เราอ่านมาหลายกระทู้ เรื่องทำนองว่า มีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ไม่ว่าผญหรือผช ต้องเป็นภาระกับอีกฝ่ายให้อึดอัดใจ
เรื่องก็จะคล้ายๆกัน เริ่มจากรักกัน อยู่ด้วยกัน ช่วงแรกทำงานทั้งคู่ แล้วจะมีฝ่ายหนึ่งลาออก หรือตกงาน ทำให้อีกฝ่ายต้องซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไม่ว่าค่าที่พัก ผ่อนรถ อาหาร ของใช้ บางรายหนักถึงต้องส่งเงินให้ทางบ้านของอีกฝ่ายด้วย ซึ่งการที่ต้องซัพพอร์ท เราก็เข้าใจนะคะ ว่ายามทุกข์ยามยาก ก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งไป
แต่ทำไมเวลานานเข้า ฝ่ายที่ตกงานกลับรู้สึกชิล ไม่รีบหางานใหม่ เล่นเกมส์ ไปหาเพื่อน หนักสุดยังเรียกร้องอยากได้โน้นนี่ อยากกินของแพงๆ พออีกฝ่ายถามถึงการหางานทำ ก็หงุดหงิดใส่ บอกว่าอย่ามากดดันได้ไหม จนต้องทะเลาะกัน
โดยจากที่อ่าน นิสัยของฝ่ายที่ตกงานจะดีหมดทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องทำมาหากิน ทำให้ทิ้งกันไม่ลง แต่ก็อึดอัดใจจนต้องมาตั้งกระทู้ระบาย หรือถามว่าควรจะไปต่อไหม
เราเลยสงสัยว่า ทำไมเนอะ คนเราถึงไม่เจอคนแบบเดียวกันในเรื่องการทำมาหากินไปเลย
คนที่แอคทีฟ ทนกับแรงกดดันในที่ทำงานได้ ทำไมไม่เจอคนแบบเดียวกัน จะได้ช่วยกันสร้างอนาคต วันที่ท้อๆ จะได้ปลอบใจกัน เพื่อตื่นมาสู้ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนคนสายชิลๆ ก็เจอแบบเดียวกัน นิดหน่อยลำบากน้อยใจลาออก เวลาแฟนกลับมาปรึกษาว่า วันนี้โดนหัวหน้าตำหนิ อีกฝ่ายจะได้หนุนไปเลยว่า ลาออกดิ รอไร พ่อแม่ยังไม่เคยด่าเราเลยนะ ออกมาพักกายพักใจกันที่ห้องซักพักค่อยว่ากัน
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็คงจะดีมาก ไม่ต้องมาหนักใจ เพราะเตือนก็ทะเลาะกัน ให้อุ้มไปตลอดก็มองไม่เห็นอนาคต จะทิ้งก็เสียดายเวลา
ทำไมคนเราไม่เจอคนที่เหมือนกันไปเลยนะ
เรื่องก็จะคล้ายๆกัน เริ่มจากรักกัน อยู่ด้วยกัน ช่วงแรกทำงานทั้งคู่ แล้วจะมีฝ่ายหนึ่งลาออก หรือตกงาน ทำให้อีกฝ่ายต้องซัพพอร์ทค่าใช้จ่ายทุกอย่าง ไม่ว่าค่าที่พัก ผ่อนรถ อาหาร ของใช้ บางรายหนักถึงต้องส่งเงินให้ทางบ้านของอีกฝ่ายด้วย ซึ่งการที่ต้องซัพพอร์ท เราก็เข้าใจนะคะ ว่ายามทุกข์ยามยาก ก็ต้องช่วยเหลือกัน ไม่ทิ้งไป
แต่ทำไมเวลานานเข้า ฝ่ายที่ตกงานกลับรู้สึกชิล ไม่รีบหางานใหม่ เล่นเกมส์ ไปหาเพื่อน หนักสุดยังเรียกร้องอยากได้โน้นนี่ อยากกินของแพงๆ พออีกฝ่ายถามถึงการหางานทำ ก็หงุดหงิดใส่ บอกว่าอย่ามากดดันได้ไหม จนต้องทะเลาะกัน
โดยจากที่อ่าน นิสัยของฝ่ายที่ตกงานจะดีหมดทุกอย่าง ยกเว้นเรื่องทำมาหากิน ทำให้ทิ้งกันไม่ลง แต่ก็อึดอัดใจจนต้องมาตั้งกระทู้ระบาย หรือถามว่าควรจะไปต่อไหม
เราเลยสงสัยว่า ทำไมเนอะ คนเราถึงไม่เจอคนแบบเดียวกันในเรื่องการทำมาหากินไปเลย
คนที่แอคทีฟ ทนกับแรงกดดันในที่ทำงานได้ ทำไมไม่เจอคนแบบเดียวกัน จะได้ช่วยกันสร้างอนาคต วันที่ท้อๆ จะได้ปลอบใจกัน เพื่อตื่นมาสู้ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนคนสายชิลๆ ก็เจอแบบเดียวกัน นิดหน่อยลำบากน้อยใจลาออก เวลาแฟนกลับมาปรึกษาว่า วันนี้โดนหัวหน้าตำหนิ อีกฝ่ายจะได้หนุนไปเลยว่า ลาออกดิ รอไร พ่อแม่ยังไม่เคยด่าเราเลยนะ ออกมาพักกายพักใจกันที่ห้องซักพักค่อยว่ากัน
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็คงจะดีมาก ไม่ต้องมาหนักใจ เพราะเตือนก็ทะเลาะกัน ให้อุ้มไปตลอดก็มองไม่เห็นอนาคต จะทิ้งก็เสียดายเวลา