.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังจากวันหยุดยาวเข้าพรรษาผ่านไป ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติ น้องบีมร้องอยากได้จักรยานเหมือนเพื่อนกับยาย ส่วนยายก็ปฏิเสธทุกที ปัดความรับผิดชอบให้แม่เสมอเวลาน้องบีมงอแง
ยายบอกให้ไปขอเงินกับแม่ ถ้าขอได้เดี๋ยวพาไปซื้อเอง เวลาแม่โทรหาในช่วงตอนค่ำน้องบีมมักมารอคุยด้วยเสมอ และ งอแงอยากได้จักรยานทุกวัน ปกติเคยมารอแบบนี้ที่ไหน บางวันเรียกมาคุยก็ไม่คุยด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้มีของที่อยากได้ วันไหนแม่ไม่โทรหาก็ให้เธอโทรไปหาแม่ให้เอง
แม่บอกว่ารอปีใหม่ก่อน แม่กลับบ้านปีใหม่ซื้อให้แน่นอน น้องสาวของเธอก็ไม่ยอม อ้างว่าถ้าซื้อให้ตอนนี้กว่าจะปีใหม่ก็ปั่นจักรยานเป็นพอดี ถ้าซื้อตอนปีใหม่แล้วจะปั่นเป็นตอนไหน ตัวปัญหาของเรื่องคือ น้องแจนเพื่อนน้องบีมได้จักรยานคันใหม่ เจ้าตัวจึงอยากได้เหมือนเพื่อนบ้าง
เที่ยวพูดอยู่นั่นแหละเวลานึกขึ้นได้ แต่พอเล่นเพลินลืม พอนึกได้ก็ร้องงอแงอยู่ร่ำไป ยายหลอกล่ออย่างไรก็ไม่เป็นผล ในที่สุดตาก็ยอมควักเงินเก็บของตนเอง ที่ได้จากการแห่กลองยาวซื้อให้ เพราะน้องบีมพูดไม่หยุดปากสักที อีกอย่างเพราะเป็นหลานคนเล็กสุดตาค่อนข้างตามใจ บอสสังเกตมาเป็นปี ๆ แล้ว สำหรับน้องบีมกับตา หลานคนอื่น ๆ อย่าได้หวังเงินจากตาเลย
สุดท้ายตาควักเงินให้ยายหนึ่งพันบาท พาน้องบีมไปซื้อจักรยาน ที่เหลือขาดเท่าไหร่ให้ยายออกเอง น้องบีมดีใจจนเนื้อเต้น รวมทั้งพวกเธอด้วยที่อิจฉาน้องบีมมาก อิจฉาเล่น ๆ ที่โดนตาตามใจ ยายเองก็บ่นที่ได้ควักเงินของตนเช่นกัน
วันเสาร์ยายพาน้องบีมนั่งสามล้อเครื่องเข้าไปในตัวเมือง เพื่อไปซื้อจักรยาน ไปกันสองคนยายหลาน พวกเธอรออยู่ที่บ้านขี้เกียจตามไปด้วย สักพักก็กลับมาถึงบ้านพร้อมจักรยานสีแดง คันขนาดพอเหมาะกับน้องบีมนั่นแหละ มีล้อเสริมด้วย น้องบีมเองก็ยังปั่นจักรยานไม่เป็น จึงต้องพึ่งล้อเสริมไปก่อน
น้องบีมลงจากรถเดินกลับบ้านด้วยความร่าเริงมาก ได้ยินเสียงหัวเราะมาแต่ไกล ๆ เข็นจักรยานเดินมาที่บ้านคนเดียว ส่วนยายนั่งเล่นที่ร้านค้าของป้า “พี่ปาว พี่บอส ฮา น้องบีมมาแล้ว” กู่ร้องมาตามทาง
“บู้ย ! พอใจหลายคักได้จักรยานใหม่ ฮา “ พี่แป้งแซวน้องสาวของเธอ สองฝาแฝดเธอและพี่แป้งนั่งเล่นที่รถควายเหล็กของลุง นั่งฟังวิทยุที่ใต้ต้นมะยม ระหว่างนั้นน้องบีมก็กำลังเข็นจักรยานคันสีแดงเดินมาหาพวกเธอ
“ยายล่ะบีม คันละเท่าไหร่น่ะ” บอสถาม เห็นน้องสาวเดินมาคนเดียว ก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้นแหละ ถ้ายายไม่ลงบ้านยายอ้วนก็คงอยู่ที่ร้านค้าบ้านของป้านั่นแหละ
“ยายอยู่บ้านป้าสุ่ม คันละห้าร้อย” น้องบีมตอบ เดินมาหยุดยืนกับพวกเธอเพื่ออวดจักรยาน
