่วงสงครามเย็น ที่มีแต่มาก่อสงคราม ประเทศไทยก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือแลกกับ เศษเงินค่าตี karee ของ GI เล็กน้อย โดยที่ไม่ได้พัฒนาอุตสาหกรรมใดๆในระยะยาว เพราะเค้าไม่ต้องการให้เราเป็นแบบนั้น ผิดกับเกาหลีใต้ หรือ ญี่ปุ่น
จากข้อข้างต้น จะบอกว่าไทย เป็น banana republic ในช่วงนั้นก็ได้ คือ มีสินค้าส่งออกเพียงไม่กี่อย่าง เช่น ไม้สัก ข้าว และถูกอเมริกาแทรกแซงการเมือง เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว
หรือแม้แต่เวียดนาม ที่หลายคนบอกว่าจะแซงไทย ก็ไม่พ้นที่จะถูกใช้เป็นแค่เพียงประเทศรับจ้างผลิต
ประเทศกับดักรายได้ปานกลาง ส่วนตัวเชื่อว่า เราถูกประเทศรวยกว่า กดดันไม่ให้พัฒนาเทคโนโลยีของตัวเอง ดูอย่างอุตสาหกรรมรถยนต์ เขาแทบไม่เคยถ่ายทอดเทคโนโลยีใดๆให้เรา ตลอด 40-50 ปีที่มาใช้เป็นฐานผลิต เพื่อที่จะได้ คอยป้อนทรัพยากรและแรงงานราคาถูกให้แก่ประเทศร่ำรวยเท่านั้น
สรุป : ประเทศมหาอำนาจ ใช้พลังอุตสาหกรรมของตน เข้าไปทำลายเศรษฐกิจในประเทศโลกที่ 3 เพื่อบีบบังคับ ให้พึ่งพาสินค้า และ การลงทุนจาก ตนเพียงเท่านั้น ไม่คิดที่จะให้ยืนด้วยลำแข้งตนเองได้
หรือ กรณีสุดท้าย คือ จีน ถูกกดให้จนเหมือนกัน แต่ติดตรงที่ว่า เขามีประชากรเยอะ อำนาจต่อรองสูง รวมไปถึงใช้วิธีลอกเลียนแบบ ที่ไม่มีประเทศอื่นทำกัน ซึ่งข้อสุดท้าย คือ จุดเปลี่ยนที่ทำให้จีน ขึ้นมาปีกกล้าขาแข็งใส่พวกมหาอำนาจเก่าได้