“คันละห้าร้อยหยังมาสิถืกแถะ ป๊าดคือได้จักรยานคันงามแถะวะ พี่แป้งขี่นำเด้อ” พี่แป้งพูดกลั้วยิ้มให้น้องบีม เจ้าตัวยักคิ้วให้ น้องบีมเป็นคนไม่ค่อยหวงของเท่าไหร่ “มาพี่ช่วยแกะพลาสติกให้ ปั่นดูซิปั่นเป็นเปล่า” พี่แป้งพูดเอาใจอย่างตลก
พี่แป้งกับแพรวช่วยกันแกะพลาสติกใสที่เป็นปุ่ม ๆ ออกจากจักรยานช่วยน้องบีม บอสปรายตามองและยิ้มให้ด้วยความหมั่นไส้นัก
“แกะพลาสติกออกหมดแล้ว ไหนลองปั่นให้ดูหน่อย ปั่นให้เบิ่งแน่บาดหนิ” แพรวพูดกับน้องบีม พร้อมนำพลาสติกมาบีบเล่น เสียงดังเปราะแปะสนุกและมันส์มือดี บอสบิดพรวดเดียวพลาสติกแตกรัว ๆ ยิ่งสะใจ พิมพ์ปรายตามองเผยยิ้มที่มุมปาก บอสเข้าใจสายตานั้นและหัวเราะให้พิมพ์
“อี่บอสกูว่าแมนเด็กน้อย เล่นปานเด็กน้อย ฮา “ พิมพ์ล้อ เมื่อเห็นเธอบิดถุงพลาสติกที่ห่อจักรยานมานั่นแหละ
“มวนดีเด้มืง เฮ็ดลองเบิ่ง อ่ะ” บอสพูดปนหัวเราะ พร้อมยื่นอันที่เหลือให้พี่สาว พิมพ์เผยยิ้มส่ายหน้าไม่เล่นด้วย ส่วนน้องบีมพอแกะพลาสติกออกหมดก็จัดการปั่นจักรยานโชว์ด้วยความเห่อ พวกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ดูท่าทางวันนี้คงจะทั้งวันแน่นอน กับการปั่นจักรยานของน้องบีม
ตอนเย็นหลังทานข้าวมื้อเย็นเสร็จ น้องบีมก็มิวายเอาจักรยานมาปั่นในบ้านด้วย ปั่นวนไปวนมาในบ้านก็ไม่มีใครว่าอะไร ตานั่งสานแหที่มุมเสาของบ้าน น้องบีมเที่ยวปั่นวนอยู่นั่นแหละ ตาก็ไม่ว่า ยายนั่งสานสวิงอยู่ใกล้ ๆ กับตา ช่วงนี้ฤดูฝนต้องเตรียมอุปกรณ์หาปลาสักหน่อย ส่วนพวกเธอแยกย้ายกันคนละมุม
“บีม ปั่นแบบนี้มันจะเป็นได้ยังไง เอาล้อเสริมออกตั้ว” พี่บอลแซวน้องบีม หลังนั่งมองน้องสาวของเธอปั่นจักรยานเล่นรอบเสาอยู่นาน ส่วนเธอนั่งสานสวิงให้ยายอีกอัน ก้ม ๆ เงย ๆ จนปวดคอหมด ยายก็เที่ยวหันมามองแล้วก็หัวเราะ ที่เธอจะก้มอะไรนักหนา
“เอาออกมันจะล้มมั้ยพี่บอล” น้องบีมถาม ปั่นจักรยานมาจอดต่อหน้าพี่ชายคนรอง พี่ปาวกับพี่แป้งขึ้นไปบนบ้านแล้ว พี่บอมอีกคนช่วงนี้ติดผู้หญิงหนัก คุยโทรศัพท์ทุกวันเลย ไม่ค่อยจะว่างสักเท่าไหร่
“ล้ม ! บ่ล้มมันสิเป็นบ่ บีมถ้าบีมล้มถึงสิบเทือนะน้องบีมสิเป็นจักรยานเลย” พี่บอลพูด เม้มปากกลั้นหัวเราะเอาไว้ สองพี่น้องคุยกันจริงจังเหลือเกิน บอสนั่งฟังแอบหัวเราะตาม
“ต้องล้มสิบเทือเลยบ่พี่บอล” น้องบีมถามด้วยท่าทางจริงจัง เชื่อกับสิ่งที่พี่บอลบอก
“แมน ! น้องบีมต้องล้มสิบเทือ อ้ายแฮงล้มยี่สิบเทือพุ่นจังเป็น” พี่บอลพูดพร้อมปรายตามามองและหัวเราะกับเธอ พวกเธอสองคนหัวเราะให้กัน “มานี่สิยกล้อเสริมขึ้นให้”
“พี่บอล ขั้นน้องบีมล้มจักแปดเทือเก้าเทือ มันสิเป็นจักรยานบ่” น้องบีมถาม ยายที่นั่งสานสวิงไปพร้อมฟังพวกเธอคุยกัน ก็หัวเราะลั่นบ้านกันเลย รวมทั้งพวกเธอสองคนด้วย ส่วนตาควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีมาก ไม่ขำด้วยเลย มีเพียงปรายตามองพวกเธอคุยกันเฉย ๆ
“โอ้ยลูกผีบ้า เขาตั๋วซึ ๆ กะบ่จัก” ยายพูดกลั้วหัวเราะ น้องบีมหันไปหัวเราะกับยาย ตนเองก็ยังนั่งบนรถจักรยานอยู่ ขณะนี้กำลังจอดคุยกับพี่บอลยังไม่ขับไปไหนเลย
“บ่แมน ! อย่าไปเชื่ออี่ยาย เชื่ออ้ายหนิ อ้ายบ่ได้ตั๋ว กะได้เก้าเทือกะได้อนุโลม ตะแปดเทือบ่ได้ “ พี่บอลยังหลอกน้องบีมต่อ “ตะว่าน้องบีมห้ามทำท่าล้มลา ให้มันล้มเอง ปั่นไปแล้วล้มเองจังสิแหมะ ขั้นเฮาทำท่าล้มมันกะบ่เป็นคือเก่า” พี่บอลพูดเป็นจริงเป็นจัง ส่วนเธอก็เอาแต่หัวเราะพี่ชายกับน้องสาวคุยกัน
“อิหลิบ่ !” หันกลับมาคุยกับพี่บอลอีก
“แมน ! ยามล้มกะนับเทือนำ คืนนี้ปั่นสี่ล้อไปก่อน มื้ออื่นอ้ายพาไปหัดจักรยาน” แล้วน้องบีมก็ถีบจักรยานปั่นรอบเสาบ้านต่อ แม้จะเสียงดังเพราะล้อเสริมกระทบกับปูนก็ไม่รำคาญ ตากับยายก็ปล่อยให้น้องบีมปั่นไปจนกว่าจะเหนื่อย เจ้าตัวไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยเลย ไม่รู้จะเห่อไปไหน
……………………………………
เช้าวันอาทิตย์พวกเธอหกคนพี่น้องรวมตัวกันอยู่บ้านครบ พี่สาวทั้งสองก็ไม่ได้ไปที่บ้านของตนเอง อยู่บ้านครบกันหมด น้องบีมนำรถจักรยานสีแดงคู่ใจออกมาปั่นที่หน้าบ้านแต่เช้า ปั่นวนเล่นเป็นวงกลมอยู่คนเดียว มีปั่นไปบ้านเพื่อนด้วยที่อยู่ในซอยเดียวกัน
“อี่บีมบ่ค่อยจะเห่อจักรยานเลยวะ ฮา พุ่นมันปั่นไปเฮือนน้องแจนล่ะ” บอสแซวน้องสาวเมื่อเห็นน้องบีมปั่นจักรยานไปหาเพื่อน “มื้อคืนอยากหัวอ้ายบอลตั๋วมัน อี่ยายหัวกะบ่คืน” บอสเล่าเรื่องของเมื่อคืนให้พี่ปาวกับพี่แป้งฟัง เพราะสองคนนั้นขึ้นไปบนบ้านแต่หัวค่ำย
ถนนในซอยบ้านของเธอเป็นถนนซีเมนต์ เหมาะในการปั่นจักรยานของน้องบีมมาก สักพักน้องบีมก็ปั่นกลับมา “บีม ! มา ๆ สิหมุนล้อเสริมออกให้ มานี่อ้ายสิหัดจักรยานให้” พี่บอลยืนเท้าสะเอวเรียกน้องบีมให้ปั่นกลับมาบ้านเร็ว ๆ ไม่ลืมสิ่งที่พูดเอาไว้เมื่อคืน
“เบิ่งแอวมัน ง็อกแง๊ก ๆ อยู่ ปั่นแอวตรง ๆ บ่ได้ติบีม ฮา “ พูดล้อท่าทางการปั่นจักรยานของน้องสาว บอสก็จะเอาด้วยคน จะดูพี่บอลสอนน้องบีมปั่นจักรยาน ทันใดนั้นน้องบีมก็ปั่นกลับมาถึงบ้าน
“พร้อมยัง ! อ้ายจะหมุนล้อเสริมออก หัดจักรยานบ่ ถ้าบ่หัดกะบ่ต้องเอาออกกะได้” พี่บอลเดินไปหาน้องบีมด้วยความเอ็นดู สองคนละมุนกันเชียว ทีกับน้องคนอื่น ๆ นะ ค่อนขอดให้กับท่าทางของทั้งสองคน พร้อมปรายตามองพี่ชายกับน้องสาวคุยกัน
“พร้อม ! หัดก็หัด ล้มสิบครั้งใช่มั้ย” พอน้องบีมพูดจบพวกเธอก็พากันหัวเราะลั่นบ้านกันเลย
“บักบอลหาตั๋วน้องล้มเจ็บโตเด้อมืง” พี่ปาวเอ็ด ไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่
“เอ๋า ! ล่ะมันสิเป็นจักเทือติ หัดจักรยานไผบ่ล้มกุถามแน่ บีมถ้าล้มห้ามไห้ลา ถ้าไห้แม้แต่แอะเดียว อ้ายเซาหัดให้เลย” พี่บอลกำชับ น้องบีมเงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ บอสก็คอยดูว่าน้องสาวจะตอบว่าอย่างไร
“ถ้าเจ็บคักน้องบีมไห้ได้บ่ฮั่นพี่บอล” ตอบหน้ามุ่ยนิดหน่อย เหมือนระแวงอะไรสักอย่าง
“บ่ล่ะน้อ ขั้นอยากเป็นจักรยานห้ามไห้ เจ็บกะห้ามไห้ หัวเข่าแตกเลือดออกกะห้ามไห้ หัดบ่ !” พี่บอลเม้มปากยิ้ม ถามคำถามเด็ดขาด น้องบีมเงียบไปอีก พวกเธอหันหน้ามายิ้มให้กัน “หัดฮือบ่หัดเอาดี ๆ เบิ่งน้องแจนกับน้องเก๋เป็นจักรยานล่ะเด้ จะของยังปั่นคาล้อเสริมอยู่ ไปไสกะปั่นบ่ทันเขา ปั่นไปโรงเรียนกะบ่ได้” พี่บอลทำเป็นพูดให้น้องบีมคิดตาม ปรายตามองและอมยิ้มให้ ส่วนเจ้าตัวดูท่าทางจะคิดหนักพอสมควร
“กะได้ ! “ น้องบีมตอบ
“ตกลงแล้วลา เอารถมาอ้ายสิขันล้อเสริมออก” พูดจบพี่บอลก็เดินไปเข็นจักรยานของน้องบีมเข้ามาในบ้าน จัดการหากุญแจขันน็อตเอาล้อเสริมออก พอเหลือสองล้อใหญ่แล้วเข็นกลับมาให้น้องบีม “เนี่ยหัดแต่อยู่ซอยเฮือนเฮานี่ล่ะ ไปฮอดเฮือนพ่อจารย์ป้อดกะเป็นแล้ว มาเริ่ม !”
พี่บอลเข็นจักรยานออกมาให้น้องบีม เธอกับพี่แป้งก็เอาด้วยคน เดินตามพี่ชายกับน้องสาวออกไปยังถนนซอยเข้าบ้านนี่แหละ พี่บอลจับจักรยานไว้ให้น้องบีมขึ้นนั่งทำท่าเตรียมพร้อม
“บีมตามองตรง จับข้อแข็ง ๆ จับแฮนด์รถแข็ง ๆ แอวตรง ๆ อย่าบิดไปบิดมา เคบ่ !” โค้ชจำเป็นกำชับ น้องบีมพยักหน้าเข้าใจ บอสกับพี่แป้งก็คอยลุ้นไปด้วย “รอบแรกอ้ายสิจับให้ปั่นก่อน” พูดจบพี่บอลก็เข็นน้องบีมไปตามถนน น้องบีมปั่นจักรยานเอวบิดไปบิดมาตลอด บอสกับพี่แป้งก็ตามไปหัวเราะ ระหว่างนั้นพี่บอลกับน้องบีมก็ดุกันไปตามทาง
พี่บอลเข็นน้องบีมปั่นอยู่สองสามรอบให้ชินก่อน จากนั้นก็เลิกเข็นให้แล้ว ให้น้องบีมปั่นเอง “บีมรอบหนิเอาดี ๆ ลา ตามองถนน มือจับแฮนด์แข็ง ๆ อ้ายสิปล่อยมือแล้วลาบาดหนิ” พี่บอลกำชับ
“ปล่อยเลยน้องบีมบ่ย่าน” น้องบีมตอบ จากนั้นพี่บอลก็เข็นน้องบีมไป ผลักรถจักรยานไปแรง ๆ แล้วปล่อยมือ น้องบีมปั่นจักรยานไปตามแรงผลักของพี่บอล เอวก็บิดไปบิดมา มือก็บิดคอจักรยานไปมาเหมือนกัน
“บีมเฮ็ดมือตรง ๆ ปั่นไปเลย แอวตรง ๆ ปั่นไป ๆ “ น้องแจนออกมาตะโกนเอาใจช่วยน้องบีมด้วยคน บ้านอยู่ในซอยเดียวกันกับพวกเธอเอง พี่แป้งกับเธอยืนหัวเราะเอาใจช่วยน้องบีมคอยลุ้นไปด้วย และ วิ่งตามไปด้วย
เมื่อพี่บอลปล่อยมือ ผลักจักรยานของน้องบีมให้วิ่งไป น้องบีมก็ปั่น ๆ มือก็บิดซ้ายบิดขวาสุดท้ายก็ล้มลงข้างทางจนได้ พี่บอลและพวกเธอต่างหัวเราะด้วยความเป็นห่วง พร้อมวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ
คิดถึง 2 บทที่ 67
.
ไดอารี่ความคิดถึง
หลังจากวันหยุดยาวเข้าพรรษาผ่านไป ทุกคนกลับมาใช้ชีวิตปกติ น้องบีมร้องอยากได้จักรยานเหมือนเพื่อนกับยาย ส่วนยายก็ปฏิเสธทุกที ปัดความรับผิดชอบให้แม่เสมอเวลาน้องบีมงอแง
ยายบอกให้ไปขอเงินกับแม่ ถ้าขอได้เดี๋ยวพาไปซื้อเอง เวลาแม่โทรหาในช่วงตอนค่ำน้องบีมมักมารอคุยด้วยเสมอ และ งอแงอยากได้จักรยานทุกวัน ปกติเคยมารอแบบนี้ที่ไหน บางวันเรียกมาคุยก็ไม่คุยด้วยซ้ำ ทว่าตอนนี้มีของที่อยากได้ วันไหนแม่ไม่โทรหาก็ให้เธอโทรไปหาแม่ให้เอง
แม่บอกว่ารอปีใหม่ก่อน แม่กลับบ้านปีใหม่ซื้อให้แน่นอน น้องสาวของเธอก็ไม่ยอม อ้างว่าถ้าซื้อให้ตอนนี้กว่าจะปีใหม่ก็ปั่นจักรยานเป็นพอดี ถ้าซื้อตอนปีใหม่แล้วจะปั่นเป็นตอนไหน ตัวปัญหาของเรื่องคือ น้องแจนเพื่อนน้องบีมได้จักรยานคันใหม่ เจ้าตัวจึงอยากได้เหมือนเพื่อนบ้าง
เที่ยวพูดอยู่นั่นแหละเวลานึกขึ้นได้ แต่พอเล่นเพลินลืม พอนึกได้ก็ร้องงอแงอยู่ร่ำไป ยายหลอกล่ออย่างไรก็ไม่เป็นผล ในที่สุดตาก็ยอมควักเงินเก็บของตนเอง ที่ได้จากการแห่กลองยาวซื้อให้ เพราะน้องบีมพูดไม่หยุดปากสักที อีกอย่างเพราะเป็นหลานคนเล็กสุดตาค่อนข้างตามใจ บอสสังเกตมาเป็นปี ๆ แล้ว สำหรับน้องบีมกับตา หลานคนอื่น ๆ อย่าได้หวังเงินจากตาเลย
สุดท้ายตาควักเงินให้ยายหนึ่งพันบาท พาน้องบีมไปซื้อจักรยาน ที่เหลือขาดเท่าไหร่ให้ยายออกเอง น้องบีมดีใจจนเนื้อเต้น รวมทั้งพวกเธอด้วยที่อิจฉาน้องบีมมาก อิจฉาเล่น ๆ ที่โดนตาตามใจ ยายเองก็บ่นที่ได้ควักเงินของตนเช่นกัน
วันเสาร์ยายพาน้องบีมนั่งสามล้อเครื่องเข้าไปในตัวเมือง เพื่อไปซื้อจักรยาน ไปกันสองคนยายหลาน พวกเธอรออยู่ที่บ้านขี้เกียจตามไปด้วย สักพักก็กลับมาถึงบ้านพร้อมจักรยานสีแดง คันขนาดพอเหมาะกับน้องบีมนั่นแหละ มีล้อเสริมด้วย น้องบีมเองก็ยังปั่นจักรยานไม่เป็น จึงต้องพึ่งล้อเสริมไปก่อน
น้องบีมลงจากรถเดินกลับบ้านด้วยความร่าเริงมาก ได้ยินเสียงหัวเราะมาแต่ไกล ๆ เข็นจักรยานเดินมาที่บ้านคนเดียว ส่วนยายนั่งเล่นที่ร้านค้าของป้า “พี่ปาว พี่บอส ฮา น้องบีมมาแล้ว” กู่ร้องมาตามทาง
“บู้ย ! พอใจหลายคักได้จักรยานใหม่ ฮา “ พี่แป้งแซวน้องสาวของเธอ สองฝาแฝดเธอและพี่แป้งนั่งเล่นที่รถควายเหล็กของลุง นั่งฟังวิทยุที่ใต้ต้นมะยม ระหว่างนั้นน้องบีมก็กำลังเข็นจักรยานคันสีแดงเดินมาหาพวกเธอ
“ยายล่ะบีม คันละเท่าไหร่น่ะ” บอสถาม เห็นน้องสาวเดินมาคนเดียว ก็แค่ถามเฉย ๆ เท่านั้นแหละ ถ้ายายไม่ลงบ้านยายอ้วนก็คงอยู่ที่ร้านค้าบ้านของป้านั่นแหละ
“ยายอยู่บ้านป้าสุ่ม คันละห้าร้อย” น้องบีมตอบ เดินมาหยุดยืนกับพวกเธอเพื่ออวดจักรยาน
“คันละห้าร้อยหยังมาสิถืกแถะ ป๊าดคือได้จักรยานคันงามแถะวะ พี่แป้งขี่นำเด้อ” พี่แป้งพูดกลั้วยิ้มให้น้องบีม เจ้าตัวยักคิ้วให้ น้องบีมเป็นคนไม่ค่อยหวงของเท่าไหร่ “มาพี่ช่วยแกะพลาสติกให้ ปั่นดูซิปั่นเป็นเปล่า” พี่แป้งพูดเอาใจอย่างตลก
พี่แป้งกับแพรวช่วยกันแกะพลาสติกใสที่เป็นปุ่ม ๆ ออกจากจักรยานช่วยน้องบีม บอสปรายตามองและยิ้มให้ด้วยความหมั่นไส้นัก
“แกะพลาสติกออกหมดแล้ว ไหนลองปั่นให้ดูหน่อย ปั่นให้เบิ่งแน่บาดหนิ” แพรวพูดกับน้องบีม พร้อมนำพลาสติกมาบีบเล่น เสียงดังเปราะแปะสนุกและมันส์มือดี บอสบิดพรวดเดียวพลาสติกแตกรัว ๆ ยิ่งสะใจ พิมพ์ปรายตามองเผยยิ้มที่มุมปาก บอสเข้าใจสายตานั้นและหัวเราะให้พิมพ์
“อี่บอสกูว่าแมนเด็กน้อย เล่นปานเด็กน้อย ฮา “ พิมพ์ล้อ เมื่อเห็นเธอบิดถุงพลาสติกที่ห่อจักรยานมานั่นแหละ
“มวนดีเด้มืง เฮ็ดลองเบิ่ง อ่ะ” บอสพูดปนหัวเราะ พร้อมยื่นอันที่เหลือให้พี่สาว พิมพ์เผยยิ้มส่ายหน้าไม่เล่นด้วย ส่วนน้องบีมพอแกะพลาสติกออกหมดก็จัดการปั่นจักรยานโชว์ด้วยความเห่อ พวกเธอก็ไม่ได้ว่าอะไร ดูท่าทางวันนี้คงจะทั้งวันแน่นอน กับการปั่นจักรยานของน้องบีม
ตอนเย็นหลังทานข้าวมื้อเย็นเสร็จ น้องบีมก็มิวายเอาจักรยานมาปั่นในบ้านด้วย ปั่นวนไปวนมาในบ้านก็ไม่มีใครว่าอะไร ตานั่งสานแหที่มุมเสาของบ้าน น้องบีมเที่ยวปั่นวนอยู่นั่นแหละ ตาก็ไม่ว่า ยายนั่งสานสวิงอยู่ใกล้ ๆ กับตา ช่วงนี้ฤดูฝนต้องเตรียมอุปกรณ์หาปลาสักหน่อย ส่วนพวกเธอแยกย้ายกันคนละมุม
“บีม ปั่นแบบนี้มันจะเป็นได้ยังไง เอาล้อเสริมออกตั้ว” พี่บอลแซวน้องบีม หลังนั่งมองน้องสาวของเธอปั่นจักรยานเล่นรอบเสาอยู่นาน ส่วนเธอนั่งสานสวิงให้ยายอีกอัน ก้ม ๆ เงย ๆ จนปวดคอหมด ยายก็เที่ยวหันมามองแล้วก็หัวเราะ ที่เธอจะก้มอะไรนักหนา
“เอาออกมันจะล้มมั้ยพี่บอล” น้องบีมถาม ปั่นจักรยานมาจอดต่อหน้าพี่ชายคนรอง พี่ปาวกับพี่แป้งขึ้นไปบนบ้านแล้ว พี่บอมอีกคนช่วงนี้ติดผู้หญิงหนัก คุยโทรศัพท์ทุกวันเลย ไม่ค่อยจะว่างสักเท่าไหร่
“ล้ม ! บ่ล้มมันสิเป็นบ่ บีมถ้าบีมล้มถึงสิบเทือนะน้องบีมสิเป็นจักรยานเลย” พี่บอลพูด เม้มปากกลั้นหัวเราะเอาไว้ สองพี่น้องคุยกันจริงจังเหลือเกิน บอสนั่งฟังแอบหัวเราะตาม
“ต้องล้มสิบเทือเลยบ่พี่บอล” น้องบีมถามด้วยท่าทางจริงจัง เชื่อกับสิ่งที่พี่บอลบอก
“แมน ! น้องบีมต้องล้มสิบเทือ อ้ายแฮงล้มยี่สิบเทือพุ่นจังเป็น” พี่บอลพูดพร้อมปรายตามามองและหัวเราะกับเธอ พวกเธอสองคนหัวเราะให้กัน “มานี่สิยกล้อเสริมขึ้นให้”
“พี่บอล ขั้นน้องบีมล้มจักแปดเทือเก้าเทือ มันสิเป็นจักรยานบ่” น้องบีมถาม ยายที่นั่งสานสวิงไปพร้อมฟังพวกเธอคุยกัน ก็หัวเราะลั่นบ้านกันเลย รวมทั้งพวกเธอสองคนด้วย ส่วนตาควบคุมอารมณ์ตนเองได้ดีมาก ไม่ขำด้วยเลย มีเพียงปรายตามองพวกเธอคุยกันเฉย ๆ
“โอ้ยลูกผีบ้า เขาตั๋วซึ ๆ กะบ่จัก” ยายพูดกลั้วหัวเราะ น้องบีมหันไปหัวเราะกับยาย ตนเองก็ยังนั่งบนรถจักรยานอยู่ ขณะนี้กำลังจอดคุยกับพี่บอลยังไม่ขับไปไหนเลย
“บ่แมน ! อย่าไปเชื่ออี่ยาย เชื่ออ้ายหนิ อ้ายบ่ได้ตั๋ว กะได้เก้าเทือกะได้อนุโลม ตะแปดเทือบ่ได้ “ พี่บอลยังหลอกน้องบีมต่อ “ตะว่าน้องบีมห้ามทำท่าล้มลา ให้มันล้มเอง ปั่นไปแล้วล้มเองจังสิแหมะ ขั้นเฮาทำท่าล้มมันกะบ่เป็นคือเก่า” พี่บอลพูดเป็นจริงเป็นจัง ส่วนเธอก็เอาแต่หัวเราะพี่ชายกับน้องสาวคุยกัน
“อิหลิบ่ !” หันกลับมาคุยกับพี่บอลอีก
“แมน ! ยามล้มกะนับเทือนำ คืนนี้ปั่นสี่ล้อไปก่อน มื้ออื่นอ้ายพาไปหัดจักรยาน” แล้วน้องบีมก็ถีบจักรยานปั่นรอบเสาบ้านต่อ แม้จะเสียงดังเพราะล้อเสริมกระทบกับปูนก็ไม่รำคาญ ตากับยายก็ปล่อยให้น้องบีมปั่นไปจนกว่าจะเหนื่อย เจ้าตัวไม่มีท่าทีว่าจะเหนื่อยเลย ไม่รู้จะเห่อไปไหน
……………………………………
เช้าวันอาทิตย์พวกเธอหกคนพี่น้องรวมตัวกันอยู่บ้านครบ พี่สาวทั้งสองก็ไม่ได้ไปที่บ้านของตนเอง อยู่บ้านครบกันหมด น้องบีมนำรถจักรยานสีแดงคู่ใจออกมาปั่นที่หน้าบ้านแต่เช้า ปั่นวนเล่นเป็นวงกลมอยู่คนเดียว มีปั่นไปบ้านเพื่อนด้วยที่อยู่ในซอยเดียวกัน
“อี่บีมบ่ค่อยจะเห่อจักรยานเลยวะ ฮา พุ่นมันปั่นไปเฮือนน้องแจนล่ะ” บอสแซวน้องสาวเมื่อเห็นน้องบีมปั่นจักรยานไปหาเพื่อน “มื้อคืนอยากหัวอ้ายบอลตั๋วมัน อี่ยายหัวกะบ่คืน” บอสเล่าเรื่องของเมื่อคืนให้พี่ปาวกับพี่แป้งฟัง เพราะสองคนนั้นขึ้นไปบนบ้านแต่หัวค่ำย
ถนนในซอยบ้านของเธอเป็นถนนซีเมนต์ เหมาะในการปั่นจักรยานของน้องบีมมาก สักพักน้องบีมก็ปั่นกลับมา “บีม ! มา ๆ สิหมุนล้อเสริมออกให้ มานี่อ้ายสิหัดจักรยานให้” พี่บอลยืนเท้าสะเอวเรียกน้องบีมให้ปั่นกลับมาบ้านเร็ว ๆ ไม่ลืมสิ่งที่พูดเอาไว้เมื่อคืน
“เบิ่งแอวมัน ง็อกแง๊ก ๆ อยู่ ปั่นแอวตรง ๆ บ่ได้ติบีม ฮา “ พูดล้อท่าทางการปั่นจักรยานของน้องสาว บอสก็จะเอาด้วยคน จะดูพี่บอลสอนน้องบีมปั่นจักรยาน ทันใดนั้นน้องบีมก็ปั่นกลับมาถึงบ้าน
“พร้อมยัง ! อ้ายจะหมุนล้อเสริมออก หัดจักรยานบ่ ถ้าบ่หัดกะบ่ต้องเอาออกกะได้” พี่บอลเดินไปหาน้องบีมด้วยความเอ็นดู สองคนละมุนกันเชียว ทีกับน้องคนอื่น ๆ นะ ค่อนขอดให้กับท่าทางของทั้งสองคน พร้อมปรายตามองพี่ชายกับน้องสาวคุยกัน
“พร้อม ! หัดก็หัด ล้มสิบครั้งใช่มั้ย” พอน้องบีมพูดจบพวกเธอก็พากันหัวเราะลั่นบ้านกันเลย
“บักบอลหาตั๋วน้องล้มเจ็บโตเด้อมืง” พี่ปาวเอ็ด ไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่
“เอ๋า ! ล่ะมันสิเป็นจักเทือติ หัดจักรยานไผบ่ล้มกุถามแน่ บีมถ้าล้มห้ามไห้ลา ถ้าไห้แม้แต่แอะเดียว อ้ายเซาหัดให้เลย” พี่บอลกำชับ น้องบีมเงียบไปเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ บอสก็คอยดูว่าน้องสาวจะตอบว่าอย่างไร
“ถ้าเจ็บคักน้องบีมไห้ได้บ่ฮั่นพี่บอล” ตอบหน้ามุ่ยนิดหน่อย เหมือนระแวงอะไรสักอย่าง
“บ่ล่ะน้อ ขั้นอยากเป็นจักรยานห้ามไห้ เจ็บกะห้ามไห้ หัวเข่าแตกเลือดออกกะห้ามไห้ หัดบ่ !” พี่บอลเม้มปากยิ้ม ถามคำถามเด็ดขาด น้องบีมเงียบไปอีก พวกเธอหันหน้ามายิ้มให้กัน “หัดฮือบ่หัดเอาดี ๆ เบิ่งน้องแจนกับน้องเก๋เป็นจักรยานล่ะเด้ จะของยังปั่นคาล้อเสริมอยู่ ไปไสกะปั่นบ่ทันเขา ปั่นไปโรงเรียนกะบ่ได้” พี่บอลทำเป็นพูดให้น้องบีมคิดตาม ปรายตามองและอมยิ้มให้ ส่วนเจ้าตัวดูท่าทางจะคิดหนักพอสมควร
“กะได้ ! “ น้องบีมตอบ
“ตกลงแล้วลา เอารถมาอ้ายสิขันล้อเสริมออก” พูดจบพี่บอลก็เดินไปเข็นจักรยานของน้องบีมเข้ามาในบ้าน จัดการหากุญแจขันน็อตเอาล้อเสริมออก พอเหลือสองล้อใหญ่แล้วเข็นกลับมาให้น้องบีม “เนี่ยหัดแต่อยู่ซอยเฮือนเฮานี่ล่ะ ไปฮอดเฮือนพ่อจารย์ป้อดกะเป็นแล้ว มาเริ่ม !”
พี่บอลเข็นจักรยานออกมาให้น้องบีม เธอกับพี่แป้งก็เอาด้วยคน เดินตามพี่ชายกับน้องสาวออกไปยังถนนซอยเข้าบ้านนี่แหละ พี่บอลจับจักรยานไว้ให้น้องบีมขึ้นนั่งทำท่าเตรียมพร้อม
“บีมตามองตรง จับข้อแข็ง ๆ จับแฮนด์รถแข็ง ๆ แอวตรง ๆ อย่าบิดไปบิดมา เคบ่ !” โค้ชจำเป็นกำชับ น้องบีมพยักหน้าเข้าใจ บอสกับพี่แป้งก็คอยลุ้นไปด้วย “รอบแรกอ้ายสิจับให้ปั่นก่อน” พูดจบพี่บอลก็เข็นน้องบีมไปตามถนน น้องบีมปั่นจักรยานเอวบิดไปบิดมาตลอด บอสกับพี่แป้งก็ตามไปหัวเราะ ระหว่างนั้นพี่บอลกับน้องบีมก็ดุกันไปตามทาง
พี่บอลเข็นน้องบีมปั่นอยู่สองสามรอบให้ชินก่อน จากนั้นก็เลิกเข็นให้แล้ว ให้น้องบีมปั่นเอง “บีมรอบหนิเอาดี ๆ ลา ตามองถนน มือจับแฮนด์แข็ง ๆ อ้ายสิปล่อยมือแล้วลาบาดหนิ” พี่บอลกำชับ
“ปล่อยเลยน้องบีมบ่ย่าน” น้องบีมตอบ จากนั้นพี่บอลก็เข็นน้องบีมไป ผลักรถจักรยานไปแรง ๆ แล้วปล่อยมือ น้องบีมปั่นจักรยานไปตามแรงผลักของพี่บอล เอวก็บิดไปบิดมา มือก็บิดคอจักรยานไปมาเหมือนกัน
“บีมเฮ็ดมือตรง ๆ ปั่นไปเลย แอวตรง ๆ ปั่นไป ๆ “ น้องแจนออกมาตะโกนเอาใจช่วยน้องบีมด้วยคน บ้านอยู่ในซอยเดียวกันกับพวกเธอเอง พี่แป้งกับเธอยืนหัวเราะเอาใจช่วยน้องบีมคอยลุ้นไปด้วย และ วิ่งตามไปด้วย
เมื่อพี่บอลปล่อยมือ ผลักจักรยานของน้องบีมให้วิ่งไป น้องบีมก็ปั่น ๆ มือก็บิดซ้ายบิดขวาสุดท้ายก็ล้มลงข้างทางจนได้ พี่บอลและพวกเธอต่างหัวเราะด้วยความเป็นห่วง พร้อมวิ่งเข้าไปช่วยเหลือ